"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics

การปลูกต้นไม้ใหญ่ตกแต่งบ้าน : ไม้ยืนต้นที่ให้ดอก (หน้าร้อน)

การปลูกต้นไม้ใหญ่ตกแต่งบ้าน : ไม้ยืนต้นที่ให้ดอก (1)


3.ประเภทไม้ยืนต้นที่ให้ดอก

ไม้ยืนต้นส่วนใหญ่ ก็จะมีดอกเกือบทั้งหมด แต่ที่จะปลูกดูสวยงาม ก็ต้องเป็นประเภทที่ออกดอกเยอะๆ เด่น สวย อาจจะมีตลอดปี หรือมีเป็นฤดูกาลก็ได้ พวกไม้ยืนต้นดอกสวยนี่มีเยอะพอสมควร ถ้าบ้านบริเวณกว้างๆ จะแนะนำให้เลือกหาหลายๆพันธุ์ผสมกัน ปลูกสลับตามฤดูกาล เช่น

3.1 ไม้ดอกหน้าร้อน ได้แก่

1.ราชพฤกษ์ หรือ คูน หรือลมแล้ง บางครั้งเรียกชัยพฤกษ์ เช่นมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2507 รับทราบให้กำหนดเอาต้นราชพฤกษ์ หรือชัยพฤกษ์ หรือคูน เป็นต้นไม้ประจำชาติ ซึ่ง ราชพฤกษ์ ที่กล่าวถึงนี้ มีดอกสีเหลืองเป็นช่อพวงยาว ส่วนชัยพฤกษ์ จะมีดอกสีชมพู จึงไม่อยากให้เรียกว่าชัยพฤกษ์ เพราะจะทำให้สับสนกัน













ราชพฤกษ์ เป็นไม้ต้นผลัดใบ สูง 8 - 15 เมตร ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่เรียงสลับ ดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อตามซอกใบ หรือตามกิ่ง ยาว 20 - 45 เซนติเมตร มีถิ่นกำเนิดเอเชียแถบร้อน ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้งทั่วไป ออกดอกช่วงเดือน กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม จะทิ้งใบก่อนออกดอก ยิ่งถ้าแล้งมากๆ จะทิ้งใบหมดต้น แต่ถ้าเราปลูกในบ้าน ร่วมกับต้นไม้ประดับเล็กๆ ก็จะได้น้ำไปด้วย ผมจึงแนะนำให้ปลูกนอกรั้ว จะได้คุมการให้น้ำได้ง่ายกว่า



2.กัลปพฤกษ์ กัลปพฤกษ์เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-15 เมตร แตกกิ่งก้านพุ่งสู่ด้านบนไม่ค่อยเป็นระเบียบ ใบเป็นแผง ดอกมีสีชมพูแกมขาว ออกเป็นช่อตามกิ่งก้านมีกลิ่นหอม ดอกบานจะมีความกว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร ระยะเวลาการออกดอกผล ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ -เมษายน ซึ่งเป็นระยะเวลาเดียวกับการทิ้งใบทั้งหมดในช่วงต้นฤดูร้อน








คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นกัลปพฤกษ์ไว้ประจำบ้าน จะช่วยทำให้เกิดความประสบผลสำเร็จในชีวิต เพราะต้นกัลปพฤกษ์ เป็นต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ และความอิสระแห่งผล นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่าต้นกัลปพฤกษ์เป็นต้นไม้ของเทพเจ้า เพราะต้นกัลปพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม้ทิพย์ มีคุณวิเศษตามตำนานพระพุทธเจ้า ในสมัยโบราณ ดังนั้น ต้นกัลปพฤกษ์จึงเป็นไม้มงคลนาม เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดราชบุรี







การปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ควรปลูกให้ห่างบริเวณบ้านพอสมควร เพราะเป็นไม้ที่มีการแตกกิ่งก้านสาขากว้างใหญ่ ขนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1: 2 ผสมดินปลูก





ส่วนความเชื่อเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นกัลปพฤกษ์ ไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์เพราะโบราณ เชื่อว่าการปลูกไม้มีคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์ถ้าจะให้เป็นมงคลยิ่งขึ้น ผู้ปลูกควรเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือและเป็นผู้ประกอบคุณงามความดี ก็จะเป็นสิริมงคลยิ่งนัก




3.กาฬพฤกษ์ เป็นไม้ยืนต้น มีขนาดสูงประมาณ 20 เมตร ผลัดใบ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับ ช่อดอกออกตามกิ่งข้าง ดอกบานใหม่จะเป็นสีแดง และเปลี่ยนเป็นชมพู และส้มตามลำดับ ออกดอกราวเดือนกุมภาพันธ์- มีนาคม










ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ผลเป็นฝักรูปทรงกระบอก เหมาะสมกับสภาพดินทุกชนิด ทนแล้งได้ดี ชอบความชื้นน้อย ถิ่นกำเนิด ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เป็นไม้ประจำจังหวัดบุรีรัมย์




4.ชัยพฤกษ์ ด้วยความนิยมที่เราเรียกไม้ราชพฤกษ์ ว่าชัยพฤกษ์ ด้วย จึงทำให้เกิดความสับสนว่า พันธุ์ไม้นี้ควรจะเป็นชนิดใดกันแน่ ราชบัณฑิตสภาฯ ได้มีการประชุม เพื่อชำระชื่อต้นไม้ดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยกำหนดให้ชัยพฤกษ์ คือ Cassia javanica ชื่ออังกฤษเรียก Java Shower, Pink Shower Tree เป็นต้นที่มีดอกสีชมพู เมื่อเริ่มบาน แล้วเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มถึงแดงปนน้ำตาล ฝักมีขนเล็กน้อย ใช้ทำยาได้ ดังนั้น การจำง่ายๆคือ ชัยพฤกษ์ ดอกสีชมพู ส่วนราชพฤกษ์หรือคูณ ดอกสีเหลือง










ชัยพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 15 เมตร ถิ่นกำเนิด ในอินโดนิเซีย มีต้นสีน้ำตาล ทรงคล้ายร่ม ต้นอ่อนมีหนาม ใบเรียงสลับ ใบประกอบแบบขนนก ดอกช่อ ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง โดยไม่ผลัดใบ ช่อดอกยาว 5-16 ซม. สีแดงเข้มอมน้ำตาล กลีบดอกสีชมพู แล้วเปลี่ยนเป็นแดงเข้ม เมื่อใกล้โรยจะเป็นสีขาว ผลเป็นฝักหักข้อ รูปทรงกระบอก ยาว 20-60 ซม. ฝักแก่สีดำ มีเมล็ดมาก ระยะเวลาออกดอกเดือน กุมภาพันธ์ -เมษายน การขยายพันธุ์ โดยเพาะเมล็ด



5. ชมพูพันธุ์ทิพย์ เป็นไม้ต้นผลัดใบ ขนาดกลาง สูง 8-18 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ มีใบย่อย 5 ใบ ดอกเป็นช่อ ออกดอกเป็นกระจุกตามกิ่ง ดอกสีม่วงอมชมพูหรือชมพูอ่อน กลีบดอกติดกันเป็นหลอด ปลายกลีบแยกเป็น 5 กลีบ ร่วงง่าย ผลคล้ายฝัก เมื่อแก่จะแตก ผลยาว 15 เซนติเมตร เมล็ดมีปีก ปลิวตามลมได้ไกล ออกดอกราวเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน

















ถิ่นเดิมเป็นไม้พื้นเมืองของอเมริกาใต้ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร เป็นผู้นำเข้าประเทศไทยเป็นคนแรก จึงตั้งชื่อให้เป็นเกียรติกับท่าน ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด



6. เหลืองอินเดีย (หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ตะเบเหลือง) เหลืองอินเดีย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tabebuia chrysantha เป็นไม้ต้นผลัดใบ สูง 5-20 เมตร ลำต้นเป็นไม้ทรงสูง เรือนยอดรูปร่างไม่แน่นอน จะออกเป็นพุ่มๆย่อยๆ เปลือกต้นสีน้ำตาลเทา ใบเป็นใบประกอบรูปนิ้วมือ มีใบย่อย 5 ใบรูปรี ปลายใบเรียวแหลมเป็นติ่งสั้นๆ









ดอกสีเหลืองออกเป็นช่อ ช่อละ 3-10 ดอก ออกดอกเดือน มีนาคม-เมษายน มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโกตอนเหนือ ถึงเวเนซูเอล่า



7.เหลืองปรีดิยาธร มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tabebuia argentea มีดอกและใบคล้ายเหลืองอินเดียมาก เพราะ พืชทั้งสองเป็นพืชที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน คือ อยู่ในสกุล Tabebuia วงศ์ Bignoniaceae แต่เป็นคนละชนิดกัน มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือ ใบของเหลืองปรีดิยาธรเหลือบสีเงินทั้งสองด้านเห็นเด่นชัด และรูปร่างใบย่อยมีลักษณะแตกต่างกันกับเหลืองอินเดีย ส่วนเหลืองอินเดีย ท้องใบมีมีขนนุ่มรูปดาว ใบไม่มีเหลือบสีเงิน ทั้งสองชนิดมีถิ่นกำเนิดทางทวีปอเมริกาใต้ นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือน และริมทาง เหลืองปรีดิยาธร มีการนำมาปลูกตามข้างทางจำนวนมาก ตามถนนสายลาดกระบัง-มอเตอร์เวย์ ที่จะไปพัทยา จังหวัดชลบุรี ส่วนเหลืองอินเดียมีปลูกประดับทั่วไป





















เหลืองปรีดิยาธร เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงไม่เกิน 8 เมตร โตช้า แต่ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนที่ระบายน้ำดี เพราะไม่ชอบน้ำมาก ชอบแดดจัด ดอกสีเหลืองสด ขั้วดอกเหนียว ร่วงยากกว่าเหลืองอินเดีย แต่ใบก็จะไม่ผลัดหมดต้น ออกดอกราวเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม




8. หางนกยูงฝรั่ง พันธุ์ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ต่างประเทศตามชื่อ มีถิ่นกำเนิดที่ เกาะมาดาร์กัสก้า มีผู้นำเข้ามาปลูกเพื่อความสวยงามมากกว่าอย่างอื่น และปรากฏว่าเป็นพืชที่ปลูกง่ายเจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิด ขยายพันธุ์ได้ง่าย ด้วยการเพาะเมล็ด















ต้นหางนกยุงฝรั่ง เป็นพืชยืนต้นขนาดกลาง ไม้ต้นผลัดใบสูง 10-15เมตร เรือนยอดเป็นรูปร่มกว้าง กิ่งก้านของต้นแผ่ขยายออกไปอย่างสวยงาม ลำต้นมีเปลือกเรียบสีเทาเกลี้ยง ใบเล็กเป็นฝอยสีเขียว ใบไม้สดคล้ายต้นหางนกยูงไทย ใบย่อยมีขนาดเล็กจำนวนมาก ดอกมีสีแดงเป็นช่อ ออกดอกปลายช่อ มีหลายสี เช่น แดงอมส้ม สีส้ม สีเหลือง ออกดอกเดือนเมษายน – มิถุนายน ถ้าแล้งมาก เวลาดอกออกใบจะร่วงหมด มองเห็นเป็นสีแดงทั้งต้น


เรื่องไม้ให้ดอกนี่ จะมีมากหน่อย รวมทั้งภาพด้วย จึงจะขอแบ่งเป็น 3 ตอนนะครับ จะได้ไม่ยาวเกินไป โหลดดูง่ายหน่อย


TraveLArounD



ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ 1400 กว่าเรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส





 

Create Date : 09 กันยายน 2552    
Last Update : 7 เมษายน 2556 11:51:38 น.
Counter : 87685 Pageviews.  

เที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์ : Lavender Farm

เที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์ : Lavender Farm


สถานที่ : Mayfield Organic Farm
ที่ตั้ง : Banstead , Surrey , Britain


พาไปดูฟาร์มทิวลิป หลากสีสันกันมาแล้ว วันนี้มาดู ฟาร์มลาเวนเดอร์ กัน



















ที่เมือง Banstead นี่ เขามีประวัติการปลูก ลาเวนเดอร์ มานานกว่า 300 ปี และที่นี่ก็นับเป็น ฟาร์มลาเวนเดอร์ ที่ใหญ่ที่สุด ในสหราชอาณาจักร มีพื้นที่มากกว่า 25 เอเคอร์ โดยมี Brendan และ Lorna Maye สองสามีภรรยา ที่ได้ช่วยกันพลิกฟื้นฟาร์มนี้ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ถูกฝูงอีกากินต้นอ่อนกว่า 70,000 ต้นที่ได้ลงแรงปลูกไว้ นอกจากนั้นก็ยังพบกับอุปสรรคจากพวก beetle ที่คอยรบกวน สร้างความเสียหายอยู่ตลอดเวลา































ช่วงเวลานี้ จึงนับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขาทั้งสอง คือการเก็บเกี่ยวที่นับว่าเป็นรางวัลแห่งความเหนื่อยยาก














ลาเวนเดอร์ เป็นวัตถุดิบ ที่สำคัญ ในการผลิต เครื่องหอม น้ำมันหอม และสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร แม้ว่าจะไม่หลากสีสันนัก เพราะมีแต่สีม่วงสีเดียว แต่ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจ กับความงามที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวของมัน

TraveLArounD



ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ กว่า 1400 เรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส

ข้อมูลจาก
//www.dailymail.co.uk/ โดย Eddie Wrenn
//www.shareordie.in/the-lavender-farm/




 

Create Date : 08 กันยายน 2552    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2554 11:10:28 น.
Counter : 3933 Pageviews.  

Kibble Palace | Glasgow Botanical Gardens

Kibble Palace
Glasgow Botanical Gardens


Kibble Palace ไม่ใช่วังของพระราชาองค์ใด แต่เป็น greenhouse ขนาดใหญ่สำหรับเลี้ยงพืชเมืองร้อน ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1864 โดยวิศวกรชื่อ John Kibble ที่บ้านของเขาที่เมือง Coulport สถาปัตยกรรมหลังนี้ จึงมีชื่อต่อมาว่า Kibble Palace ตามชื่อของผู้สร้างนั่นเอง หลังจากนั้น Kibble Palace ก็ถูกรื้อถอนไปติดตั้งใหม่ ณ เมือง Clyde ในปีค.ศ. 1873 ให้กับ Royal Botanic Institution ที่เป็นที่ตั้งของ Botanical Gardens ที่เก็บรวบรวมบรรดาพันธุ์พืชและเฟิร์น จากทั่วโลก






























ระหว่างการปรับปรุง







เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนปัจจุบัน อาคารแห่งนี้ ก็ทรุดโทรมลงไป จนต้องมีการปรับปรุงใหม่แบบยกเครื่องกันเลย เพราะโครงสร้างเหล็กที่เจอกับความชื้นมากๆ มักโดนสนิมเล่นงาน จนต้องเสียงบประมาณปรับปรุง หลายล้านปอนด์



บรรยากาศภายใน Botanical Gardens





































ในการปรับปรุงครั้งใหม่นี้ เขาได้ปรับระบบการจัดการอาคารใหม่ ให้มีทางเข้าออกสะดวกเป็นระบบขึ้น และตัว greenhouse เอง ก็ได้มีการจัดการเรื่องการประหยัดพลังงานและยั่งยืน ระบบให้ความร้อนและเก็บน้ำฝนมาใช้สำหรับพืชที่อยู่ภายในทั้งหมด











































พันธุ์พืชที่เราอาจจะคุ้นตามากกว่าพวกฝรั่ง





























ปลาคาร์ฟก็เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก



















ความงดงามที่เปรียบราวกับพระราชวัง














การมาเที่ยวที่ Botanical Gardens แห่งนี้ จึงน่าสนใจทั้งพืชพันธุ์ต่างๆ รวมไปทั้งตัว Kibble Palace เอง ที่เป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่อนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม

TraveLArounD


ข้อมูลจาก
//www.burohappold.com/BH/PRJ_BLD_kibble_palace_botanical_gardens.aspx
ภาพจาก
//brooko.com/botanicgardens.htm




 

Create Date : 18 สิงหาคม 2552    
Last Update : 18 สิงหาคม 2552 13:38:43 น.
Counter : 1770 Pageviews.  

ศรีตรัง ต้นไม้ที่ออกดอกได้สวยมหัศจรรย์

ศรีตรัง ต้นไม้ที่ออกดอกได้สวยมหัศจรรย์

รวบรวมเรื่องต้นไม้ใหญ่ ยังไม่เสร็จ เพราะต้องค้นคว้าข้อมูลเยอะ เลยต้องหาเรื่องเบาๆ สลับฉากไปก่อน นี่ก็เป็นเรื่องสลับฉาก อีกตอนครับ

ค้นคว้ามาหลายเรื่อง ก็มาประทับใจเจ้า “ศรีตรัง” ต้นนี้แหละครับ เป็นไม้ที่มีพันธุ์มาจากต่างประเทศ เท่าที่ผมเห็นในเมืองไทย ก็ยังไม่ประทับใจมากนัก แต่ที่ดูจากในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะบ้านเดิมของเขา รู้สึกว่าสวยแบบมหัศจรรย์จริงๆ ต้นใหญ่อายุมาก จะมีพุ่มกลมใหญ่ ผลัดใบหมด แล้วออกดอกเต็มต้น สวยจนเกินคำบรรยายครับ




























































ต้นศรีตรัง (Jacaranda) หรือ แคฝอย (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Jacaranda filicifolia (Anderson) D.Don) เป็นไม้ต้นในวงศ์ BIGNONIACEAE ปลูกเป็นไม้ประดับ สูงประมาณ 8-15 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดโปร่ง เปลือกสีน้ำตาลอมขาว แตกล่อนเป็นแผ่นบางตามยาวคล้ายกระดาษ ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก 2 ชั้น เรียงตรงกันข้าม ปลายใบแหลม ดอก สีม่วงอ่อน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกเป็นช่อแบบกระจุกแยกแขนงตามกิ่งและซอกใบ ใกล้ปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 5-9 ซม. กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดสีม่วงเข้ม ผลแห้งแตกเป็นฝักสีน้ำตาลอ่อน เมล็ดมีปีกจำนวนมาก





























































ศรีตรัง เป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ จะออกดอกประมาณเดือน มกราคม-มีนาคม เป็นผลประมาณเดือน เมษายน-พฤษภาคม มีอยู่ 2 ชนิด ด้วยกันคือ
1.ชนิดที่มีช่อดอกเกิดที่ปลายยอด มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Jacaranda minosifolia D.Don
2.ชนิดที่มีช่อดอกเกิดที่ซอกใบตามกิ่งและปลายยอด มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Jacaranda filicifolia D.Don ชนิดที่นิยมปลูกกันโดยทั่วไปในประเทศไทยได้แก่ชนิดที่ 2 ( Jacaranda filicifolia D.Don )

























































ในบ้านเรา ไม่เห็นต้นที่ใหญ่และกิ่งก้านสมบูรณ์แบบนี้ อีกทั้งภูมิอากาศ ก็อาจยังไม่ถูกใจเขา อาจจะน้ำเยอะไป หรือร้อนไป ดอกจึงไม่เต็มอย่างเขา เอาเป็นว่า ดูรูปไปให้ชื่นใจก็แล้วกันครับ


TraveLArounD



ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ 1300 เรื่องแล้ว

ส่วนท่านที่ชอบเพลง background ผมได้รวบรวมเพลงไพเราะ เพลงรัก romantic และเพลงซึ้งๆ ที่หาฟังได้ยากในสมัยนี้ ไว้หลายชุด สนใจ email ติดต่อมาได้ครับที่ nana_sara1000@ymail.com

หลังจากที่ home’s lover club ที่ ning.com ต้องปิดลงไปเพราะเขาคิดค่าใช้จ่าย จึงจำต้องย้ายที่ ตอนนี้ผมเริ่มรวบรวมภาพต่างๆ ที่เกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน การจัดสวน และที่ยังไม่ได้เอามาเขียน มารวบรวมไว้ที่ facebook ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูได้นะครับ ที่ //www.facebook.com/reqs.php#!/nanasara1000?v=photos

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2552    
Last Update : 23 ธันวาคม 2553 1:28:08 น.
Counter : 20494 Pageviews.  

สุดยอดไม้ตัดแต่ง สารพัดสัตว์โลก

สุดยอดไม้ตัดแต่ง สารพัดสัตว์โลก

เขียนเรื่องต้นไม้ใหญ่ ยังไม่จบนะครับ แต่เอาภาพไม้ตัดแต่งสวยๆมาให้ชมคั่นเวลาก่อนครับ แล้วค่อยมาต่อเรื่องต้นไม้ใหญ่ ใช้เวลาเขียนหน่อยครับ ยังมีอีกหลายตอน

















































































































 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2552 21:06:08 น.
Counter : 2487 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.