Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 

# 33 :: Discourse and the Translator : Basil Hatim and Ian Mason :: [RBC 2014]









:: Discourse and the Translator : Basil Hatim and Ian Mason ::



นักเขียนหรือผู้เขียนข้อเขียนต่างๆ ถือว่าเป็นผู้สร้างตัวบทด้วยการร้อยตัวอักษรขึ้นมาเพื่อสื่อความคิด โลกทัศน์ และอารมณ์ความรู้สึก ไปยังผู้อ่าน ดังนั้นจึงถือได้ว่า ข้อเขียนที่สร้างขึ้น ประกอบไปด้วย "ความหมายอย่างตั้งใจให้เกิด"  และไม่ใช่แค่ความหมายซึ่งสื่อออกมาจากเฉพาะตัวคนเขียน แต่รวมถึงความหมายทางสังคมที่แฝงอยู่ในตัวบทนั้นๆ ด้วย เพราะฉะนั้นผู้แปล นอกจากจะเป็นผู้ถ่ายทอดถ้อยคำจากข้อเขียนต้นฉบับแล้ว ยังถือว่าต้องเป็นผู้แปลเอาวัฒนธรรมรอบข้างผู้เขียน ความคิดในสังคมต้นฉบับ หรือแม้แต่อุดมคติส่วนตัวของผู้เขียนเองลงในบทแปลด้วย

หนังสือเล่มนี้เสนอแนะแนวทางเพื่อแปลข้อเขียนหนึ่งๆ โดยชี้ให้เห็นว่าผู้แปลในฐานะตัวกลางระหว่างผู้สร้างสารและผู้รับสารนั้น ควรคำนึงถึงสิ่งใดบ้างยามที่วิเคราะห์ข้อเขียนต้นฉบับเพื่อแปลสื่อความ (1) พินิจหาสถานะที่เหมาะสมของสารเพื่อสื่อสาร หรือ communicative transaction (2) รักษาระดับความสมมูลของความหมายให้ตรงตามเป้าประสงค์ของผู้สื่อและรับสาร หรือ pragmatics action (3) รับรองความสมมูลของตัวบทในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง หรือ semiotic interaction อย่างไรก็ดี ในแต่ละประเด็นก็จะมีแนวทางการวิเคราะห์ปลีกย่อยลงไปอีก เช่น ในหัวข้อแรก นำเสนอวิธีวิเคราะห์ register ของภาษาต้นฉบับ (เน้นไปที่ field, mode and tenor of discourse) ในหัวข้อที่สอง นำเสนอแนวทางวิเคราะห์ illocutionary structure ของตัวบท (สังเกตหา inference, effectiveness and efficiency and relevance) ในหัวข้อที่สาม มองหา intertexuality หรือความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันทางความหมายของตัวบทอื่นๆ ที่มีมาก่อนหน้าใน genre เดียวกัน หรือระหว่าง genre นอกจากนั้นแล้ว การวิเคราะห์ลักษณะของตัวบทหรือ text type ยังช่วยเสริมความเข้าใจของผู้แปลเพื่อหาเป้าประสงค์ของผู้เขียน ว่าตั้งใจให้ตัวบทนั้นๆ เป็นข้อเขียนประเภทใด ดังนี้ก็จะช่วยให้ผู้แปลเข้าใจบริบทได้ดียิ่งขึ้น

ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นการเสนอแนวทางวิเคราะห์ตัวบทร่วมกับบริบท หนังสือยังเสนอแนวทางวิเคราะห์แต่เฉพาะตัวบทไว้อีกหลายประเด็น เช่น prose design (ทั้งนี้ต้องดูไปถึง rhetorical purpose, purpose of translation and global pattern) และ texture (เนื้อความที่ร้อยเข้ามาเป็นตัวบทนั้นเป็นสารัตถะเดียวกันหรือไม่ หรือ cohesion and coherence แก่นและกระพี้ของตัวบทเป็นอย่างไร หรือ theme-rheme) ทั้งนี้เมื่อชำแหละตัวบทออกมาเป็นชิ้นๆ แล้วก็จะเห็นจุดที่ควรเน้นยามที่ลงมือแปลนั่นเอง

อย่างไรก็ดี ประเด็นที่หนังสือเสนอ ถ้านำไปปฏิบัติจริงคงแปลงานไม่เสร็จง่ายๆ เนื่องจากต้องวิเคราะห์กันอย่างละเอียดถี่ยิบ (คำด้านบวก) หรือ ต้องคิดเล็กคิดน้อยกันทุกประโยค (คำด้านลบ) ทั้งนี้ คิดว่าคนแปลอะไรก็แล้วแต่คงแปลตามสามัญสำนึกหรือ world knowledge (shared assumptions) ที่ตนเองมีอยู่แล้วตามประสบการณ์ มากกว่าที่จะวิเคราะห์ลงลึก ข้อเสนอข้างต้นนี้น่าจะไว้ใช้ในการประเมินบทแปลต่างๆ หรือใช้ในการวิจัยตัวบทมากกว่า เพราะทั้งนี้ทั้งนั้น การจะเลือกแปลให้ออกมาเป็นแบบไหน ก็คงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคนแปลเองนั่นแล


ความชอบ: 


Hatim, B. & Mason, I. (1990). Discourse and the Translator. New York: Longman.




Reading Bingo Challenge 2014







หนังสือเล่มนี้ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก จับใส่ช่อง "A book of non-fiction" ไปเลย


#1 [A best-selling book] : Angels and Damons by Dan Brown
#2 [A book based on a true story] : Gweilo - A Memoir of a Hong Kong Childhood by Martin Booth
#3 [A second book in a series] : Child of All Nations by Pramoedya Ananta Toer
#4 [A book with a blue cover] : Half Blood Blues by Esi Edugyan
#5 [A book of short stories] : The Progress of Love by Alice Munro
#6 [A book with one-word title] : Footsteps by Pramoedya Ananta Toer
#7 [A book with more than 500 pages] : Kane & Abel by Jeffrey Archer
#8 [A book with a number in title] : Fahrenheit 451 by Ray Bradbury
#9 [A book that became a movie] : The Great Gatsby by F. Scott Fitzgerald
#10 [A funny book] : Then We Came to the End by Joshua Ferris
#11 [Free square] : The Time Keeper by Mitch Albom
#12 [A book with non-human characters] Luka and the Fire of Life by Salman Rushdie
#13 [A book that is more than 10 years old] House of Glass by Pramoedya Ananta Toer
#14 [A book set on different continent] The Songlines by Bruce Chatwin
#15 [A book your friend loves] The Secret History by Donna Tartt
#16 [A book you heard about online] Maya by Jostein Gaarder
#17 [A book by a female author] February by Lisa Moore
#18 [A book that scares you] The Angel's Game by Carlos Luiz Zafon
#19 [The first book by a favorite author] The Kite Runner by Khaled Hosseini
#20 [A book written by someone under thirty] Burial Rites by Hannah Kent
#21 [A forgotten classic] Oliver Twist by Charles Dickens
#22 [A book with a mystery] Gone Girl by Gillian Flynn
#23 [A book published this year] The Ocean at the End of the Lane by Neil Gaiman
#24 [A book of non-fiction] Discourse and the Translator by Basil Hatim and Ian Mason






 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2557
7 comments
Last Update : 7 พฤษภาคม 2557 8:42:34 น.
Counter : 1268 Pageviews.

 

แล้วก็เหลืออีกแค่ช่องเดียวก็จะครบแล้ว โอ้แม่เจ้า!! พี่บอยน์นี่อ่านเก่งจริงๆ

 

โดย: ปีศาจความฝัน 7 พฤษภาคม 2557 16:37:01 น.  

 

อีกเล่มเดียว!!!

 

โดย: jackfruit_k 7 พฤษภาคม 2557 19:17:51 น.  

 

ลุ้นๆ กำลังอ่านเล่มสุดท้ายพอดีครับ

 

โดย: Boyne Byron 7 พฤษภาคม 2557 22:49:21 น.  

 

น้องบอยน์สุดยอดมากค่ะ ไม่แปลกใจว่าทำไมหยิบเล่มนี้มาอ่าน อิอิ

 

โดย: Sab Zab' 8 พฤษภาคม 2557 13:57:51 น.  

 

แวะมาทักทายยามบ่ายครับพี่บอยน์ หมดตารางนี้แล้ว เตรียมไปบิงโกต่ออีกตารางเลยนะครับ อิอิ

 

โดย: ปีศาจความฝัน 9 พฤษภาคม 2557 15:33:53 น.  

 

จบตารางนี้ก็พอละคราบ อีกอันไม่เล่นดีกว่า มันตีกรอบเราเกินไป 555 ทีนี้จะได้อ่านอะไรที่อยากอ่านนอกกำหนดแล้ว

 

โดย: Boyne Byron 9 พฤษภาคม 2557 22:22:20 น.  

 

แวะมาทักทายครับผม งั้นก็จะรออ่านรีวิวเหมือนเดิมนะครับพี่บอยน์

 

โดย: ปีศาจความฝัน 16 พฤษภาคม 2557 17:50:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Boyne Byron
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Friends' blogs
[Add Boyne Byron's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.