|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
อาการข้างเคียงของโรคมะเร็ง
หลังจากได้รับยาคีโมไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2555 พอวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ผมเริ่มร่วงประปราย จนในที่สุดก็ตัดสินใจโกนผม เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ กลายเป็นยัยโล้นอีกรอบ นับแต่โกนผมมาก็รู้สึกตัวเองมีไข้ตลอด หนาว ๆ ร้อน ๆ บริเวณศีรษะ หนาวไปถึงปอดและเหนื่อยง่าย มีไอมากขึ้น ต้องนอนพักผ่อน และใส่หมวกไหมพรมไว้ กับมีผ้าพันคอเพื่อให้ความอบอุ่น ช่วงนี้ต้องอยู่ห่างจากเจ้ายูฟ่ากลัวเขาจะติดไข้จากย่า เพราะยูฟ่าก็มีภูมิคุ้มกันต่ำ เนื่องจากกินนมแม่ไม่ถึงเดือน มักจะเจ็บออด ๆ แอด ๆ เสมอ ทุกวันนี้ดูจะเป็นคนเหนื่อยง่ายเหลือเกิน แม้นไม่ได้ทำอะไรก็ตาม ทำให้รู้สึกสงสัยครามครันว่า เจ้าปอดนี่หนอ มีหน้าที่อะไร เพราะตอนเยาว์วัยเรียนวิชาสุขศึกษา ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ว่าแล้วก็ถามผู้รู้คือ Google ก็ได้คำตอบมาว่า ปอดเป็นอวัยวะที่สำคัญมี 2 ข้าง บรรจุอยู่ในโพรงของทรวงอกตอนบน ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา โดยปอดข้างขวาจะมีขนาดใหญ่กว่าปอดข้างซ้าย ปอด 2 ข้างจะมีลักษณะคล้ายห้องน้ำขนาดใหญ่มีความยืดหยุ่นและภายในปอด มีถุงลมเล็ก ๆ เป็นจำนวนมาก ถุงลมเหล่านี้ ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปและรับก๊าซออกซิเจนเข้ามามาแทนด้านล่างคือรูปร่างลักษณะของปอดทั้งสองด้าน
ปอดมีหน้าที่ฟอกเลือดดำให้เป็นเลือดแดง โดยรับเลือดดำที่ส่งมาจากหัวใจด้านขวา มาถ่ายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเลือดดำ และส่งก๊าซออกซิเจนให้แทน ซึ่งจะทำให้เลือดดำเป็นเลือดแดง การหายใจเอาอากาศที่มีเขม่า ฝุ่นละออง ควันพิษหรือสารพิษเข้าไป จะทำให้ปอดทำหน้าที่ลำบากขึ้น แล้วยังก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น วัณโรค มะเร็งปอด เป็นต้น ดังนั้นเราจึงควรอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่สูบบุหรี่และไม่คลุกคลีกับคนป่วยที่เป็นวัณโรค หรือจะพูดให้ง่ายเข้าใจชัดเจนก็น่าจะพูดว่า ปอดทำหน้าที่เกี่ยวกับการหายใจและเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนก๊าซก็ไม่น่าจะผิดนัก
กล่าวมาถึงตรงนี้ก็ให้เป็นกังวลกับเรื่องมลพิษในอากาศของตัวเมืองเชียงใหม่และบริเวณภาคเหนือตอนบน ไม่ว่าจะเป็น ลำปาง พะเยา ต่างก็มีสภาพของหมอกควันหนาแน่นขึ้นทุกวัน เพราะการเผาป่า เผาหญ้า เพื่อทำเกษตรกรรม แต่พวกเขาไม่เคยตระหนักว่า การกระทำของพวกเขาทำให้อีกหลายชีวิตต้องสูดดมมลพิษเข้าไปในร่างกายก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจและอาจจะร้ายแรงจนกลายเป็น มะเร็งปอด ในที่สุด
วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2555 ถึงโรงพยาบาลประมาณ 07.20 น. ไปติดต่อชำระเงินและรับสติ๊กเกอร์คิวเจาะเลือด เจาะเลือดเสร็จก็ขึ้นไปชั้น 10 ห้อง 26 ติดต่อขอชั่งน้ำหนัก วัดปรอทและวัดความดัน พร้อมรับคิวตรวจในช่วงบ่าย เสร็จแล้วก็กลับมาบ้านก่อน เวลา 13.00 น. ออกจากบ้านไปโรงพยาบาลอีกครั้ง โรคมะเร็งคุณหมอจะลงตรวจในตอนบ่ายของวันจันทร์ เวลา 14.40 น. คุณหมอก็ลงตรวจ วันนี้ถูกคนไข้อภิสิทธิ์ชนแซงคิวอีกแล้วจากที่ได้คิว 2 กลับถูกเรียกเข้าตรวจเป็นคนที่ 4 แจ่มไหมล่ะ อยากรู้นักแล้วจะมีคิวไปทำซากอะไร เมื่อไม่เคารพระเบียบวินัยแบบนี้ ขณะนั่งรอเข้าพบคุณหมอก็เปิดดูผลเลือด วันนี้มีค่า 3390 แล้วค่าอะไรไม่รู้เขาเขียนว่า PMNS 59.6 ซึ่งนับว่าต่ำมากและเมื่อนำมารวมกับค่า WBC จะมีค่าเท่ากับ ANC 2020.44 นั่งใจหายว่าจะได้รับยาไหม แต่ในที่สุดก็ได้รับยาคีโม แต่ต้องมาให้อีกวันหนึ่งคือวันอังคาร เพราะใกล้เวลาเลิกงานแล้วห้องผสมยาเขาไม่ทำงาน วันอังคารที่ 6 มีนาคมไปถึงโรงพยาบาล 7.20 น. หาข้าวลงท้องก่อนแล้วก็ไปที่ห้อง One Day 1 คุณพยาบาลเธอก็ทำการเปิดเส้นให้น้ำเกลือ นอนรอจนกระทั่งเวลา 10.10 น.จึงได้รับยาคีโม เนื่องจากเกิดปัญหานิดหน่อยกับ order ของคุณหมอ เพราะทุกครั้งคุณหมอจะสั่งให้ยาในปริมาณ 250 แต่คราวนี้คุณหมอเขียน 500 ห้องผสมยาจึงโทรมาที่ห้อง one day ถามให้แน่นอนก่อน คุณพยาบาลเธอเลยติดต่อคุณหมอเพื่อขอคำยืนยันการสั่งยา ในที่สุดก็เรียบร้อย รับยาเวลา 10.10 น. เสร็จสิ้นการให้ยา 12.10 น.นานมาก กลับบ้านก็มานอนพักผ่อนหลับยาวเลย สามีบอกว่าหน้าของต้อยซีดมาก แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สำหรับอาการข้างเคียงไม่มีปรากฏให้เห็น นับว่าดีมาก
วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม 2555 ไปพบคุณหมอตามนัด มีเรื่องให้เสียอารมณ์อีกแล้ว เจ้าหน้าที่ที่จัดคิวเรียกคนไข้เข้าพบหมอไม่ยอมเรียกตามคิว ให้คนอื่นเข้าพบคุณหมอก่อนต้อย จันทร์ก่อนก็ทำแบบนี้จันทร์นี้มาทำแบบนี้อีกแย่มาก ๆ ต้อยคิวที่ 2 แต่ได้เข้าพบคุณหมอเป็นคนที่ 5 ทำงานชุ่ยจริง ผลเลือดวันนี้มีค่า 3700 ได้ให้คีโมแต่ต้องมาเติมยาวันอังคารเพราะเขาหมดเวลาทำงานแล้ว คุณหมอถามว่า มาอาทิตย์หน้าอีกครั้งไหวไหม ต้อยบอกว่าไหวค่ะ งั้นมาวันจันทร์นะ ต้อยรีบบอกเลย วันพฤหัสไม่ได้หรือค่ะ คุณหมอคิดสักครู่ก็บอกได้ ไม่มีปัญหา ให้ x-ray และเจาะเลือดด้วยนะ พอต้อยจะเดินออกจากห้อง วันนี้คุณหมอนึกครึ้มอะไรไม่รู้ เอ่ยปากบอกว่า อดทนหน่อยนะครับคุณป้า ต้อยเลยหันไปตอบว่า เที่ยวนี้ต้อยสู้เต็มร้อยค่ะคุณหมอออกจากห้องคุณหมอมาตอนบ่าย 3 โมงแต่กว่าจะได้หนังสือส่งตัวมาติดต่อที่ห้อง one day ก็ปาเข้าไปบ่าย 4 โมงรีบจ้ำอ้าวมาห้อง oneday เพราะกลัวจะไม่ทัน ติดต่อได้รับใบสีฟ้าก็มาที่ห้องการเงิน 1 หน่อยแน๊ะยังไม่ทันสี่โมงครึ่งเลยคุณเธอปิดไม่รับ ให้ไปติดต่อห้องการเงิน 3 แทนแล้วแต่ละห้องนะ มันอยู่คนละตึกเลยนะคุณพี่ คนไข้ต้องจ้ำอ้าวมาที่ห้องการเงิน 3 มาถึงคุณเธอเปิดรับชำระเงินแค่ช่องเดียว ก็เลยถามว่าแล้วให้ไปรับยาที่ห้องไหน เพราะกลัวไปห้องยาที่เขาแจ้งไว้ในใบสีฟ้าแล้วจะโดนไล่ให้ไปรับยาที่ห้องอื่นอีก เขาก็ตอบว่ารับยาที่ห้อง 16 ไปนั่งรอรับยาไม่นานก็ได้ จากนั้นก็รีบไปที่ห้อง one day เพื่อนำยาที่เบิกมาฝากไว้ พรุ่งนี้เช้าจะได้ตรงดิ่งมาที่ห้องเพื่อเติมยาเลย เสร็จแล้วกลับบ้าน
วันอังคารที่ 13 มีนาคม 2555 ถึงโรงพยาบาลแล้วก็หาข้าวทานก่อน จากนั้นก็ไปนั่งรอที่หน้าห้อง oneday 1 พอแปดโมงเช้า เจ้าหน้าที่ก็ออกมาบอกคนไข้ที่จะเติมยาเข้ามาในห้องได้ค่ะ เข้าไปก็แจ้งชื่อแล้วเลือกเตียง ต้อยเลือกเตี้ย ๆ หน่อยจะได้ลุกไปห้องน้ำสะดวก นอนรอสักครู่เจ้าหน้าที่ก็มาเจาะเส้นเดินน้ำเกลือเมื่อเวลา 08.30 น.จากนั้นก็ซักประวัติ เวลา 09.30 น. ให้ยาแก้อาเจียนและยาซู่ซ่าส์ พร้อมให้ทานยาอีก 2 เม็ดแก้แพ้ เวลา 10.05 น.เริ่มเดินยาแทกโซเทียในขณะเดียวกันก็วัดความดัน ซึ่งจะต้องวัดทุก 15 นาทีรวม 3 ครั้ง การวัดครั้งแรกจะปล่อยยาเล็กน้อย วัดครั้งที่ 2 เพิ่มแรงดันยาอีกนิด พอวัดความดันครั้งที่ 3 เสร็จก็จะปล่อยยาเต็มสตีมเพราะนั่นหมายความว่า ร่างกายของเราพร้อมรับยาแล้ว ต้องขอชมเชยเจ้าหน้าที่พยาบาลทุกท่านในห้อง oneday 1 มาก ๆ ที่เอาใจใส่ดูแลคนไข้ทุกคนเป็นอย่างดี ไม่มีดุคนไข้เลย คนไข้คนไหนไม่มีญาติมา เขาก็จะพาไปห้องน้ำ ซึ่งที่จริงขณะที่ให้ยาคีโมนั้นเขาไม่อยากให้คนไข้ลุกไปเข้าห้องน้ำหรอก เพราะเกรงว่าจะหน้ามืดและเกิดอันตรายได้ ขอบคุณนะค่ะที่ดูแลพวกเราอย่างดี เสร็จสิ้นการให้ยาเมื่อเวลา 12.10 น. ไหว้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านแล้วออกมาหาอะไรทานกลางวันก่อนจะกลับบ้าน ถึงบ้านแล้วก็นอนซมจนเวลา 17.30 ถึงได้ลุกจากที่นอน เล่นเอากลางคืนนอนไม่หลับเลย อาการทั่วไปเช้าวันพุธทุกอย่างยังปกติ เย็นวันพุธไปเดินเที่ยวงานพืชสวนโลกซึ่งเป็นวันสุดท้าย ไปกัน 4 คนคือ คุณสามี ต้อย ลูกชายและหลานยูฟ่าถึงงานพร้อมกับท่านผู้ว่าเลย บรรยากาศอึมครึมด้วยเมฆฝน พิธีปิดงานเริ่มไปได้ 1 ชุดพระพิรุณก็เทกระหน่ำลงมา ผู้คนต่างวิ่งหลบฝนกันจ้าละหวั่นอาคารที่อยู่ใกล้สุดคืออาคารนิทรรศการ เรา 4 คนไปนั่งหลบฝนอยู่ที่นั่น รอจนฝนซา จึงได้โทรให้ลูกสาวมารับกลับบ้าน เช้าวันพฤหัสบดีเริ่มมีอาการปวดต้นคอ หงุดหงิดมาก ทานอะไรก็ไม่อร่อยรสชาติจืดชืด เป็นมาถึงเช้าวันศุกร์อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ช่วงนี้พยายามทานตับทอด และผักต้ม บำรุงร่างกายเพื่อให้ผลเลือดดีพอที่จะเติมยาในครั้งต่อไป
วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2555 ไปพบคุณหมอตามนัด ผลเลือด 3500 ผลการรักษาที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ จุดเล็ก ๆ ในปอดทั้งข้างขวาและข้างซ้ายหายไป แต่ยังคงมีพื้นที่ขาวที่ถูกเซลล์กินไปอยู่ในริมขั้วปอดข้างซ้าย ก็บอกคุณหมอว่า ช่วงนี้ต้อยไอหนักมากเลย คุณหมอบอกไม่เกี่ยวกับมะเร็งหรอก เป็นเพราะสภาพอากาศของเชียงใหม่มันย่ำแย่ ทำให้ระบบหายใจมีปัญหา โดยเฉพาะคนป่วยจะเป็นมากกว่าคนปกติ คุณหมอนัดครั้งต่อไปวันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2555 เพราะต้องหลีกช่วงวันสงกรานต์และคุณหมอมีคนไข้ที่คอยรักษาอยู่มากจึงต้องสับเปลี่ยนกัน ซึ่งต้อยก็เข้าใจนะ ลงมาติดต่อที่ห้อง oneday 1 ไปรับยาและทานข้าวกลางวันขึ้นมาเวลา 12.30 น. นอนรอการเติมยาครั้งต่อไป พอเวลา 13.00 น. คุณพยาบาลก็เดินมาเจาะเส้นและให้น้ำเกลือขณะรอยาคีโม ต้อยก็นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่บนเตียงคนไข้นั่นแหละ ไม่รู้เป็นไงสิ พอได้นอนเตียงคนไข้ทีไรมีอาการอยากจะนอนทุกที เวลา 13.30 น. ก็ได้รับยาแก้อาเจียน 1 ขวด เวลา 14.30 น. ยาคีโมมาแล้ว ก็กินยาแก้แพ้ 2 เม็ด วัดความดัน จากนั้นก็เดินยาเท็กโซล ครั้งแรกนี่คุณพยาบาลเธอจะปล่อยยาน้อยมาก และทุก 15 นาทีก็จะวัดความดัน เมื่อวัดความดันเสร็จแต่ละครั้ง คุณพยาบาลเธอก็เปลี่ยนการเดินยาโดยเร่งขึ้นมาทีละนิด จนวัดความดันครั้งที่ 3 เสร็จสิ้นจึงปล่อยยาเต็มพิกัด ใช้เวลาในการให้ยา 1 ชั่วโมง แต่ไม่เคยจะ 1 ชั่วโมงสักครั้ง เดินยาแทกโซลเมื่อเวลา 14.30 น. ตามกำหนดจะต้องเสร็จในเวลา 15.30 น. แต่เสร็จเรียบร้อยจริง ๆ เมื่อเวลา 16.20 น. นอนรับยาไปก็ไอไป ไอมากมาย ดีนะที่ต้อยใส่ผ้าอนามัยไว้ 2 ชั้นทำให้เวลาไอแล้วปัสสาวะเล็ดไม่เปียกที่นอนเขา ไอจนคุณพยาบาลเข้ามาทักอ่ะ ว่าไอเยอะจังรับน้ำอุ่นไหม ต้อยก็บอกไม่ต้องหรอกค่ะ เพราะเป็นแบบนี้ประจำ ขณะนอนเติมยาอยู่ใกล้เสร็จ ลูกชายซึ่งไปรับเจ้ายูฟ่ากลับจากเรียนซัมเมอร์ก็มา คุณฝนพยาบาลคนหนึ่งเห็นเขาก็พูดเบา ๆ กับน้อตให้พายูฟ่าออกไป เพราะห้องนี้มีแต่เชื้อโรค พอเติมยาเสร็จแล้วก็มารับใบนัดสีฟ้าที่เคาน์เตอร์คุณพยาบาล กลับบ้านกับลูกชายและยูฟ่า มาพบคุณหมออีกครั้งในวันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2555 คราวนี้คุณหมอจ่ายยามาให้ 3 อย่างมียาบำรุงเลือดด้วย อ้อ..ขณะนอนเติมยาก็มีเพื่อนคนไข้คนหนึ่งคงจะแพ้ยามาก เขาอาเจียนเสียใหญ่โต สักพักก็มีอาการปวดเส้น คุณพยาบาลเธอเลยเอาน้ำอุ่นประคบ และมีคนไข้อีกเตียงไม่รู้เขาเป็นอะไร มึคุณหมอมาเจาะหลังด้วยล่ะ จบเรื่องราวของการเติมยาครั้งที่ 4 5 และ 6 เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค่ะ แม้จะไม่มีสาระอะไรนัก แต่ก็อยากเขียนเพื่อให้เพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านได้รับรู้เรื่องราวของการเป็นมะเร็งและต้องรับยาคีโม ว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากมีใครใกล้ตัวที่โชคร้าย โรคนี้มาเยือนจะได้เตรียมตัวรับกับทุกสถานการณ์ได้ ทฤษฎีที่เขียนก็ไม่เท่ากับเราได้ประสบด้วยตัวเองหรอก เพื่อน ๆ ว่าจริงไหมค่ะ
Create Date : 23 มีนาคม 2555 |
|
81 comments |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2557 8:42:51 น. |
Counter : 2713 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: KeRiDa 23 มีนาคม 2555 10:43:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรไม้หอม 23 มีนาคม 2555 12:56:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: AppleWi 23 มีนาคม 2555 15:06:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 23 มีนาคม 2555 18:25:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 23 มีนาคม 2555 18:44:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องผิง 23 มีนาคม 2555 20:30:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 23 มีนาคม 2555 22:22:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภูติ 23 มีนาคม 2555 22:42:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: ถปรร 24 มีนาคม 2555 7:16:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: พันคม 24 มีนาคม 2555 8:02:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปรัซซี่ 24 มีนาคม 2555 9:40:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: พันคม 24 มีนาคม 2555 21:05:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 25 มีนาคม 2555 18:10:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: pantawan 25 มีนาคม 2555 23:10:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: panwat 26 มีนาคม 2555 7:35:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: AppleWi 26 มีนาคม 2555 14:33:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: พิรุณร่ำ 26 มีนาคม 2555 21:33:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 26 มีนาคม 2555 21:55:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: panwat 27 มีนาคม 2555 8:19:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: Lika ka 27 มีนาคม 2555 10:37:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 27 มีนาคม 2555 10:54:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 28 มีนาคม 2555 11:14:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: Hi Aoy 28 มีนาคม 2555 12:28:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: พันคม 28 มีนาคม 2555 20:28:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: Lika ka 28 มีนาคม 2555 23:52:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: Lika ka 29 มีนาคม 2555 7:59:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: KeRiDa 29 มีนาคม 2555 9:36:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: พันคม 30 มีนาคม 2555 5:21:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 30 มีนาคม 2555 10:16:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปรัซซี่ 31 มีนาคม 2555 18:35:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: พันคม 31 มีนาคม 2555 21:52:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: jamaica 1 เมษายน 2555 14:08:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: กิ่งฟ้า 2 เมษายน 2555 21:47:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: พันคม 3 เมษายน 2555 4:45:47 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]
|
ชื่อเล่นว่าต้อย เป็นคนกรุงเทพฯ ย้ายตามสามีซึ่งรับราชการมาประจำที่จังหวัดเชียงใหม่ มีลูกสาวและลูกชายอย่างละ 1 หน่อ และมีหลานชายวัยกำลังซนผู้เป็นกำลังใจให้คุณย่าได้ต่อสู้กับโรคร้าย
อุปนิสัยส่วนตัวพูดไม่ค่อยเก่ง เขียนเล่าเรื่องราวไม่ค่อยจะิเป็น ถนัดแต่เรื่องเพลง ฉะนั้นบ้านนี้จึงมีเสียงเพลงเสียเป็นส่วนใหญ่
เรือนเพลงรัก KeRiDa ยินดีต้อนรับเพื่อน ทุกท่านด้วย ความเต็มใจค่ะ
"ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์"
บทกลอนตอนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6
|
|
|
|
|
|
|