ไมเคิล แจ็กสัน “ King of Pop ”
ไมเคิล แจ็กสัน “ King of Pop ”
ข่าวช็อคโลก รุ่งเช้า วันศุกร์ ที่ 26 มิถุนายน 2552 ราชาเพลงป๊อบ 'ไมเคิล แจ็กสัน' เสียชีวิตกะทันหัน ด้วยวัยเพียง 50 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ไมเคิล แจ็กสัน ราชาเพลงป๊อบชื่อก้องโลก วัย 50 ปี เสียชีวิตแล้วอย่างกะทันหันวานนี้ (25 มิ.ย.) ซึ่งมีการสันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นว่า เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลว
สื่อต่างชาติทุกสำนักรายงานข่าวการเสียชีวิตของไมเคิล โดยรระบุว่า เขาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ ยูซีแอลเอ ในลอสแองเจลิส ภายหลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวเขาออกจากบ้านพักในเมืองเบลแอร์ ตั้งแต่เวลา 03.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เมื่อพวกเขาไปถึง ไมเคิลหยุดหายใจแล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยอาการอยู่ในขั้นโคม่า แต่ในที่สุดแพทย์ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของไมเคิลไว้ได้
ขณะที่แฟนเพลงชาวสหรัฐฯ เมื่อทราบข่าวต่างทยอยเดินทางไปรวมตัวกันด้านนอกโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ยูซี แอลเอ เพื่อรอฟังคำยืนยันการเสียชีวิตของนักร้องคนดัง และเริ่มมีการวางดอกไม้แสดงความอาลัย
หลังจากว่างเว้นจากการทัวร์คอนเสิร์ตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552 ไมเคิลได้ประกาศจัดคอนเสิร์ต ดิส อิส อิท ณ โอทู อารีนา กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยแรกเริ่มจัดเพียง 10 รอบ แต่ด้วยแฟนเพลงที่ให้ความสนใจคอนเสิร์ตนี้เป็นอย่างมาก จึงได้เพิ่มรอบเป็น 50 รอบ ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ถึง 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ประวัติ
ไมเคิล แจ็กสัน เริ่มต้นอาชีพนักดนตรีในฐานะนักร้องนำของวง The Jackson 5 เมื่ออายุได้เพียง 7 ปี และได้ออกงานเดี่ยวชิ้นแรกในอัลบั้ม Got to Be There ออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2514 ในขณะที่ยังเป็นสมาชิกของวง The Jackson 5 อยู่และมีอายุเพียง 11 ปี ไมเคิล แจ็กสันก็สามารถคว้าอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงมาครองได้มากถึง 3 เพลงฮิตแล้ว
ปี พ.ศ. 2522 มีผลงานออกมาชุด “ Off the Wall ” อัลบั้มเปิดตัวที่ทำยอดขายกว่า 20 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก ตามด้วยอัลบั้มประวัติศาสตร์ “ Thriller ”(พ.ศ. 2525) ซึ่งเป็นเจ้าของสถิติอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาลถึง 60 ล้านชุด และ “ Bad ” ในปี พ.ศ. 2530 ที่สร้างสถิติอีกครั้งด้วยการเป็นอัลบั้มที่มีซิงเกิ้ลต่างๆ ขึ้นถึงอันดับ 1 บิลบอร์ด มากที่สุด
ปี พ.ศ. 2534 ไมเคิลกลับมาพร้อมกับอัลบั้ม “ Dangerous ” ที่มีเพลง “ Black or White ” ติดอันดับ 1 ทั้งในบิลบอร์ดและชาร์ตเพลงทั่วโลก ก่อนที่จะส่งอัลบั้ม “ History ” กับเพลง “ You’re Not Alone ” ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรกในประวัติศาสตร์ที่ติดอันดับ 1 ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย และล่าสุดกับ “ Invincible ” (พ.ศ. 2544) ซึ่งทิ้งห่างจากงานชุดที่แล้วถึง 10 ปีเต็ม
หลังจากว่างเว้นจากการทัวร์คอนเสิร์ตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552 ไมเคิลได้ประกาศจะจัดคอนเสิร์ต ดิส อิส อิท ณ โอทู อารีนา กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยแรกเริ่มจัดเพียง 10 รอบ แต่ด้วยแฟนเพลงที่ให้ความสนใจคอนเสิร์ตนี้เป็นอย่างมาก จึงได้เพิ่มรอบเป็น 50 รอบ ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ถึง 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 แต่ก็ได้เสียชีวิตไปก่อนที่จะถึงเวลาดังกล่าว โดยเสียชีวิต จากอาการหัวใจวาย ในบ้านพัก และเจ้าหน้าที่ได้นำร่างไมเคิล มาช่วยยื้อชีวิต แต่ไม่ทันการที่ ศูนย์พยาบาล ใน UCLA
คอนเสิร์ตในประเทศไทย
ไมเคิล แจ็กสัน เป็นที่รู้จักของคนไทยส่วนหนึ่ง ขึ้นมาจากมีชื่อถูกอ้างถึงในเพลง ทับหลัง ของคาราบาว ในปี พ.ศ. 2531 ที่มีเนื้อร้องในท่อนแยกว่า "เอาไมเคิล แจ็กสันคืนไป เอาพระนารายณ์คืนมา" ซึ่งเป็นบทเพลงที่ได้รับความนิยมจากกระแสเรียกร้องทวงคืนทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์จากสหรัฐอเมริกา
เคยเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ต ในประเทศไทย 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในกลางปี พ.ศ. 2536 เป็นการโปรโมตปิดอัลบั้ม Dangerous กำหนดการแสดง 2 รอบ ในวันที่ 21 สิงหาคม และ 22 สิงหาคม ที่สนามศุภชลาศัย โดยทางบริษัท เทโรเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เป็นผู้จัด ซึ่งก่อนการแสดงได้มีการโปรโมตทางช่อง 3 เป็นรายการพิเศษเกี่ยวกับไมเคิล แจ็กสัน มี เมทินี กิ่งโพยม เป็นพิธีกร โดยออกอากาศในช่วงเที่ยงของวันเสาร์-อาทิตย์ อยู่นานนับเดือน
คอนเสิร์ตในครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตที่ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นจากชาวไทย และกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอยู่ช่วงหนึ่ง ถึงความเหมาะสมของการจัดแสดง เพราะบางส่วนเห็นท่าเต้นลูบเป้าของไมเคิลไม่เหมาะสมต่อวัฒนธรรมไทย และเมื่อเดินทางมาถึง ไมเคิลได้แต่งตัวแปลกๆ เมื่อลงจากเครื่องบินส่วนตัว ด้วยผ้าปิดหน้า โดยเจ้าตัวอ้างว่าได้ยินว่ากรุงเทพ ฯ มีควันไอเสียเยอะ ซึ่งส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการแสดงเห็นว่าเป็นการแสดงออกที่ดูถูกประเทศไทย อีกทั้งต้องใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมากในการแสดง และราคาบัตรที่เข้าชมก็นับว่าแพงมากด้วย คือ 500, 800, 1,000, 1,500 และ 2,500 บาท โดยคอนเสิร์ตวันแรกจบลงด้วยดี แต่ในวันที่ 22 สิงหาคม ไมเคิล อ้างว่าป่วย ขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 23 สิงหาคม แต่เมื่อมาถึงก็ขอเลื่อนไปอีก สร้างความไม่พอใจแก่แฟนๆ จนเกิดเป็นจลาจลย่อยๆ หน้าสนาม ซึ่งต้องใช้เทปเสียงของเจ้าตัวมาเปิดยืนยันว่าป่วยจริงๆ ขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 24 สิงหาคม อีกที คราวนี้เมื่อถึงวันที่ 24 สิงหาคมจริงๆ ก็สามารถจัดการแสดงได้และจบลงด้วยดี ซึ่งปรากฏการณ์คอนเสิร์ตในครั้งนี้นับเป็นการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ของนักร้องชาวต่างประเทศระดับโลกครั้งแรกของไทย และต่อมาก็ได้มีศิลปิน นักร้องต่างประเทศทยอยเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยเรื่อยๆ ตราบจนปัจจุบัน ซึ่งหลังจากเดินทางออกจากประเทศไทยแล้ว ไมเคิลก็ได้เดินทางต่อไปยังประเทศบรูไน เพื่อเปิดแสดงคอนเสิร์ตที่นั่น โดยมีสุลต่านบรูไนเป็นผู้จัด และเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี ครั้งที่ 2 คือ ในกลางปี พ.ศ. 2538 เป็นการโปรโมตอัลบั้ม History จัดแสดงที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แสดง 2 รอบอีกเช่นเคย แต่ครั้งนี้ไม่ได้รับความสนใจเท่าครั้งแรก
ในปี พ.ศ. 2542 ไมเคิลได้เผยว่า จะมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตรอบพิเศษ โดยจะจัดแสดงทั่วอเมริกาเพียง 10 ที่ ซึ่งตัวไมเคิลเองอยากจะแสดงและโชว์อีกครั้ง แต่ในการแสดงอาจจะมีการเปิดเทปในการแสดงเป็นบางช่วง เพราะตัวไมเคิลเองอาจร้องไม่ไหว และการเต้นอาจจะไม่สนุกเหมือนครั้งที่ผ่านมา เพราะไมเคิลมีอายุถึง 48 ปี ในการแสดงครั้งนี้จะเปิดการแสดงในชุด Jackson 5 ซึ่งมีการรวมตัวเหล่าพี่น้องของไมเคิล ในการแสดงจะมีเพลงแค่ 16 เพลง ในชุด Jackson 5 จะมี 6 เพลงและเพลงของไมเคิลเอง 10 เพลง คือ You Are Not Alone, Heal the World, Billie Jean, Man in the Mirror, Will You Be There, Black or White, Beat It, Stanger in Moscow, Rock with You และ Bad และจะจัดขึ้นทั่วโลกในปี พ.ศ. 2552 เพียง 9 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, อิตาลี, สเปน, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ฝรั่งเศส รวมถึงประเทศไทยด้วย ในราคาค่าตัวสำหรับการเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตถึง 20,000,000 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 650,000,000 บาท คอนเสิร์ตจะจัดขึ้นในประเทศไทยที่สนามศุภลาศัย ที่จุคนได้ถึง 70,000 คน โดยคาดว่าค่าบัตรเข้าชมจะมีราคา 1000, 2,000, 3,000, 4,000 บาทโดยประมาณ ในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2551 ไมเคิล แจ๊กสัน และพี่น้องเขาให้สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งเมื่อได้ปรากฏตัวอีกครั้งในรูปแบบคอนเสิร์ตเต็มที่ และทำให้นักข่าวตกตะลึง เมื่อสถานที่แสดงศิลปินวงอื่นๆ ยังสามารถทำได้เพียง 50,000 คน เท่านั้น แต่ในที่นี้ไมเคิลได้ทำลายสถิติทั้งหมด เพียง 1 ครั้งเท่านั้น โดยมีผู้ชม ถึง 125,000 คนเลยทีเดียว
ชีวิตส่วนตัวและเรื่องอื้อฉาว
ไมเคิล แจ็กสัน ถูกมองว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่ชอบทำตัวให้เด่นดัง และเป็นข่าวอยู่เสมอ ๆ โดยใช้ชีวิตบนความหรูหรา เกินคนธรรมดา เช่น คฤหาสถ์ส่วนตัวใช้ชื่อว่า "Never Land" โดยตั้งชื่อให้เหมือนกับดินแดนในเทพนิยายเรื่อง ปีเตอร์แพน ซึ่งในนั้นมีเครื่องเล่นเหมือนสวนสนุกอยู่จำนวนมาก อีกทั้งยังชอบเลี้ยงดูอุปถัมภ์เด็กๆ จำนวนมากเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งได้มีการตีความทางจิตวิทยาว่า ตัวไมเคิลเองมีนิสัยเหมือนเด็กที่ไม่ยอมโต นอกจากนั้นไมเคิลยังมีชีวิตที่แปลกพิศดาร เช่น มักแต่งตัวแปลกๆ อย่างตอนเดินทางมาถึงประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2536 หรือเคยมีผู้พบว่าไมเคิลแต่งตัวเป็นผู้หญิงในห้องน้ำหญิงสาธารณะ หรือการที่เปลี่ยนสีผิวตัวเองด้วยวิทยาการทางการแพทย์ จากผิวดำให้เป็นขาวซีดอย่างในปัจจุบัน หรือการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าด้วยซิลิโคน หลายต่อหลายครั้ง
เมื่อต้นปี พ.ศ. 2537 ไมเคิลได้สร้างประหลาดใจให้แก่แฟนๆ เมื่อจู่ๆ ประกาศหมั้น และแต่งงานกับ ลิซ่า มารี เพรสลีย์ บุตรสาวของเอลวิส เพรสลีย์อย่างกระทันหัน โดยทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตเช่นสามี ภรรยา ก่อนจะเลิกรากันไปในปี พ.ศ. 2539 โดยไม่มีบุตรด้วยกัน (ภายหลังไมเคิลมีบุตร 2 คนจากการผสมเทียมกับเด็บบี้ โรวว์ พยาบาลสาวใหญ่ และมีเพิ่มอีก 1 คนจากสาวผู้ไม่เปิดเผยนาม ด้วยการผสมเทียมเช่นเดียวกัน)
ไมเคิลมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับเด็กมากมาย มักปรากฏข่าวถึงการลวนลามทางเพศกับเด็กผู้ชายเสมอๆ โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2548 ไมเคิลต้องขึ้นศาลฟังคำพิพากษาเลยทีเดียว เมื่อมีคดีข่มขืนเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ปรากฏว่าศาลพิพากษาให้รอดพ้นไป รวมทั้งเคยอุ้มลูกของตัวเองซึ่งยังเป็นทารกอยู่โดยทำท่าว่าจะทิ้งลงมาจากหน้าต่างโรงแรมที่เจ้าตัวอาศัยอยู่ เพื่อทักทายแฟนๆ ที่รออยู่ข้างล่าง จนได้รับเสียงตำหนิต่อว่าอย่างหนักจากสังคม เป็นต้น
ถึงแก่กรรม
ไมเคิล แจ็กสัน ได้ถึงแก่กรรมในวัย 50 ปี ในช่วงบ่ายของวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2552 ณ โรงพยาบาล UCLA hospital (Ronald Reagan UCLA Medical Center) เวลาประมาณ 16 นาฬิกา 36 นาที ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลาประมาณ ตี 5 30นาที ในประเทศไทย โดยสาเหตุการเสียชีวิตมาจากอาการหัวใจวาย สร้างความตื่นตกใจแก่แฟนเพลงทั่วโลกเป็นอย่างมากพอๆกับการเสียชีวิตของบุคคลสำคัญอื่นๆหรือประธานาธิบดีสหรัฐเลยทีเดียว
TraveLArounD
ข้อมูลจาก จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี //th.wikipedia.org/wiki //www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=5&contentID=5240
Create Date : 26 มิถุนายน 2552 | | |
Last Update : 6 กรกฎาคม 2552 16:19:22 น. |
Counter : 792 Pageviews. |
| |
|
|
|