พระศาสดาวัดบวรนิเวศ
พระศาสดา วัดบวรนิเวศวิหาร พระศาสดามี 3 องค์ คือ 1.พระศาสดา พระประธานพระวิหาร วัดบวรนิเวศวิหาร 2.พระศาสดา พระประธานพระอุโบสถ วัดสุวรรณาราม 3.พระพุทธศาสดา พระประธานศาลาการเปรียญ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระศาสดาวัดบวรนิเวศ เป็นพระศาสดาที่คนรู้จักมากที่สุด เพราะเป็นพระพุทธรูปในชุด พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศาสดา พระศาสดาจึงมีประวัติการสร้างเช่นเดียวกับพระพุทธรูปสำคัญทั้งสอง สำหรับนามพระศาสดาวัดบวรนิเวศนี้ ตามหนังสือ"ตำนานพระพุทธชินราช พระพุทธชินศรี พระศรีศาสดา" พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเรียกพระศรีศาสดา ซ้ำในที่บางแห่งทรงเรียก พระพุทธศรีศาสดา ก็มี แต่"ตำนานวัดบวรนิเวศวิหาร" พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญานวโรรส ทรงเรียก พระศาสดา และวัดบวรนิเวศก็ใช้นามพระศาสดาอยู่ในปัจจุบัน พระศาสดาสถิตในพระวิหารทิศใต้ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองพิษณุโลก จนถึงรัชกาลที่ 3 เจ้าอธิการวัดบางอ้อยช้าง นนทบุรี ได้ขึ้นไปพิษณุโลก อัญเชิญพระศาสดาลงมา จะมาไว้ที่วัดบางอ้อยช้าง ครั้นเมื่ออัญเชิญลงมา สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ ครั้งยังเป็นเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ (ซึ่งใหญ่กว่าเจ้าอธิการวัดบางอ้อยช้าง) ทราบข่าว ก็จะเชิญพระศาสดาไปเป็นพระประธานวัดประดู่ฉิมพลี ที่สร้างใหม่ในคลองบางหลวง ครั้นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (ใหญ่กว่าสมเด็จเจ้าพระยาฯ) ทรงทราบก็โปรดให้เชิญพระศาสดาจะไปไว้วัดสระเกศ เพื่อประดิษฐานในมุขหลังพระวิหารพระอัฏฐารสที่ทรงอัญเชิญลงมาจากเมืองพิษณุโลกเช่นกัน แต่เมื่อสร้างพระวิหารพระอัฏฐารสแล้ว ที่มุขหลังแคบมากไม่เหมาะที่จะตั้งพระศาสดา จึงเชิญพระศาสดาไปอยู่วัดสุทัศนเทพวรารามที่ทรงสร้าง โดยประดิษฐานเบื้องหน้าพระประธานในพระอุโบสถซึ่งมีขนาดใหญ่โตที่สุดในกรุงรัตนโกสินทร์ ครั้นถึงรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริว่า พระศาสดาเคยอยู่ด้วยกันกับพระพุทธชินสีห์ บัดนี้พระพุทธชินสีห์มาอยู่วัดบวรนิเวศ พระศาสดาจึงควรมาอยู่วัดบวรนิเวศด้วยกัน จึงโปรดให้สร้างพระวิหารพระศาสดา หลังพระเจดีย์ใหญ่ แล้วอัญเชิญพระศาสดามาประดิษฐานในวัดบวรนิเวศวิหาร ตั้งแต่ พ.ศ. 2406 ในรัชกาลที่ 4 จนถึงปัจจุบัน พระศาสดาถึงจะมีชื่อเสียงรู้จักกันดี แต่เมื่อก่อนน้อยคนที่จะเคยเห็น เพราะพระวิหารพระศาสดาแทบจะปิดตาย เปิดเพียงปีละไม่กี่ครั้ง แต่ปัจจุบันพระวิหารพระศาสดาเปิดทุกวันแล้ว หมายเหตุ : วัดบางอ้อยช้าง เป็นวัดราษฎร์อยู่ในคลองอ้อมนนท์ นนทบุรี อ้อยช้างเป็นอ้อยที่ช้่างชอบกิน เคยสงสัยมานานว่า เจ้าอธิการวัดบางอ้อยช้างซึ่งเป็นวัดราษฎร์เล็กๆ ไม่มีสมณศักดิ์อะไรเลย จึงมีบารมีสามารถไปอัญเชิญพระศาสดาซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญ ออกมาจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลกได้ จนมาพบคำตอบในสาส์นสมเด็จ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงอธิบายว่า ในเวลานั้น (เมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์) พระวิหารที่ประดิษฐานพระศาสดาปรักหักพังไม่มีหลังคา พระศาสดาต้องตากแดดกรำฝนอยู่ในซากวิหารร้าง เจ้าอธิการวัดบางอ้อยช้างจึงไปอัญเชิญลงมาได้ โดยไม่มีผู้ใดห้ามปราม
Create Date : 11 มกราคม 2564 |
|
3 comments |
Last Update : 11 มกราคม 2564 14:49:52 น. |
Counter : 497 Pageviews. |
|
|
|