"เป็นอะไรกันล่ะ จึงมานั่งร้องไห้"







ธรรมะจากหลวงปู่ชา สุภัทโท



วันหนึ่ง ขณะที่ธุดงค์ไปพักที่วัดถ้ำแสงเพชร ซึ่งอยู่ไกลจากอำเภอเมือง
จังหวัดอำนาจเจริญพอสมควร ปรากฏว่ามีโยมอุปัฏฐากที่เป็นผู้มีหน้ามีตา
ของอำเภอ และเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักปฏิบัติ มานั่งร้องไห้ต่อหน้าหลวงพ่อ


หลวงพ่อก็ยังคงนั่งเฉยอยู่ จนเมื่อโยมได้สร่างโศกลงบ้าง ท่านก็ถามว่า
"เป็นอะไรล่ะ จึงนั่งร้องไห้"


โยมผู้นั้นเล่าว่า รถที่เพิ่งซื้อมาใหม่ถูกขโมยไปแล้ว แต่หลวงพ่อก็นั่งเงียบ
เผอิญก็มีโยมผู้ชายคนหนึ่งมาพร้อมกับญาติ พอกราบหลวงพ่อเสร็จก็ร้องไห้
เป็นวรรคเป็นเวรเช่นกัน หลวงพ่อนั่งคอยจนเขาพอพูดได้
ก็ถามด้วยคำถามเดิมว่า "เป็นอะไรไปล่ะ"


เขาก็ตอบว่า "เมียตายสองคน ลูกตายสองคน"
(เผอิญชายคนนี้มีภรรยาสองคนอยู่ในบ้าน เดียวกัน)
หลวงพ่อก็ถามต่อว่า "เป็นอะไรตายล่ะ"
โยมผู้ชายก็ตอบว่า "กินเห็ดเบื่อตาย"


หลวงพ่อหันไปถามโยมผู้หญิงที่ยังน้ำตาซึม
แต่ก็นั่งเงียบฟังโยมผู้ชายเล่าอยู่ด้วยและพูดว่า

"แลกกันไหมล่ะ ดูซิ ของเขาลูกเมียตายตั้งสี่คน ของโยมรถหายคันเดียว
โลกนี้เป็นอย่างนี้แหละ มีความปรารถนาอะไรแล้วไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์
ไม่อยากให้รถหาย มันก็หาย ไม่อยากให้ลูกเมียตาย ก็ตาย ใครจะห้ามได้
ชีวิตทุกชีวิตเป็นอย่างนี้แหละ ใครอยากล่ะโยม อยากให้รถหายไหม
โยมอยากให้ลูกเมียตายไหม"

ทั้งคู่ก็ตอบรับหลวงพ่อว่า "ไม่อยากค่ะ (ครับ)"



หลวงพ่อกล่าวต่อไปว่า "เป็นอย่างนี้แหละ ความโศก ความร่ำไรรำพัน
ให้เราพิจารณาดูทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเราไม่หนีมัน มันก็หนีเรา
คนก็เหมือนกัน เราไม่จากเขา เขาก็จากเรา มันอยู่ที่
ใครไปก่อนใครเท่านั้นเอง บางทีวัตถุก็ไปก่อนเรา บางทีเราก็ไปก่อนวัตถุ
บางทีคนใกล้ชิดเราเขาก็ไปก่อน บางทีเราไปก่อนเขา มันเป็นไปตามเหตุปัจจัย
ของกรรม ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
เราย่อมมีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นผู้ติดตามให้ผล ไม่ว่าบุญหรือบาป
ดีหรือชั่วก็ตาม เราจะต้องรับกรรมนั้นโดยแน่นอน


สำหรับโยมผู้ชายนั้นโยมผู้หญิงกับลูกเขาทำกรรมกับเรามาแค่นี้
เขาตายไปเขาก็ไม่ขออนุญาตเรา ไม่บอกเรา ไม่ได้เขียนใบลา
เขาก็ตายไป โยมผู้หญิงก็เช่นกัน รถคันนี้มันทำกรรมกับ
โยมมาแค่นี้ รถมันก็ไม่บอกเราก่อนว่ามันจะถูกขโมยแล้วนะ
อยู่ ๆ มันก็หายไป

ดังนั้นให้เราเห็นว่า เป็นธรรมดาของทุกสิ่งทุกอย่าง
เราไม่หนีมัน มันก็หนีเรา เราเกิดมาเป็นอะไร เกิดที่ไหน
เกิดมากี่ครั้งๆ โลกก็เป็นเช่นนี้ เราเองต่างหากที่ไปอุปาทานว่า
นี่รถของเรา นี่ลูกนี่เมียของเรา รถมันไม่เคยบอกนะว่ามันเป็นของเรา
เราไปซื้อมันมาตกแต่ง มารักมันเอง ที่จริงรถมันไม่ได้เป็นของใคร
มันเป็นของธรรมชาติที่ไหลไปตามเหตุปัจจัย มนุษย์ไปสมมุติขึ้นมา
แล้วยึดว่าเราเป็นเจ้าของ

เมื่อมันหายไปให้เราคิดว่านั่นเป็นการคืนกลับสู่ธรรมชาติ
โยมผู้ชายก็เหมือนกัน ลูกเมียก็เสียไปแล้ว พิจารณา มองให้เห็นว่าเป็นทุกข์
ไม่ใช่พอสร่างโศกก็ไปหามาใหม่ เป็นการเพิ่มทุกข์ขึ้นมาอีก เราควรทำบุญ
ให้ทาน รักษาศีล ทำภาวนา แผ่ให้ผู้ตายบ้าง เราเองก็ต้องตาย
ไม่แน่ว่าเมื่อไร ขอให้เข้าใจสัจธรรม ของธรรมชาติ"



หลวงพ่อกล่าวเป็นสังเขปพอให้โยมสร่างทุกข์ หน้าที่ของพระก็คือ แก้ไขทุกข์
โดยคิดว่า ทุกคนเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
เมื่อกล่าวไปแล้วก็ไม่ได้คิดปรุงว่า จะแก้ ได้หรือไม่ได้
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีคำตอบอยู่ในตัวมันเองอยู่แล้ว
ผู้มีปัญญาก็จะค้นหาคำตอบ ของปัญหาของเขาเองได้ในที่สุด




จาก //larndham.net/index.php?showtopic=29483 โพสต์โดยคุณ sawaddee







Create Date : 09 ธันวาคม 2550
Last Update : 10 ธันวาคม 2550 3:53:15 น. 2 comments
Counter : 979 Pageviews.

 


โดย: CrackyDong วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:2:57:45 น.  

 
มาอ่านธรรมะดีๆ ค่ะ ขอบคุณที่เอามาฝากนะคะคุณปุ๊ก


โดย: the Vicky วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:9:04:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Hobbit
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]











ตามรอยพระอริยะ
หลวงพ่อชา สุภัทโท
พระโพธิญานเถระแห่งหนองป่าพง





ฺประมวลธรรมเทศนา
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
อ่านออนไลน์ได้ที่นี่ค่ะ

ขอบคุณครูซุปเคมากนะคะที่ส่งให้ (-/l\-)
http://www.supkcenter.com






MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com






Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Hobbit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.