YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
::::: เรื่องราวในอินเดีย ตอนที่ 16 ... ตอน โอม/ที่ชาร์จแบต/ประโยชน์ของโยคะสำหรับว่าที่คุณแม่ :::::

เช้านี้เราขึ้นไป chanting อย่างสดใส เพราะเมื่อคืนนี้ไม่กิน Ladoo
เห็นไหม มันมีผลจริงๆ ด้วย อันนี้ฝากไว้นิดนึง อ่านเจอจากในหนังสือโยคะเด็กค่ะ
(Yoga Education for Children : Swami Satyananda Saraswati
พิมพ์โดย Yoga Publications Trust, Muger, Bihar, India)
ถ้าวันไหนลูกคุณเกิดไม่อยากไปโรงเรียนตอนเช้า อย่าเพิ่งดุลูกนะ
ให้ลองถามตัวเองเสียก่อนว่า ให้ลูกกินช็อกโกแลตหรือขนมหวานไปเมื่อคืนหรือเปล่า
….

พอเราขึ้นไปถึง Patanjali Hall ก็เสียบชาร์จแบตโทรศัพท์
ที่ไม่ชาร์จไฟในห้องนอน เพราะเป็นไฟจากเครื่องปั่นไฟ
ซึ่งไฟจะมาไม่สม่ำเสมอ อ้นจะทำให้แบตเสื่อมกันได้ง่ายๆ
แต่เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมชาร์จไม่เข้า เราไม่แน่ใจว่าที่ชาร์จแบตเสียหรือปลั๊กเสีย
แต่พอเพื่อนมาเสียบรูข้างๆ กลับชาร์จได้ซะอย่างนั้น
เวรกรรม ที่ชาร์จแบตโทรศัพท์ของเราเองที่มีปัญหา อะไรกันเนี่ย T T ไม่สนุกเลย

เก๊ง...กระดิ่งเข้าห้องเรียนดังขึ้น ครู (ที่่ป่านนี้เรายังไม่รู้จักชื่อ) ขึ้นมานำ Chanting
อารมณ์เรายังขุ่นมัวอยู่เรื่องที่ชาร์จแบต แต่ว่าทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้
นั่งลงขัดสมาธิบนเสื่อโยคะแล้วเปล่งเสียงโอมตามครู
บรรยากาศตอนเช้าที่เงียบสงบ อากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป
และเสียงโอมที่พวกเราทุกคนเปล่งเสียงออกมาพร้อมกันนั้น
ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะยังขุ่นมัวอยู่ในไม่ถึงห้านาทีที่แล้ว

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอนอกเรื่องพูดถึงเรื่องโอมหน่อยแล้วกัน
นานมาแล้ว เราเคยแอนตี้การ chant นะ
เพราะเคยเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของศาสนาอื่น
เป็นเรื่องของการยึดติดในรูปแบบที่เรารู้สึกอึดอัดที่จะทำ
แต่ยิ ่งวันยิ่งเข้าใจมันมากขึ้น และตอนนี้บอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า
หลงรักเข้าให้แล้ว ทั้งนี้เพราะเรารู้สึกได้จากประสบการณ์ของตัวเองเอง
อย่างครั้งนี้เป็นต้น ที่จิตใจเราสงบลงได้อย่างเร็วจนตัวเราเองยังงง

คำว่าโอมนั้น เป็นเสียงแห่งจักรวาล หมายความว่า
ลึกลงไปในเสียงทุกเสียงนั้น คือเสียงโอม
หรือพูดอีกอย่างว่า ทุกๆ เสียงในโลกนั้นมีเสียงโอมเป็นเสียงรากฐาน
เครื่องจักรหมุนก็เป็นเสียงโอม ลมพัดก็เป็นเสียงโอม
พลังงานทุกอย่างในโลกนี้เป็นเสียงโอม
แล้วในเวลาที่เราเปล่งเสียงโอม ก็เท่ากับเรากำลังสร้างเสียงนี้ให้เกิดขึ้นภายในตัวเราเอง

เสียงโอมนั้น ประกอบด้วยสามเสียงคือ อา อู และ อืม
อา เริ่มต้นการสั่นสะเทือนที่ท้อง อู อยู่ที่หน้าอก และอืมนั้นอยู่ในหัว
ถ้าจำเรื่องกุณฑาลินีได้ การเคลื่อนที่ของพลังนี้จะเหมือนกับการตื่นขึ้นของกุณฑาลินี
นั่นคือ เคลื่อนจากล่างขึ้นบน แล้วไปออกตรงกลางกระหม่อม
ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภายในร่างกาย และพลังจักรวาล
หรือการรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล (ในภาษาหฐโยคะ คือการศักติไปรวมกับศิวะ
และในภาษาอัษฎางค์โยคะก็คือการที่ประกฤติไปรวมกับปุุรุษะ)
ซึ่งการรวมเป็นหนึ่งเดียวแบบนี้แหละที่เป็นที่มาของคำว่าโยคะ
เพราะโยคะมีรากศัพท์มาจากคำว่า "ยุจ" ซึ่งแปลว่าการรวมกัน

เราเองก็ไม่รู้หรอกว่าเจ้ากุณฑาลินีที่นอนอยู่ที่ก้นกบของเรานี่มันจะตื่นหรือยังไม่ตื่น
แต่อย่างน้อยเราก็รู้ว่าการเปล่งเสียงโอมนั้น ให้ความรู้สึกดีจริงๆ
หลับตาแล้วเปล่งเสียงอา รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนที่ท้อง
อู รู้สึกที่หน้าอก และอืม รู้สึกถึงความสั่นไหวในศีรษะ
แล้วความรู้สึกโล่ง และเบาก็เข้าแทนที่
เหมือนเราทูนถังขยะไว้บนหัว แล้วก็ได้เทมันทิ้งเสีย
แล้วเราก็รู้สึกเหมือนเป็นถ่านที่ชาร์จไฟจนเต็มแล้ว
เต็มไปด้วยศักยภาพที่จะทำอะไรก็ได้
Om = Vibration of energy ไม่รู้จะแปลเป็นไทยยังไงดี แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

นอกเรื่องไปถึงไหนแล้ว … อ้อ เรื่องที่ชาร์จแบตเรา
ตลอดคลาสChanting จนถึงคลาสอาสนะ เราไม่ได้สนใจมันเลย
เพราะรู้สึกถึงเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งในตอนคลาสอาสนะ
นั่นคือห่วงยางนิ่มๆ กลมๆ ที่เอวที่เคยรู้สึกได้ตอนที่ทำท่า
อุทธิตาปัสวาโกนาสนะ และปริวัตตาปัสวาโกนาสนะนั้น ได้หายไปแล้ว
เร็วมากเลย ไม่ถึงสองอาทิตย์ ห่วงยางหายไปแล้ว เพิ่งจะสังเกตวันนี้แหละ
เย่! ดีใจมากเลย พยายามลดน้ำหนักยังไงห่วงยางก็ไม่ลด มาโยคะท่านี้แหละลดได้ชัวร์

เรามากังวลเรื่องที่ชาร์จแบตอีกครั้งตอนหลังจากกรรมโยคะ
หลังจากถามเกือบทุกคนแล้ว มีอยู่เพียงคนเดียวที่ใช้ไอโฟนเหมือนเรา
คือ วิรอนนิก้า ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว เราไม่ชอบวิรอนนิก้าเลย
เธออายุ 23 มาจากออสเตรเลีย รู้สึกว่าหน้าเธอมันหยิ่งๆ ชอบกล
ไม่อยากจะเสวนาด้วยถ้าไม่จำเป็น ในใจคิดไปก่อนเลยว่า คงไม่ให้เรายืมแน่
หรือถ้าให้ยืมก็คงให้ยืมแบบไม่เต็มใจ แต่เสียไม่ได้
ตัดสินใจว่าจะทำปากหนัก ยังไม่ขอยืมแล้วกัน ไว้ก่อน เผื่อหาจากคนอื่นได้
แต่จนถึงตอนเย็นวันนี้ก็ยังไม่เจอใครมีที่ชาร์จแบตที่ชาร์จไอโฟนได้เลย
ต้องยอมเปิดปากขอยืมวิรอนนิก้าแล้ว … เฮ้อ

จริงๆ แล้วเรากับวิรอนนิก้าอยู่ Micro Lesson กลุ่มเดียวกัน
เจอหน้ากันทุกวันอยู่แล้ว จะว่าไป เธอเป็นคนเก่งคนหนึ่งทีเดียว
สไตล์การพูดและการสอนนั้นไม่เลวเลยแหละ เหมือนครูมืออาชีพ
ติดแต่ว่าเร็วไปหน่อย คงเพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาของเธออยู่แล้ว
อาจจะเพราะอย่างนี้มั้งที่ทำให้เราเพิ่มความไม่ชอบมากขึ้นไปอีก
“อิจฉาล่ะสิ" เราถามตัวเอง … อาจจะใช่
ยอมรับได้อย่างนี้แล้วก็ส่ายหัว เรามันบ้า เราไปอิจฉาเขาทำไม
ก็เลยเดินไปคุยกับเขา … แล้วก็ค้นพบว่าวิรอนนิก้าน่ารักมาก
หน้าเธอหยิ่ง แต่จริงๆ แล้วเธอไม่หยิ่งเลย นี่แหละน้าคนเรา ชอบตัดสินไปก่อนเรื่อยเลย
ขอบคุณนะวิรอนนิก้า ขอโทษด้วยที่เคยรู้สึกไม่ดีด้วย
คงรบกวนไม่กี่วันหรอก เพราะ Day-off คราวต่อไป จะลองไปหาซื้อในเมืองดู
ดูสิ วางแผนเที่ยวอีกแล้วเรา ^_^”




Prenatal Yoga - ประโยชน์ของโยคะต่อคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
(ที่ติดค้างมาสองสามวันแล้วเนอะ)

Dr.Prafulla นั้นไม่เคยท้อง ไม่เคยคลอดลูก (ก็แหงสิ เขาเป็นผู้ชาย)
แต่อธิบายให้เราฟังได้เป็นฉากๆ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่โรค แต่เป็นอาหารโดยปกติที่เกิดขึ้น

1.หัวใจทำงานหนักขึ้น อาจรู้สึกหัวใจเต้นแรง เพราะมีเลือดเพิ่มขึ้นตั้ง 30%
2.ระบบการหายใจถูกรบกวน เพราะร่างกายว่าที่คุณแม่ต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้นเพื่อเผื่อให้เจ้าตัวน้อยด้วย แต่ท้องก็ขยายขึ้นดันกะบังลมขึ้นมา ปอดก็ขยายได้น้อยลง จึงทำให้รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
3.ระบบการย่อยอาหาร ในลักษณะเดียวกัน คือความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น แต่ว่าที่จะใส่อาหารน้อยลง การย่อยอาหารก็เป็นไปยากขึ้น เพราะว่าพื้นที่ในท้องถูกเบียดบังไปด้วยลูกในครรภ์ แรงกดจึงมาก การดูดซึมก็แย่ลง และเป็นสาเหตุของอาการท้องผูก
4.ทางด้านจิตใจก็อาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดเพราะไม่สบายกาย และอาจมีความวิตกกังวลและความเครียดต่ออนาคตเกิดขึ้นได้ง่ายๆ อีกด้วย

การฝึกโยคะนั้นจะช่วยเตรียมตัวว่าที่คุณแม่ให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ
ทางที่ดีคือเริ่มฝึกโยคะตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์
เพราะจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
โดยเฉพาะความแข็รงแรงของกระดูกสันหลังที่ต้องรับน้ำหนักมากขึ้น
แต่ทั้งนี้ ถึงจะไม่เคยฝึกโยคะมาก่อนเลย คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็ฝึกโยคะได้
เรียกว่า ถึงจะช้า แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

"การฝึกอาสนะ" นั้น จะช่วยเพิ่มยืดหยุ่นให้กับอวัยวะต่างๆ ที่สำคัญในการคลอดลูก
ทำให้คลอดง่าย และร่างกายฟื้นตัวเร็วหลังคลอด
กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรง หลังคลอดหน้าท้องก็ไม่หย่อนยาน
กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างก็จะแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักครรภ์ และลดอาการปวดหลัง
กล้ามเนื้อบริเวณสะโพกก็จะยืดหยุ่นและแข็งแรงพอสำหรับตอนคลอด
นอกจากนี้ยังทำให้อารมณ์สมดุลเป็นปกติ ไม่วิตกกังวลมากจนเกินไป
ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตของเด็กในครรภ์อย่างแรง
เพราะในทางอายุรเวท คนเราจะมีบุคลิกอย่างไรนั้น
ก็ขึ้นอยู่กับ 'บรรยากาศ' ตอนอยู่ในครรภ์มารดาด้วย

"การฝึกปรานยามะ" จะช่วยให้ร่างกายหายใจเอาออกซิเจนได้มากขึ้นต่อการหายใจหนึ่งครั้ง
และทำให้ร่างกายสามารถนำเอาออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกายนั้นไปใช้ได้มากที่สุด
อันนี้เรียนมาแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับปรานยามะ

นอกเรื่องเล็กน้อยจะได้เข้าใจ ขอพูดถึงปอดหน่อย เอาเรื่องปริมาตรอากาศก่อน …
ความจุของปอดเราทั้งหมดเนี่ย เท่ากับประมาณ 6,000 cc
เราสามารถที่จะหายใจเข้าได้มากถึง 4,500 cc ต่อการหายใจหนึ่งครั้ง
แต่ว่าปกติแล้ว เราจะหายใจเอาอากาศเข้าไปประมาณ 500 cc เท่านั้น
จะเห็นว่ามีที่เหลืออีกตั้ง 4,000 cc ที่เราทิ้งมันไว้เฉยๆ

มาพูดถึงปริมาณออกซิเจนต่อการหายใจหนึ่งครั้ง และที่เราเอาไปใช้มั่ง
ในอากาศที่เราหายใจเข้าไปนั้น มีออกซิเจนอยู่ 21%
และในอากาศที่เราหายใจออก มีออกซิเจนอยู่ 16%
เท่ากับว่า เราใช้ออกซิเจนในอากาศที่เราหายใจเข้าไปเพียงแค่ 5% ของที่มันมีอยู่เท่านั้น
เทคนิคของปรานยามะจะทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์
จากออกซิเจนในอากาศที่เราหายใจเข้าได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น

เท่ากับว่า ในการหายใจหนึ่งครั้งนั้น เราได้ปริมาตรอากาศเพิ่มขึ้น
ใช้ออกซิเจนในอากาศที่เราหายใจเข้าได้มากขึ้น
เท่ากับร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้นหลายเท่าจากการหายใจหนึ่งครั้ง
เพราะฉะนั้น จุดนี้แหละ ที่ทำให้เป็นประโยชน์อย่างมากต่อว่าที่คุณแม่
ซึ่งมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการหายใจอย่างที่บอกมาตอนต้นแล้ว
ซึ่งนอกจากจะดีต่อระบบหายใจแล้ว ยังดีต่อระบบย่อยอาหารด้วย
เพราะ cell ในระบบย่อยอาหารได้รับอาหาร (คือออกซิเจน) อย่างพอเพียง
ก็มีแรงทำางาน (คือย่อยและดูดซึมอาหาร) มากขึ้น เป็นประโยชน์อีกต่อหนึีง

การ Chant โอมก็มีประโยชน์มาก สำหรับผุ้ที่กำลังจะเป็นแม่
เพราะเป็นการรักษาจิตใจให้สงบนิ่ง ไม่วิตกกังวล
ไม่เฉพาะเพียงจิตใจแม่เท่านั้น แต่เป็นจิตใจของลูกในครรภ์ด้วย
เป็นการสื่อสารที่สำคัญระหว่างแม่กับลูก เพราะเวลาเปล่งเสียงโอมนั้น
การสั่นสะเทือนจะเกิดขึ้นภายในร่างกาย ซึ่งลูกในครรภ์จะรับรู้ได้
(ลองนึกถึงเครื่องนวดที่ใช้การสั่นสะเทือนเบาๆ สิ
สบายอย่างไร ลูกในครรภ์ก็สบายอย่างนั้น)
การสั่นสะเทือนนี้จะช่วยนวดหัวใจด้วย
ถือเป็นการช่วยระบบการหายใจและการทำงานของหัวใจ
นอกจากนี้ การสั่นสะเทือนนี้ยังเป็นการกระตุ้นระบบประสาทและสมองของแม่ด้วย

โยคะนิทราก็สามารถนำมาช่วยความกังวลได้
แต่อาจนอนท่าศพไม่ได้ เพราะจะปวดหลังก็อาจนอนตะแคงซ้าย
แต่ในเมืองไทยอาจจะยังไม่มีคลาสโยคะนิทราสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

ทั้งนี้ การฝึกโยคะของคุณแม่ตั้งครรภ์ก็ต้องอยู่ในความดูแลของผู้ที่เชี่ยวชาญด้วยนะคะ
และในกรณีที่ขาบวมมาก/มีโปรตีนในปัสสาวะ/ความดันโลหิตสูงมาก
“ห้าม" ทำอาสนะค่ะ

พอจบการบรรยายตรงนี้ Eric หนุ่มใหญ่หน้าจีนจากแคนาดาถาม Dr.Prafulla น่ารักมากๆ
“แล้วสำหรับว่าที่คุณพ่อล่ะครับ ควรจะฝึกอะไรบ้าง"
Dr.Prafulla ยิ้มแล้วตอบว่า "ก็ฝึกทำตัวเองให้ศรีภรรยาไม่ต้องปวดหัวไงครับ"








Create Date : 29 ตุลาคม 2553
Last Update : 29 ตุลาคม 2553 1:12:49 น. 10 comments
Counter : 1261 Pageviews.

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องเสี้ยว

ตอนท้องมาดามก็ใช้โยคะช่วยออกกำลังกายเบาๆ
เธอได้เรียนมาก่อนนิดหน่อยครับ

ส่วนพี่ก๋าก็ชอบภาวนาโอมนะครับ
ทุกวันนี้กล่อมหมิงหมิงหลับ
ก็ยังสวดภาวนาบ่อยๆ

แต่เพิ่งรู้ความหมายแบบละเอียดจากน้องเสี้ยวนี่เองล่ะครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 ตุลาคม 2553 เวลา:5:31:17 น.  

 
แจ้งข่าวการอัพบล็อกครับ...


กรวดกลม

...กว่าก้อนกรวด จะสิ้นคม เรียบกลมลื่น

ย่อมวันคืน เนิ่นผ่าน การขัดสี

กลางกระแส เชี่ยวกราก หลากนที

แง่มุมมี กลิ้งกระทบ ลบเหลี่ยมมุม...



โดย: ลุงแว่น วันที่: 29 ตุลาคม 2553 เวลา:7:27:30 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

อ่านแล้วได้รับความรู้มากๆ เลยค่ะคุณเสี้ยว


โดย: อุ้มสี วันที่: 29 ตุลาคม 2553 เวลา:8:10:53 น.  

 
แวะมาติดตามค่ะ
เราต้องอ่านย้อนหลังตั้งหลายบลอก
ไปเรียนมา 2 วัน อิอิ ไม่ได้เข้ามา
อดติดตาม เลยขออนุญาตอ่านย้อนหลังนะค่ะ

เรียน.... โยคะต้องละเอียดขนาดนี้เลยนะค่ะ

สู้ ๆ ค่ะ


โดย: ค๊อปเตอร์ใบไม้ (arlendil ) วันที่: 29 ตุลาคม 2553 เวลา:22:55:54 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องเสี้ยว







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 ตุลาคม 2553 เวลา:6:35:28 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องเสี้ยว








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 ตุลาคม 2553 เวลา:5:34:22 น.  

 
วันนี้วันที่ 1 ขึ้นเดือนใหม่อีกแล้ว

อัพบล็อกกะก๋ากับป๋ายังวันครับ...

วันนี้อัพในหัวข้อว่า....แก้วหอมไกล...



...แก้วดอกน้อย จ้อยขาวนวล งามชวนพิศ

ดอกจิดริด พร่างพุ่มดอก ออกเต็มต้น

ช่อขาวแข่ง แย้งใบเขียว เหนี่ยวใจคน

แก้วยามยล สุขล้นแล้ว อิ่มแก้วใจ...



โดย: ยังวัน วันที่: 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:53:38 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องเสี้ยว







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:04:29 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องเสี้ยว







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:10:19 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:58:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
29 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.