สะพานเก่าในกรุงเทพฯ
สะพานเก่าในกรุงเทพฯ
ในอดีตนั้น กรุงเทพฯเคยได้รับฉายาว่า เวนิชตะวันออก ด้วยความที่มีแม่น้ำลำคลองจำนวนมาก ในกรุงเทพฯ เพื่อการเกษตร และการเดินทางติดต่อค้าขาย คลองบางแห่งก็ขุดขึ้นเพื่อเหตุผลในด้านความมั่นคง(ภาษาสมัยใหม่) ถ้าใช้ศัพท์เก่าเขาใช้ว่า เพื่อป้องกันพระนครจากข้าศึก แต่ต่อมาพาหนะหลักก็เปลี่ยนไป จากเรือกลายเป็นรถ ถนนจึงมีบทบาทที่สำคัญขึ้นตามลำดับ เมื่อถนนเพิ่มก็ต้องมีสะพานเพิ่มด้วย สะพานในกรุงเทพฯจึงค่อยๆพัฒนารูปแบบ และจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนมีมากมายเต็มไปหมด คลองเริ่มหมดความสำคัญลง ถนนเข้ามายึดครองพื้นที่ระบบคมนาคมส่วนใหญ่ไว้ได้ จนกระทั่งระบบคมนาคมทางเรือเกือบจะสูญพันธุ์ไป และชื่อของเวนิชตะวันออกก็เริ่มจางหายไป สะพานเก่าข้ามคลองมหานาค สะพานหัน ทุ่งรังสิต สะพานวัดไชยทิศ ธนบุรี สะพานหก ข้ามคลองหลอด
เมื่อผ่านกาลเวลาเหล่านั้นมาแล้วช่วงหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงก็ยังคงมีอยู่ต่อไป สะพานที่เคยยึดครองพื้นที่ในอดีต ก็เริ่มต้องเปลี่ยนแปลงสูญหายไปบ้างเช่นกัน สะพานเล็กๆ แคบๆจะอยู่ไม่ได้ เพราะการใช้งานไม่เหมาะสม ต้องรื้อถอน ปรับขยายกันไป บางแห่งก็ทรุดโทรมไม่แข็งแรง บางแห่งก็ไม่สามารถรองรับการจราจรได้พอเพียง ต้องรื้อถอน แก้ ขยายกันไป จนปัจจุบันนี้ สะพานรุ่นเก่าก็จะเริ่มสูญพันธุ์กันไปแล้วเช่นกัน จนต้องกลับมาช่วยกันอนุรักษ์กันเอาไว้ คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเห็นสะพานเก่าๆสวยๆ ก็ต้องหาดูจากรูป จากหนังสือ บริเวณคลองมหานาค-คลองบางลำพู ช่วงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ คาดว่าถ่ายจากภูเขาทอง เห็นป้อมพระกาฬอยู่ด้านซ้าย รูปบน สะพานผ่านฟ้าฯยังคงเป็นสะพานไม้เล็กๆอยู่ สะพานหัน ที่สำเพ็ง รูปที่เห็นนั้นกว่า 100 ปีมาแล้ว ได้ปรับปรุงจากสะพานหันไม้เล็กๆ มาเป็นสะพานที่มีหลังคาและร้านค้าอยู่สองข้าง หันไม่ได้แล้ว รูปแบบคล้ายๆสะพานในเวนิช
สะพานรุ่นแรกๆนั้น จะเป็นเพียงสะพานคนเดินข้ามเล็กๆ ยกสูงจากระดับน้ำ เพื่อให้เรือลอดได้ หรือถ้าสูงไม่พอให้เรือลอด ก็ต้องเปิดได้เพื่อให้เรือผ่าน ไม่ว่าใหญ่ ไม่ว่าเล็ก ก่อนนี้ผมอยู่ฝั่งธนฯ ต้องนั่งรถเมล์ข้ามสะพานพุทธฯ และต้องรถติดรอสะพานเปิดอยู่บ่อยๆ สะพานเก่าๆของเราที่หาดูไม่ค่อยได้แล้วคือสะพานไม้ที่สร้างหลังคาคลุม ที่นอกจากจะเป็นทางสัญจรแล้ว ยังใช้เป็นที่พบปะ สนทนากันอีกด้วย มักมีที่นั่งอยู่สองข้าง สะพานในสมัยต้นรัตนโกสินทร์นั้น เขามักจะสร้างให้หัน หก หรือรื้อถอนได้ง่าย เพื่อตัดเส้นทางในยามคับขันเมื่อเกิดศึกสงคราม สะพานหกแบบวิลันดาก็เป็นเทคโนโลยี่การสร้างสะพาน ที่เราเรียนรู้วิธีการจากตะวันตก สะพานมัฆวานรังสรรค์ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ
สะพานรุ่นต่อมาก็จะเป็นยุคเปลี่ยนวัสดุก่อสร้างและเทคโนโลยี่ จากไม้มาเป็นเหล็ก ในยุคนี้จะมีสะพานเหล็กที่สวยงามมากมาย เป็นสะพานที่สร้างในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ทรงสั่งทำมาจากยุโรป เป็นเหล็กหล่อ และการตั้งชื่อสะพานก็จะใช้คำว่า เฉลิม นำหน้า เป็นการใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์พระราชาทานให้ ดังนั้นตรงกลางสะพานทุกแห่ง จะมีแผ่นป้ายชื่อสะพาน และตราพระนามาภิไธยย่อ อยู่เสมอ แต่สะพานส่วนใหญ่เล็ก แคบ และรับน้ำหนักได้จำกัดสำหรับพาหนะในยุคปัจจุบัน สะพานเหล็กจึงก็ต้องแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยอีกเช่นกัน คงเหลือไว้แต่สะพานที่สร้างไว้ใหญ่จริงๆเท่านั้น ที่ยังคงเหลือรอดมาได้ คือสะพานที่สร้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหลาย
สะพานเฉลิมหล้า 56 หรือที่รู้จักกันนามสะพานหัวช้าง ปัจจุบันรื้อขยายใหม่ แต่เก็บหัวช้างไว้ประดับเชิงสะพานตามเดิม สะพานเฉลิมสวรรค์ 58 เดิมอยู่ปลายคลองหลอดด้านทิศเหนือ มีความสวยงามมาก แต่ก็เป็นเพียงอดีตไป เมื่อได้มีการสร้างสะพานพระปิ่นเกล้าฯ สะพานเจริญรัช 31 เป็นสะพานที่อยู่ตรงปากคลองตลาดติดกับโรงเรียนราชินี มีความสวยงามมากเช่นกัน ยังคงเหลือใช้งานอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมพอสมควร สะพานรุ่นสุดท้าย ก็เปลี่ยนเทคโนโลยี่อีกเช่นกัน เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่แข็งแรงกว่า กว้างขวางกว่า แต่ความสวยงามละเอียดอ่อนกลับลดลงไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังจัดว่าสวยงามพอสมควรจนมาถึงสมัยนี้ สะพานมีรูปแบบที่เรียบง่าย ไม่ค่อยสวยงาม(น่าเกลียด) ใช้งานได้ดีอย่างเดียวพอ เป็นที่น่าเสียดายที่ทั้งสะพานเก่าและลำคลองของเรานั้น ต่างตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ต้องการคนช่วยกันดูแลรักษาเยียวยา ให้อยู่ในสภาพที่ดีกว่าในปัจจุบัน ถ้าพูดกันเรื่องความเจริญนั้นเรายังตามฝรั่งเขาไม่ทัน แต่ด้านความเสื่อมนี่ เราแซงฝรั่งได้หลายช่วงตัว ไม่ว่าเขาจะเจริญปานใด เวนิชก็ยังคงเป็นเวนิช คลองต่างๆเขายังคงเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง เมืองใหญ่ๆทั้งในยุโรป และเอเชีย ต่างรักษาคูคลองอันเป็นประวัติศาสตร์ของเมือง และของชาติไว้ได้อย่างดี TraveLArounDปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ 1400 กว่าเรื่องแล้ว ส่วนท่านที่ชอบเพลง background ผมได้รวบรวมเพลงไพเราะ เพลงรัก romantic และเพลงซึ้งๆ ที่หาฟังได้ยากในสมัยนี้ ไว้หลายชุด สนใจ email ติดต่อมาได้ครับที่ nana_sara1000@ymail.com หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส ถ่ายทอดจาก สะพานเก่ากรุงเทพฯ , ศิริชัย นฤมิตรเรขการ จัดพิมพ์โดย สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ และ มรดก ฉบับที่ 3
Create Date : 06 เมษายน 2551 | | |
Last Update : 22 มิถุนายน 2555 13:21:56 น. |
Counter : 5257 Pageviews. |
| |
|
|
|