ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
จะแก้ปัญหาเด็กไทยเรียนอ่อนได้อย่างไร

จะแก้ปัญหาเด็กไทยเรียนอ่อนได้อย่างไร



ปัญหานักเรียนไทยสอบระดับชาติได้คะแนนเฉลี่ยต่ำกว่า 50% ในทุกวิชา รวมทั้งต่ำลงจากปีก่อนๆ ด้วย เป็นปัญหาใหญ่ที่จะทำให้ประเทศไทยถูกประเทศอื่นแซงหน้าไปได้มากกว่านี้อีก การใช้งบประมาณการศึกษาเพิ่มไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอย่างได้ผลเสมอไป

ประเทศไทยนั้นใช้งบเพื่อการศึกษาถึง 20-25% ของงบทั้งประเทศ สูงกว่าจีนและเกาหลีใต้ แต่เด็กไทยได้เรียนถึงชั้นมัธยมเป็นสัดส่วนต่อประชากรน้อยกว่า 2 ประเทศนี้ และคุณภาพของนักเรียนโดยเฉลี่ยก็ต่ำกว่า การจะแก้ไขปัญหานี้ต้องทำหลายทาง ทั้งในการจัดสรรงบประมาณกำลังคนใหม่ไปหนุนช่วยโรงเรียนขนาดเล็กในชนบทที่มีครู อุปกรณ์การเรียนการสอนงบประมาณสนับสนุนน้อย แก้ไขปัญหาด้านจิตวิทยาในการเรียนรู้ของนักเรียน ปัญหาวิธีการและคุณภาพในการสอนของครูอาจารย์ (ความพร้อมของผู้เรียน และผู้สอน) โดยใช้ทั้งปัญญาและความรักความเอาใจใส่ต่อเด็กจริง ๆ

สาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาการเรียนได้ไม่ดี ในมุมมองของนักจิตวิทยาการศึกษา

1. การที่ครูอาจารย์ (รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครอง) มีทัศนคติที่ผิดๆ ว่า การเรียนเก่งหรือไม่เก่งเป็นผลมาจากความฉลาดมาตั้งแต่เกิด และมักจะประทับตราว่าเด็กที่เรียนไม่เก่งเป็นเด็กโง่ สมองทึบมาโดยธรรมชาติ ไม่มีทางจะเรียนให้เก่งขึ้นได้มากไปกว่านี้ ทำให้ครูอาจารย์ไม่คาดหวังเด็กคนนั้นหรือกลุ่มนั้นและสอนไปอย่างนั้นเอง ผู้เรียนที่ถูกคนอื่นประทับตราให้ก็มักเชื่อตามนั้น ไม่มีความภูมิใจ ไม่มั่นใจในตัวเอง ก็เลยไม่มุมานะ ไม่ตั้งใจที่จะเรียนให้ดีขึ้น บางคนหันไปหาจุดเด่นที่จะให้คนยอมรับด้านอื่น เช่นเป็นคนเกเรเป็นหัวโจกในกลุ่มเพื่อนไป

การวิจัยพบว่าหากครูอาจารย์และผู้เรียนเชื่อว่า ผู้เรียนสามารถเรียนให้เก่งขึ้นได้ และใช้วิธีการสอน/การเรียนที่เหมาะสม ทำให้ผู้เรียนมีความตั้งใจ มุมานะเรียน และเรียนได้ดีขึ้นจริง ๆ เพราะสมองคนโดยทั่วไป (ถ้าไม่มีปัญหาทางกายภาพ) พร้อมที่จะเรียนรู้ในทางใดทางหนึ่ง เพื่อการอยู่รอดอยู่เสมออยู่แล้ว แทนที่จะไปโทษว่าเด็กโง่ ครูอาจารย์ต้องคิดใหม่ว่าจะหาวิธีการสอนอย่างไรที่จะทำให้เด็กที่ไม่เก่ง สนใจและเข้าใจเรียนรู้ได้เพิ่มขึ้น

นักเรียนไทยนอกจากจะอ่อนวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษแล้วยังอ่อนภาษาไทยด้วย เช่นเด็กป. 2 ป.3 จำนวนหลายหมื่นคนยังอ่านหนังสือไม่ได้หรือไม่คล่อง ซึ่งถ้าไม่ปรับปรุงแก้ไขการสอนการเรียนใหม่ เด็กจำนวนมากต้องออกกลางคัน เรียนไม่ถึงภาคบังคับ 9 ปี อย่าไปเพ้อฝันหรือโม้ว่าเด็กไทยทุกคนต้องได้เรียนฟรี 15 ปีเลย การใช้งบประมาณไปซื้อของแจกผู้เรียนไม่ได้ช่วยพัฒนาคุณภาพแต่อย่างใด

2. ปัญหาส่วนตัวของผู้เรียน ปัญหาทางกายภาพ เช่นเด็กฟังหรือมองเห็นได้ไม่ดี (หูตึง, สายตาสั้น, เอียงฯลฯ) ควรมีการตรวจสอบสุขภาพร่างกายประจำปีเพื่อหาทางแก้ไข บางคนอาจมีปัญหาด้านการขาดความสามารถในการเรียนรู้ (LD) ในด้านการอ่านและหรือด้านอื่นๆ ซึ่งพวกเขาควรต้องได้รับการศึกษาพิเศษ โดยครูที่เข้าใจเรื่องนี้หรือได้รับการฝึกอบรมมาโดยเฉพาะ ถ้าไม่มีนักจิตวิทยาการศึกษาหรือครูที่รู้จิตวิทยาการศึกษามาช่วยแยกแยะปัญหาการเรียนได้ช้าของเด็กแต่ละคน ปล่อยให้เขาเรียนกับเด็กปกติอื่นๆ เขาก็จะเรียนตามเพื่อนไม่ทันและกลายเป็นปมด้อยว่าตัวเองโง่ เรียนไม่เก่ง ทั้งๆ ที่ถ้าเรามีจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับการทำงานของสมองของแต่ละคน ซึ่งมีสไตล์, มีความเร็วในการเรียนรู้ต่างกัน นักเรียนก็จะมีโอกาสเรียนได้ดีขึ้น

3. ปัญหาปัจจัยสภาพแวดล้อมด้านสังคมและอารมณ์ของผู้เรียน สภาพแวดล้อมของครอบครัวเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเรียนมาก เด็กที่มาจากครอบครัวที่พ่อแม่เข้มงวดมากไป หรือปล่อยปละหย่อนยาน ไม่ฝึกให้เด็กมีวินัยในตัวเอง ครอบครัวที่หย่าร้าง, พ่อแม่แยกกันอยู่หรือพ่อแม่ไปทำงานแดนไกล ไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกๆ มีปัญหาทางเศรษฐกิจมาก มักจะทำให้เด็กเครียดกังวลและเรียนไม่ได้ดี เมื่อเทียบกับเด็กที่มาจากครอบครัวที่พ่อแม่ให้ความสนับสนุนให้กำลังใจ โดยไม่ตัดสินลูกมากเกินไป เด็กกลุ่มหลังจะมีความมั่นใจ มีทัศนคติในทางบวกและเรียนได้ดีกว่า

สภาพแวดล้อมที่โรงเรียนอาจมีผลทางอารมณ์ต่อเด็กด้วย เช่นการถูกคุกคาม กลั่นแกล้ง , รีดไถโดยเด็กเกเร, การกลัวครูที่ดุ, เข้มงวดมากฯลฯ ทำให้เด็กกลัว กังวล ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่มีอารมณ์ที่จะเรียน นี่คือปัญหาที่ผู้ใหญ่ต้องหาทางช่วย ไม่ใช่แค่วิจารณ์ว่าเด็กรุ่นปัจจุบันไม่ค่อยเอาไหน

โรงเรียนควรจะสนใจหาข้อมูลและมีการติดต่อกับพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อขอให้ช่วยสร้างบรรยากาศทางครอบครัวที่ช่วยเด็ก ทั้งชุมชนและรัฐบาลควรเข้ามาช่วยเหลือด้วย หลายประเทศมีนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาเข้ามาช่วย เราต้องลงทุนด้านนี้ด้วย ไม่ใช่ลงทุนแต่สร้างอาคาร ซื้ออุปกรณ์ ซื้อเครื่องแบบ หนังสือแจกนักเรียน

ส่วนปัญหาสภาพแวดล้อมในโรงเรียน ครูอาจารย์ก็ต้องใส่ใจ และหาทางแก้ไขด้วย การเน้นแต่การสอนวิชาการและวิชาชีพ โดยไม่สนใจสภาพแวดล้อมด้านสังคมและอารมณ์ของเด็กถึงจะปรับปรุงการสอบให้ดีมีเทคโนโลยีการสื่อสารมาช่วยแค่ไหน ก็อาจจะไม่ได้ผลหรือได้ผลน้อย ถ้าผู้เรียนมีปัญหาสภาวะทางอารมณ์ที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือปรับปรุงแก้ไข

ชั้นเรียนไม่ควรใหญ่เกินไป ครูอาจารย์จะได้รู้จักเด็ก ได้ทั่วถึง หลักสูตรและระบบการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐต้องเปลี่ยนไปเพื่อช่วยให้ครูอาจารย์ ไม่ต้องรับภาระการสอนแบบเน้นปริมาณเนื้อหาตามหลักสูตรมากไป และต้องมีการจัดฝึกอบรมครูให้เข้าใจและสนใจปัญหาจิตวิทยาของเด็กมากขึ้น สนใจดูแลช่วยเหลือเด็กมากขึ้น การให้ผลตอบแทนครู ควรดูที่ความเอาใจใส่ในการดูแลเด็ก และช่วยให้เด็กเรียนได้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่ดูจากการทำผลงานด้านเอกสารและต่อไปจะดูผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนการสอบมาตรฐานของชาติ ซึ่งโรงเรียนเล็กในชนบทย่อมเสียเปรียบอยู่แล้ว ครูที่มีปัญหาทางอารมณ์เสียเอง ทำให้เด็กเกลียดครู เกลียดโรงเรียน ควรถูกพิจารณาโยกย้ายไปทำงานอื่นที่ไม่ใช่งานสอน

4. ปัญหาสภาพแวดล้อมด้านทัศนคติของชุมชนและสังคม ทัศนคติของครูอาจารย์, ชุมชนและสังคมต่อโรงเรียนประเภทใดประเภทหนึ่งหรือในเขตใดเขตหนึ่งมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของนักเรียนในโรงเรียนนั้น หากเป็นทัศนคติทางลบก็จะมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนในทางลบ เช่นโรงเรียนอาชีวศึกษา, โรงเรียนที่ไม่มีชื่อเสียง, อยู่ในเขตคนยากจน, โรงเรียนของชนกลุ่มน้อย คนด้อยโอกาส หากครูอาจารย์มีทัศนคติว่าเป็นโรงเรียนของเด็กไม่เก่ง เด็กเหลือขอ และไม่คาดหวังว่าเด็กจะเรียนรู้อะไรได้มากนัก พวกเขาก็จะแค่สอนไปวัน ๆ ไม่ให้กำลังใจผู้เรียน ไม่พยายามที่จะให้ผู้เรียนมีโอกาสได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ และยิ่งทำให้ผู้เรียนยิ่งเรียนรู้ได้แย่ไปกว่าที่ควรเป็น

มีกรณีตัวอย่างในหลายประเทศที่มีโรงเรียนที่นักเรียนส่วนใหญ่เคยมีผลสัมฤทธิ์การเรียนต่ำนั้น เมื่อมีผู้บริหารและครูกลุ่มใหม่ที่มีทัศนคติทางบวกและมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนทัศนคติของผู้เรียน สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ของผู้เรียนให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างมาก ครูอาจารย์ในประเทศเวียดนามก็ได้เงินเดือนต่ำกว่าครูไทย แต่ทำไมพวกเขาสอนให้เด็กเวียดนามโดยเฉลี่ยเก่งคณิตศาสตร์กว่าเด็กไทย

ทั้ง 4 สาเหตุปัจจัยที่กล่าวมามีประเด็นที่สำคัญร่วมกันอยู่ข้อหนึ่ง คือทำอย่างไรจึงจะส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความเชื่อมั่นในความสามารถที่จะเรียนรู้ของตัวเขาเอง (Self Efficacy) อย่างน้อยในสาขาวิชาใดที่เขาสนใจหรือถนัด เพราะนี่คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้เรียนมีแรงจูงใจและความตั้งใจที่จะเรียน และมีโอกาสจะเรียนรู้ได้ดีขึ้น

ครูอาจารย์สามารถช่วยผู้เรียนได้หลายทาง ทางหนึ่งคือ เปลี่ยนแปลงวิธีการสอบวัดผล เช่นแทนที่จะสอบวัดผลโดยใช้มาตรฐานเดียวกันของนักเรียนทั้งชั้น ซึ่งจะทำให้คนได้คะแนนต่ำขาดความเชื่อมั่นเป็นปมด้อย อาจใช้วิธีวัดผลจากพัฒนาการของผู้เรียนแต่ละคน ว่าเขาพัฒนาจากเดิมได้มากน้อยแค่ไหน จะทำให้ผู้เรียนได้เห็นความก้าวหน้าของตนเอง และมีความเชื่อมั่นในตนเองเพิ่มขึ้น

แต่การจะเปลี่ยนวิธีการวัดผลที่เน้นการพัฒนาศักยภาพคนมากกว่าระบบแพ้คัดออก ต้องเปลี่ยนวิธีการคัดเลือกคนเข้ามหาวิทยาลัย และเปลี่ยนแปลงค่านิยมที่คนไทยยกย่องปริญญามากไปด้วย อุปสรรคในการปฏิรูปคุณภาพการศึกษาที่สำคัญ คือระบบการสอบคัดเลือกแบบแพ้คัดออกเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยปิดของรัฐที่เสียค่าเรียนถูกกว่ามหาวิทยาลัยเอกชน และมีที่นั่งจำกัด ทำให้นักเรียนไทยมุ่งเรียนแบบท่องจำและกวดวิชาเพื่อสอบเอาคะแนนไปแข่งกับคนอื่น มากกว่าจะสนใจพัฒนาการเรียนรู้ตามศักยภาพและความสนใจของตัวเอง แข่งกับตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น

ปัญหาเด็กไทยทั้งไม่เก่ง ไม่มีความสุข จริยธรรมแย่ลง เป็นปัญหาที่เชื่อมโยงกับระบบการจัดการศึกษาแบบแพ้คัดออกเพื่อคัดเอาคนส่วนน้อยไปรับใช้ การพัฒนาเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ที่เน้นการแข่งขันแบบตัวใครมัน จะต้องวิเคราะห์และหาทางแก้ไขปัญหาการศึกษาทั้งระบบอย่างจริงจัง ก่อนที่ประชากรไทยรุ่นต่อไปจะมีคุณภาพลดลง และประเทศไทยยิ่งตกต่ำไปมากกว่านี้


จากบทความ
จะแก้ปัญหาเด็กไทยเรียนอ่อนได้อย่างไร โดย รศ.วิทยากร เชียงกูล
//www.rsunews.net/Think%20Tank/TT59/SolveAProblemForEducationOfThaiChild.htm


Create Date : 01 ธันวาคม 2553
Last Update : 1 ธันวาคม 2553 9:37:54 น. 2 comments
Counter : 3800 Pageviews.

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน ติวเลขออนไลน์


โดย: swkt (tewtor ) วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:11:51:26 น.  

 
นี่แหละคือความจริง..ที่บรรดาท่านๆสส.ที่เข้าไปเป็นรัฐบาลควรจะตื่นได้แล้ว..


โดย: ทิพวรรณ อินทร์จันดา IP: 183.89.6.97 วันที่: 2 มีนาคม 2555 เวลา:10:52:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.