จากที่เรารู้กันว่า
โน้ตกู่ฉินที่ถูกบันทึกในตำราโบราณ
จะไม่มีการจดจังหวะลงไป
ดังนั้นผู้เล่นจึงมีอิสระมากในการเล่น
แต่ในความอิสระนี้ก็ยังมีขอบเขต
เพราะถ้าสังเกตุดีๆแล้ว
จะพบสัญลักษณ์เว้นวรรคและจบประโยค
ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกจบท่อนเพลง
นอกจากนี้เทคนิคบางอย่างยังมีจังหวะในตัวอีกด้วย
โน้ตโบราณ
แต่เนื่องจากการอ่านโน๊ตแบบนี้
จะยากมากสำหรับมือใหม่
ดังนั้นจึงมีการจับโน๊ตกู่ฉินไปวางใต้โน๊ตห้าเส้น
และโน้ตเชอเวย์ หรือโน้ตตัวเลขที่ดนตรีจีนนิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
ข้อดีคือ สำหรับคนที่ไม่มีเวลาไปหาครู
เรียนเองได้ง่ายๆ เพราะจังหวะและระดับเสียงถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจน
แต่ข้อเสียคือ สำหรับคนที่ไม่เคยเรียนรู้วิธีการอ่านโน้ตแบบนี้มาก่อนจะลำบากมาก
สุดท้ายการเรียนกู่ฉินก็คือการเรียนโน้ตสากลหรือโน้ตเชอเวย์นี่เอง
กู่ฉินก็ยากพอแล้ว ยังต้องมาเรียนอะไรแบบนี้อีก หลายคนยอมแพ้ตรงนี้
มีคนบอกว่าเรียนเองจากเพลงก็ นั่นไม่ใช่ทุกคนทำได้
แต่เร็วๆนี้ผมได้ออกแบบโน้ตแบบใหม่
ซึ่งกำลังอยู่ในขึ้นตอนการเก็บรายละเอียด
เพราะรูปแบบโดยรวมเสร็จไปกว่าครึ่งแล้ว
อีกทั้งยังได้ทดลองใช้กับนักเรียนที่เคยเรียนทฤษฎีดนตรีสากล
(นักไวโอลิน ปีสาม วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหิดล
คนนี้บินมาหาผมที่ปักกิ่งหนึ่งอาทิตย์ เรียนไปสามเพลง)
และไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดนตรีมาก่อนเลย
(พี่หมอ จิตแพทย์จุฬา)
ได้การตอบรับเป็นอย่างดี และมีพัฒนาการที่ข้อนข้างชัดเจน
เมื่อวานผมได้เอาโน้ตที่ผมออกแบบไปให้ อ. หลายๆท่านที่โรงงานดู
ทุกคนพอใจเป็นอย่างมาก
และมีโอกาศที่จะใช้ระบบโน้ตนี้ในหนังสือเรียนของโรงงาน
เพราะเร็วๆนี้โรงงานเปิดสอนกู่ฉินคอร์สสั้นๆด้วย
ที่สอนโดย อ. หวังและนักกู่ฉินมืออาชีพหลายท่าน
และมีผมกับศิษย์คนอื่นๆเป็นผู้ช่วย
นร. ส่วนใหญ่เป็นคนทำงาน ค่อนข้างมีฐานะทางสังคม
(คิดว่าค่าเรียนคงแพง แต่ไม่ได้ถามรายละเอียด)
แต่ในหนังสือเรียนของผมต้องใช้แน่นอนครับ
แต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้ คงอีกนานพอสมควร
ส่วนรูปแบบโน้ตเป็นยังไงนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ครับ
ไว้รอให้ทุกอย่างลงตัวก่อน
ผมจะเอามาลงให้ดูครับ
แหล่มจ๊ะ