YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
::::: เรื่องราวในอินเดีย 5 ... ตอน วันที่สอง :::::

วันนี้ตื่นมาตอนก่อนตีห้าเล็กน้อย จะเรียกอย่างนั้นก็ไม่ถูก
จริงๆ แล้วเรียกว่านอนไม่หลับแทบจะทั้งคืนดีกว่า
หมอนที่เปียกมาตั้งแต่เมื่อวานก็ยังคงเปียกอยู่
ที่นอนก็ชื้นกว่าเดิมคงเพราะฝนสาดเข้ามา ไม่แน่ อาจจะมีหลังคารั่วด้วย
เมื่อคืนต้องลุกขึ้นเอาเสื้อกันฝนมาวางทับหมอนอีกที
ก็พอนอนได้ แต่ว่านอนทับพลาสติกนี่มันร้อนหัวดีจริงๆ
กระสับกระส่ายทรมานจนหลับไปในที่สุด
แต่ราวๆ ตีสามครึ่งก็ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว เพราะปวดเมื่อยขาซ้ายทั้งขา
สงสัยจะเกี่ยวกับที่นั่งคุกเข่าเมื่อวาน ร่างกายคงยังไม่ชิน
แล้วในหัวก็มีมนตราบทเมื่อวานนี้ดังก้องอยู่ตลอดเวลา
แต่แปลก พอตื่นขึ้นมาแล้วกลับจำไม่ได้ว่ามนตราบทนั้นคืออะไร
พยายามนอนหลับต่อก็หลับได้อีกนิด สุดท้ายก็ลุกไปอาบน้ำ
สดชื่นขึ้นมาแล้ว เสียงกระดิ่งก็ดังบอกเวลาดื่มชาสมุนไพร
ชาสมุนไพรที่นี่อร่อยมาก แต่บอกไม่ถูกว่ามันคือสมุนไพรอะไรบ้าง
มีแบบใส่นมกับไม่ใส่นม พร้อมกับน้ำตาลปี๊บวางอยู่ข้างๆ
ร้อนๆ หอมๆ หวานนิดๆ เหมาะกับเวลาเช้าอย่างยิ่ง

เช้าวันนี้ทุกคนดูเงียบๆ คงเพราะเมื่อวานนี้เคทบอกไว้ว่า
ตอนเช้าเป็นเวลาที่อารมณ์ทุกคนเราจะเปราะบาง
พยายามอยู่เงียบๆ กับตัวเองในตอนเช้าจะทำให้ทั้งวันจิตใจเราไม่วุ่นวาย
อันนี้เห็นด้วยเลยว่าจริง เพราะเราเกลียดมากเวลาที่ตื่นมาตอนเช้า
แล้วต้องรีบออกจากบ้าน ไปฝ่าด่านรถติด แล้วเร่งรีบเพื่อให้ไปทำงานทัน

หลังจากดื่มด่ำกับชาสมุนไพรอย่างเงียบๆ แล้ว
พวกเราก็มุ่งหน้าขึ้นไปยัง Patanjali Hall ห้องเรียนของเรา
ที่ตั้งชื่อตามปตัญชลี หรือบิดาแห่งโยคะ ผู้เขียนปตัญชลีโยคสูตร
ซึ่งรวบรวมเอาศาสตร์แห่งโยคะเข้ามาไว้ในสุตราเล่มนี้
เป็นคนร่วมยุคสมัยกับพระพุทธเจ้านู่นเลยทีเดียว

พวกเราเริ่มต้นวันด้วยการ Chanting หรือการสวดมนตรา

เริ่มด้วย Omkar หรือ โอม 3 จบ

ต่อด้วย Mahamrityunjaya mantra 11 จบ
(บทเดียวกับที่สวดตอนเย็น 108 จบ)
....Om tryambakam yajamahe sugandhim pushtivardhanam…
…Urvarukamiva bandhanat mrityormukshiyamamritat…
(I offer my regards to Lord Shiva,
please give me best of Health.
Free me from all the bondages
and give me immortality by saving from untimely death.)

ต่อด้วย The Gayatri Mantra 11 จบ (อันที่ได้ยินใน blog นี้แหละค่ะ)
เพื่อเป็นการสร้างพลังงานภายในตัวเรา ทั้งกายและใจ
… Om bhur bhuvah swah…
…Tat saviturvarenyam bhargo devasta dhimahi…
…Dhiyo yo nah prachodayat…
(แปลว่า We meditate on the adorable sun of spiritual evergy.
May it inspire our higher intelligence)

ต่อด้วย Durga Namavali เป็นการเอ่ยนาม Mother Earth ทั้ง 32 นาม
(เอ่อ... ยาวเฟื้อยเลยค่ะ อยากรู้ถามพี่กูเกิ้ลเอาแล้วกันนะคะ)

ซึ่งครูขอให้ทุกคนเข้าร่วมด้วย
แม้ว่าพวกเราบางคนอาจจะไม่สะดวกใจที่จะสวด
ก็ขอให้ขึ้นมารับพลังดีๆ ร่วมกัน จะนั่งเฉยๆ ก็ไม่ว่ากัน
โดยส่วนตัว เราชอบการสวดมนตรานี้มากเลย
เป็นการเริ่มต้นวันที่สงบอย่างยิ่ง
ตอนเช้าจิตใจเราสงบพอที่จะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับพลังงานรอบๆ ตัวได้
และเมื่อทุกๆ คนพยายามที่จะรักษาบรรยากาศความสงบอย่างนี้ด้วย
เสียงโอมที่เปล่งออกมาพร้อมกัน ให้ความรู้สึกปลอบประโลมอย่างบอกไม่ถูก

Chanting กินเวลาประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นเราก็เริ่มต้นฝึกอาสนะกัน
สำหรับสัปดาห์แรก ท่าอาสนะเป็นท่าเบื้องต้นทั้งหมด
แต่เราก็จำเป็นจะต้องเรียน เพราะเวลาจะเป็นครูเราต้องรู้ทั้งท่าง่ายและท่ายาก
และรู้ว่าจะสอนนักเรียนอย่างไร จากง่ายๆ ไปสู่ท่าที่ยากขึ้นเป็นลำดับ

หลังจากฝึกอาสนะ ก็เป็นเวลาของ Karma Yoga
Karma แปลว่าการกระทำ ดังนั้น มันจึงเป็นการฝึกโยคะด้วยการกระทำ
มีอธิบายในบทสนทนาของพระกฤษณะกับเจ้าชายอรชุนในภควัทคีตา
การกระทำในที่นี้คือการบำเพ็ญประโยชน์โดยไม่หวังผลตอบแทน
เป็นการกระทำที่ยกระดับจิตใจ โดยทำเพื่อที่จะทำเท่านั้น
พูดมาเสียสวยหรู สรุปคือ Karma Yoga ก็คือทำเวรนั่นเอง ^_^
วันนี้เป็นวันแรก เคทให้เราแยกย้ายไปทำความสะอาดห้องของใครของมัน
แล้วเคทก็ชี้ทางไปห้อง Karma Yoga ซึ่งเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด

การทำความสะอาดห้องตัวเองก่อนนี่นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียว
อย่างน้อยเราก็ทำให้มันเหมือนบ้านของเรามากที่สุด
อีกเกือบเดือนที่เราต้องอยู่ที่นี่ (แม้จะแว่บคิดอยากกลับบ้านก็ตาม)
พวกเราสี่คนช่วยกันทำความสะอาดห้องของเรา
อาเนียจากเม็กซิโก แร็กเคลจากฟิลิปปินส์ เอเลนจากบราซิล
แล้วก็อิชั้นเนี่ยเองแหละจากประเทศไทย พวกเราสี่คนเข้ากันได้ดี เลยแหละ



เตียงนอนของเรา หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว



ตอนสายๆ ของวันนี้ยิ้มออก เพราะวันนี้มีแดดแล้ว
อยู่เมืองไทยไม่เคยรู้สึกหิวแดดเท่านี้เลย
แดดใส หมาสวย เขาสูง
เย่!



แต่แดดอกอยู่ไม่ถึงสิบห้านาที ฝนก็ตกอีกแล้ว เฮ้อ...

เย็นนี้โทร.หาคุณพ่อคุณแม่กับคุณแฟน ... คิดถึงบ้าน




วันนี้เรียนเล็กเชอร์เรื่อง Types of Yoga กับกันดาร์ ครูชาวอินเดีย ลูกชายคุรุจี
กันดาร์ชอบสอนแบบเล่านิทานไปด้วย แล้วก็ยิ้มๆ
ประมาณว่า ไปคิดต่อเอาเองนะ ว่าเกี่ยวกันยังไง

ประเภทของโยคะคร่าวๆ
(จริงๆ เรียนละเอียดยิบส์เลย แต่ว่าเดี๋ยวจะเบื่อซะก่อน)

1. อัษฎางค์โยคะ – อันนี้ไม่ใช่ Ashtanga แบบที่สอนๆ กันในฟิตเนส
แต่เป็นของปตัญชลี รู้จักกันอีกชื่อว่า ราชาโยคะ ประกอบด้วย 8 ข้อคือ
1,2 ยมะ นิยมะ
(เหมือนศีลห้าธรรมห้า คือเริ่มด้วยการขัดเกลาจิตใจก่อน)
3,4 อาสนะ ปรานยามะ
(การทำร่างกายให้พร้อมที่จะนั่งสมาธิ คือต้องเฉยๆ ให้ได้สามชั่วโมง ประมาณนั้น)
5. ปรัทยาหาระ
(การฝึกแยกจิตใจออกจากประสาทสัมผัส ประมาณว่ายุงกัดก็ต้องช่างมัน)
6,7,8 ธารณะ ฌาน สมาธิ
(สามขั้นตอนของการไปสู่ไกวัลยะ หรือการรวมเป็นหนึ่งเดียว)

2. หฐโยคะ อันนี้แหละที่ขจรขจายไปทั่วโลก
จะต่างกับข้างบนนิดหน่อยตรงที่ว่า
เขาเชื่อว่าจะไปฝึกกันที่จิตใจก่อนเลยไม่ได้ (แบบยมะ นิยมะ ข้างบน)
แต่ทำร่างกายให้บริสุทธิ์ก่อน โดยการฝึกอาสนะ และสัทกรรม (เทคนิคการชำระล้าง)
เพื่อให้พลังงานสมดุล แล้วจิตใจที่บริสุทธิ์ก็จะเกิดขึ้นเอง

3. ภักติโยคะ ถ้าแปลง่ายๆ ก็คือการสวดมนต์
การจงรักภักดีของพระเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจ
อารมณ์ทุกอย่างจะหลอมรวมไปสู่ความจงรักภักดีจนกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่
และ transformation ก็จะเกิดขึ้น .... ??? .... เรียนเองงงเองฮับ

4. กรรมโยคะ อันนี้อธิบายไปแล้วเนอะ

5. ญาณโยคะ คือเรียนจนบรรลุน่ะค่ะ

6. กุณฑาลินีโยคะ

7. ตันตระโยคะ

สองอย่างหลังนี้จะได้เรียนอาทิตย์หน้าค่ะ กันดาร์บอกว่าเรื่องมันยาว






Create Date : 07 ตุลาคม 2553
Last Update : 7 ตุลาคม 2553 7:07:38 น. 5 comments
Counter : 1376 Pageviews.

 
เข้ามานั่งอ่านจนจบแล้วครับ
โยคะนี่ซับซ้อนมากเลยนะครับ
แล้วก็คงไม่มีที่ไหนที่สอนได้ลึกซึ้งเท่ากับต้นกำเนิดของโยคะอย่างอินเดียอีกแล้ว

พูดถึงเรื่องมนตรา
พี่ก๋าเวลาอุ้มหมิงหมิงหลับชอบสวดอยุ่สองบทครับ
มันสั้นๆ
ร้องวนไปวนมา
คือ
โอม มณี ปัทเม ฮุม

กับ โอม ตาเรตู ตาเรตู เร สวาหะ

สองบทนี้ล่ะครับ

สวดกันไป กล่อมลูกหลับดีนักแล 5555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 ตุลาคม 2553 เวลา:7:41:18 น.  

 

เราชอบอ่านบันทึกชีวิตประจำวัน
ในต่างแดนแบบนี้มากๆ ค่ะ
เพราะได้แง่คิดและมุมมอง
เกี่ยวกับวิถีชีวิตของประเทศนั้นๆดีค่ะ...แล้วจะแวะมาอ่านเรื่อยๆ เน๊าะ
มอร์นิ่งจ้า



โดย: อุ้มสี วันที่: 7 ตุลาคม 2553 เวลา:7:57:03 น.  

 
เยี่ยมยอดเลยนะคะ
เอาใจช่วยให้คุณครูโยคะที่มีความตั้งใจจริง ^^
อินเดียเหมือนบททดสอบความอดทนขั้นกว่าค่ะ


โดย: WaRu (EarlyMorning ) วันที่: 7 ตุลาคม 2553 เวลา:21:26:06 น.  

 
สวัสดีครับ ขอขอบคุณที่นำเรื่องราวที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เล่าสู่กันฟัง / ขอเป็นกำลังใจให้ครับ


โดย: kanetp007 วันที่: 7 ตุลาคม 2553 เวลา:21:43:48 น.  

 
เหมือนอ่านเล็กเชอร์จริงๆ ด้วย ^^'
คุณเหมาะกับการเป็นอาจารย์โยคะนะ


โดย: gvujp IP: 203.146.136.113 วันที่: 8 ตุลาคม 2553 เวลา:18:54:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
7 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.