YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
เพราะหน้าตาพอไปวัดไปวาได้ จึงไปมั่ง ...

คุณเคยมีความรู้สึกอย่างแรงกล้าไหม
ว่าจะต้องทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ตื่นนอนขึ้นมาในวันนั้นแล้วรู้สึกว่า
วันนี้แหละ ฉันจะต้องทำสิ่งนี้ให้ได้
หรือไม่ก็ต้องไปที่ตรงนี้ให้ได้
เป็นแรงขับเคลื่อนจากภายใน ถ้าเราว่างพอที่จะฟังมัน
มันน่าเชื่อได้ว่าโลกนี้สื่อสารกับเราผ่านพลังบางอย่าง
พลังที่ว่านี้มันละเอียดอ่อนจนสื่อสารกับหัวใจเราได้โดยตรง
แล้วพลังนี้เองที่คอยไกด์เราว่า เอาล่ะ นี่ถึงเวลาแล้ว
ที่เธอควรจะต้องทำอย่างนั้น หรือว่าไปที่ตรงนั้น
และเมื่อเราตามมันไป อย่างเปิดใจ หากระมัดระวัง
เราจะพบว่า สิ่งนั้นมันพาเราไปสู่สิ่งที่ดีกว่าอย่างไม่น่าเชื่อ
ความบังเอิญที่พาเหตุการณ์ต่างๆ ให้มาพอเหมาะกัน
มันคือเรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นอยู่เนืองๆ
อาจจะเป็นพลังเดียวกันนี้เองที่คอยบอกสัตว์ต่างๆ ว่า
นี่ถึงเวลาจะต้องอพยพแล้วนะ
หรือว่าควรจะไปหาอาหารที่ไหน
แต่มนุษย์เรายุ่งกับความคิดของตัวเองมากมายเสียจน
ไม่อาจจะจับเสียงเพรียก หรือเสียงกระซิบเช่นนี้ได้

ในเรื่อง Harry Potter ตอน the half blood prince
ที่แฮร์รี่ใช้น้ำยาโชคดี (liquid luck)
เพื่อให้ตัวเองมีโชคในการปฏิบัติภารกิจ
และทันทีที่ยาออกฤทธิ์ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
แฮร์รี่กระทำทุกสิ่งทุกอย่างไปตามสัญชาตญาณ
ใช้คำว่า ...รู้สึกว่า... เขาจะต้องทำสิ่งนั้นสิ่งนี้
โดยที่ไม่มีเหตุผลที่สมควรมารองรับเลย
แต่ในที่สุด งานของเขาก็สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย

นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันวันนี้
วันหยุดที่ความคิดมันสงบพอที่จะจับความรู้สึกอันละเอียดอ่อนได้
ไปตรงนั้น ... ฉันบอกตัวเอง ไปทำไมไม่รู้เหมือนกัน
รู้แต่ว่าอยากไป และก็ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะทำให้ไปไม่ได้
ฉันเดินหน้าตามความรู้สึกตัวเอง
ไป และทำตามความรู้สึก ตามแต่เหตุการณ์จะพาไป
แล้วมันก็พาฉันไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตฉัน
ดูเหมือนพลังองน้ำยาโชคดีจะออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ทีเดียว

ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกว่าวันนี้จะต้องกินมังสวิรัติ
และวันนี้จะต้องไปวัดให้ได้ วัดสักแห่งหนึ่ง
แต่ฉันเป็นคนห่างวัดห่างวา กลัวแม้กระทั่งพระสงฆ์
ชั่วแวบของความคิดนั้น ... วัดวิษณุ ซึ่งเป็นวัดฮินดู
ฉันรู้มาว่าที่นั่นมีเทวรูปของเหล่าทวยเทพอยู่ครบ
รู้มาว่าวัดจะปิดสามชั่วโมงคือ 12.00-15.00
ฉันรีบแต่งตัวออกจากบ้านอย่างไม่คิดอะไรมาก
ไม่มีเวลาลังเล เพราะตอนนั้นสิบโมงกว่าแล้ว
ก็ไปถึงแล้วค่อยว่ากันก็แล้วกัน

เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่หน้าตาอินเดียล้วน
พูดคุยกันด้วยภาษามารตี หรือภาษาฮินดี
หรือภาษาอะไรฉันก็ไม่แน่ใจ ที่แน่ๆ ไม่ใช่ภาษาไทยแน่ๆ
ยิ้มพร้อมยักคอให้ฉัน ฉันเดินเข้าไปในบริเวณวิหาร
ข้างในมีคนอยู่แค่ 4-5 คน
ฉันทรุดตัวลงนั่งด้านหลังสุด
แล้วก้มลงกราบเหล่าทวยเทพจากที่ตรงนั้น
(จริงๆ แล้วต้องเดินเข้าไปด้านหน้าเทพ แล้วทำความเคารพ)
ฉันไม่เดินไปเจิมหน้าผาก ไม่ใช่อะไรหรอก มันเขิน *_*
ทั้งๆ ที่ตอนอยู่อินเดียก็เคยทำมาไม่ขัดเขินอะไร
แต่นี่ไม่รู้ทำไม มันไม่ค่อยอยากขยับตัวสักเท่าไหร่
แต่ฉันก็สบายใจที่จะนั่งอยู่ในนั้น ฟังคำบูชาเทพภาษาฮินดี
ประมาณครึ่งชั่วโมงก็สวดเสร็จ แล้วฉันก็กลับออกมา
ชั่วแวบหนึ่งที่ฉันคิดถึงอาศรมที่อินเดีย

กลับออกมาจากวัด ฉันต้องเดินกลับทางเดิมไป BTS
แต่ฉันเลือกเดินอีกทาง แต่ตรอกข้างวัดแคบๆ
วันนี้ฝนเหมือนจะตก แต่ยังไม่ตก ร่มครึ้มกำลังดี
ฉันเดินไปเรื่อยๆ รู้ว่าข้างหน้าคือเซนต์หลุยส์
แทกซี่ผ่านมา ตุ๊กตุ๊กผ่านมา มอเตอร์ไซค์ผ่านมา
ฉันยังไม่อยากขึ้น ฉันยังอยากเดิน
จนถึงเซนต์หลุยส์ ตั้งใจเดินไปโรงเรียนอัสสัมเล็ก
แต่ฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว จะเรียกแทกซี่ก็ไม่มี
มีแต่ฝั่งตรงข้าม ฉันเลยต้องข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม
ไปสยาม ฉันบอกคนขับ ฝนเทลงมาพอดีกับที่ฉันปิดประตูรถ
คนขับวัยกลางคนชวนคุยว่าฉันมาทำอะไรแถวนี้
(สงสัยเห็นฉันมายืนลับๆ ล่อๆ หน้าโรงเรียนชายล้วน ฮา....)
ฉันตอบเขาให้หายสงสัยว่าฉันมาวัดวิษณุ
เขาทำหน้าแปลกใจ หนุ่มๆ สาวๆ เดี๋ยวนี้เข้าวัดกันด้วยเหรอ
ฉันบอกเขาว่าฉันไม่ค่อยเข้าวัดหรอก เพิ่งจะวันนี้แหละ
ทำบุญตักบาตรยังยาก เพราะชีวิตบนรถไฟฟ้าไม่ค่อยเจอพระ
ถ้าจะทำบุญก็มีอยู่สองที่คือวัดธาตุทองกับวัดปทุมวนาราม

รถวิ่งมาเรื่อยๆ จนถึงอังรีดูนังต์
แล้วเลี้ยวซ้ายจอดส่งฉันที่ใต้รถไฟฟ้า
ฟุตบาทลุ่มๆ ดอนๆ ตามสไตล์กรุงเทพนั้น
ทำรองเท้าซึ่งขาดไปเมื่อวันก่อน แล้วฉันสอยมือเอาลวกๆ นั้น
เกิดเจียนจะขาดขึ้นมาอีกรอบ
ฉันวกไปใต้สะพานลอย หาป้าคนซ่อมรองเท้าเจ้าเก่า
ระหว่างยืนรอเย็บรองเท้า ฉันก็ยืนมองสยามพารากอน
กับยืนมองวัดปทุมวนาราม ..​. ก็แปลกดีที่วัดปทุมมาอยู่ตรงนี้
ตรงกลางแหล่งชอปปิ้งพอดีเลย

ป้าคิดค่าเย็บรองเท้ายี่สิบบาท ถูกกว่าที่คิดเยอะมาก
ฉันสวมรองเท้าที่สมประกอบแล้วขึ้นสะพานลอย
ความตั้งใจเดิมคือจะหาที่นั่งแถวๆ นี้ เพื่อรอซ้อมเต้นในตอนเย็น
แต่ความตั้งใจใหม่ที่สองขาฉันตัดสินใจให้เลยในเดี๋ยวนั้นคือ
...วัดปทุมวนาราม...

ฉันเป็นนิสิตเก่าจุฬาฯ คุ้นเคยกับแถวนี้พอสมควร
แต่เชื่อไหม วัดปทุมวนารามเป็นสถานที่ที่ฉันไม่เคยเข้ามาเลย
เคยเลี้ยวเข้ามาครั้งหนึ่งแล้วก็เดินออก เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี
ก็บอกแล้วว่าชีวิตห่างวัดห่างวามากๆ
แต่วันนี้ฉันเดินเข้าไป ตรงเข้าไปยังบริเวณที่เขาจัดไว้ให้ไหว้พระ
ลักษณะเหมือนอยู่ในสวนป่า มีต้นไม้ใหญ่
พระพุทธรูปใหญ่น้อย ประดิษฐานเรียงรายอยู่ใต้ต้นไม้ต้นนั้น
ฉันทำบุญ ซื้อ ดอกไม้ธูปเทียน แล้วนั่งลงไหว้พระ
บรรยากาศดีจริงๆ อากาศครี้มๆ เย็นๆ แบบฝนเพิ่งขาดเม็ด
ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นประมาณสิบนาทีถึงลุกออกมา

เจอป้ายผ้าใบประกาศรับสมัครบวชเนกขัมมจาริณี
เนื่องในวันวิสาขบูชา ... วันอังคารนี้แล้วสินะ
บวชเย็นวันอังคาร สึกเช้าวันพุธ นุ่งขาว ห่มขาว
ไม่ปลงผม ปฏิบัติตลอดคืน
สนใจสอบถามได้ที่ออฟฟิศของวัด
ฉันสนใจ ... จึงเดินเข้าไปสอบถาม
ทุกอย่างประจวบเหมาะ ไม่มีอุปสรรคใดๆ
เมื่อแน่ใจว่า คืนวันวิสาขบูชาฉันไม่ติดงานอะไร
ฉันก็กรอกใบสมัครทันที โดยไม่ตัดสินใจรอบสองรอบสาม
นี่สินะ ที่เขาเรียกว่ามันถึงเวลา
แม้จะเป็นเพียงชั่วระยะเวลาชั่วข้ามคืน
แต่มันก็เป็นการตัดสินใจที่ฉันรู้สึกได้ว่า
มันคือสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นไปชีวิตฉันเลยทีเดียว

การตัดสินใจสายฟ้าแลบแบบนี้ที่พาชีวิตฉันเดินหน้าได้เรื่อยๆ
เมื่อคราวไปอินเดียก็เป็นการตัดสินใจสายฟ้าแลบแบบนี้เหมือนกัน
และเหตุแห่งการตัดสินใจ หนทางที่นำไปสู่การตัดสินใจนั้น
ก็เป็นเหตุบังเอิญเหมือนกันทั้งสองเหตุการณ์

เมื่อคราวไปอินเดีย ฉันตัดสินใจเมื่อ ฉันบังเอิญตื่นขึ้นมาตอนตีสี่
เจออ.ประมวล เพ็งจันทร์ท่านให้สัมภาษณ์อยู่
แล้วฉันก็ตัดสินใจไปอินเดียทันที
คราวนี้ มันบังเอิญที่ฉันเกิดมีแรงขับจะไปวัดวิษณุ
แล้วก็อะไรสักอย่างดลใจให้ฉันเรียกแท็กซี่
แทนที่จะเดินไปบีทีเอสตั้งแต่ฝนยังไม่ตก
แท็กซี่ึจึงมาจอดให้ที่ตีนสะพานลอย
แล้วขาฉันก็พาขึ้นสะพานลอยมาที่วัดปทุม
ซึ่งถ้าฉันไม่มาที่วัดปทุม ฉันก็คงไม่เห็นประกาศอันนี้
ทุกอย่างดูเหมือนมีขั้นตอนที่จะพาฉันไปสู่อะไรสักอย่าง

พลังอันนี้ หรือความบังเอิญที่ว่านี้
ก็ดูเหมือนว่าจะครอบคลุมไปอีกหลายเรื่องในหลายๆ ส่วนของชีวิต
มีหนังสือบางเล่มที่มันเหมือนจะเดินมาหาเราเอง
แล้วเราก็พบว่า หนังสือเล่มนั้นเปลี่ยนชีวิตเราได้
มีเพลงบางเพลงที่เราบังเอิญไยินโดยไม่ตั้งใจ
แต่มันกลับกลายเป็น soundtrack ประกอบชีวิตเราในที่สุด
หนังเก่าๆ บางเรื่องที่ถูกทิ้งอยู่ก้นกระบะ clearance sale
กลับมีความหมายกับเราอย่างที่สุดในช่วงชีวิตนั้น
และอื่นๆ .....

ชีวิตมีเรื่องอย่างนี้เสมอ มีเรื่องที่เราคาดไม่ถึง
และเรื่องที่ทำให้เราต้องขอบคุณโดยไม่คาดฝัน
ความบังเอิญเป็นเสน่ห์ของชีวิต
และคำตอบของชีวิต มันก็มักจะมา
ในช่วงที่เราให้ความบังเอิญอันนั้น
เล่นบทบาทของมันในชีวิตเรา
มันคือความวางใจในพลัง ในเสียงเรียกนั้น
ที่ยังอยู่เหนือความเข้าใจของมนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆ โดยสิ้นเชิง

ฮารี โอม




Thanks to Juliette Buffard for the pictures : headblog / background / comment box.


Create Date : 15 พฤษภาคม 2554
Last Update : 19 พฤษภาคม 2554 0:30:43 น. 8 comments
Counter : 1236 Pageviews.

 
ขออนุโมทนาด้วยนะครับ : )

'บังเอิญ' แวะผ่านมา
และ 'บังเอิญ' รู้สึกว่า
ดอกไม้บนหลังคา
ใกล้เวลาจะผลิบาน
อีกไม่นาน อีกไม่นาน
คง 'บังเอิญ' ได้ผ่านไปชื่นชม

: )


โดย: Amygdala วันที่: 17 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:28:02 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ

ดูรูปในโพรไฟล์แล้วรู้สึกว่าน้องเสี้ยวมีความสุขมากเลยครับในช่วงนี้








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:14:16 น.  

 
พี่ก๋าเขียนบล็อกนี้
ไม่ได้ตั้งใจหวานหรอกครับน้องเสี้ยว
ภาพมันพาไปนะครับ 555

พี่ก๋ษเปิดไฟล์รูปมา
แล้วก็คิดอยู่นานสองนานว่าจะเขียนอะไรดี

ก็เลยเขียนบล็อกนี้ขึ้นมา
คนเลยนึกว่าเป็นวันครบรอบวันแต่งงานของพี่ก๋า 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:17:16 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปทักทายครับ
ขออนุญาตเขียน comment ตอบเอาไว้ที่หุบเขาฯ

ผมยังคิดถึงเพลงของMJ อยู่เหมือนเดิมครับ


โดย: zoomzero วันที่: 19 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:41:44 น.  

 
เคยถามตัวเองว่า
โลกนี้มีความบังเอิญจริงไหมนะ


โดย: ต้นตุลา วันที่: 19 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:50:29 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องเสี้ยว








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:32:01 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องเสี้ยว







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มิถุนายน 2554 เวลา:5:53:59 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องเสี้ยว








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มิถุนายน 2554 เวลา:6:39:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
15 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.