ด่าเขา...เขานิ่ง...กรรมชิ่งกลับมาเข้าตน



จาก //www.agalico.com/board/showthread.php?t=5636
เจอเ้ข้าโดยบังเอิญ เห็นว่าน่าคิดและเตือนใจได้ดีเลยเอามาเก็บไว้อ่านค่ะ :)







ย้อนกลับไปประมาณยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ยายผีป่าอาศัยอยู่บ้านพักของข้าราชการโรงพยาบาลที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง
ด้วยความที่พ่อกับแม่มีตำแหน่งแค่ลูกจ้างประจำ ลูกคนที่ตำแหน่งดีกว่าชอบมองว่าเราเป็นลูกคนจน (มันก็จนนี่หว่า)
แต่พ่อแม่ยายผีป่า สอนว่าเราจนเราก็ต้องยอมรับว่าเราจน แต่เราอย่าเสียใจเพราะเราไม่ได้เป็นคนจนที่เลว
เขาไม่คบเราๆก็อย่าไปโกรธเขา หรือตำหนิที่ตัวเองเกิดมาในครอบครัวที่จน ถ้าลูกตั้งใจเรียน ทำตัวดีๆ
จะได้ดีวันข้างหน้า (พ่อชอบฝันว่ายายจะได้เป็นเจ้าคนนายคน)


ยายผีป่าอาศัยมีเพื่อนที่โรงเรียนเสียส่วนมาก ไม่งั้นก็พวกเด็กผู้ชายที่วิ่งเล่นกันได้ตามวัดต่างๆ(เด็กวัด)


บ้านพักเป็นห้องแถวไม้สองชั้นติดกัน แถวล่ะสิบห้อง เวลาใครพูดอะไรกัน แทบจะเรียกได้ว่าได้ยินหมด
แล้วตอนนั้นยายผีป่าชอบเก็บตัวบนบ้านตอนกลางวัน ปิดบ้านสนิท เหมือนไม่มีคนอยู่
นั่งสมาธิ ยุบหนอ พองหนอจนคนหลายคนหาว่าบ้า


วันหนึ่ง นางพยาบาลข้างบ้านได้ด่าว่าลูกสาวของตัวเองเสียงดังลั่นว่าห้ามไปช่วยอีนาง(ยายผีป่าเองค่ะ)
หาบน้ำขายอีก อายเขา พ่อกับแม่เสียหน้า ไม่ต้องไปพูดกับมัน ไปโรงเรียนก็ไม่ต้องเดินกับมัน


ลูกสาวบอกว่า มันไม่ผิดนี่ นางมันเรียนเก่ง มันสอนการบ้านเนียงได้(หนู) เล่นกันมาแต่เล็กๆแล้ว แม่มาห้ามทำไม


ก็จะไม่ห้ามยังงัย ดูพ่อกับแม่มันสิ ทำงานแค่ลูกจ้าง ขี้เหล้า มันไม่มีปัญญาส่งเสียลูกมันเรียนหรอก
อีกหน่อยพอไม่มีเงินส่งเรียนพ่อแม่มันก็คงให้ลูกออกมาทำงานรับจ้าง
ขนาดนี้มันยังเที่ยวหาบน้ำขายเอาเงินไปโรงเรียนเลย ถ้าไม่ได้เป็นขี้ข้าเขา ก็อาจเป็นกระหรี่ตามซ่อง
หรืออย่างดีก็เป็นเมียน้อยเขา เสียงนางพยาบาลคนนั้นยังคงตำหนิถึงอนาคตยายผีป่าที่ยังไม่เกิดให้ลูกสาวฟัง
ยายผีป่าก็น้ำตาตกแล้วก็เลิกนั่งสมาธิ ไปนั่งร้องไห้คนเดียวเงียบๆ ก็ไม่วายที่จะได้ยินเสียงเขาด่าว่าถึงเรา
ลูกเขาก็บอกว่า แม่ไม่ให้เนียงคบมันเนียงก็จะไม่คบ
แม่เขาก็เลยบอก ดีแล้ว ลูกพยาบาลด้วยกัน พวกลูกทหาร ตำรวจก็มีให้คบ เดินไปโรงเรียนก็ไปกับกลุ่มนั้น



...........................................



ต่อมายายผีป่าเริ่มเป็นสาวที่เริ่มมีหนุ่มๆ มาสนใจ
พร้อมกันนั้นลูกสาวของนางพยาบาลคนนั้นก็มีหนุ่มมาจีบเช่นกัน ยายผีป่าก็เห็นเธอไปกับแฟนหนุ่มเด็กนักเรียนเทคนิคตามสวนสาธารณะสองต่อสอง
แล้ววันหนึ่งยายผีป่าหาบน้ำขายแต่ขายไม่หมด เดินผ่านเขาทั้งสอง เขาพากันยิ้มเยาะยายผีป่า
แต่เพื่อนของแฟนเธอถามว่า คนนี้เป็นใคร เธอคงเล่าเรื่องยายผีป่าให้เขาฟัง


แล้วมีจดหมายสอดมาที่ช่องเชื่อมระหว่างบ้านของเราทั้งสอง เธอส่งจดหมายมาว่า อยากมีแฟนอย่างเธอไหมล่ะ
ลูกกำนันเขาอยากรู้จัก เราจะได้ไปไหนมาไหนด้วยกันได้ แล้วทีนี้พ่อของยายผีป่ามาเจอจดหมายก่อน แล้วเอามาต่อว่ายายผีป่า
หาว่าอยากชิงสุกก่อนห่าม ยายผีป่ารู้ว่าเธอคบหากับหนุ่มเทคนิคนั้นแบบลับๆ เลยไม่บอกว่าใครส่งจดหมายนี้มาให้ยายผีป่า
ยอมให้พ่อตีคนเดียว นางพยาบาลนั้นพอรู้ว่าพ่อตียายผีป่าเพราะว่ามีเรื่องอยากมีแฟน
เขาก็ตะโกนแทรกมาด่ายายผีป่าให้ลูกสาวเขาฟังอีก ลูกสาวเขากลัวแม่รู้ความจริง เลยเงียบ


เขาด่าว่ายายสารพัดที่จะขุดคุ้ยมาด่าได้ ยายผีป่าก็ไม่ใส่ใจผูกใจเจ็บเขา เพียงแต่ตั้งจิตอธิษฐานในใจ
อย่าให้ชีวิตของลูกต้องตกระกำลำบากเลย และลูกไม่โกรธคนที่ด่าลูก ขอเพียงลูกมีวันข้างหน้าที่ดีเถิด
เวลาทำบุญก็กรวดน้ำให้ทุกภพทุกภูมิ รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรทุกกรรมค่ะ ขอขมาซึ่งกันและกัน


เมื่อยายผีป่ามีคู่รัก ครอบครัวเขาอิจฉามาก เพราะมันผิดกับที่เขาเคยต่อว่าเราไว้
อันนี้ไม่บอกนะคะว่าคู่รักยายผีป่าเป็นใครตอนนั้น ข้ามไปเลยดีกว่าค่ะ


ครั้งหนึ่งที่ยายผีป่าไปไหว้คู่รักที่วัด(เขาบวช) แล้วขับรถ(ตอนนั้นขับเบ๊นซ์เชียวน๊า หาด้วยลำแข้งของตัวเอง)
ผ่านบ้านพักที่เราเคยอยู่ตั้งแต่เล็กจนพ่อเสียไป
เพื่อนบ้านแยกย้ายออกไปที่อื่นกันหลายครอบครัวรวมทั้งครอบครัวนางพยาบาลคนนั้นด้วย


ยายผีป่าขับเบ๊นซ์เข้าไปห้องแถวนั้น เจอคนเก่าคนแก่และเพื่อนๆ ที่ยังไม่แยกย้ายกันพอจำได้หลายคนเช่นกัน
ต่างคนต่างมาชมยายผีป่า เอ็งทำไมโชคดีอย่างนี้ ใครๆ ก็พูดถึงเอ็งทั้งนั้น แล้วผัวเองล่ะได้ข่าวว่าบวช บุญของเอ็งจริงๆ
เห็นรักกันมาตั้งนาน แล้วยายผีป่าก็ถามถึงเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ที่ย้ายๆไป บ้างก็ตาย
นึกได้ว่าอยากอโหสิกรรมให้ครอบครัวนางพยาบาลและขอขมาด้วย เพราะเรามีส่วนทำให้เขาเกลียดเรา


ป้าข้างบ้านเล่าว่า ผัวของนางพยาบาลไปสร้างบ้านอย่างใหญ่โตให้เมียน้อย มีลูกหลงมาตอนแก่ ตัวเองเลยประสาทกิน
ออกจากงานแล้ว ลูกคนโตก็มีผัวเป็นว่าเล่น ไอ้คนรองก็ติดหมอนวด ป่วยเป็นเอดส์ เสียดาย หน้าตาก็ดี
คนเล็ก(คนที่โดนแม่ด่าเพราะคบยายผีป่า) ก็เลิกกับผัว ได้ผัวใหม่ก็มีลูกแล้วโดนทิ้ง เอ็งล่ะเมื่อไรจะมีลูก
(ตอนนั้นยายผีป่าทำอย่างไรก็ไม่มีลูกค่ะ สงสัยเด็กยังไม่อยากเกิดกับเราตอนมีฐานะดี อิอิ)


ยายผีป่าเลยไปเยี่ยมเขาโดยมีคนพาไป เขาก็บอก เออ...แข่งรถแข่งเรือได้ แต่แข่งวาสนามันไม่ได้นะนาง
แล้วยายผีป่าก็ขอขมาเขา และบอกว่า วันนี้นางอาจมีความสุขตามที่เห็น แต่วันข้างหน้านางไม่รู้นะคะ

แล้วนางพยาบาลก็บอกว่า น้าไม่น่าไปด่าว่าเอ็งเลย
ลูกๆ น้ามันเป็นอย่างที่เคยว่าเอ็งไว้จริงๆ กรรมที่น้าไปว่าเอ็ง น้าขอโทษนะ

ตอนนี้น้านางพยาบาลได้ป่วยหนัก ลูกสาวคนนั้นที่เคยเป็นเพื่อนยายผีป่า ก็โทรมาให้ยายผีป่าช่วยหาผัวต่างชาติให้หน่อย

เฮ้อ...แล้วยายผีป่าจะไปหายังไงเนี่ย ขนาดไปอยู่ที่เมืองนอกตั้งหลายปี
มันยังไม่มีคนกล้ามาขอเลี้ยงดูยายผีป่าเลย มีแต่จะให้ยายผีป่าเลี้ยงดู ดังนั้น โฮมสวีทโฮมจ้า




คห.1 คุณ viBe

--------------------

ตอนนั้นนะครับ พี่ไม่มีอารมณ์ โกรธเขาบ้างเลยเหรอครับ นิดๆก็ไม่มีเหรอ
หรือมีเเต่พี่ไม่สนใจ พี่ทำอย่างไร ผมอยากเดียลกับอารมณ์เป็น
ไม่ใช่เเค่อารมณ์ โกรธ เเต่รวมไปถึงรัก โลภ โกรธ หลง

ตอนนี้ เวลานี้ ผมยอมเเพ้ไปเเล้ว ไม่พยามตามไปบังคับกดอารมณ์ไม่ให้เกิดเเล้ว
เเต่ใช้วิธิตามรู้เอา ได้บ้าง ลืมบ้างเเต่จะพยายาม พอทำเเล้วรู้สึกว่้าตัวเองมีสติ
วินาทีที่ตามรับรู้อารามณ์กับการเคลื่อนไหวของอวัยวะ รู้สึกว่ามีสติมาก จะมั่นใจว่าเราไม่ผิดศีลอีกเเน่นอน
ไม่มีอะไรมาทำร้ายเราได้ิอีก คืิอไม่กลัวอะไรเลย เหมืิอนมีสติเป็น บอดี้การ์ด เพราะสติเราดีมาก เเต่ก็ทำไม่้ได้นา่น
เวลาผมทำงานสติผมจะเปลี่ยนไปจดจ่ิอกับงานเเทนเเต่ลืมตัว
ลืมดูอารมณ์ วางไปเลย คือเหมือนว่ามีสติได้ทีละอย่าง ผมอธิบายไม่ถูก


การใช้ชีวิตประจำวันอย่างไรให้มีสติอยู่ตลอดเหมือนการหายใจ มีสติที่ผมหมายถึงคือการรู้อารมณ์ การกระทำ
ความคิดในขณะที่ทำสิ่งอื่นๆไปด้วย มีวิธีไหนบ้างครับ พี่เอื้อมไม่ค่อยมีเวลา เท่าไหร่ นานๆมาที
คนอื่นจะช่วยกรุณาตอบด้วยจะเป็นการดีมากเลยครับ ถือว่าช่วยชี้ทางสว่างให้ผมนะครับ






คุณยายผีป่าตอบ

--------------------------


พ่อใหม่จ๊ะ พี่ยาย(ผีป่า) ยังไม่บรรลุอรหัตผลนะจ๊ะ จะได้ไม่มีความรัก โลภ โกรธ หลง
เพียงแต่ว่าตอนนั้น เราเป็นเด็กที่ได้รับการอบรมให้มองดูตัวเอง
แน่นอนจ๊ะเพียงชั่ววูบยายโกรธที่ได้ยินเขามาว่าเราเช่นนั้น แล้วใช้วิธี สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
เหมือนการคุมสติด้วยอานาปาณสติค่ะ แหงนหน้ามองขึ้นข้างบน น้ำตาทีคลอเบ้าก็ให้มันเอ๋อไหลอาบแก้มตัวเอง
แล้วน้ำตานี่ล่ะ มันเป็นสิ่งที่ให้คำตอบเราทุกอารมณ์เลย ก็ปล่อยมันรินไหลไป แล้วเราก็จะมีความคิดพรั่งพรูออกมา



เราไปโกรธเขาทำไม ในเมื่อเขาเองที่กำลังโกรธ เกลียดเรา เราจะโกรธตัวเราดีมั๊ย เอ๊ะจะโกรธตัวเราทำไม
ก็มานั่งมองตัวเองที่หน้ากระจก เออ...เขาเป็นคนอื่นนะ ไม่ใช่พ่อใช่แม่เรา มาว่าเรา เรายังร้องไห้เสียใจ
เขาก็อยู่บ้านเขา เขาไม่มาสนใจเราหรอกที่เราร้องไห้ เขาอาจสะใจที่เราเจ็บ
เขาคงต้องการพูดเพื่อป้องกันลูกๆ ของเขา เขามองเราที่ภายนอก ในเมื่อพระท่านสอน
ปู่ย่าตายายสอนมาให้เจียมตน และอย่าสนใจปากหอยปากปู เราต้องเชื่อว่าเราไม่ผิดอย่างที่เขาด่าว่า
เออ...ในเมื่อเราไม่ผิดเราจะมาร้องไห้ทำไม เราจะเกลียดเขาก็ได้ แต่เราไม่เกลียด
เพราะดีเสียอีกที่เขากันเราออกจากลูกเขา เราก็ไม่อยากป็นเบ๊ให้ลูกเขาเช่นกัน ไม่ต้องคอยสอนการบ้าน
ไม่ต้องคอยปกปิดความลับลูกๆเขาแทน เราไม่ไปคบลูกๆ เขาเราก็มีเพื่อนอีกมากมาย ไม่มีใครคบ เราก็ไม่มีปัญหาอะไร
อยู่ในห้องส่วนตัว อ่านหนังสือ เอากระดาษสมุดเรียนมาฉีกวาดรูปไปเรื่อยๆ เรามีความสุขของเราตรงนั้น



เวลายายผีป่าไม่ชอบอะไร ยายจะพูดตรงๆ ถ้าเราคิดว่าพูดแล้วมันทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ส่วนมากยายจะคิดก่อนพูด
เพราะครั้งหนึ่งตอนยายเด็ก เราไม่รู้เรื่องมากนัก ปากพูดแบบไม่ยั้งคิด โดนผู้ใหญ่ตำหนิและทำโทษ ทำให้คิดได้ว่า
บางอย่างนิ่งเสียจะดีกว่า ก็เลยกลายเป็นคนสองบุคคลิค ก็ต้องแยกแยะค่ะว่าอันไหนมันดีกว่า



ยายเคยโกรธเกลียดตัวเองนะคะ ที่เกิดมาจน มาเป็นลูกคนขี้เมา ลูกของลูกจ้างจนๆ คนไร้การศึกษา
จนต้องพยายามทำให้ตัวเองเด่นขึ้นมา แต่ทีนี้หลวงปู่ท่านว่า เอ็งดีแล้วที่ได้เกิดเป็นคน เอ็งเห็นลูกหมาลูกแมวใต้ถุนวัดสิ
มันจะคิดอย่างไรถ้ามันพูดได้ แล้วรู้ว่าคนที่เกิดมาน่ะ เกลียดตัวเอง เกลียดความเป็นคนที่ตัวเองเป็น อย่าลืมตีนตัวเอง
อย่าลืมกำเนิดตัวเอง หลวงปู่สอนอย่างนี้ แล้วบอกว่า ให้ไปกราบขอขมาพ่อกับแม่เสีย
ยายเลยได้ข้อคิดว่า เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้



ยายไม่ได้เป็นหน่อไม้ที่งดงามมาแต่เกิดนะคะ ยายได้รับการดัดจากสภาวะแวดล้อม
พ่อกับแม่ยายหัวโบราณ เลี้ยงลูกด้วยการตี แต่ยายชอบที่พอเราทำดีทำเด่น พ่อแม่จะเชยชม
มันก็เลยทำให้เราขยันทำให้เด่นขึ้นมา ดีที่ตากับยายและป้า(พี่ีสาวพ่อที่ถือพรหมจรรย์ตลอดชีพ ถือศีล ๘ จนตาย)
ได้อบรมและวิ่งเล่นตามวัดวา เวลาผิดพลาด เราได้รับการสอนทันที การสอนนั้นคือทั้งสอนและทำโทษ
เราจะได้จำค่ะว่าถ้าทำอย่างนี้ จะเป็นอย่างไร ยายผีป่าโดนตีจนลายแทบทุกวันค่ะ ความผิดใหม่ๆ ทั้งนั้นค่ะ
เพราะความผิดที่ได้รับบทเรียนแล้วมันเข็ด จนหลวงปู่ท่านเรียกมาว่า

ถ้าพ่อเอ็งตาย หลวงปู่ตาย หลวงตาตาย คนที่เคยสอนสั่งเอ็งตายกันหมด ใครอีกล่ะที่จะเป็นคนมาตักเตือน
มาตีมาว่ายามเอ็งทำผิด เพราะคนที่รักเราเท่านั้นล่ะที่จะมาเตือนมาตีเรา ดัดเราให้งดงาม คนที่เขาไม่รักไม่ห่วงเรา
เขามองเราไม่ต่างจากเสาไฟข้างทาง รอหมามาเยี่ยวรดนั่นล่ะ เอ็งอยากเป็นไม้งาม หรือไม้คดล่ะ



ทุกวันนี้ยายผีป่ายังติดอารมณ์ขี้งอนนะคะ แต่งอนแล้วพิจารณาหายเร้วเร็วค่ะ โกรธไม่นานก็หาย ไม่เก็บมาอาฆาต เกลียด
ไม่มีเลย รักนี่มีค่ะ แต่เป็นรักที่มีเหตุเหมาะสม ไม่ใช่รักอย่างหน้ามืดตามัว อย่างรักลูก รักเพื่อนๆ รักตัวเองบ้าง
แต่จะไม่ให้มันหลุดสุดโต่งค่ะ ตอนแรกๆ คนถามว่า เราตายด้านทางจิตแล้วหรือ ก็ไม่ใช่ค่ะ
คือมันชินกับการรู้แล้วว่า เราไม่ตามมัน มันก็ไม่เผาเรา


อย่างถ้ามีคนนัดยายว่า พรุ่งนี้จะพาไปดูหนังนะคะ ยายก็เตรียมตัวเตรียมใจดังนี้ค่ะ


เขานัดที่ไหน เวลาเท่าไร เมื่อก่อนกระวนกระวายมากๆค่ะที่คนนัดผิดนัดหรือมาช้า แต่ตอนหลังได้บทเรียน
เราเตรียมใจทั้งด้านบวกและลบไว้ก่อน ให้มันมาที่กึ่งกลาง เราจะได้ไม่เสียใจ หรือดีใจจนเกินไป ถ้าเขามา
เราต้องเตรียมอะไรที่ไม่ทำให้เขารู้สึกผิดที่เจอเรา เช่นเรารู้ว่าขี้หนาว
ก็เตรียมเสื้อกันหนาวไปหรือถ้าวัยหวานก็เตรียมรับไออุ่นจากคนที่นัดเรา(หากเป็นแฟนนะคะ)
เราจะต้องไม่เสียใจหากเขามาช้าหรือไม่มา เพราะเราต้องคิดว่า เขาคงติดธุระ เขาคงป่วย
แต่ทีนี้ถ้าเลื่อนนัดเพราะเรื่องเหลวไหลบ่อยๆ เราเคลียร์กันเลย แล้วจบที่ตรงนั้น ถ้าจะนัดต่อ ต้องเปลี่ยนใหม่
อย่าเหมือนเคยทำ หรือจบการคบหากัน แต่ไม่เอามาคิด ไม่โกรธ ไม่ตำหนิเขาจนเพื่อนๆ รำคาญ
มองส่วนอื่นๆที่เขาดี เราจะมีความสุขใจหน่อยที่เขายังมีดีอีกหลายด้าน



หลวงปู่เคยบอกว่า อย่าคาดหวังอะไรกับสิ่งที่เราไม่ได้ทำได้ด้วยตัวเอง
มองตัวเอง เห็นตัวเองให้มากๆ แล้วเราจะมีแต่ความสงบ



สรุปก็คือ

ถ้าเรารู้ว่าเราเป็นคนอารมณ์ด้านไหนประทุได้ง่ายดาย เราก็พยายามพิจารณาข้อเสียอารมณ์นั้นที่มันจะก่อให้เกิดผลเสียต่อตัวเราเองทั้งทางตรงและทางอ้อมเสียก่อน
แล้วบอกตัวเองว่า อย่าให้มันเกิดอีกครั้งนี้โกรธจนต้องขว้างถ้วยชาม เรามามองสิว่า ของซื้อหามามันผิดอะไร
ใครเก็บกวาด ทำแล้วมันทำให้เราเป็นคนดีในสายตาคนอื่นไหมล่ะ เออ...ถ้าผลด้านลบมันมากกว่าบวก
บอกตัวเองว่า อย่าพยายามทำตัวอย่างนี้อีกนะ ถ้ามันเกิดอีก รีบดับมันเสีย ดับอย่างไรได้บ้างน่ะเหรอ
เดี๋ยวจะตั้งกระทู้ที่ดับอารมณ์ต่างๆนะคะ











 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2550
5 comments
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2550 19:06:39 น.
Counter : 1359 Pageviews.

 

มาเยี่ยมค่ะคุณปุ๊กและมาแอบอ่านเรื่องยายผีป่าด้วยค่ะ ดีมากเลยค่ะ จะนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติตนนะคะ ว่าแต่แอบบอกได้ไหมคะว่ายายผีป่าไปถูกล็อตโตหรือทำอะไรมาถึงมีเบ๊นซ์ขับน่ะค่ะ

 

โดย: the Vicky 21 พฤศจิกายน 2550 19:42:10 น.  

 

คุณคนนี้เค้ามีจิตใจเข้มแข็งและดีงามจริงๆ สามารถคิดได้แบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ

ผมอ่านชื่อเรื่องแล้วคิดถึงเรื่องนี้ ไม่รู้ปุ๊กเคยอ่านยัง


สมัยพุทธกาล
พราหมณ์คนหนึ่งด่าว่าพระพุทธเจ้าอย่างหยาบคาย รุนแรง
พระพุทธเจ้ารับฟังด้วยอาการสงบ ไม่โต้ตอบเลยแม้สักคำเดียว
จนพราหมณ์ด่าว่าจบ(อาจเพราะหมดแรง)
พระพุทธเจ้าจึงกล่าวถามพราหมณ์ว่า
"พราหมณ์ ถ้ามีแขกมาบ้านท่าน ท่านก็ต้อนรับด้วยอาหารคาว-หวาน แต่แขกที่มานั้นไม่กินอาหารที่ท่านนำมาต้อนรับเลย แล้วกลับไป อาหารนั้นจะเป็นของใคร"
พราหมณ์ตอบว่า "ก็เป็นของข้าผู้เป็นเจ้าของบ้านน่ะซิ"
พระพุทธเจ้าจึงบอกแก่พราหมณ์ว่า "ก็เหมือนกันพราหมณ์ สิ่งที่ท่านต้อนรับเราด้วยคำด่าว่าทั้งหลายนี้ เราไม่ขอรับ"
พราหมณ์เกิดสำนึกผิด ที่กล่าวด่าว่าต่อผู้ที่ตนเองควรจะให้ความเคารพนับถือเข้าเสียแล้ว จึงก้มลงกราบพระพุทธเจ้าอย่างนอบน้อม

 

โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า 21 พฤศจิกายน 2550 20:29:46 น.  

 

อ่านเพลินเลยเรื่องยายผีป่า แต่ยังอ่านไม่จบดึกแล้วเด๋วพรุ่งนี้พี่มาอ่านต่อนะจ๊ะว่าปุ๊กตั้งไว้หน้าหลักหรือป่าวเนี่ย...

 

โดย: thattron 21 พฤศจิกายน 2550 22:41:42 น.  

 

มาอ่านต่อแล้วจ๊ะ พี่ว่าบางอย่างพี่ก็คิดเหมือนกับยายนะ โกรธใครเขาไม่ค่อยเป็นหรอก ไม่ค่อยเอาเรื่องของคนอื่นที่ทำให้เราไม่สบายใจมาใส่ใจ กลัวเครียดอ่ะ ...

ปล.ขอบใจนะจ๊ะที่ทำลิ้งค์ไปให้พี่

 

โดย: thattron 22 พฤศจิกายน 2550 9:44:21 น.  

 

อ่านแล้วได้ข้อคิดที่ดีมากเลยค่ะ
ขอบคุณนะคะ ที่เขียนบล็อคดีดีมาให้อ่าน

แล้วจะติดตามต่อไปนะค่ะ

 

โดย: sushi_ lover 29 พฤศจิกายน 2550 12:53:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Hobbit
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]











ตามรอยพระอริยะ
หลวงพ่อชา สุภัทโท
พระโพธิญานเถระแห่งหนองป่าพง





ฺประมวลธรรมเทศนา
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
อ่านออนไลน์ได้ที่นี่ค่ะ

ขอบคุณครูซุปเคมากนะคะที่ส่งให้ (-/l\-)
http://www.supkcenter.com






MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com






Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
21 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Hobbit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.