|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
14 มิถุนายน 2553 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำว่า" แต่งงาน "
ในฐานะผู้ชายดีๆ ที่หายากคนหนึ่ง ผมรู้สึกเห็นใจสตรีเพศจริงๆครับ
ช่วงเวลาในการเลือกคู่ของเธอทั้งหลายช่างสั้นยิ่งนัก เพราะช่วงอายุขัย
ของวัยสาวเริ่มผลิบาน เมื่อประมาณ 13 ปี แล้วมาสุดเขตแดนเมื่อวัย
สามสิบ
วันเกิดครบรอบ 30 จึง เป็นตัวเลข ! แห่งความสะเทือนขวัญ
ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก
หลาย คนไม่อยากพูดถึง คนอื่นก็ไม่ควร
เอ่ยปากด้วย
ถือ เป็นมารยาทสังคมอย่างหนึ่ง ยกเว้นพวก มีวาจา
เป็นอาวุธ ที่ชอบถามว่า ' ปาอะไรเอ่ยที่ผู้หญิงกลัวที่สุด
' เฉลย ' ปาเข้าไปสามสิบยังไม่มีผัว '
ใครดันถาม มันผู้นั้นสมควรตาย
ตอนเรียนหนังสือเป็นนักเรียนนักศึกษา คุณพ่อคุณแม่ก็สอนนักสอนหนา
ว่า ' อย่าริรักในวัย เรียน '' ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดี จบแล้วค่อยมีแฟน '
ทั้งๆ ที่ไอ้ตอนเรียนหนังสือมีโอกาสพบปะเพศตรงข้ามมากหน้าหลายตา
ก็หาได้สนใจไม่ เป็นคนประเภท ' รักไม่ ยุ่ง มุ่งแต่เรียน ' ทุ่มเทชีวิตให้
แก่การศึกษา เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชาเป็นเครื่องหา เลี้ยงชีพสำหรับตน
หลังจบการศึกษา ประกอบสัมมาอาชีวะ ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาว่าง
เลือกสรร ควานหาผู้จะมาเป็นเจ้าบ่าวในอนาคต ตั้งสเปกว่าต้องได้แฟน
หนุ่มประเภท ซูเปอร์เพอร์เฟคอย่างวิลลี่ แมคอินทอชหรือจอห์นนี่
แอนโฟเน่ หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องมาดแมนแฮนซั่มหล่อล่ำดำขรึมถึง
จะได้มาตรฐาน
ไอ้ประเภทหุ่นอัฟริกา หน้าติมอร์ อย่าได้สะเออะ
หน้ามาให้เห็น
ไม่มีทางได้แอ้มหรอก
จากวันเป็นเดือน - จากเดือนเป็นปี ความรักไม่มีวี่แววคืบหน้าแม้วันเวลา
ผ่านไป ....เพราะที่ทำงานทั้งห้องมีผู้ชายอยู่แค่ 5 คน - เจ้านายก็ !
มีเมียแล้ว
ไม่อยากตกเป็นภรรยา บุญธรรม สองคนดันเป็นเกย์
อีกคนยังลังเลอยู่ว่าจะเป็นดีหรือเปล่า
คน สุดท้ายเป็นชายแท้
แต่กำลังถูกแย่งตัวระหว่าง เกย์สองคนอยู่ ไม่อยากเข้าไปเป็นมือที่สาม
นั่งรถ มาทำงาน ก็สองชั่วโมงครึ่ง กลับอีกสองชั่วโมงสี่สิบนาที กลับถึง
บ้าน หมดสิ้นกำลัง ขอนอนเอาแรงก่อน .........
ขณะที่งีบหลับอย่างสนิท ภาพในความฝันที่เธอเห็นคือ สถาบันการศึกษา
ที่เธอจบมา
แหล่งที่มีเพศตรงข้ามชุกชุม เธอหวนรำลึกนึกถึงผู้ชาย
ดีๆ ที่เขาเคยอุตส่าห์มาเฝ้าตามจีบ ตามง้อตามตื้อแล้ว เราเล่นตัวจนเคย
ตัว ในที่สุดผลประโยชน์ตกอยู่ที่เพื่อนสนิท เป็นที่เรียบร้อย
แหม ! ไม่น่าเลย ยิ่งคิดยิ่งเสียดายจริงจริ๊ง
ตื่นพอดี เจอโลกแห่งความ
จริง ดำเนินชีวิตไปแต่ละวัน ยิ่งเข้าหน้าหนาว ซองสีชมพูกลิ่นหอมๆ
จากเพื่อนๆ เริ่มทยอยมา ตามหลังซอง กฐินซองผ้าป่าที่เพิ่งหมดฤดูกาล
พอไปในงาน ดันเจอคำถามสะกิดใจอีกว่า ' เมื่อไรจะถึงคิวแจกการ์ด
ของตัวบ้างล่ะ '... ' โถ ! การ์ดแต่งงานน่ะพิมพ์เสร็จแล้ว เหลือแต่ชื่อ
เจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้เลือก ว่าจะเป็นใครเพราะครั้งนี้เขาเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง
ใหม่ ยังงงๆ เรื่องปาร์ตี้ลิสต์อยู่เลย 'เอ๊ะ
เกี่ยวอะไรกัน !
ในใจก็คิดว่า
' นี่มัน ไม่ดียังไง หนักกระบาลใครรึเปล่า 'เคยตั้งคำ ถามกันไหม
ว่าทำไมต้องแต่งงาน ( กันด้วย !)
คำตอบจากเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้วหรืออยากจะแต่งงานอาจมีหลากหลาย
' อยู่คนเดียวมันว้าเหว่ อยากมีใครสักคนไว้แก้เหงา '
รายนี้เห็นผู้ชาย
เป็นตัวคลายเหงา
' รายได้ไม่พอใช้ หาคนช่วย ( หาเงิน ) '
ผมกลัวมาช่วยผลาญเงิน
มากกว่า
' อยากมีลูก ก็ต้องหาพ่อก่อนสิ '
เกิด ได้ลูกแล้วจะทิ้งพ่อรึเปล่าเนี่ยะ
' โรงงานพร้อมแล้ว ขาดผู้ประกอบการ '
เจ้าของคำตอบ กำลังหาผู้
ร่วมลงทุน ฯลฯ อันว่า ' ชีวิตคู่ ' อยู่ไปเพื่อสิ่งใด ? ชีวิตคู่ คือ การเติม
เต็มซึ่งกันและกัน ดังนั้นเมื่อมีชีวิตสมรสแล้ว ครึ่งหนึ่งของ ชีวิตเรา
จะหายไป ในส่วนที่ขาดจะมีครึ่งชีวิตของอีกฝ่ายมาเติมแต่งแห่ง พื้นที่
ว่างนั้น ขณะที่ครึ่งชีวิตของเราที่หาย ก็มิได้สูญสลายไปไหน มันก็ไป
เติมที่ว่าง ของคู่เรานั่นเองจุดมุ่งหมายของ ! การแต่งงานคือ การใช้ชีวิต
คู่ให้มีความสุขมากขึ้นและมีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเป็นสามีภรรยาแล้วต้องมี
ความสุขมากกว่าตอนอยู่คนเดียว ถ้าตอนอยู่ด้วยกันแล้ว มีแต่ความทุกข์
ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ก็ไม่รู้ว่า จะแต่งงานไปหาพระแสงดาบคาบ
ค่ายที่ไหน
อยู่คนเดียว มันส์กว่า ชีวิตคู่ต้องเกื้อกูลกันและกัน ความ
ก้าวหน้าของสามี ภรรยาต้องมีส่วน อย่างน้อย ก็ปลอบใจในยามที่สามี
เครียดจากการงาน ภรรยาถ้าไม่คิดเอาดีในทางโลกก็เจริญในทางธรรม
กำลัง ใจต้องได้จากสามีเช่นกัน อย่างน้อยก็อย่าหาทุกข์มาสุมเพิ่ม
ถ้าคู่รักของเราประกอบมิจฉาอาชีวะ ติดเหล้า เล่นการพนัน โกงบ้านกิน
เมือง ชีวิตอีกฝ่ายก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะฉะนั้นเวลาเลือกแฟน
แทนที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องรูปร่างหน้าตา ฐานะการเงิน ยี่ห้อรถเก๋ง
ที่ใช้อยู่ ฯลฯ เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขสองข้อที่จำง่ายๆ คือ
หนึ่ง - สุขใจยามอยู่ใกล้ชิด สอง - คู่ช่วยคิดชีวิตก้าวหน้า
เพราะชีวิตคู่คือการ เติมเต็มชีวิตแก่กันและกัน หาใช่เป้าหมายเพื่อการ
เสริมเพิ่มความเสียว เพราะอยู่คนเดียวก็เสียวได้ ไม่ง้อใครให้เสียเวลา
ไม่เสียชาติเกิดหรอกครับ ถ้าคุณจะใช้ชีวิตเป็นโสดถือคติประจำใจว่า
' อยู่เป็นโสด ดีกว่ามีผัวเลว '
บทความ.................. โดย นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล
.....................................................
ขอบคุณภาพประกอบจาก INTERNET
ที่มา................FWD.MAIL
Create Date : 14 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 12 สิงหาคม 2553 4:58:14 น. |
|
3 comments
|
Counter : 778 Pageviews. |
|
|
|
โดย: nootikky วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:10:33:19 น. |
|
|
|
โดย: niki niki IP: 222.123.168.46 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:11:13:25 น. |
|
|
|
โดย: LoveTurJang วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:11:46:51 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|