ฉัน เชียงใหม่ วิทยานิพนธ์ ถนนนิมมานเหมินต์ วาเลนไทน์ และ HB6 อันเงียบเหงา
สวัสดีเชียงใหม่
ปีนี้ฉันมาเชียงใหม่กี่ครั้งแล้วหนอ ครั้งแรกเมื่อตอนปีใหม่ ตอนรับปริญญาน้อง ๆ แล้วก็ตอนนี้ นี้ฉันมาเยือนเชียงใหม่ในฐานะแขกสามครั้งในรอบเดือนนิด ๆ เชียวหรือนี้
แต่จะให้มาเสียกี่ครั้งก็ได้ ก็ใจมันอยู่ที่นี้เสียแล้วนี้....
มาเชียงใหม่ครั้งนี้เพื่อทำงาน วิทยานิพนธ์ที่รักอยู่ในขั้นตอนการเก็บข้อมูล ฉันต้องไปสัมภาษณ์ใครต่อใครที่เกี่ยวข้องกับวิทยุชุมชนที่เป็นของพระ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ถูกสัมภาษณ์ต้องมีพระเป็นหลักแน่ ฉันส่งเมลไปหาท่าน แต่ท่านยังไม่ตอบกลับมาแต่อย่างใด ฉันอาจใจเย็นไปที่อาจารย์ของฉันได้เกริ่นกับพระคุณเจ้าไปก่อนหน้านี้ว่าฉันจะมาทำวิทยานิพนธ์ แต่ก็อาจจะเป็นไปได้อีกว่าพระคุณเจ้าท่านคงยังไม่ว่าง ก็อะไรเสียอีก พรุ่งนี้มันวันมาฆบูชา ใคร ๆ เขาก็ยุ่ง ๆ กันทั้งนั้น
ฉันมาอยู่เชียงใหม่สองวันแล้ว ไม่ได้การได้งานเลย ที่บ้านก็โทรมาเช็คตลอดว่างานไปถึงไหนแล้ว ด้วยใจที่อยากให้ฉันจบสองปีตามกำหนด แต่ตัวฉันเองรู้ตัวดีว่าไม่มีทางเป็นแน่ แม้ฉันจะขยันสักเท่าใด ตอนนี้ฉันไม่มั่นใจเลยในการทำวิทยานิพนธ์ได้สำเร็จลุล่วงในเร็วไว้ ใคร ๆ ต่างก็บอกไว้ว่าสองปีมันเรื่องของพวก Abnormal
ฉันมาเชียงใหม่ ไปอาศัยอยู่กับเพื่อนย่านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เย็นวันศุกร์ฉันกับเพื่อนชวนกันไปนั่งเล่นย่านถนนนิมมานเหมินต์ ถนนย่านธุรกิจสำคัญเส้นหนึ่งของเชียงใหม่
ตอนฉันยังเรียนอยู่ที่นี้ ถนนเส้นนี้เป็นถนนเงียบ ๆ ผู้คนไม่พลุกพล่านนัก ฉันชอบไปกินข้าวแถวนั้น มีหลายร้านที่อร่อยและถูก โดยเฉพาะสเต็กบุฟเฟต์
นับแต่ฉันเรียนจบ ดูเหมือนคลื่นความเปลี่ยนแปลงจะโหมซัดกระหน่ำ เริ่มด้วยการเ้ข้ามาของ Warm Up ร้านของคนยามค่ำคืนที่ดึงคนให้มามากมาย แล้วจากนั้นร้านค้าต่าง ๆ มากมายก็ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ล่าสุดกับ Starbuck ที่ไม่น่าเชื่อว่าคนเยอะราวกับแจกฟรี
หลายคนที่มองความเจริญเป็นสำคัญบอกว่านิมมานเหมินตร์กำลังจะกลายเป็นทองหล่อของเชียงใหม่ แต่ใจของฉันที่เบื่อความเจริญเกินไป บอกว่าจะมีไปทำไม แล้วในขณะนี้คนเชียงใหม่ย่านนั้นก็ได้รับผลกรรมจากรถติดมหาศาลเป็นครั้งแรก รถติดสนิทจอดนิ่งบนถนนราวยี่สิบนาทีกว่าจะผ่านไฟแดงไปได้
ใครหลายคนบอกฉันอีกครั้งว่ามันก็ต้องแลกกัน บ้างก็ว่าคุ้ม บ้างก็ว่าไม่คุ้ม แต่ใจฉันมองว่ามันไม่คุ้มแต่อย่างใด
อีกสองวัน วันวาเลนไทน์ ช่างมันเถอะ ก็แค่วันหนึ่งเท่านั้น.... มันไม่ใช่วันสำหรับคนโสดอย่างเรา
HB6 เป็นชื่อตึกเรียนของฉัน ฉันรักตึกนี้มาก ตึกที่ฉันได้ใช้ชีวิตกว่าสี่ปีที่นี้ไม่ได้กลายเป็นของน้อง ๆ ฉันต่อไป เพียงเพราะว่าเราได้เป็นคณะ
ทุกวันนี้ อดีตภาควิชาฉันได้รับการยกฐานะเป็นคณะ แต่ทว่าตึกยังมิได้ก่อสร้าง จึงต้องใช้ตึกของคณะมนุษย์อดีตของเราอยู่ น้องของฉันอยู่ในฐานะผู้เช่า ไม่มีแม้สิทธิจะติดป้ายประกาศต่าง ๆ นานานอกเขตที่กำหนด ต่างจากสมัยฉันเรียนที่จำทำอะไรก็ได้ เพราะมันเป็นตึกของฉัน
ฉันยังจำได้เมื่อครั้งจัดงาน Bye'Noir ให้ตัวเอง ในชื่อว่างาน Bye Friend ฉันและเพื่อนทำอาหารกันกินสนุกสนาน คนเกือบทั้งรุ่นมาร่วมงาน เอาเสื้อปูนอนเพื่อระลึกจดจำไว้ว่าคงไม่มีวันที่จะได้มานอนเล่นเช่นนี้อีกแล้ว
ฉันเล่าให้รุ่นน้องฉันฟัง ว่าอย่าลืมทำบ้างเพราะมันเป็นความทรงจำที่แสนงดงามยิ่งนัก แต่น้อง ๆ ของฉันตอบกลับมาว่าคงทำไม่ได้ อะไร ๆ มันไม่เหมือนตอนรุ่นฉันแล้ว ฉันเองก็ได้แต่นิ่งเงียบ เพราะอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ฉันรู้สึกคิดถึงวันเก่า ๆ เมื่อครั้งได้ใช้ชีวิตที่นี้ มันช่างแสนสุขยิ่งนัก
ปูเสื่อนอนดูท้องฟ้าสีครามเต็มไปด้วยเมฆสีขาวใต้ HB6 พร้อมกับลมหนาวที่พัดผ่าน ฉันและเพื่อนนอนหลับไปพร้อมอารมณ์ที่สดใส
เพียงเท่านี้ก็เป็นความสุขมหาศาลที่ยากจะอธิบายให้ใครได้รู้
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2549 |
|
26 comments |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2549 12:06:40 น. |
Counter : 693 Pageviews. |
|
|
|