::::: เรื่องราวในอินเดีย 8 ... ตอน โอย...จะมีชีวิตรอดกลับไปมั้ยเนี่ยเรา :::::
วันที่ห้าของสัปดาห์แรก วันที่ห้าของคอร์ส อีกตั้ง 23 วัน แงๆ อึไม่ออก นอนไม่หลับ ผ้าไม่แห้ง กินไม่อิ่ม เมื่อเช้านี้หลังจาก chanting จบลงแล้ว ก็เป็นคลาสอาสนะ ตอนครูประชาญเดินเข้ามาในห้อง ทุกคนเตรียมพร้อมในท่าศพ หลับรอเลยว่างั้น เพิ่งจะเข้าวันที่ห้าของคอร์ส ไม่รู้เหนื่อยมาจากไหนกัน
...Sit in any meditative sitting position
ประชาญร้องบอกมาด้วยประโยคเดิม เหมือนทุกครั้งที่เริ่มคลาสอานะ พวกเราถึงได้งัวเงียๆ โงหัวขึ้นมานั่ง ท่า meditative sitting position นี้มีหลายท่า ง่ายๆ ก็ วัชราสนะ (ท่านั่งคุกเข่าเท้าราบ) สุขสนะ (ท่าขัดสมาธิธรรมดา) และท่าขั้นสูงขึ้นไปอื่นๆ เช่น สวัสดิกะสนะ ปทุมอาสนะ สิทธาสนะ ท่าพวกนี้จะมีคุณสมบัติที่ทำให้กระดูกสันหลังตั้งตรงโดยอัตโนมัติ ตัวเราจะมั่นคงอยู่บนพื้นโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม ในขณะเดียวกัน ขาที่ขัดกัน ไขว้กัน จะทำให้เรามีสติตื่นตัว ไม่เผลอหลับไปในสมาธิได้ง่ายๆ การที่เราขาชานั้น แสดงว่าเลือดไม่ไปเลี้ยงที่ขา เมื่อเลือดไม่ไปเลี้ยงที่ขาก็แสดงว่าเลือดมาเลี้ยงที่ช่วงลำตัวมาก ซึ่งเท่ากับว่าเซลล์ของช่วงลำตัวนั้นได้รับออกซิเจนมาก เป็นการ refresh ร่างกาย ทำให้เรารู้สึกสดชื่นด้วย ดังนั้นท่าเหล่านี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนั่งสมาธิ อย่างไรก็ตาม คนที่เจ็บขา เจ็บเข่า เจ็บสะโพก ก็ต้องระวังเหมือนกัน
หลังกินข้าวเช้า เครื่องปั่นไฟมีอาการน่ากลัวมาก มันส่งเสียงแปลกๆ กระตุกๆ แล้วก็ควันดำคลุ้งแล้วไฟก็ดับ แต่เครื่องยังเดิน ดูเหมือนว่าจะใช้งานเกินกำลังของเครื่อง พวกเราทุกคนตกใจมาก แต่ เซอร์จิโย อาสาสมัครหัวทองซึ่งอยู่ที่นี่มาแล้วสองเดือนบอกว่าปกติ แต่เราเองก็ไม่อยากจะไว้ใจ มันดูน่ากลัวเหลือเกิน คนงานของอาศรมเข้าไปปิดเครื่องปั่นไฟ แล้วก็เปิดตู้เครื่องปั่นไฟเอาไว้ คิดว่าคงระบายความร้อน แล้วก็แก้อะไรก๊อกแก็กๆ สักพักเหตุการณ์ก็ปกติ แต่ก็เล่นเอาใจหายใจคว่ำ ระแวงกันไปพักใหญ่
หลังกินข้าวเที่ยง เรามีเวลาพักประมาณ 2 ชั่วโมง กลับห้องพักนั่งลงบนเตียงตัวเอง ที่ชื้นอยู่ตลอดเวลา ไม่ยอมแห้งสักที ลองถามเพื่อนร่วมห้องว่าเตียงแต่ละคนชื้นเหมือนเรารึเปล่า เพื่อนๆ เลยลองมาจับๆ ดูเตียงเรา ปรากฏว่าเตียงเราชื้นกว่าชาวบ้านเขาจริงๆ ย้ายเตียงเถอะ เอเลน เพื่อนจากบราซิลบอกพร้อมกับจับผนัง ผนังตรงนี้มันชื้นนะ มันอาจจะเป็นส่วนที่ชื้นที่สุดของห้องก็ได้ เราจับตาม เออ จริงด้วย ผนังชื้นจนแทบจะเปียกเลย โอยนี่ชั้นจะปอดบวมมั้ยเนี่ย เอาไปไว้ตรงนั้นก็ได้ อาเนีย (เพื่อนร่วมห้องชาวเม็กซิโก) ชี้ไปที่กลางห้อง อันเป็นพื้นที่ส่วนรวมของทุกคน ฮื่ออออ...ไว้ตรงนั้น ห้องมันจะเล็กไปเลยนะ เราก็เกรงใจเพื่อนร่วมห้องทั้งสามคนน่ะ นี่ เอเลนทำเสียงดุ ห้องกว้างๆ จะมีประโยชน์อะไรถ้าคนในห้องนอนไม่หลับน่ะ คำพูดของเอเลนทำเอาเราอึ้งไปเลยด้วยความซึ้ง ... เพื่อนๆ เราน่ารักจริงๆ เราลองขยับเตียงดู โห..หนักไม่ใช่น้อย แถมขาเตียงยังติดตู้อีก เราย้ายเตียงเองไม่ไหวแน่ เพื่อนๆ เข้ามาช่วยกันเต็มที่ ใช้เวลาราวๆ 20 นาที (แน่ะ) เตียงของเราก็ถูกย้ายออกมาไว้กลางห้อง เล่นเอาเหงื่อแตกพลั่กๆ ไปตามๆ กัน ซึ้งใจกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ขอบคุณทุกคนมากๆ เลย
ตอนบ่ายนิดๆ อากาศดี ฝนขาดเม็ดแล้ว ริชาร์ดก็งัดของเล่นออกมาอวด เราเรียกมันว่าของเล่นโยคี เป็นเกมส์ไต่เชือก เดินบนเชือก ที่เราต้องใช้สมาธิและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในการทรงตัว ลองเล่นดูสนุกดีเหมือนกัน แต่ยากมากๆๆๆๆ เลย
เป๊ง... สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว Dr.Prafulla ตีระฆังบอกเวลาเริ่มเรียน พวกเรารีบวิ่งแจ้นขึ้นไปเรียนทั้งๆ ที่ไม่ใส่รองเท้า และแล้วทันใดนั้น .............แว้กกกกกกก!!!!! อิชั้นร้องลั่นออกมาเป็นภาษาไทย ในขณะที่ใครหลายคนร้องจ๊ากออกมาเป็นภาษาพ่อภาษาแม่ตัวเอง ในชั่วขณะนั้น ไม่มีใครคิดคำอุทานเป็นภาษาอังกฤษได้สักคน โอ้วพระเจ้าช่วยกล้วยปิ้ง เกือบจะเหยียบ มัน เข้าแล้วไหมล่ะ ยิ่งพื้นลื่นไปด้วยตะไคร่น้ำเพราะฝนตกติดต่อกันเป็นเดือนแบบนี้ ถ้าล้มโครมลงไปทับ มัน ล่ะ โอย...ไม่อยากจะคิดภาพ มัน คือรังกิ้งกือตัวเล็กๆ ที่เห็นบ่อยๆ ในดิน แต่ไม่เคยเห็นเยอะขนาดนี้มาก่อน มัน ยั้วเยี้ย อยู่เป็นร้อยๆ ตัวเห็นจะได้ มันมาจากไหนก็สุดจะรู้ แออัดกันเป็นก้อนกลมๆ อยู่เกือบกลางทางเดิน มองเผินๆ นึกว่ากองใบไม้ย่อมๆ เพื่อนบางคนใจกล้าย้อนกลับไปเอากล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้ เสียดายเราใจไม่แข็งพอที่จะไปถ่ายรูป ได้แต่นั่งใจระส่ำอยู่ในห้องเรียน ตอนนี้เลยไม่มีภาพมาแปะเอาไว้ในบล็อกเลย เฮ้อ... เสียดาย
เรื่องยุ่งๆ ของวันนี้ยังไม่จบ ตอนกลางคืนก็มีเรื่องให้ใจเต้นอีก ไดร์เป่าผมของอาเนียไหม้ เพราะคุณเธอไม่ได้เช็ค voltage ของเครื่อง ที่อินเดียใช้ไฟ 220 volt แต่ไดร์ของคุณเธอรับได้แค่ 110 volt เท่านั้น ที่น่ากลัวคือ ไฟจากเครื่องปั่นไฟนั้นไม่สม่ำเสมอ บางครั้งกำลังไฟมันจะตก ทำให้ไฟฟ้าดับ หรือไฟตก แต่หลังจากนั้น ไฟมันจะสูงกว่าปกติตอนไฟมาใหม่ๆ อาเนียยืนเป่าผมแบบเท้าเปล่า แถมมือเปียกด้วย แล้วทีนี้มันก็ช็อต เธอก็ยืนตัวสั่น แต่โชคยังดี ยังพอมีแรงและสติจะโยนไดร์เป่าผมทิ้งได้ ส่วนข้างในตัวไดร์เป่าผมก็มีสีส้มสว่างวาบขึ้นมา เราไม่ทันดูว่ามันคือไฟหรืออะไร รีบเอาผ้าแห้งๆ กระชากปลั๊กไฟออก กลิ่นไหม้คลุ้งไปทั้งห้อง แล้วก็เงียบกันไปห้านาทีด้วยความช็อก
กว่าจะทำใจให้สงบเข้านอนได้ก็อีกเป็นชั่วโมง ย้ายเตียงแล้วแต่ผ้าปูเตียงก็ยังชื้น วันนี้เลยงัดเอาเสื่อโยคะมารองนอน ก็ตอนทำโยคะนิทราหลับได้หลับดี ลองนอนบนเสื่อโยคะสักคืนจะเป็นไรไป ประชาญบอกว่าฝนจะตกอีกไม่เกินห้าวัน กันดาร์ก็ยืนยัน บอกว่าสัปดาห์ที่สามและสี่อากาศจะดีมาก แต่ยังไงๆ เด็กขี้แยอย่างเราก็อยากกลับบ้านมากๆ เลย แต่มันก็ลำบากนะ อยู่ๆ น้ำก็ไม่มี อยู่ๆ ไฟก็ดับ รู้สึกมาทรมานตัวเองแท้ๆ มาทำอะไรที่นี่ก็ไม่รู้ มันขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวไม่ดี อย่างที่กันดาร์บอกจริงๆ เมื่อวานเริ่มสนุก วันนี้อยากกลับบ้าน คงเพราะวันนี้เจอเรื่องวุ่นวายหลายเรื่อง ก้มลงมองเตียงตัวเอง นึกถึงน้ำใจของเพื่อนร่วมห้องอีกครั้ง เอาน่ะ...ถึงจะวุ่นวายและไม่สะดวกสบายอย่างที่ใจต้องการ แต่สิ่งที่เราจะได้กลับไป เชื่อแน่ว่า เกินคุ้มค่าแน่นอน
ทุกครั้งที่เริ่มคลาส เราจะเริ่มด้วยการ chant โอมสามครั้ง และต่อด้วยบทไหว้ครูบทนี้ Gurur Brahma Gurur Vishnu Gurur Dhevo Maheshvarah Guruh Sakshath Para Brahma Thasmaih Sri Gurave Namaha.
Create Date : 10 ตุลาคม 2553 |
|
7 comments |
Last Update : 10 ตุลาคม 2553 0:22:41 น. |
Counter : 822 Pageviews. |
|
|
|
บล็อกนี้
พี่ก๋าอ่านไป
ยิ้มไป
น้องเสี้ยวช็อคเกิน 5 ครั้งไปแล้ว 555
กองทัพกิ้งกือดูจะทำให้น้องเสี้ยวช็อคมากที่สุดนะคัรบ 5555