++++ ชีวิตอาจารย์มหาวิทยาลัยสไตล์เด็กแนว ++++
เทอมที่แล้วผมเริ่มต้นการเป็นอาจารย์ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ มาเทอมนี้ย้ายฝากกลับรังมาคณะที่จบมา การสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
บ่ายวันหนึ่งของต้นเดือนตุลาคม ผมได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์จุ๋ม อาจารย์ที่คณะซึ่งสนิทและมีบุญคุณกับผมมาก โดยท่านได้แจ้งให้ทราบว่าเสนอชื่อผมเข้าไปในคณะเพื่อเป็นอาจารย์พิเศษ สอนเต็มเวลาหนึ่งเทอม
ช่วงสมัยผมเรียนอยู่ ผมเป็นคุณครูเถื่อนอยู่หลายครั้ง ชอบนัดน้องไปติวมิดเทอมไม่ก็ไฟนอล ตอนเรียน ป.โท แวะมาเชียงใหม่ก็มาช่วยสอน อาจารย์หลายท่านก็เห็นแววว่าคงสอนได้ เลยผลักดันให้ได้เป็น
เทอมที่แล้วกับราชภัฎเชียงใหม่ ผมก็ได้อาจารย์จุ๋มนี้แหละที่ให้ไปสอนแทน เป็นเทอมที่ผมคิดอะไรเองทุกอย่าง ยอมรับว่าเหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็ท้าทายดีกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทว่าเมื่อเด็กทำงานออกมาได้มากกว่าที่เราคาดไว้ ผมก็ให้เอไปร่วม 22 คน จากทั้งหมด 44
น่าเสียดายที่ว่าทางคณะไม่โอเคกับผม ประกอบกับผมเป็นแค่อาจารย์พิเศษไม่มีปากเสียง อุตส่าห์บอกไปว่าเด็กทำได้แล้วเขาก็ควรได้ด้วยก็ไม่ยอมฟัง ยืนกรานให้ผมปรับเกรด ในที่สุดผมก็เลยต้องเพิ่มฐานคะแนนเอจนเหลือแค่ 6 คน แค้นใจตัวเองไม่น้อย
มาคราวนี้สอน มช. สบายหน่อยเพราะวิชาที่สอนมีอาจารย์ประสานงานรายวิชา อาจารย์ท่านนี้เป็นรุ่นพี่ผมแค่สองปี แถมเรียนจุฬาปีเดียวกันแต่คนละสาขาวิชา ทำให้เราค่อนข้างสนิทกัน พี่ท่านก็จัดการทำ course outline พร้อมแนวทางการสอนให้ผมเรียบร้อย แต่ก็บอกว่าให้ผมปรับเอาเองตามสมควรได้เลย
ในขั้นแรกผมได้สอนสองวิชา แต่สุดท้ายแล้วก็เหลือวิชาเดียว คือ การเขียนเพื่อการสื่อสาร เรียนเกี่ยวกับการเขียนข่าว บทความและสารคดี โดยเน้นสองอย่างหลังเป็นพิเศษ ผมคิดว่าตัวเองก็มีประสบการณ์การเขียนอยู่พอสมควร จึงไม่น่ายากที่จะสอน
เพื่อนผมบอกว่าผมเป็นอาจารย์แบบเด็กแนว เพราะชอบสอนแบบแหก ๆ ซึ่งผมก็เห็นด้วย ผมคิดเสมอว่าการเขียนนั้น ทักษะย่อมควบคู่ไปพร้อมกับปัญญา เปรียบเด็กเป็นเหมือนคอมพิวเตอร์ ต้องมีการอัพเกรด ใส่ซอฟแวร์ใหม่ ๆ เข้าไปเสมอ ซอฟแวร์ก็คือความรู้ต่าง ๆ ถ้าจะเขียนแต่ไม่รู้จะเขียนอะไรหรือข้อมูลไม่พอ ก็จบ
คาบแรกผมให้เด็กเขียนแนะนำตัวเองความยาวตั้งแต่สิบบรรทัดขึ้นไป โดยให้เวลาการเขียนยาว 3 เพลง ผมเปิดเพลง Ballad Traffic Comedy ของเหมี่ยวเอ๋อ ,the Best Thing ของ The Photo Sticker Machine และ Boys Fire Tricot ของ Fono ให้เด็กฟัง นักศึกษาก็อึ้งกันนิด ๆ ว่าทำไมอาจารย์ถึงแนวจัง ผมเลยบอกว่าตอนทำงานเราไม่ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นใจเสมอ อย่างตอนนี้ผมเปิดเพลงให้คุณฟัง ก็เหมือนกับฝึกให้เขียนในภาวะที่มีเสียงรบกวนได้
ยังดีที่มีนักศึกษาหลายคนบอกว่าเพลงที่เปิดเพราะดี
จากการอ่านงานของเด็กทำให้แบ่งนักศึกษาได้เป็นสองกลุ่มคือ พวกแรกมีเรื่องเขียนแต่เล่าไม่เป็น กับอีกพวกคือเขียนเป็นแต่ไ่ม่รู้เล่าอะไรดี ซึ่งเป็นโจทย์ที่น่าสนใจสำหรับผมว่าจะทำเช่นไรให้พวกเขาและเธอเหล่านี้มีเรื่องที่จะเล่าและถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าสนใจ
ปัญหาอื่น ๆ ที่ได้พบเจอคือเด็ก ๆ ไม่รู้จะเรียกผมว่าอย่างไรดี เนื่องจากว่าผมนั้นยังวนเวียนในคณะอยู่บ่อย ๆ เด็ก ๆ เห็นหน้าและจำได้ เลยเป็นพี่ปีแก่ที่น้องส่วนใหญ่รู้จัก วันแรกที่เข้าไปสอนเด็กหลายคนตกใจว่ามาทำไม พอบอกว่าเป็นอาจารย์ก็ยิ่งช๊อคไปกันใหญ่
ตอนสอนผมก็แทนตัวว่าอาจารย์ไม่ก็ใช้คำว่า "ผม" แต่นอกห้องเด็ก ๆ ก็เรียกผมว่าพี่บ้าง อาจารย์พี่ดองบ้าง แล้วแต่ความสะดวกปากของแต่ละคน ซึ่งผมก็ไม่ได้ถืออะไร
มาวันนี้ก็สอนหลักการเบื้องต้นในการเขียนครับ อากาศเริ่มหนาวทำเอาต้องไปหากาแฟจิบก่อนสอน หมอกขาวลอยต่ำบังดอยสุเทพมิด วันนีผม้มีพาวเวอร์พอยท์มาสอนแล้วก็เน้นบรรยายยกตัวอย่างฮา ๆ ก่อนเรียนผมเป็นเด็กแนวอีกแล้ว โดยการเปิดเอ็มวีเพลง glosoli ของ Sigur Ros ให้เด็กดู พร้อมกับบอกว่าจะได้รู้ว่าประเทศอื่นเขาทำเพลงกันไปถึงไหนแล้ว พร้อมกับเอาตัวอย่างงานมา(ยัดเยียด)ให้อ่าน โดยเป็นข้อเขียนของผมเอง ผมเลือกเอารีวิวภาพยนตร์เรื่อง In the Mood for Love ที่เคยเขียนไว้ในบล็อกมาใช้
ผมพยายามหาสื่อใหม่และวิธีการใหม่ ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจทั้งในการเขียนและสร้างความคิด คุณผู้อ่านที่ผ่านเข้ามาแนะนำได้นะครับ ผมจะได้ขอหยิบยืมนำไปใช้นะครับ
สอนอะไรไปอีกบ้าง เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังในคราวต่อ ๆ ไปครับ
ป.ล. ชีวิตผมตอนนี้ ผมนึกถึงเพลงที่ชื่อว่า Young Urban (ที่ท่านกำลัีงฟัง ณ ขณะนี้) เนื้อเพลงเกี่ยวกับการสนับสนุนให้ดาวรุ่งในท้องถิ่นได้เจริญเติบโต ฟังแล้วเหมือนชีวิตผมดี ลองอ่านเนื้อพร้อมฟังเพลงดูนะครับ
Take it from a well-known man. You can count all the fine performances And hear them sayin, "It's never twice the same, baby."
Come around the bend once more And believe in the sun's abilities. I know he's watching and always listening to me.
The seeds come alive with the things they can grow. He may be a talented man And I told you, "Believe in the things that you know." Baby, trust that you can. Trust you can.
Come across a lifeless bore And I wonder if he knows anything. I feel like laughing But I don't have to say nothing.
Step in through a well-shut door And become in the brave new scenery. They move like switches On all the rusted old machinery
The seeds come alive and continue to grow. He may be a talented man But I told you, "Believe in the things that you know." Baby, trust that you can. Trust you can.
Create Date : 01 พฤศจิกายน 2550 |
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2550 21:17:45 น. |
|
36 comments
|
Counter : 892 Pageviews. |
|
|
|
เชื่อว่านศ.หลายคนจะชื่นชอบนะ
แล้วก็นั่งลุ้นกันว่า พอถึงคาบนี้ อาจารย์ดองจะมีเทคนิกอะไรมาสอนน้า...วันนี้