น้อยใจนาย อยากได้รับการยอมรับ
สุภาพสตรีท่านหนึ่งมาปรึกษาผมเรื่อง อยากลาออกจากงาน เธอเป็นคนมีความสามารถสูง มีความรับผิดชอบดี เป็นคนเก่ง แต่ด้วยความเก่งของเธอ ทำให้เกิดความคับข้องใจบางอย่างจนอยากลาออกจากงาน พอได้พูดคุยสักถามก็ได้ความว่า เธอรู้สึกไม่พอใจที่ไม่ได้รับการยอมรับจากนาย ดูนายพอใจเพื่อนมากกว่า ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนรับผิดชอบงานคนเดียว
เธอไม่พอใจนาย มองว่านายไม่เข้าใจ ไม่ฉลาด ไม่ค่อยรู้งาน แต่ชอบคนประจบเอาใจ ซึ่งตัวเธอเองทำไม่ได้
โดยรวมๆ เกี่ยวกับงาน เธอก็พอใจในลักษณะงาน แต่ไม่พอใจคนบางคนเท่านั้น
ท่านผู้อ่านเคยมีประสบการณ์ทำนองนี้หรือเปล่าครับ ผมเองยอมรับว่าเคยและความรู้สึกนี้บั่นทอนกำลังใจในการทำงานมาก ทั้งๆ ที่ตัวเราก็มีความสามารถแต่ก็ไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ มัวแต่เอาจิตใจคิดแต่เรื่องเหล่านี้ อันที่จริงปัญหาเกี่ยวกับเจ้านายและลูกน้อง เป็นปัญหาคู่กับการทำงาน ที่ใดมีงาน มีเจ้านาย มีลูกน้อง ก็ย่อมจะต้องมีปัญหาทำนองนี้แน่นอน แต่ถ้าลองสังเกตดูสิ่งที่สุภาพสตรีท่านนี้มองว่าปัญหามาจากภายนอก มาจากคนอื่น อยากให้คนอื่นเปลี่ยนแปลง ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ก็จะหนีไปจากปัญหานั้น ซึ่งก็เป็นวิธีแรกๆ ที่เราทั่วๆ ไปก็ทำกัน แต่ว่าในอนาคตกับเจ้านายคนใหม่ เธออาจจะต้องรู้สึกแบบนี้อีก และต้องหนีอีกไปเรื่อยๆ ไม่ว่าอันที่จริงแล้ว เธอกำลังหนีอะไรกันแน่ หนีเจ้านาย หนีปัญหา หรือว่าหนีความรู้สึกของตัวเอง
คนไทยเรามักจะเรียกขานกันเหมือนกับญาติหรือคนในครอบครัว เช่น เรียกพี่ น้อง ลุง ป้า เป็นต้น และในด้านหนึ่งเราก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ มีความสัมพันธ์คล้ายๆ กับเป็นญาติพี่น้องกันจริงๆ แม้จะอยู่ในที่ทำงาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้านาย เรามักจะมองว่ามีอำนาจมาก เป็นผู้อุปถัมภ์ ให้คุณให้โทษได้ ซึ่งเหมือนกับเป็นพ่อหรือแม่ของเรานั่นเอง เมื่อเส้นแบ่งของความสัมพันธ์ เริ่มปะปนกับภาพของความสัมพันธ์ในครอบครัว ก็เป็นไปได้ว่าความรู้สึกเดิมๆ ความคาดหวังเดิมๆ และปฏิกิริยาเดิมๆ ที่เคยใช้กับครอบครัวของเรา ก็จะกลับมาปรากฏได้ในที่ทำงาน
ในกรณีของสุภาพสตรีท่านนี้เธอเป็นลูกคนกลาง และมักจะมองว่าพ่อแม่ไม่ให้ความสำคัญ เป็นลูกที่ถูกลืม ต้องการให้พ่อแม่มองเห็นตัวเธอบ้าง ในขณะเดียวกันก็แอบต่อต้านพ่อแม่อยู่ในใจมาตลอด ว่าพ่อแม่ชอบบังคับให้เธอคิด และทำตามอย่างที่พ่อแม่ต้องการโดยไม่ค่อยมีเหตุผล เธอเองก็เคยทำงานมาหลายที่ และก็มีเรื่องจะต้องชนกับเจ้านายหรือหัวหน้ามาตลอด ดูเหมือนประวัติศาสตร์จะเริ่มซ้ำรอยอีกแล้ว เธอเองก็เริ่มแปลกใจเมื่อเห็นชีวิตตัวเองชัดเจนขึ้น ปัญหาใหญ่ขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่เจ้านายจะเป็นอย่างไร แต่อยู่ที่ตัวเธอยังไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ยังต้องการต่อต้านเจ้านาย เพราะรู้สึกไม่ยุติธรรม ต้องการให้นายรู้สึกบ้าง (คล้ายๆ ต้องการแก้แค้นเล็กๆ) ยังยอมรับไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอเริ่มรู้ตัวมากขึ้นเวลาที่จะรู้สึกต่อต้านนาย และรู้ตัวขึ้นว่าการที่จะเอาเวลาในชีวิตมาคิดต่อต้านนาย ทำให้เธอต้องสูญเสียหลายอย่าง เช่น สูญเสียความสัมพันธ์ ความสงบในใจ เสียเวลา เสียอารมณ์ แก่เร็ว และอาจจะสูญเสียงานที่ตัวเองรัก
สำหรับเบื้องต้น ผมก็ได้แนะนำให้เธอ แยกแยะให้ชัดเจนว่าที่นี่คือที่ทำงาน ไม่ใช่ที่บ้าน เธอมาเพื่อทำงานตามความสามารถของตนเอง ไม่ได้มาเพื่อให้เจ้านายหรือใครๆ มาคอยชื่นชม และที่สำคัญ แยกแยะให้ได้ว่าเขาคือเจ้านาย เป็นบทบาทหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของที่ทำงาน เขาไม่ได้เป็นตัวแทนของพ่อหรือแม่ได้ เขาก็เป็นคนคนหนึ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบเหมือนกับตัวเอง และลองลดความคาดหวังที่มีกับเจ้านายลง ในขณะเดียวกันก็ขอให้ตระหนักในความสามารถของตัวเอง และชื่นชมตัวเองมากๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องให้ใครเห็น เพราะเราโตพอที่จะพิจารณาตัวเองได้ ให้รางวัลตัวเองบ้างตามโอกาส ซึ่งเธอก็พอจะเข้าใจได้ในเบื้องต้น
ผมได้พบกับเธอในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา เธอก็บอกว่ายังอดหงุดหงิดใจเหมือนเดิมไม่ได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดอยากออกจากงานแล้ว แต่ในอนาคตเธอคิดว่าถ้าต้องการจะเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับงาน ก็คงจะมาจากความต้องการของตัวเองจริงๆ ไม่ได้มาจากการโทษว่าคนอื่น เธอรู้สึกว่าเธอรับผิดชอบชีวิตของตัวเองมากขึ้น
ข้อมูลโดย : //www.cheewajit.com ที่มา : //www.raidai.com ภาพจาก : //www.inmagine.com/pan004/pan004050-photo
Create Date : 27 มิถุนายน 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 27 มิถุนายน 2553 19:44:41 น. |
Counter : 1309 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณนะค่ะ
ที่นำมาให้อ่าน