ตุลาคม 2559

 
 
 
 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เปิดห้องคุยสบายๆสไตล์หนุ่มร้อยปี (4/1)


เมื่อวานนี้ (11 ตุลาคม 2559) เขียนเล่าเรื่องการสะสมหนังสือไปตอนหนึ่งแล้ว คิดว่ายังมีเรื่องน่าเล่าให้อ่านกันอีก วันนี้จึงมาเขียนให้อ่านกันอีกตอนหนึ่ง ถ้ายังไม่ครบถ้วนกระบวนความก็จะเขียนตอนต่อไปให้อ่าน จนกว่าจะหมดเรื่องราวที่จะเขียน หรือจนกว่าจะนึกเรื่องอะไรไม่ออก

ผมจำได้ว่าหนังสือเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตผม เมื่อตอนที่ผมเรียนชั้นประถมปีที่ 4 ประมาณ พ.ศ. 2492 โรงเรียนประชาบาลบ้านบางม่วง หมู่ที่ 8 ตำบลบางช้าง อำเภอสามพราน นครปฐม มีครูประจำชั้นที่มาใหม่ชื่อ ครูสมบัติ มาสมบูรณ์ ครูท่านนี้เป็นนักอ่านหนังสือ และยังเอาหนังสือที่ท่านมีมาให้นักเรียนในชั้นอ่านด้วย หนังสือที่ผมอ่านตอนนั้คือคือ หนังสือเทพนิยาย นิทานแสนสำราญ แต่งโดย เสรี เปรมฤทัย ราคาขายหน้าปกเล่มละ 1 บาท นับว่าแพงมากนะสมัยเมื่อ 67 ปีมาแล้ว

เสมือนเป็นยาเสพติดสำหรับผมที่ได้อ่านหนังสือเหล่านี้ ที่นี้จะทำยังไงเพราะคุณครูท่านไม่ได้เอาหนังสือมาให้อ่านบ่อยๆ เหมือนผมจะโชคดีที่ผมรู้จักคนใกล้บ้านคนหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงอายุมากกว่าผม ที่บ้านของเธอมีหนังสืออยู่สองสามตู้จำนวนประมาณร้อยกว่าเล่ม นัยว่าเป็นของพี่ชายเธอที่รับราชการอยู่กรุงเทพ หนังสือเหล่านี้เป็นหนังสือประเภทสารคดี ที่จำได้เป็นหนังสือแต่งโดย พล.ต.หลวงวิจิตรวาทการ เป็นหนังสือสารคดีประเภทจิตวิทยา ที่เป็นหนังสือประเภทนวนิยายก็มีบ้าง เช่น พานทองรองเลือด เป็นต้น แต่ผมไม่ค่อยชอบอ่านมากนัก ผมอ่านหนังสือเกือบทุกเล่มที่บ้านนี้ ยอมรับว่าอ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ก็อ่านไปเพราะใจมันชอบอ่านหนังสือเสียแล้ว

จากการเป็นนักอ่านหนังสือ(ฟรี)ก็พัฒนามาเป็นนักซื้อหนังสืออ่าน ช่วงนี้เรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนนาคประสิทธ์ ซึ่งอยู่ใกล้ตลาดสามพราน มีร้านขายหนังสืออยู่เพียงร้านเดียว เจ้าของร้านชื่อ ตาบัว ผมเริ่มซื้อหนังสือชุดแรกๆเป็นหนังสือชุดสามเกลอ พล นิกร กิมหงวน แต่งโดย ป. อินทรปาลิต หนังสือชุดสามเกลอเป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมจากนักอ่านในสมัยนั้นมาก ต่อมาก็ชุดเสือทั้งหลาย เช่น เสือดำ เสือใบ เสือฝ้าย เสือมเหศวร ผู้แต่งก็คือ ป.อินทรปาลิต เช่นเดิม

รวบรัดตัดความผมก็กลายเป็นนักซื้อหนังสือไปตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยม เมื่อทำงานมีรายได้ประจำแล้วยิ่งซื้อหนังสือมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นหนังสือประเภทสารคดี ประวัติศาสตร์ นิตยสาร ฯลฯ ซื้อมาถึงยุคหนังสือประเภท How To ซึ่งได้รับความนิยมในยุคประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา

มาหยุดซื้อหนังสือโดยสิ้นเชิงเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา เพราะสายตาเริ่มมีปัญหาอ่านหนังสือไม่ค่อยชัด และหนังสือที่ซื้อสะสมมาก็มีหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน หรืออ่านยังไม่จบ

หลายปีที่ผ่านมาแม้ผมจะหยุดซื้อหนังสือแล้ว ผมก็ยังได้รับหนังฟรีปีละหลายเล่ม เป็นหนังสือที่น่าสนใจและน่าอ่านมาก อาทิ โอวาทสี่ ของท่านเหลี่ยวฝาน นิตยสารของหน่วยงานต่างๆ เช่นหอภาพยนตร์ ฯลฯ เป็นต้น






Create Date : 13 ตุลาคม 2559
Last Update : 13 ตุลาคม 2559 11:36:12 น.
Counter : 1090 Pageviews.

1 comments
  
สวัสดีค่ะ
เจอบล็อกนี้โดยบังเอิญ ชอบตรงที่ชอบอ่านหนังสือค่ะ
เพราะตัวเองก็เริ่มอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก แม่สะสมหนังสือ
ไว้มากมายเต็มบ้าน ลูกๆก็เลยติดนิสัยชอบอ่านไปด้วย พอโต
มีงานทำมีเงินเดือนแล้ว ก็เริ่มสะสมหนังสือ จนเดี๋ยวนี้มีหลายตู้
ตู้แล้ว บางเล่มก็อ่านแล้วอ่านอีกไม่รู้กี่ครั้ง ความที่อ่านหนังสือ
มากโดยไม่เลือกประเภท ทำให้นึกอยากเขียนกับเขาบ้าง เอา
เวลาว่างหลังเลิกงานมาเขียนนิยายบ้าง ไดอารี่บ้าง มีความ
สุขกับการเขียนและอ่านค่ะ ดีใจที่ได้พบคนชอบอ่านหนังสือ
เหมือนกัน
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 13 ตุลาคม 2559 เวลา:22:50:27 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนุ่มร้อยปี
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



บล็อกนี้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 โดย ชายไทยวัยสูงอายุ มีวัตถุประสงค์ในการบันทึกและนำเสนอเรื่องราวต่างๆแบบครอบจักรวาล อาทิ ภาพยนตร์ ดนตรี รายการทีวี หนังสือน่าอ่าน อาหารน่ากิน ท่องเที่ยว สะสมสิ่งของ ตำนานชีวิตบุคคลน่าสนใจ รู้ไว้ใช่ว่า จิปาถะ
ฯลฯ เป็นต้น คำขวัญประจำบล็อก ประสบการณ์ชีวิตที่ดีในอดีต คือทรัพยากรที่ทรงคุณค่าในปัจจุบัน คำขวัญประจำตัวเจ้าของบล็อก "อายุเป็นเพียงตัวเลข" บรรณาธิการบริหารบล็อกคือ หนุ่มร้อยปี บล็อกนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ท่านใดเห็นว่าข้อเขียนหรือภาพประกอบในบล็อกนี้มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ได้ แต่โปรดอ้างอิงชื่อบล็อกนี้ด้วย จักขอบคุณยิ่ง