:: ถนนสายนี้..มีตะพาบ กม. 10 - ในบางมุม ::
โจทย์ของตะพาบ กิโลเมตรที่ 10 คือเหตุการณ์ หลังจากเหตการณ์นี้
ชายคนหนึ่ง ช่วยผู้หญิง ซึ่งกำลังโดนฉุดลงจากรถเมล์ ผู้หญิงรอด เพราะตำรวจมาพอดีแต่มีคนร้ายหนึ่งคน หนีไปได้
กติกา: ให้เขียนผ่านมุมมองของตัวละครต่อไปนี้ อย่างน้อย 2 ตัว
คนที่เข้าไปช่วย,หญิงสาวที่รอดมาได้หวุดหวิด, แม่ค้าขายพวงมาลัยข้างทาง, กระเป๋ารถเมล์ ที่เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น, พระสงฆ์ที่มาแจ้งความเอกสารหาย และเจอคนร้ายที่ถูกจับตัวอยู่,คนร้ายอีกหนึ่งคน ที่หนีไปได้,ตำรวจ ซึ่งเป็นพ่อของคนร้ายหนึ่งในสามคน, น้องสาวของคนร้าย, มนุษย์หมาป่า, อุลตร้าแมน ที่พูดไทยไม่ได้, คนบ้า ที่เชื่อว่าชายคนที่เข้าไปช่วยหญิงสาว เป็นน้องชายที่หายไปของตัวเอง, แฟนหนุ่ม ของหญิงสาวที่โดนฉุด, จา พนม ยีรัมย์, ทักษิณ ชินวัตร, กิ้งกือตัวหนึ่ง ซึ่งขดตัวอยู่แถวๆนั้น
...........................
หลังจากที่เกิดเหตุการชุลมุนกันบนรถเมล์ ...
ฉันรักพี่นะ .... นั่นคือ ประโยคที่นารีบอกพี่ชายเธอไป
เธอกับพี่ชายนารา เป็นพี่น้องฝาแฝดคลานตามกันมา นารีและนารา .. เป็นพี่น้องสองคนที่ดูแล ห่วงใยกันมาตลอด 23 ปี ทั้งพ่อและแม่ของทั้งสองคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ทั้งสองคนพี่น้องรักกันมากกว่าปกติเพราะเขาทั้งสองคน ไม่เหลือใครอีกแล้วในครอบครัว นอกจากลุงซึ่งเป็นญาติห่างๆ ที่คอยดูแลสองคน ซึ่งนั่นก็เป็นแค่การดูแลตามหน้าที่ที่ไม่ได้มีความรัก เจือปนอยู่เลย เพราะลุงก็มีครอบครัวของเขาที่ต้องดูแล และครอบครัวก็ไม่ได้ มีเงินเหลือล้นจุนเจือสองคนพี่น้องมากนัก ..
นารีเป็นคนนิสัยอ่อนโยน ซึ่งต่างกับพี่ชายฝาแฝดของเธอมาก เพราะนาราเป็นคนใจร้อน วู่วาม โผงผาง เอาแต่ใจเขาเก่งและเหนือทุกคน แต่ว่ายกเว้นนารีเท่านั้นที่เขายอมอ่อนข้อให้ เพราะนาราเชื่อว่า ไม่มีใครรักและห่วงใยกับเขามากกว่าน้องสาวเขาอีกแล้ว
นารี *** เป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั่นทำให้นารีมีเงินมาจุนเจือครอบครัวค่อนข้างดี เพราะว่า รายได้ที่นั่นมั่นคงพอสมควรเพราะเจ้าของรักและชอบพอนิสัยในการทำงาน ของนารีมาก เลยไว้ใจ นารีมากกว่าพนักงานคนอื่นๆ ...
นารา ... เขาเป็นคนค่อนข้างหยิบโหย่ง ทำอะไรไม่ค่อยมั่นคงนัก หลังๆ มานี้เขาเองก็รู้จักมักจี่กับเพื่อนใหม่ที่ค่อนข้างเกกมะเหรกเกเร ชวนกันไปนั่น มานี่ กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ
ช่วงหลังๆ มานี่นารีสังเกตุเห็นพี่ชายเงียบไป .. พอถามก็ไม่บอกว่า มีปัญหาอะไร จนเธอเองชักสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามพี่ชายนัก ... ซึ่งเพราะ เธอถามทีไร นารามักจะบอกว่า ไม่มีอะไรหรอก ... ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้เชื่อ พี่ชายของเธอหรอกแต่เพราะไม่อยากเซ้าซี้และเธอเองก็ไม่ค่อยจะ เจอกับพี่ชายเท่าไหร่ ... เมื่อเธอกลับบ้านจากการทำงาน
มาวันนี้ .... ลุงซึ่งเป็นญาติห่างๆ ... โทรมาหาเธอด้วยน้ำเสียงร้อนรน
นารี เธอรู้ไม๊ล่ะตอนนี้ไอ้นารามันไม่ทำเรื่องอีกแล้ว ตอนนี้ตำรวจตามหามันใหญ่ เพราะมันดันไปฉุดกระชากผู้หญิง บนรถเมล์ นี่เค้าตามมาถึงตัวข้าได้ ก็เพราะว่าดันมีคนจำหน้าไอ้ นาราได้ ฉิบหาย หาเรื่องจนได้นะมึง
นารีตกใจ .. กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่ชายของเธอ ... มันเกิดอะไรขึ้น !!!! ทำไมพี่ชายเธอถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ ฉุดผู้หญิงจากรถเมล์ !!! ... ทำไม ทำไมพี่ชายเธอถึงทำเรื่องแบบนี้
ไม่ทันที่เธอจะตอบคำถามและสงสัยอะไรต่อไป เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ... และเบอร์ที่โชว์มาก็เป็น เบอร์ของพี่ชายเธอ ...
"นารี ... ฟังพี่ พี่ไม่ได้ทำ...."
นั่นคือสิ่งที่นาราพูดเป็นประโยคแรก ... แต่ดูเหมือนว่านาราจะไม่ได้ยิน เพราะเธอพูดสวนออกไป ทันทีว่า
พี่ .. ทำไมพี่ถึงทำอย่างนี้ ... ทำไมพี่ต้องทำเรื่องอย่างนี้ด้วย
น้ำเสียงของนารีเจือปนความโกรธ ... เพราะเธอเชื่อใจพี่ชายของเธอ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็นคนดีแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดไปก่อเรื่องเลวร้าย อย่างนี้เลย
นารี .. ฟังพี่นะ ... พี่มีเรื่องที่จะขอความช่วยเหลือกับเธอ น้ำเสียงของนาราอ้อนวอนให้น้องสาวฟังความจากเขา โดยที่เขาเอง ก็ไม่ได้ปล่อยให้น้องสาวถามหรือต่อว่าเขาอีก ...
เรื่องนี้มันเกิดเหตุจากไอ่ต้น .... ที่พี่ไปฉุดลากกระชากผู้หญิง จากรถเมล์น่ะ .. เพราะว่าพี่กำลังจะไปช่วยผู้หญิงคนนั้น แต่ด้วยเพราะว่าเหตุการณ์มันเร็วและมันก็ต้องทำแบบนั้นนั่นล่ะ ไม่อย่างนั้นก็คงช่วยไม่ทัน
นารีนิ่งเงียบกับสิ่งที่พี่ชายเธอบอก .. ไปช่วย นี่คือคำ ที่พี่ชายของเธอพูดออกมากับการกระทำที่เธอได้รับรู้หรอกเหรอ
พี่บอกว่าพี่ไปช่วยผู้หญิงคนนั้น ด้วยการฉุดกระชากนี่น่ะนะ
พี่ชายเธอถอนหายใจ .. และเริ่มต้นเล่าเรื่องนี้อีกครั้ง
ใช่ พี่ตั้งใจไปช่วยผู้หญิงคนนั้น เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะไอ้ต้น เพื่อนที่พี่เพิ่งรู้จัก .. มันดันไปยุ่งกับพวกค้ายา แล้วทีนี้ มันก็ดันขโมยยาของพวกนั้นไป ทีนี้พี่ได้ยินข่าวว่ามันตามล่า หาไอ้ต้น แต่ว่ามันไม่เจอเพราะว่าไอ้ต้นหนีไปต่างจังหวัดแล้ว ทีนี้ผู้หญิงคนนั้นน่ะมันเป็นน้องสาวของไอ้ต้น พวกค้ายา มันก็เลยจะไปจับตัวมาก่อน ทีนี้ พี่กับไอ้รองที่ไปด้วยกันนี่นะ เคยเห็นหน้าน้องสาวไอ้ต้นมันครั้งหนึ่ง พอได้ข่าวว่าพวกนั้น มันจะจัดการน้องสาวไอ้ต้นก็เลยสะกดรอยตามหาน้องสาวของ ไอ้ต้นมา ทีนี้พอกำลังตามกันอยู่ เพื่อนพี่ก็โทรมาบอกว่า พวกค้ายามันรออยู่ที่บ้านของน้องสาวมันแล้ว พี่ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยบอกกับไอ้รองว่าต้องรีบแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าน้องสาว ไอ้ต้นไปถึงบ้านแล้วก็จบเห่กันพอดี .. มันก็เลยต้องเป็นแบบนี้
นาราหยุดเงียบไปหลังจากที่เล่าเรื่องเสร็จแล้ว เขาไม่รู้ว่า น้องสาวเขาจะเชื่อสิ่งที่เขาเล่าไปหรือเปล่าแต่เขาก็อยากให้น้องสาว เขาได้ฟังจากปากเขาก่อน ...
และพี่มีเรื่องที่จะเล่าให้นารีฟังอีกอย่าง เพราะพี่ไม่อยากให้ น้องสาวพี่คิดว่าพี่เป็นคนเลว ... ตอนนี้พี่เป็นสายให้ตำรวจ เพื่อแลกกับการไม่จับพี่เข้าคุก และพี่ไม่อยากเล่าเรื่องนี้ให้นารีฟัง เพราะกลัวจะเป็นห่วง ตอนนี้อย่าเพิ่งถามอะไรพี่มากมาย พี่อยากขอความช่วยเหลือจากนารีคือ ให้ติดต่อ สารวัตรเดชพงศ์ ที่อยู่ สน.บางซื่อตรง บอกเค้าเรื่องที่พี่บอกเธอ เดี่ยวสารวัตร เค้าจะจัดการเอง ... ไม่ต้องห่วงพี่นะ แล้วยังไงพี่จะติดต่อ เธออีกทีเมื่อเรื่องเงียบแล้ว
นาราพูดจบก็ตัดสายทันทีโดยไม่ให้น้องสาวได้ถามอะไรเขาอีกเลย
นารีถอนหายใจ ... เป็นห่วงพี่ชายฝาแฝดเพิ่มมากกว่าเดิม แต่เธอก็ไม่รอช้า เธอต้องช่วยพี่ชายของเธอโดยไม่ตั้งคำถาม อะไรมากมาย เพราะแค่เรื่องราวที่เธอได้ยินจากปาก ของเขามันก็มากพอแล้วล่ะมั้งว่า ... เธอเองจะต้องช่วยเหลือ พี่ของเธอให้ถึงที่สุด ...
นารีเรียกแท็กซี่ไปส่ง สน. บางซื่อตรง ... เพื่อจะขอพบสารวัตรเดชพงศ์ กับเรื่องราวของพี่ชายเธอ ...
ขอให้เจอตัวสารวัตรเดชพงศ์ด้วยเถิด .. นารีคิด
และเหมือนโชคดี .. ที่เธอไปถึงแล้วแจ้งความกับจ่าที่อยู่ สน. เขาบอกให้เธอรอข้างนอกห้อง ... นารีรอได้ไม่ถึง 5 นาที ตร.ในเครื่องแบบก็เดินออกมาจากห้อง
เขา .. หน้าตาหล่อเหลา คมเข้ม ... นารีมองเขา .. สารวัตรเดชพงศ์ ... มองด้วยความเขินอาย และเธอไม่รู้จะทำอะไรกลบเกลื่อนนอกจากจะแนะนำตัวเอง ให้เขารู้ว่าเธอเป็นใครและมาเพื่ออะไร
หลังจากที่ทั้งคู่ได้เล่าเรื่องต่างๆ แลกเปลี่ยนกันแล้ว สารวัตรเดชพงศ์ก็เลยบอกเธอว่า ... ตอนนี้เขารู้เรื่องคร่าวๆ แล้ว และก็ได้ส่งกำลังไปคุ้มครองหญิงสาวคนนั้นแล้วด้วยเช่นกัน และเขาเองก็ได้แสดงความห่วงใยกับนารีเช่นกัน
หลังจากเหตุการณ์นั้น ... เรื่องราวของนาราก็ผ่านไปด้วยดี ... เค้าเคลียร์กับเรื่องเหตุการณ์บนรถเมล์ไปได้เพราะความช่วยเหลือ ของสารวัตรเดชพงศ์ ... และนาราก็ได้รับการช่วยเหลือ ให้ซ่อนตัว และก็ย้ายที่อยู่ไปทำงานที่อื่นเพื่อความปลอดภัย
หญิงสาวเจ้าทุกข์ ... ได้ฟังเรื่องราวจากปากของ ตร. และก็เข้าใจถึงเหตุการณ์และก็ได้พบเจอกับนารี และขอบคุณนารา ผ่านทางนารีไปด้วย และเธอเองก็ได้รับการช่วยเหลือต่างๆ กับทาง ตร. ถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้ว่าชีวิตจะไม่ปลอดภัย เพราะพี่ชายของเธอเองก็ยังไม่ปรากฏตัวและติดต่อ เพราะฉะนั้น เธอเองก็ต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ ...
สารวัตรเดชพงศ์และนารี ก็ดูเหมือนจะติดต่อกันเป็นประจำ ความสัมพันธ์ ปัญหา ความรัก ความเสี่ยง ชีวิต มันจะเป็นยังไง แน่นอนว่าชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันก็ไม่ได้มีขวากหนาม โรยอยู่บนพื้นถนน .. กันตลอดเวลา .. เพราะฉะนั้นเรื่องของ แต่ละคนหลังจากนี้ ... ใครจะเป็นพยานให้กัน หรือว่าเป็นพยานปรักปรำ ใคร ก็ยืนอยู่บนเวทีชีวิตของตัวเอง
ชีวิตไม่ง่ายและไม่ยาก อยู่ที่ตัวเองจะเลือกให้มันเป็นไป ยอมรับ ..กับสิ่งที่เกิดและสู้มันให้ถึงที่สุด ...
สติมา ปัญญาถึงจะมีได้ ... เท่านั้นที่เราสามารถทำได้ ... นี่ล่ะมุม .. มุมของคน ของใคร และของมัน
.
... แอบคุย ...
แบบจบไม่ลงอีกตามเคยค่ะ สารภาพว่านั่งคิดนานหลายครา แต่คิดไม่ออกค่ะว่าจะให้มันจบลงยังไง เลยเปิดให้คิดเล่นๆ ไปเอง แบบปวดหัวกันต่อนะค่ะ
สำหรับงานงวดหน้า ไม่มียากค่ะเพราะว่าเปิดโอกาสให้เขียน ได้หลายแนวแบบเปิดกว้าง เพราะโจทย์มีแค่ว่า ให้เขียนอะไรก็ได้เกี่ยวกับ เรื่องอาหารการกิน ...
หลายสไตล์ หลากความคิด ไม่ปิดกั้น จะเขียนเป็นนิยาย บทความ พร่ำ บ่น พรรณา ... แน่นอนว่าไม่มีปิดกันอยู่แล้วค่ะ จริงๆ แล้วมีเงื่อนไขเล็กน้อยก่อนหน้าที่คิด แต่คิดว่า มันดูจะซับซ้อนไปเลยคิดว่าไม่เอาดีกว่าเพราะว่า กลัวง่ายตอนคิดโจทย์ แล้วจะปลิดชีวิตตัวเองตอนแต่งเอง ก็เลยลดเอาว่า เขียนง่ายๆ ดีกว่ากับเรื่องอาหารการกิน แบบไม่มีจำกัด
พบกันใหม่กับโครงการตะพาบ กม. 11 นะค่ะ
Create Date : 26 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 11:07:10 น. |
|
47 comments
|
Counter : 1062 Pageviews. |
|
|
|
ตอนแรกก็งง ๆ ว่า โครงการตะพาบ คือไร
ตอนนี้ พอจะเข้าใจนิดๆ แล้วค่ะ ฮ่ะๆๆๆ
คิดถึงนะค่ะ