ทำไม ทำไม ฉันรู้สึกอย่างนี้ ทำไม ทำไม ???
หลายๆ ครั้ง ฉันจะรู้สึกหวั่น ไม่ปลอดภัย
การเดินสวนผู้คนแปลกหน้าไปมา .. มันทำให้ฉัน รู้สึกไม่ปลอดภัยเอาซะเลย แต่มันนานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันเริ่มจะรู้สึกอย่างนี้ ??
คนแปลกหน้า ที่เมื่อก่อนรู้สึกว่าแปลกหน้า แต่ก็ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรมากกับฉัน แต่ตอนนี้เหรอ ฉันกลัว ฉันกังวล และฉัน เริ่มวิตกจริตว่า คนแปลกน้าเหล่านี้ พร้อมจะทำร้ายฉันทุกเมื่อ
ทำไม ทำไม ฉันถึงได้รู้สึกอย่างนี้ ...
อาจจะเพราะฉันเจอผู้คนต่างๆ มากมาย วันๆ อาจจะเจอกับคนหลายประเภท ดีบ้าง แย่บ้าง ซึ่งความแย่ มันก็เริ่มจะค่อยๆ พัฒนาขึ้น จากระดับน้อยสุด มาเป็นมากสุด ... ด้วยสังคม สมัยนี้มันสร้างให้คนเริ่มเห็นแก่ตัวกันมากขึ้นก็ได้มั้ง มันเลยทำให้ฉันเปลี่ยนตัวเองทีละนิด ทีละน้อย
ความเห็นใจ .. ฮึ ... ฉันไม่ยักเห็นเลยสมัยนี้ ปากคนพูดก็พูดไป ...
ฉันเห็นใจเธอนะ ---- คำพูดดูดี ขั้นเทพเหลือเกิน แต่ลับหลังเหรอ คนละเรื่องเลย มีแต่จะไปจิกกัด นินทาว่าร้ายต่อเนื่องสามสี่ปาก .. น่ากลัวแท้จริง
คนดี ..คนเลว บางทียากจะแยกแยะ เพราะคนพวกนี้มักจะกลบเกลื่อนตัวเองด้วยรอยยิ้ม และคำพูดสวยๆ งามๆ ใครฟังก็ต้องเชื่อด้วยหน้าตาซื่อๆ ใสๆ หึ หึ
ไม่เข้าใจนะว่าทำไม สังคมสมัยนี้ถึงเป็นกันแบบนี้หมด
----- ขณะที่ฉันเจอคนเหล่านี้บ่อยแล้ว ----- แต่ทำไมดูเหมือนว่าวันนี้ความรู้สึกตรงนี้มันรุนแรงขึ้น
ทุกวัน ทุกวัน . . .
ความรู้สึกหวั่น ... พังทลายลงเมื่อฉันได้อยู่ในที่ของฉัน บ้าน ... ไม่จำเป็นต้องวัดด้วยความใหญ่โต แต่แค่รู้สึกว่า ฉันอบอุ่น ปลอดภัย .. แม้เพียงเป็นสถานที่เล็กๆ มันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีได้ ...
มาดริด ... เจ้าหมาน้อยของฉัน ... แม้มันจะพูดกับฉันไม่ได้ .. แต่มันก็รักฉัน . ซื้อสัตย์กับฉัน ... ฉันรับรู้ถึงความรู้สึกของมัน ... แม้จะปราศจากคำพูด
มันกระดิกหาง..เพราะมันรู้สึกอยากเล่น และใกล้ชิด มันครางเมื่อมันมีความสุขเมื่อฉันเกาท้องมัน
ไม่เหมือนกับคน ... รอบตัว ... แปลกหน้า ... รู้จักดี คำพูดหวานๆ บางครั้งมันทำให้ฉันครั่นตัว ... เพราะไม่รู้เลยว่า คำพูดเหล่านั้น สร้างสรรค์ด้วยสิ่งหลอกลวงและเน่าเฟะ ในจิตใจของเค้าหรือเปล่า
แต่ ...ฉันไม่รู้สึกเลยเวลาฉันกลับบ้าน ไปเจอกับมาดริด เจ้าหมาดุ๊กดิ๊กตัวเล็กๆ ตาแบ๊ว
. . .
ข่าวสาร สลดหดหู่ ... สมเพทที่สุด ... พี่ชาย ข่มขืนน้องสาวมาเป็นปีๆ ... พ่อรับรู้ แม่รับรู้ ...
แต่ไม่ทำอะไรเลย ... โอ้ .... นี่หรือคือสังคมเมืองไทย!!
การเมืองไทย ปากอย่างใจอย่าง น้ำเงิน ... กับน้ำใจ ... ต่างกันสุดขั้ว แต่ก็ยังลากมาเกี่ยวข้องกันได้
นี่มันคือการสิ้นสุดของอะไรบางอย่างหรือเปล่าหนอ ??
ไม่รู้สินะ มันอาจจะใช่ หรือว่าอาจจะไม่ใช่ก็ได้ สำหรับสังคมน่ารัก เอื้อเฟื้อ และการเอาใจใส่คนอื่นๆ นอกเหนือจากตัวเอง ... ช่วงเวลาแบบนี้ ... มันน่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งการได้คิด .. ว่าเราอยากจะ เปลี่ยนแปลง หรือว่าจะถูกทำลายความเป็นตัวเองได้ ..
ฉันตอบแทนคนอื่นไม่ได้ ... แต่ฉันตอบคำตอบนี้ได้ ด้วยตัวเอง ...
. . .
ถ้าฉันปรับตัวไม่ได้ ... สุดท้ายสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลง มันก็คือ ... การฝังตัวอยู่กับความเป็นตัวเอง แล้วยอมรับว่า
จงเลือกว่าเราจะขุดหลุม .. ฝังตัวเอง เพื่อความปลอดภัย เพื่อยืนยันว่าเราจะไม่ยอมเปลี่ยนและคอยมอง เห็นโลกพังทลาย ...
นี่ล่ะ คือการพังทลายของโลกแห่งความน่าอยู่อย่างถาวร
คุยกันท้ายเรื่องนิดๆ ค่ะ ...
ไม่รู้ว่ามันจะเป็นงานเขียนแบบจินตนาการได้หรือเปล่านะค่ะ แต่เพราะว่าเราอ่านข้อกำหนดของโจทย์แล้ว เรามองเห็นว่าการสิ้นสุดของโลก ... เปรียบเสมือนกับการเปลี่ยนแปลงของคนสมัยปัจจุบัน จากสิ่งต่างๆ ที่เราเคยเห้น เคยรู้สึกเมื่อก่อนนั้น ตอนนี้คงเปลี่ยนแปลงไปแล้ว คนดี มันก็พอมี คนเลวก็เพิ่มขึ้น นิสัยใจคอของคนต่างก็เปลี่ยนไป .. มันก็เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงให้สังคมดีๆ สิ้นสุดลง ...
ถ้าหากว่าเราไม่เปลี่ยนแปลงสังคม .. มันก็คงย่ำแย่ลงทุกวัน ด้วยเพราะข่าวคาวๆ ที่เราได้ยิน ได้ฟัง ไมว่าจะเป็นเรื่องของการเมือง บันเทิงเริงรมย์ สังคม .. ทุกอย่างมันแย่ลงนะค่ะ มันเลยเหมือนบั่นทอนจิตใจของตัวเองไปบ้างเหมือนกัน ... แต่ว่าถ้าจะเปลี่ยนสังคมคาดว่ามันจะเป็นหน่วยใหญ่เกินกำลัง ยังไงก็คงต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองซึ่งเป็นหน่วยเล็กๆ ก่อนนี่ล่ะค่ะ อย่างน้อยๆ เลยคือ เราจะได้สบายใจเองด้วย จะได้ไม่ต้องขุดหลุมฝังตัวเองแล้วรอกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม(โลก) .. ไปนะค่ะ
|