สเปคของ Samsung Galaxy Note 10.1 (2014)

รองรับ 3G ทุกเครือข่าย

ขนาดตัวเครื่อง 243.1 x 171.4 x 7.9 มม. น้ำหนัก 535 กรัม

หน้าจอ Super clear LCD ขนาด 10.1 นิ้วความละเอียด 2560 x 1600 pixels (299 ppi)

CPU Exynos 5 Octa 5420 1.9 GHz Octa-Core Processor, GPU Mali-T628 MP6, RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB (มีเหลือให้ใช้จริง 25.9GB) สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 64GB

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, Wi-Fi hotspot, Bluetooth 4.0, USB 2.0, Infrared Port, GPS+GLONASS

Android 4.3 Jelly Bean ครอบทับด้วย Samsung TouchWiz UI

กล้องความละเอียด 8MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P และกล้องหน้า 2MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P

แบตเตอรี่ความจุ 8220 mAh

มีให้เลือกสีดำและสีขาว

ราคาเปิดตัว 20900 บาท

ตัวเครื่อง Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) ออกแบบเหมือน Samsung Galaxy Note 3 ย่อส่วนเลยครับวัสดุตัวเครื่องจะเป็นพลาสติคโพลีคาร์บอเนตทั้งตัว ที่โดดเดนมากๆคือเป็น Tablet ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 10.1 นิ้วแต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กๆและบางเฉียบเพียง 7.9 มม. เท่านั้นขอบจอเล็กมากๆจนตัวเครื่องมีขนาดน่าพกพามากครับ แถมงานประกอบแน่นหนาดีมาก จับแล้วไม่มีส่วนใดยวบยาบเลย สวยงามตามแบบฉบับ Samsung รุ่นใหม่ครับและที่สำคัญหน้าจอมีความละเอียดถึง  2560 x 1600 pixels (299 ppi) ซึ่งมีความละเอียดสูงกว่ารุ่นเดิมมาก

ด้านบนประกอบด้วยเซนเซอร์ และกล้องหน้าความละเอียด 2MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P รุ่นนี้แน่นอนว่าสามารถใช้งานโทรศัพท์ได้นะครับ แต่ต้องผ่านหูฟัง หรือหูฟัง Bluetooth เท่านั้น ด้านล่างจะมีป่วมควบคุมแบบสัมผีสใช้ไฟสีขาว และปุ่ม Home ตรงกลางจะเป็นแบบ Hard Button

ฝาหลังของ Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) ก็จะเหมือนๆ Note 3 รับโดยจะเป็นพลาสติคอัดลายคล้ายหนังและเคลือบผิวให้หนืดๆเหมือนหนังจริงๆ ดดยสีดำจะให้ความรู้สึกเหมือนหนังมากกว่าสีขาว

S Pen แบบใหม่เหมือนใน Note 3 จับได้ถนัดมือมากขึ้น และสามารถใส่กลับได้ทั้ง 2 ด้าน

ชุดกล้องจะมาพร้อมความละเอียด 8MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P และมาพร้อมไฟแฟลช LED และฟังก์ชั่นการถ่ายภาพมากมายเหมือนใน Samsung Galaxy Note 3

ขอบด้านข้างจะเป็นพลาสติคชุบโครเมี่ยมออกแบบเหมือนสันหนังสือ และจะประกอบด้วยปุ่ม Power, ปุ่มปรับระดับเสียงและ Infrared Port สำหรับใช้งานเป็นรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆได้ผ่านโปรแกรม Smart Remote ด้านล่างจะมีช่องไมโครโฟนและพอร์ท USB 2.0

สำหรับ Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) จะมีลำโพงตัวเครื่องอยู่ 2 ตัวระบบ Stereo เสียงที่ได้ดังและมีมิติใช้ได้เลยครับ และด้านซ้ายจะมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.

ด้านขวาจะมีช่องใส S Pen และช่องใส่ซิมกับช่องใส่ Micro SD Card โดยจะมีฝาปิดเรียบร้อย

ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 19128 คะแนน

ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 33014 คะแนน

ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 60.8fps

รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์

Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) มาพร้อม Android 4.3 Jelly Bean ครอบทับด้วย Samsung TouchWiz UI เมนูการใช้งานต่างๆจะเหมือนเจ้า Samsung Galaxy Note 8 โดยจะเหมือนโทรศัพท์มากกว่า Tablet ซึ่งทั้งความรวดเร็วและความลื่นไหลถือว่าทำได้ในระดับดีครับ โดยจะมีอาการหน่วงๆอยู่บ้างก็เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่ลื่นไหลเท่าบน iPad นะครับแต่ก็จริงๆเอามาเทียบกันก็ไม่ถูกต้องนักเพราะมันคนละ OS และต่างคนต่างก็มีความชอบแตกต่างกันนะครับ

Notification จะเป็นส่วนการแจ้งเตือนต่างๆ สามารถใช้ 2 นิ้วรูดหน้าจอลงมาเพื่อดูคำสั่งลัดต่างๆทั้งหมดได้ และแตะที่เครื่องหมายดินสอเพื่อจัดวางคำสั่งลัดได้ตามความต้องการรวมทั้งคำสั่งปรับความสว่างหน้าจอด้วย

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) ก็จะเหมือนเจ้า Samsung Galaxy Note 3 โดยจะมาพร้อมฟังก์ชั่น Air Command โดยจะทำงานเมื่อเราชักปากกา S Pen ออกมาจากตัวเครื่องหรือ นำปากกา S Pen ไปจ่อใกล้ๆหน้าจอแล้ววกดปุ่มที่ข้างปากกาเพียงเท่านี้เราก็เรียกการทำงานของ Air Command  ขึ้นมาได้ครับ สำหรับฟังก์ชั่นต่างๆของ Air Command จะประกอบด้วย

Action Memo เป็นฟังก์ชั่นที่จะแปลงข้อความ หรือเบอร์โทรศัพท์ที่เราเขียนด้วยลายมือไปใช้งานในคำสั่งต่างๆได้เช่น เขียนเบอร์เพื่อสั่งโทรออก หรือจดบันทึกในสมุดโทรศัพท์ หรือสั่งค้นหาข้อความที่เราเขียนผ่าน Browser หรือ Google Maps ก็ทำได้สะดวกและแม่นยำมากๆครับ (ขนาดลายมือแย่ๆอย่างผมนะเนี่ย)

Scrapbooker ทำงานเหมือนสมุดจดบันทึก แต่ไม่ธรรมดาเพราะเป็นการรวบรวมข้อมูลอย่างเหนือชั้นครับ โดยสามารถเก็บข้อมูลภาพถ่ายใน Internet มาเก็บใว้ได้โดยอาจจะมาทั้งหน้าเลย และยังมี Link กลับไปที่ต้นตอของที่มาอีกด้วย เผื่อเราจะกลับไปเพิ่มเติมข้อมูลอีก และที่แจ๋วมากๆคือสามารถบันทึก Youtube เก็บเอาใว้ได้ และยังสั่งเล่นผ่านข้อมูลที่เรารวบรวมมาใว้ได้เลยอีกด้วย

Screen Write ก็คือการจับภาพหน้าจอ และให้เราสามารถใช้ S Pen เขียนข้อมูลต่างๆกำกับที่ภาพหน้าจอส่งไปให้เพื่อน หรือเอาใว้เขียนคอมเมนต์เอกสารต่างๆเพื่อการตรวจสอบก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เรียบง่ายแต่มีประโยชน์มากนะครับ

S Finder คือการค้นหาข้อมูลทั้งภายในเจ้า Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) หรือภายนอกโดยผ่าน Google อีกทีครับ สำหรับการค้นหาข้อมูลภายในเครื่องสามารถค้นหาได้จากทั้งใน Web History, Contacts, Email, Gallery, Music, Video และค้นหาย้อนหลังได้ด้วยโดยย้อนหลังได้นานสูงสุดถึง 30 วัน

สุดท้าย Pen Window เป็นฟังก์ชั่นในการสร้างหน้าต่างย่อยๆของแอพพลิเคชั่นขึ้นมาใช้งาน โดยสามารถเปิดขึ้นมาใช้ได้หลายๆตัว โดยขยับจัดหน้าได้อย่างอิสระ ก็เหมือนเปิดหน้าต่างใน Windows นี่ละครับโดยมีให้เลือกดังนี้ เครื่องคิดเลข, นาฬิกา, Youtube, โทรศัพท์, รายชื่อ, ChatON, Google Hangout, Browser และ WeChat

S Note ฟังก์ชั่นหลักในการวาดภาพและสร้างเอกสารต่างๆบน Samsung Galaxy Note โดยในรุ่น Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) จะมีฟังก์ชั่นต่างๆเหมือนใน Samsung Galaxy Note 3 เลยละครับแต่เหนือกว่าตรงขนาดหน้าจอนี่ละ ผมว่าเหมาะกับคนที่ชอบวาดรูปเล่นอย่างผมมากๆเลย (เร็วๆนี้จะมีบทความสอนวาดรูปขั้นเทพจากคุณ Cherry Cola นักวาดภาพด้วย Galaxy Note แห่ง AppDisqus ให้ชมกันนะครับ^__^)

นอกจากเรื่องวาดภาพแล้วใน S Note ยังมีฟังก์ชั่นสำหรับงานเอกสารอย่า Easy Chart ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถสร้างตารางหรือกราฟ รวมทั้งแผนภูมิต่างๆได้อย่างง่ายดาย ทั้งตารางทั่วไป, กราฟแท่ง, กราฟวงกลม รวมทั้งแก้ไขข้อมูลต่างๆได้อย่างสะดวกมากๆครับ ใครที่บ่นว่าตัวเองวาดรูปไม่เป็นเลยไม่สนใจ Samsung Galaxy Note ผมว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดมากๆเลยนะครับ ผมว่ามันออกแบบมาเพื่อคนที่ชอบงานสร้างสรรค์ รวมไปถึงคนที่ใช้ในงานเอกสารต่างๆด้วย ไม่ว่าใครก็สามารถใช้เจ้า Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) ทำงานได้อย่างจริงจังครับ

นอกจากแอพ S Note แล้ว Samsung ยังแถมฟรีแอพวาดภาพยอดนิยมย่าง SketchBook for Galaxy มาให้อีกด้วย ซึ่งแอพนี้เป็นแอพวาดภาพที่คนนิยมใช้กันเป็นอันดับต้นๆเลยละครับ

My Magazine จะรวมเอาในส่วนของข่าวสาร, ข้อมูลส่วนตัว และ Social เอาใว้ด้วยกันอย่างสวยงามเรียกใช้ง่ายๆโดยลากนิ้วขึ้นด้านบนเท่านั้นเอง ซึ่งแอพตัวนี้ก็คือ Flipboard นั่นละครับ แต่นำมาปรับแต่งให้ใช้งานกับ Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) ได้อย่างแนบเนียน

Multi Window บน Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) นั้นใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมครับ สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นเดียวกันใน 2 หน้าจอได้แล้วเหมือนใน Note 3 การใช้งานสลับไปมาทำได้ลื่นไหลดีมากครับ

GPS ทำงานได้ดีเยี่ยมครับจับสัญญาณดาวเทียมได้รวดเร็วมาก และในส่วนของ Google Map ก็อย่างที่ทราบกันว่าสามารถนำทางแบบมีเสียงได้แล้ว

Browser ลื่นไหลดีมากครับด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้ใช้งานในส่วนของการท่องเน็ตได้สะดวกมากๆ และความละเอียดหน้าจอ 2560 x 1600 pixels (299 ppi) ก็ช่วยให้ตัวหนังสือคมชัดอ่านได้สบายตา สามารถใช้งานได้ยาวนานไม่ต่างจากท่องเน็ตผ่าน PC หรือ Notebook เลยละครับ

เครื่องเล่นเพลงสามารถโชว์เนื้อเพลง และปรับ EQ แบบสำเร็จรูปและปรับแต่งด้วยตัวเองได้ และมีการปรับปรุงหน้าตาใหม่และมีระบบจำลองเสียง 3D, Bass, Clarity รวมทั้ง Tube Amp Effect เพิ่มขึ้นมาและยังคงมีระบบ Adapt Sound ซึ่งก็คือการปรับจูนเสียงด้วยหูเราเองมาให้ ซึ่งผมว่าในส่วนเมนูเครื่องเล่นเพลงทาง Samsung จัดเต็มมากครับทำมาดีจริงๆ และที่สำคัญเจ้า Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) เสียงดีนะครับ แต่น่าเสียดายที่ตัดวิทยุออกไปแหะด้วยเหตุผลตามข่าวก่อนหน้านี้ว่าสมัยนี้คนนิยมฟังวิทยุ Online มากกว่า

เครื่องเล่นวีดีโอแน่นอนครับเล่น Full HD 1080P ได้อย่างสุดลื่นเลย และรองรับฟังก์ชั่น Air View และ Popup Play เช่นเคย

เรื่องเกมแน่นอนครับว่าสเปคขนาดนี้ไม่มีเกมไหนที่เล่นไม่ได้แล้วละ!

Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) มาพร้อมกล้องความละเอียด 8MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P และกล้องหน้า 2MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P เรื่องกล้องยังจัดเต็มลูกเล่นการถ่ายภาพเพียบครับ ใส่มาให้เยอะเหมือนกับ Samsung Galaxy Note 3 เลยละซึ่งในเรื่องกล้องก็เป็นอีกจุดที่ควรพูดถึงสำหรับเจ้า Samsung Galaxy Note 10.1 (2014) มากๆครับเพราะพัฒนาคุณภาพดีกว่าเดิมชัดเจน แต่ก็ยังอยู่ในระดับ Tablet นะครับเพราะภาพในสภาวะแสงในร่มรวมทั้งตอนกลางคืนยังไม่ถูกใจผมนัก แต่รวมๆผมให้เป็น Tablet ที่มีกล้องน่าพอใจมากครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายของ Samsung Galaxy Note 10.1 (2014)

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ Samsung Galaxy Note 10.1 (2014)

ข้อดีของ Samsung Galaxy Note 10.1 (2014)