YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
::::: เรื่องราวในอินเดีย 7 ... ตอน หิว :::::

ถึงจะพยายามกินให้อิ่มก็เถอะ แต่ระหว่างมื้ออาหารเนี่ยหิวเหลือเกิน
มื้อเช้าเรากินข้าวตอน 9.00 ข้าวเที่ยงตอน 12.30
แล้วก็หิ้วท้องรอไปจนถึง 19.45 นู่นแหละถึงข้าวเย็น
ตอนบ่ายสามเขาบอกว่าจะมี Herbal Tea แต่ก็มีบ้างไม่มีบ้าง
แร็กเคลมี Digestive Cookie อยู่ห่อหนึ่ง ก็แบ่งกันกินสี่คนในห้อง
ถ้าเรามีขนมอะไรติดอยู่ในห้องก็ดีสินะ อยากเข้าเมืองไปซื้อแล้วสิ
จริงๆ เขามีกฎว่าห้ามนำอาหารภายนอกเข้ามา
เพราะต้องการให้เราเคร่งกับอาหารแบบโยคีที่เขาจัดให้
คือเป็นอาหารมังสวิรัติ (ไม่ทานไข่ แต่ทานนม) รสไม่จัด
เขาเขียนไว้ใน code of conduct ด้วย ว่าจะมีการตรวจกระเป๋าหาขนม
แต่ว่าคราวที่แล้วที่เข้าเมืองไป ก็ไม่เห็นพี่ยามเขาจะมาค้นกระเป๋าหาขนมเลย
มีแต่เครื่องตู๊ดๆ หาระเบิด โลหะ อาวุธ อะไรอย่างนั้นอย่างเดียว

ที่ร้านค้าของอาศรมนี้ก็มีขนมให้กินเหมือนกัน
มีทั้งอัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ลูกพรุน มะม่วงเชื่อม
ที่อร่อยที่สุดเห็นจะเป็น Amla candy (มะขามป้อมอินเดียตากแห้ง)
ก็ซื้อมาติดห้องไว้บ้าง ไว้กินเวลาหิวๆ
ถั่วที่นี่เป็นแบบคั่ว ไม่มีน้ำมัน กินแล้วรู้สึกสุขภาพดีสุดๆ




ขนมเรียงรายในร้านค้า



อันดับยอดนิยม



ชอปปิ้งค่ะ ขอบคุณรูปทั้งสามรูปจากกล้องดีน่า เพื่อนชาวอินโดนีเซีย


พูดถึงอาหาร เมื่อเช้านี้อาหารอร่อยดี
มื้อเช้าเขาจะมีอาหารหม้อเดียวให้เรากิน
อาจจะเป็นข้าวผัด หรือเป็นอะไรคลุกๆ กัน คล้ายๆ อาหารจานเดียว
แล้วแต่ละโต๊ะก็จะมีตะกร้าผักผลไม้วางไว้ให้แบ่งกัน
ที่เด็ดสุดคือ Herbal Tea ตอนมื้อเช้า มันอร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เรากินได้ไม่อั้นเลยตอนเช้า (แล้วก็ไปปวดฉี่เอาตอนเล็กเชอร์ทุกที)

วันนี้มีให้ชั่งน้ำหนักด้วย ก่อนกินข้าวเช้า
เขาจะเอาไว้วัดตอนจบคอร์สว่าน้ำหนักแต่ละคนเปลี่ยนแปลงยังไง
นี่ไม่ใช่คอร์สลดน้ำหนัก แต่เป็นคอร์สที่เราจะคืนความสมดุลให้ร่างกาย
โยคะจะปรับสมดุลร่างกายและอารมณ์ซึ่งสัมพันธ์กับการกิน
เพราะฉะนั้นน้ำหนักบางคนจะขึ้น บางคนจะลง
เราก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า อีกเกือบๆ เดือนนี่ น้ำหนักเราจะขึ้นลงยังไงบ้าง

ตอนเช้าทำอาสนะ มีชุดท่าสุริยนมัสการ ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบโยคี
เป็นการเอาอาสนะ 7 ท่ามาเรียงต่อกัน แล้วฝึกพร้อมกับมันตรา
และมีการกำหนดลมหายใจเข้าออก และการกลั้นหายใจ

มีความเข้าใจผิดอยู่สองอย่างเกี่ยวกับสุริยนมัสการ
อย่างแรกคือ พวกที่ถือว่าสุริยนมัสการเป็นการฝึกอาสนะ
อันนี้ทั้งใช่และไม่ใช่ ที่ว่าไม่ใช่ เพราะว่าการฝึกอาสนะนั้น
จำเป็นที่จะต้อง “ค้าง” อยู่ในท่า สักระยะ
หากเราฝึกสุริยนมัสการแบบต่อๆ กันเร็วๆ อันนั้นไม่ถือว่าเป็นอาสนะ
แต่จะเป็นอาสนะได้เมื่อเราค้างแต่ละท่าเอาไว้ 30 วินาที (เป็นต้น)

อย่างที่สองคือ สุริยนมัสการไม่ใช่อาสนะ ดังนั้นจึงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของโยคะ
อันนี้ก็ไม่ใช่อีกเหมือนกัน เพราะโยคีก็จำเป็นจะต้องมีร่างกายที่แข็งแรง
แล้วก็จำเป็นต้องออกกำลังกายเหมือนกัน

อยู่ที่นี่เราฝึกสุริยนมัสการกันวันละสองครั้งคือเช้ากับเย็น (ตอนเริ่มพระอาทิตย์ขึ้นกับตก)
ครั้งละ 18-20 เที่ยว โดยมีทั้งช้าทั้งเร็ว เป็นการวอร์มร่างกาย และไหว้พระอาทิตย์เพิ่มพลัง
(เร็วก็ทำเสร็จ 1 ชุดภายใน 12 วินาที ถ้าช้าก็ค้างแต่ละท่า 30 วินาที)
โดยทำพร้อมกับท่องมันตราบูชาพระอาทิตย์ไปด้วย
ชอบมากๆ เลย ชอบท่องมันตรา ลัลล้าลัลล้า

วันนี้ไม่มีโยคะนิทรา (อดงีบ เอ้ย! อดพิสูจน์ตัวเองเลย)
แต่วันนี้มีเรียนกายวิภาคสามชั่วโมงรวด ซึ่ง Dr.Prafulla Dorle ชาวอินเดีย
สอนได้สนุกมากๆ เลย แจ่มแจ้งทุกใจความ
แล้วก็ได้เข้าใจว่า โยคะสัมพันธ์กับทุกระบบของร่างกายจริงๆ
รายละเอียดเยอะมากๆๆ เลยค่ะ แต่มีบางส่วนของเล็กเชอร์มาฝากกัน

- ทางเดินอาหารยาวประมาณ 30 ฟุต ต้องใช้เวลาประมาณ 2 - 3.30 ชั่วโมง กว่าที่อาหารจะย่อยเสร็จ ระหว่างที่ร่างกายย่อยอาหารนี้ เลือดจะไปเลี้ยงที่อวัยวะในระบบการย่อยอาหาร การฝึกโยคะจึงควรฝึกตอนท้องว่าง เพราะหากไปฝึกตอนระบบย่อยอาหารยังทำงานก็ทำให้ระบบถูกรบกวน และอาจเป็นอันตรายต่ออวัยวะในระยะยาวได้ (นอกเหนือจากอาการจุกเสียด หรือคลื่นไส้)

- การทำอาสนะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการ relax กล้ามเนื้อ คือใช้แรงให้น้อยที่สุด ใช้เพียงแค่เท่าที่จำเป็นในการค้างอยู่ในท่านั้นๆ เท่านั้น จึงจะได้รับประโยชน์เต็มที่จากการฝึกโยคะ

- ระบบการย่อยอาหารและระบบทางเดินหายใจเป็นระบบที่สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอกมากที่สุด จึงปนเปื้อนมากที่สุด การทำความสะอาดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น (สัทกรรม)
o เนติ – การชำระล้างโพรงจมูก (เดี๋ยวได้ทำชลเนติ คือใช้น้ำเกลือ อีกอย่างคือใช้เชือก อันนี้ยากไป เราไม่ต้องทำ)
o กะปะละบาติ – การชำระล้างระบบทางเดินหายใจ (เดี๋ยวได้ทำในคลาสอาสนะ)
o วามันเดาติ – การชำระล้างระบบทางเดินอาหารส่วนบน ด้วยการดื่มน้ำเกลืออุ่นๆ อย่างเร็ว 6 แก้ว แล้วล้วงคอขย้อนน้ำเกลือออกมา (อันนี้ก็เดี๋ยวได้ทำ อึ๋ย!!)
o ที่ต้องเป็นน้ำเกลือเพราะว่า เกลือจะเข้าไปดึงเอาของเสียออกมาจากเซลล์ น้ำเปล่าๆ จะไม่ได้ผลในการชำระล้าง

- การฝึกหายใจแบบปรานยามะ จะช่วยลดระดับการหายใจ เพิ่มปริมาณอากาศต่อการหายใจหนึ่งครั้ง เทคนิคการกลั้นหายใจของปรานยามะ จะเพิ่มการสัมผัสกันระหว่างออกซิเจนและกระแสเลือดมาขึ้น เท่ากับว่าเราใช้ออกซิเจนได้มากขึ้น (เซลล์ได้อาหารมากขึ้นต่อการหายใจหนึ่งครั้ง ดังนั้นเซลล์จึงแข็งแรง)

- มีความเชื่อว่าการหายใจให้ช้าลงจะทำให้ชีวิตยืนยาวขึ้น โยคีตั้งข้อสังเกตจากสัตว์ที่มีอัตราการหายใจต่ำ เช่น เต่า หรือช้าง มักมีชีวิตยืนยาวกว่าสัตว์ที่มีอัตราการหายใจสูง เช่น นก ดังนั้น การฝึกปรานยามะซึ่งมีผลทำให้อัตราการหายใจช้าลง จึงทำให้ชีวิตยืนยาวขึ้น (เป็นการลดอัตราเมตาบอลิซึ่มในร่างกายด้วยค่ะ มันจึงทำให้อวัยวภายในทำงานน้อยลง)

- การดื่มน้ำมากไปทำให้สูญเสียเกลือ ซึ่งขำเป็นต่อการทำงานของระบบต่างๆ (imbalanced electrolyte) เมื่อไหร่ที่เราฉี่ออกมาแล้วไม่มีสีเหลืองนิดๆ นั่นแปลว่าเราดื่มน้ำมากไปแล้ว

- ระหว่างที่มีประจำเดือน ห้ามทำท่ากลับหัว (invertical pose) เด็ดขาด คือท่าที่สะโพกอยู่เหนือศีรษะ ได้แก่ท่ายืนด้วยไหล่ ศีรษะอาสนะ หรือแม้กระทั่งท่าหมาก้ม ทั้งนี้เพราะประจำเดือนอาจไหลย้อนกลับไปทางปีกมดลูก แล้วไหลเข้าสู่ช่องท้อง และทำให้เป็นอันตรายได้

- เด็กๆ ก็ฝึกโยคะได้ แต่ว่าเนื่องจากเด็กๆ กระดูกอ่อน (ยังสร้างร่างกายไม่เสร็จ) การทำอาสนะจึงห้ามค้างในท่านานๆ เพราะว่าอาจจะมีผลทำให้รูปกระดูกเพี้ยนไป

(จริงๆ รายละเอียดเยอะกว่านี้มากๆ แต่ว่ามันมากเกินกว่าที่จะเล่าในนี้ค่ะ
มันมีรายละเอียดของทุกระบบในร่างกายเลยทีเดียว)

ชีวิตตอนนี้ดีขึ้นหน่อยนึง ชักเริ่มสนุก
กันดาร์บอกว่ามันจะขึ้นๆ ลงๆ อารมณ์ของเรา
ยิ่งอยู่ในสถานที่แบบนี้อารมณ์เราจะยิ่งรุนแรง ให้เราสังเกตตัวเอง




อาศรมคือ...? (คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ค่ะ) อ่านยากหน่อยน้า



มันตราบทนี้แหละค่ะที่ต้องท่อง เราจะท่องมันตราหนึ่งข้อ แล้วทำหนึ่งชุด
แล้วก็ท่องข้อต่อไป แล้วก็ทำอีกหนึ่งชุด ไปเรื่อยๆ
แล้วก็จะมี full mantra ซึ่งไม่ได้อยู่ในนี้ แต่บทนั้นเราชอบที่สุดเลย




Create Date : 09 ตุลาคม 2553
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 23:25:26 น. 5 comments
Counter : 1141 Pageviews.

 
อืมม์ แวะมาเยี่ยม


โดย: t_karnya วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:8:35:01 น.  

 
เพลงเพราะจังเลยครับน้องเสี้ยว
เด๊่ยวพี่ก๋าคงจะตอบแอบโหลดมาเก็บไว้ฟังซะแล้ว 555


พี่ก๋าเปลี่ยนไปมั้ย
เปลี่ยนเยอะเลยครับ
อดทนต่อความกวนโอ๊ยได้ดีขึ้นครับ

ตั้งแต่เลี้ยงมาสองปีกว่า
มีหลุดไปครั้งเดียวครับ 555
วันนั้้นสติแตกเลยทั้งดุทั้งด่าลูกไปเต็มๆ
แต่พอหลังจากนั้นก็รู้เลยครับ
ว่าไม่ควรทำแบบนี้อีก...

เขาเป็นครูสอนเราจริงๆครับ


พี่ก๋าว่าอินเดียเป็นประเทสที่แปลกนะครับ
ดูแล้วไม่น่าไป
แต่พอได้ไปก็อยากกลับไปอีกจริงๆ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:9:49:18 น.  

 
ยินดีมากเลยค่ะ

ที่ชื่นชมเพลงเก่าๆกับแม่หมู

มาร่วมทัวร์อินเดียด้วยนะคะ

ปล. จขบ น่ารักจัง



โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:9:56:37 น.  

 
อินเดีย ประเทศที่น่าค้นหา


โดย: konmeechai วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:12:49:53 น.  

 

วันนี้คุณๆ ทานเจกันหรือเปล่าเอ่ย ?




ตามมาดูการรับประทานด้วยคนค่ะ
อยากลองทานมะขามป้อมอินเดียตากแห้งเน๊าะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:13:24:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
9 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.