Group Blog
 
All Blogs
 
เรื่องธรรมดา (๑) จังหวะชีวิต

เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา (๑)

จังหวะชีวิต

เพทาย

เมื่อเดือนก่อน ผมอ่านคอลัมน์ จังหวะชีวิต ในนิตยสารโล่เงิน เฉพาะราศีมีน อันเป็นเดือนเกิดของผมได้ความว่า

" ตัวท่านเองจะมีทุกข์ใจ ร้อนใจ ไม่สงบ มีเคราะห์กรรมแต่ปางก่อนมารบกวน ทำสิ่งใดก็มักจะผิดหวัง "

พอถึงเดือนนี้ก็ทำนายว่า

" ขอให้ท่านทำบุญ สวดมนต์บูชาพระเสาร์อยู่เสมอ การงานและการเสี่ยงโชคก็ทำท่าจะดี แต่ก็อย่าเพิ่งไว้ใจ จะผิดหวังได้ง่าย ๆ ความสูญเสียยังคงมีมาจากมิตรสหายของท่าน "

ผมอ่านแล้วก็เฉย ๆ เพราะผมเชื่อตามคำ ที่พระท่านเทศน์อยู่เสมอว่า การทำดีเป็นฤกษ์ดี ดวงดาวจะทำอะไรได้ ผมเองก็เกิดมานานมากแล้ว พระเสาร์ก็คงจะเคยมาเสวยอายุหลายครั้งแล้ว เกิดอะไรขึ้นบ้างผมก็ไม่ได้จดจำ อะไรจะเกิดก็เกิด ถ้าดีผมก็ชอบ ถ้าร้ายผมก็ทนเอาไม่ว่า ดีว่าร้าย ลงท้ายมันก็ผ่านเลยไปหมด

ผมนึกของผมอย่างนี้ ขณะที่ออกจากบ้าน จะเดินทางไปตรวจสุขภาพยังโรงพยาบาล เมื่อถึงศาลาพักผู้โดยสารที่ป้ายรถประจำทาง ท้องฟ้าเพิ่งเริ่มจะสว่าง ผมรีบไปแต่เช้ามืดก็เพื่อหลีกเลี่ยงการจารจรที่แออัดขัดข้อง ผมมองไม่เห็นมีคนรอรถที่ศาลานั้น แต่เมื่อเพ่งดูที่ช่องว่างระหว่างม้านั่ง ก็เห็นชายผู้หนึ่งนอนอยู่ ไม่ทราบว่าด้วย ความเพลีย หรือความง่วง หรือความเมา เพราะเห็นแต่ขาโผล่ออกมาเท่านั้น

แต่ที่สะดุดใจวูบใหญ่ ก็คือเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อายุไม่เกินห้าขวบ ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หนูน้อยคงจะรอให้พ่อตื่น แล้วจะได้กลับไปบ้านด้วยกัน แม่คงจะรอมาตลอดคืนแล้ว

แต่ไม่ทันที่ผมจะตัดสินใจทำอะไร รถประจำทางสายที่ผมต้องการจะไปด้วย ก็แล่นเข้ามาจอดตรงหน้า มีคนลงเพียง ๒-๓ คน ผมจึงก้าวขึ้นไป แล้วเหลียวกลับมาดูข้างล่าง ทุกคนที่ลงจากรถก็เดินผ่านหนูน้อยไปอย่างเฉยเมย ไม่มีใครสนใจมากกว่าผมเลย

บนรถประจำทางคันนั้นมีคนเต็ม ทั้งนั่งทั้งยืน ผมเห็นปากกาลูกลื่นด้ามหนึ่งตกอยู่บนพื้นรถ ใกล้ ๆ กับเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ด้านข้างทางเดิน ผมจึงชี้บอก แกสั่นศรีษะว่าไม่ใช่ของแก ผมจึงบอกว่าเก็บเอาไว้เถอะ ไม่มีเจ้าของแล้วละ แกจึงหยิบขึ้นมาถือไว้อย่างไม่เต็มใจ ผมก็ทำเมินเสีย

ผมลงจากรถประจำทางที่หน้าโรงพยาบาล พอดีเห็นตู้จ่ายเงินอัตโนมัติ ตรงหน้า ธนาคาร อยู่ริมถนน คิดได้ว่าเงินในกระเป๋ามีน้อย อาจไม่พอค่ายาก็ได้ จึงหยิบบัตรเอทีเอ็มออกมา จากกระเป๋าแล้วเดินเข้าไป ผมจึงเห็นชายคนหนึ่ง ผมยาวประบ่า แต่รุงรังยุ่งเหยิง หน้าบวมฉุ ตาแดงเรื่อ ๆ นั่งกอดเข่าอยู่ที่ขั้นบันไดทางขึ้นธนาคาร ใกล้ตู้เอทีเอ็มนั้น ในอ้อมแขนมีถุงกระดาษใบหนึ่งเก่ายับเยินเต็มที

เวลานั้นสายแล้วผมจึงไม่สนใจเขาเท่าไร เมื่อกดเอาเงินออกมาจากตู้แล้วหันกลับ ก็ได้ยินเขาเรียกเบา ๆ

" ลุงครับ ขอเงินผมกินข้าวสักสิบบาทเถอะครับ "

ผมเคยชินกับการบริจาคเงินให้ขอทานอยู่เป็นประจำ เพียงแต่ให้คนละบาทสองบาทเท่านั้น แต่ผมก็ล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยความเคยมือ ได้เหรียญสิบบาทกับเศษอีก ๒-๓ อัน ผมส่งเหรียญสิบบาทให้เขาแต่โดยดี ไม่พูดว่ากระไร ไม่ได้มองด้วยซ้ำ ว่าเขายกมือไหว้ และขอบคุณหรือเปล่า

หลังจากตรวจโรคและซื้อยาเสร็จแล้วก็ใกล้เที่ยง ผมจึงหาอาหารกิน แล้วก็เถลไถลเรื่อยเปื่อยไป กลับมาลงรถที่ป้ายเก่าเมื่อบ่ายสองโมงกว่า ระหว่างที่เดินเข้าซอยหน้าบ้าน ผ่านร้านขายหนังสือเจ้าประจำ จึงแวะดูหัวข่าวหนังสือพิมพ์รายวันตามประสาคนที่สนใจข่าวสารบ้านเมือง แต่ไม่ชอบซื้อให้เสียเงิน

กำลังพลิกเพลินก็มีเสียงเรียกลุง หันไปดูข้างหลังเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง เธอชี้ให้ผมเก็บสลากกินแบ่งใบหนึ่งที่พื้นทางเท้า คงเข้าใจว่าผมทำหล่น แล้วก็เดินเลยไป โดยผมไม่ทันจะบอกว่าไม่ใช่ของผมหรอก ผมก็ลังเลที่จะหยิบขึ้นมา เหมือนกับเด็กนักเรียนหญิงบนรถประจำทางนั้นเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่รู้จะเอาไปคืนให้ใคร จึงเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ แต่อดที่จะเหลือบดูเลขท้ายไม่ได้ เป็นเลข ๘๓ ก็นึกในใจว่า เมื่องวดที่แล้ว เพื่อนข้างบ้านรุ่นน้าถึงแก่กรรมเมื่ออายุ ๘๓ ปี ผู้ที่ไปฟังสวดถูกเลขท้ายกันหลายคน คราวนี้คงไม่มีทางที่จะออกซ้ำ

เมื่อผมกลับมาถึงบ้าน แม่บ้านกำลังเปิดวิทยุฟังประกาศ ผลของการออกสลาก กินแบ่งอยู่พอดี จวนจะจบรายการแล้ว เสียงโฆษกชายประกาศว่าเจ้าหน้าที่หมุนวงล้อเพื่อออกรางวัลเลขท้าย ๒ ตัว แล้วก็มีเสียงออดตามด้วยเสียงแกรกกราก ของอุปกรณ์การออกรางวัลแซ่ด ออกมา ก็ได้ยินเสียงลูกชายร้องตะโกนลงมาจากข้างบน

" คุณพ่อครับ รับโทรศัพท์ "

ผมจึงก้าวขึ้นบันไดไปชั้นบน รับหูโทรศัพท์แล้วก็บอกชื่อไปตามธรรมเนียม ก็ได้รับ ตอบว่า

" คุณอาขา พ่อหนูเสียเมื่อคืน รดน้ำศพเย็นนี้ที่วัด......."

ผมถือหูโทรศัพท์ค้างอยู่โดยไม่ได้พูดว่าอะไร บิดาของหญิงสาวที่แจ้งข่าวร้ายนั้น เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของผม ที่สนิทสนมกันมานานหลายสิบปีปี เขาตายเสียแล้วด้วยโรคสมองเสื่อมที่เป็นอยู่นานมาก โดยที่ผมไปเยี่ยมเขาทุกปี เว้นแต่ปีนี้มัวผัดวันประกันพรุ่งอยู่จนใกล้จะสิ้นปี เขาคงเบื่อที่จะคอยผมแล้วก็ไม่รู้

เสียงผลการออกสลากรางวัลเลขท้ายสองตัวดังแว่ว ๆ หมายเลขที่ออก สามแปด

ผมนึกถึงคำทำนาย ของคอลัมน์จังหวะชีวิต ขึ้นมาในทันทีนั้นเอง.

#########

นิตยสารโล่เงิน
กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐

ถนนนักเขียน ห้องสมุดพันทิป
๑๒ เมษายน ๒๕๔๘




Create Date : 25 สิงหาคม 2550
Last Update : 20 กันยายน 2550 9:25:16 น.

Counter : 117 Pageviews. 6 comments

Add to







สวัสดีค่ะ คุณเจียวต้าย
จำกันได้ไหมคะ มิสซิสอาร์โนลด์ หายหน้าไปจากถนนนักเขียนสักพักใหญ่เลย
เพราะมัวแต่ทำงานและสร้างบล็อกตัวเองอยุ่
วันนั้นจัดห้องหนังสือยังเจอเรื่องสั้นของคุณเจียวต้ายที่ส่งมาให้อยู่เลยค่ะ

ดีใจจัง คุณเจียวต้ายมีบล็อกของตัวเองแล้ว มิสซิสอาร์โนลด์จะแวะเวียนมาเยี่ยมบ่อยๆ นะคะ
ว่างๆ แวะไปเยี่ยมกันที่บล็อกได้นะคะ





โดย: มิสซิสอาร์โนลด์ วันที่: 27 สิงหาคม 2550 เวลา:18:26:34 น.







ผมเคยย่องเข้าไปอ่านแล้วครับ
แต่ตอนนั้นยังทำอะไรไม่ถูกเลยครับ.



โดย: เจียวต้าย (เจียวต้าย ) วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:9:49:51 น.







ไม่เชื่ออย่าลบหลู่โพดมีดวงการพนันมาก ไปกินข้าวกะเพื่อนมีคนตาบอดเอาล็อตเเตอรี่มาขาย เป็นชุดสิบใบสุดท้าย บอกว่าไม่เล่น ลุงแกก้อคะยั้นคะยอให้ซื้อ สุดท้ายก้อตัดใจซื้อเพราะแกบอกว่าแกเดินมาหลายกิโลแล้วขายไม่ได้ซักที ปรากฏว่าถูกเลขท้ายสองตัวได้มาหมื่นกว่า หลังจากได้ตังส์ก้อไปตามหาแกแถวๆนั้น ไปวนเวียนทุกอาทิตย์จนวันหวยออกรอบต่อๆมาแต่ก้อไม่เคยเจอแกเลย กะว่าจะแบ่งตังส์ให้แกที่แกนำโชคมายัดเยียดให้ ปกติไม่ชอบเล่นหวยแต่เพื่อนที่ขายหวยชอบบังคับให้ซื้อทุกครั้งที่เล่นก้อถูกทุกที
จนเพื่อนที่ขายหวยเถื่อนหรือหวยสร้อยไม่กล้าให้โพดซื้อแล้ว



โดย: ข้าวโพด IP: 121.55.242.19 วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:14:51:46 น.







คุณข้าวโพดมีพื้นจิตเป็นคยใจบุญ
แม้ไม่ชอบการพนัน แต่ตั้งใจทำบุญก็มีโชคได้

นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ต้องรีบร้อนครับ ค่อย ๆ เขียนแล้วอ่านทานหลาย ๆ รอบก่อนครับ.



โดย: เจียวต้าย วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:10:27:25 น.







กลับเลขให้เสียวเล่นซะอย่างนั้นนะครับ



โดย: พี่แต้ วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:14:24:59 น.







ผมไม่มีโชคทางการพนันครับ.



โดย: เจียวต้าย วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:20:41:24 น.






Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 24 มีนาคม 2553 9:51:47 น. 4 comments
Counter : 1234 Pageviews.

 
เข้ามาอ่านครับ พอดีอ่านสามก๊กไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก ไปเรื่องโน้นเรื่องนี้บ้างครับ


โดย: Amagin IP: 58.8.123.113 วันที่: 29 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:10:36 น.  

 
ขอบคุณครับ เชื่อว่าเรื่องในบล็อกของผม
คงจะมีให้คุณอ่านได้เป็นปีเลยครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 1 มิถุนายน 2553 เวลา:7:48:32 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะท่านเจียวต้าย

อ่านจบก็คิดอะไรๆ ตามตัวอักษรไปด้วยเรื่อยเปื่อยค่ะ

แต่ใจยังกลับไปคิดถึงเด็กน้อยวัย 5 ขวบที่นั่งอยู่ตรงป้ายรถเมล์ ว่าแล้วป่านนี้ กำลังทำอะไรอยู่หนอ?

เชื่อใหมคะว่าอ่านเรื่องเขียนของท่านเจียวต้ายแล้ว ท่านเขียนเหมือนเรื่องเล่าเรื่องธรรมดา แต่เวลาอ่านแล้วกับมีอารมณ์ รู้สึก ไปตามตัวอักษรที่ท่านเขียนไปด้วย

บางตอนก็อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มขี้นเหมือนได้อ่านเกร็ดประวัติศาสตร์ที่ตัวเองไม่มีความรู้ ส่วนนั้นเพิ่มขึ้น

บางเรื่องก็อ่านแล้วรู้สึกสท้อนใจ กับชีวิตของของคน

และบางตอนก็สท้อนใจ กับประเทศของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง


ท้ายสุดสำหรับตัวเองค่ะ

อ่านแล้ว บางครั้ง ก็นึกไม่ออกว่าควรจะเขียน คอมเม้นท์ อย่างไรดีค่ะ



โดย: Katai_Akiko วันที่: 8 กันยายน 2554 เวลา:10:38:23 น.  

 
เรื่องของผมในชุด เรื่องเล่าของคนวัยทอง และชุด เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ได้ผ่านพบมาจริงครับ

เรื่องเด็กรอพ่อที่ป้ายรถเมล์นั้น เห็นแล้วก็เสทือนใจอยู่นานครับ เพราะผมก็เป็นคนกินเหล้า
แต่ผมห่วงครอบครัว และดูแลอย่างดีอยู่เสมอครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 8 กันยายน 2554 เวลา:15:10:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.