ไปเป็นลูกโยคี...ตอนที่ 4 : รูปแบบการปฏิบัติ






Smiley รูปแบบการปฏิบัติ Smiley


เนื่องจากเอกสารในหนังสือที่ได้รับมาค่อนข้างเยอะมาก จึงขอคัดลอกจากเว็บนี้แทนนะคะ
//www.watsrapleng.net/index.php/2008-08-17-05-57-18/30--m-m-s



การบริกรรมยุบหนอ- พองหนอ


เน้นการใช้สติปัฏฐาน ๔ ควบคู่กับการบริกรรมยุบหนอ-พองหนอ
เป็นแนวการสอนสมาธิตามแบบปะเทศพม่า และพระธรรมธีรราชมหามุนี (พระมหาโชดก ญาณสิทธิ)
เป็นผู้ไปฝึกปฏิบัติแล้วนำมาเผยแพร่ที่ประเทศไทย ซึ่งท่านจัดสอนที่วัดมหาธาตุฯ
ซึ่งมีวิธีปฏิบัติโดยย่อว่า ให้เดินจงกรมเสียก่อนประมาณ ๓๐ นาที ถึง ๑ ชั่วโมง
โดยเน้นให้มีสติอยู่ที่ส้นเท้าเป็นหลัก และเมื่อเดินจงกรมครบกำหนดแล้วให้นั่งสมาธิ
เอาสติไว้ที่ท้องภาวนาว่า พองหนอ ยุบหนอ ประมาณ ๓๐ นาที ถึง ๑ ชั่วโมง
ถ้านั่งครบกำหนดแล้ว ก็ให้ลุกขึ้นเดินจงกรมอีก และนั่งสมาธิอีก (เวลาปฏิบัติรวมนั่งสมาธิแค่ครั้งเดียวค่ะ)
ทำให้ต่อเนื่องสลับกันไป

สำหรับการนั่งสมาธิ และ เดินจงกรม ที่สอนในแบบยุบหนอ พองหนอนี้
มุ่งเน้นพิจารนาตามกฎไตรลักษณ์ ส่วนวิธีการอาจมีความแตกต่างกันบ้างในรายละเอียด
ตามแต่อาจารย์ที่สอน สำหรับวิธีการโดยทั่วไป มีคือดังนี้

ให้ยืนตัวตรง ใบหน้าและลำคอตรง
ทอดสายตาไปที่พื้นห่างจากปลายเท้าประมาณ ๒-๓ เมตร เอามือวางหน้าท้องเหนือสะดือเล็กน้อย

ยกเท้าขวาจากพื้นช้าๆ พร้อมกับบริกรรม ขวา
พอเท้าขวาเคลื่อนไปข้างหน้า บริกรรม ย่าง
พอเท้าขวาลงจดพื้น บริกรรม หนอ

และยกเท้าซ้าย บริกรรม ซ้าย
พอเท้าซ้ายเคลื่อนไปข้างหน้า กำหนด ย่าง
พอเท้าซ้ายจดพื้น บริกรรม หนอ

พอเดินไปได้ สุดทาง ประมาณ ๗-๘ เมตรหรืออย่างน้อยควรมีที่เดินได้สัก ๘ ก้าว
ก็กำหนดหยุดหนอ เท้าชิดกันบนพื้น ยืนตรงกำหนด ยืนหนอ
แล้วก็กลับตัว กำหนด กลับหนอ พร้อมหมุนส้นเท้าขวา ตามด้วยเท้าซ้ายอย่างช้า ๆ
ค่อย ๆ ทำจนหมุนกลับมาทางเดิม และเริ่ม ขวา-ย่าง-หนอ และ ซ้าย-ย่าง-หนอ ต่อไปจนครบเวลาพอสมควร

เมื่อฝึกกำหนดจนคล่องแล้วอาจเพิ่ม การกำหนดละเอียดขึ้นไปอีก จนครบ ๖ ระยะ คือ
๑.ขวา... ย่าง... หนอ ..., ซ้าย ... ย่าง ... หนอ...
๒.ยก... หนอ... , เหยียบ... หนอ...
๓.ยก... หนอ... , ย่าง.... หนอ... , เหยียบ... หนอ...
๔.ยกส้น ... หนอ...., ยก....หนอ..., ย่าง...หนอ...., เหยียบ.... หนอ....
๕.ยกส้น .... หนอ....., ยก.... หนอ..., ย่าง... หนอ..., ลง... หนอ..., ถูก... หนอ...
๖.ยกส้น... หนอ..., ยก... หนอ..., ย่าง... หนอ..., ลง... หนอ..., ถูก... หนอ ..., กด... หนอ...

ถ้าเป็นสายคุณแม่สิริ กรินชัย จะเพิ่มระยะที่ ๗ ๗.
ยกส้น... หนอ ..., ไม่คิดหนอ, ยก... หนอ...ไม่คิดหนอ,
(ทวนระยะ ๖ เพิ่มคิดและไม่คิด)

แต่ถ้าผู้ฝึกคนใดชอบฝึกอย่างเคร่งครัด ก็จะฝึกให้มีสติทุกอิริยาบถ
โดยให้มีสติรู้ตัวตลอดเวลาแล้วภาวนากำกับอารมณ์นั้น ๆ ที่เกิดขึ้นมา
เช่น กินหนอ ๆ ๆ อ้าปากหนอ ๆ ๆ เคี้ยวหนอ ๆ ๆ ยกแขนลงหนอ ๆ ๆ เป็นต้น

การนั่งสมาธิ
ให้นั่งแบบพระพุทธรูปที่ใช้พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายบนตัก
ผู้ที่ไม่ถนัดอาจอนุโลมให้นั่งพับเพียบ หรือนั่งเก้าอี้ก็ได้ แต่ต้องนั่งตัวตรง
และไม่พิงพนักเก้าอี้ หลับตา ให้เอาสติมาจับอยู่ที่ท้องเหนือสะดือ ขึ้นมาประมาณ ๒ นิ้ว
หายใจตามปรกติ โดยเวลาหายใจเข้า ท้องโป่งพองออก กำหนดว่า พองหนอ
เวลาหายใจออกท้องจะแฟบยุบ ก็กำหนดว่า ยุบหนอ โดยกำหนดให้เท่าทันอาการในเวลานั่งไป

หากได้ยินเสียง ก็กำหนดยินหนอ หากมีความปวดเมื่อยเกิด ก็กำหนดเมื่อยหนอจนหายไป
คงมีสติกำหนดในอาการต่าง ๆ ตามสติปัฏฐาน ๔
หากไม่มีอาการอื่นก็ กำหนดพองยุบต่อไปจนเห็นความดับเฉยของพองยุบ

เวลาที่ใช้ในการนั่งสมาธิมักใช้เวลาพอดีกับการเดินจงกรม
สรุปการทำสมาธิด้วยการภาวนายุบหนอ พองหนอ เป็นการฝึกสติอยู่กับลมหายใจที่ท้องเป็นหลัก
ส่วนถ้ามีอารมณ์อื่นมาแทรก ก็ให้พิจารณา คือ เอาอารมณ์นั้นมาภาวนาแทนจนกว่าใจจะสงบ
ส่วนถ้าเดินจงกรมก็ให้มีสติอยู่กับเท้าที่เดินอยู่ตลอดเวลา
ทั้งหมดนี้มุ่งหวังให้ใจรู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองอยู่เสมอ


-------------------------------------------------




เนื่องจากจขบ.เป็นคนที่ชอบทดลอง (แต่ไม่ใช่ลบหลู่)
จึงวางของเก่าลงและตั้งใจปฏิบัติตามทุกขั้นตอน และก็ได้พบกับสิ่งอัศจรรย์หลายอย่าง
ซึ่งอาจจะต้องขอละไว้ไม่นำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะนะคะ
เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตนที่เราไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนกัน

ส่วนตัวแล้วยอมรับว่าเป็นแนวทางการฝึกที่ดี มีประโยชน์มาก
และจะดียิ่งขึ้นไปอีกหากผู้ปฏิบัติพิจารณาตามจริงจนเกิดปัญญาอย่างแท้จริง
ตามวัตถุประสงค์ที่แท้ของสติปัฏฐาน 4 ไม่ว่าจะปฏิบัติสายไหนอยู่ก็ตาม

เหมือนกับที่พระอาจารย์สมศักดิ์ ซึ่งมาช่วยวิทยากรสอบอารมณ์ลูกโยคี
ได้บอกกับจขบ.ว่า.....




“การที่เรานั่งพองยุบดูท้องนั่นคือสมถะ ส่วนการเดินจงกรมคือการฝึกสติ
การที่เรากำหนดย่างหนอตอนเดินจงกรม ต้องเดินช้าๆ ก็เพื่อฝึกซ้อม
เพราะหากจิตเราไม่ละเอียดพอไปทำเร็วๆ มันจะไม่ทัน และไม่เห็นการเกิดดับ
หากซ้อมบ่อยๆ แล้ว เมื่อเราไปใช้ชีวิตประจำวันเราไม่จำเป็นต้องกำหนดก็ได้
แค่ “รู้” อย่างเดียวก็พอด้วยสติซึ่งเราฝึกมาดีแล้ว”





เพื่อนบลอคคนไหนตั้งใจดีก็ขอให้ได้ของดีกลับไปเหมือนที่คุณแม่สิริบอกไว้ทุกคนนะคะ
อนุโมทนาค่ะ






 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2552
0 comments
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2552 18:30:02 น.
Counter : 2585 Pageviews.


Hobbit
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]











ตามรอยพระอริยะ
หลวงพ่อชา สุภัทโท
พระโพธิญานเถระแห่งหนองป่าพง





ฺประมวลธรรมเทศนา
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
อ่านออนไลน์ได้ที่นี่ค่ะ

ขอบคุณครูซุปเคมากนะคะที่ส่งให้ (-/l\-)
http://www.supkcenter.com






MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com






Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
16 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Hobbit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.