All Blog
ลิขิตฟ้าชะตาดิน ตอนที่ 12



วันต่อมา ดวงยิหวาเดินกลับมาจากตรวจงานบริเวณเขื่อนริมถนน กำลังจะเข้าไปในออฟฟิศ แต่แล้วต้องชะงัก เพราะที่หน้าออฟฟิศเวลานั้น บุรียืนจังก้าต่อว่าและใส่นายเด่นอย่างดุเดือด

“ไอ้นกสองหัว ไม่นึกเลย ว่าคนเก่าแก่ที่เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา จะทรยศกันได้”
ดวงยิหวาได้ยิน ถึงกับอึ้ง ค่อยๆ ก้าวเข้าไปฟัง
“นายบุรี..คุณก็รู้..ว่าผมไม่เคยทรยศใคร” นายเด่นว่า
“ไม่ทรยศเหรอ เวลานี้แกทำทุกอย่างเพื่อรับใช้ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ประคับประคองมันจนปีกกล้าขาแข็งมาท้าทายชั้น”
จังหวะนั้นนายเด่นเหลือบไปเห็นดวงยิหวา ใช้สายตาบอกให้ลูกสาวหลบไปก่อน
“ผมทำในสิ่งที่ผมต้องทำ ทำสิ่งที่ถูกต้อง” นายเด่นตอบ
“ถูกคืออะไร ผิดคืออะไร สิ่งที่นายหัวทำกับชั้นมันยุติธรรมแล้วเหรอ นายก็เห็น” บุรีพูดอย่างน้อยใจ
“นายหัวคงจะมีเหตุผล นายบุรีน่าจะยอมเชื่อฟัง”
นายเด่นมองข้ามบ่าบุรี บังคับให้ดวงยิหวาหลบไป
ดวงยิหวาอึ้ง ยอมหลบมุมเลยมาเล็กน้อย แล้วฟังต่อ
“เหตุผลเหรอ เหตุผลงี่เง่าอะไรวะ ชั้นคือน้องชายคนเดียวของเค้า เค้าควรจะไว้ใจที่สุด เค้าเดี้ยงไป คนที่เค้าควรจะมอบหมายทุกอย่างให้ดูแล มันควรเป็นชั้น ไม่ใช่ไอ้ลูกเสือลูกตะเข้ที่ไหนไม่รู้” บุรีพล่ามต่อ
“คุณจ้างเขาก็ทำทุกอย่าง ที่นายหัวสั่ง เค้าไม่เคยสนใจอย่างอื่น นอกจากทำตามสั่ง” นายเด่นว่า
“ตกลงแกเลือกข้างแล้วใช่ไหม แกเลือกไอ้จ้าง ไม่เลือกชั้น” บุรีข่มขู่
“ผมเลือกนายหัว” นายเด่นยืนยันชัดเจน
บุรีมองอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ เดินเข้ามาใกล้ ลดเสียงเบาลง “ปากดีนัก ชั้นนี่แหละ น้องแท้ๆ ของนายหัว แกสิ..ที่เป็นคนอื่น แล้วเราจะได้เห็นกัน” บุรีมองอย่างอาฆาต แล้วเดินสะบัดตัวจากไป
ระหว่างนั้นเริ่มมีคนงานเห็น พากันแอบมองอยู่ห่างๆ ท่าทีหวาดกลัว ดวงยิหวาอดวิตกไม่ได้

บุรีกลับมาที่คอนโด เวลานั้นฟ้าใสกำลังทำเล็บให้บุรี
“ชั้นจงรักภักดีกะเค้ามาตลอดชีวิต แต่เค้าทำไมมองไม่เห็น”
“อ้าว..แล้วคุณบุรีจะทำยังไงต่อไปคะ”
“เวลานี้..ใครจะเหมาะสมกับการดูแลธุรกิจทั้งหมด..นอกจากชั้น นายหัวบัญชาก็เดี้ยงไม่มีวันหาย ไอ้เกียรติบดินทร์ลูกชายก็โง่งี่เง่า” บุรีพูดอย่างเย้ยหยัน
“อ้าว คุณดินนี่..เค้าโง่หรือคะ” ฟ้าใสแกล้งถาม
“ก็เออสิ..ถ้าพูดกะมันหวานๆ หลอกมันให้เนียนๆ มันก็จะเป็นหุ่นให้เราเชิดได้สบายๆ แต่ชั้นนี่มันดวงไม่ดี..อยู่ๆ นายหัวดันมีลูกชายโผล่มาอีกคน..เป็นไอ้จ้าง ฟ้ากระจ่างคนนี้นี่แหละ หมูเค้าจะหาม ดันเอาคานเข้ามาสอด”
“ว้า..แย่จัง” ฟ้าใสทำทีตลก
“มันเป็นใครกันแน่..มันเป็นลูกยัยดารากานต์ที่ไปซุกไว้จริงหรือเปล่า ทำไมมันเก่งอย่างนี้ ทำอะไรก็กลายเป็นดีไปหมด ถ้ามันเป็นลูกดารากานต์จริง..พ่อมันเป็นใคร ทำไมนายหัวยอมให้มันมาอยู่เคียงข้าง” บุรีตั้งข้อสังเกต
“แต่คุณบุรีจะยอมแพ้พวกเค้าง่ายๆไม่ได้นะคะ คุณต้องไม่ถอย คุณต้องเข้าไปในบ้านนั้น ไปชิงตำแหน่งของคุณคืนมา” ฟ้าใสพูดอวยให้กำลังใจ
บุรีเป็นปลื้มมองอย่างซึ้งใจ “ฟ้าใส..เธอน่ารักจริงๆ..เธอเป็นคนเดียวที่เข้าใจชั้น แม้แต่ลูกสาวชั้นเอง..ชั้นยังไม่รู้เลย..ว่าตอนนี้..มันอยู่ข้างใคร ชั้นเหมือนคนตัวคนเดียว..ตัวคนเดียวจริงๆ นะ”
ฟ้าใสกอดบุรีให้กำลังใจ บุรีกอดตอบรู้สึกอ่อนแอถึงกับน้ำตาคลอ ฟ้าใสทำสีหน้ามุ่งมั่น

เช้าวันใหม่ ฟ้ากระจ่างนั่งกินอาหารเช้าอยู่กับทรายทอง โดยมีดารากานต์คอยจัดแจงดูแลไม่ให้พร่อง และนายน้อมยืนมองแบบอึ้ง
“จ้าง..นี่นะลูก..ก่อนอื่น ลูกต้องกินวิตามินพวกนี้ก่อน..จะได้ไม่ลืม”
ฟ้ากระจ่างไหว้ “ครับ ขอบคุณครับ” แล้วหยิบถาดเล็กๆ นั้นมาดู มีเม็ดวิตามินสารพัดสีกองอยู่เป็นกำ ทำหน้าชอบกล แอบมองสบตากับนายน้อมเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่นายน้อมทำเมิน
ทรายทองเลื่อนแก้วน้ำเข้าไปให้ “น้ำอุ่นค่ะ พี่จ้าง”
“ขอบใจจ้ะ น้องทราย”
จ้างรวบรวมสมาธิ ทำใจให้กินวิตามันทั้งหมดนั้น
ทรายทองเลื่อนจากอาหารเช้าแบบอเมริกันมาให้ มีไข่ดาว ไส้กรอก เบค่อน พร้อมกับจัดแจงวางเครื่องปรุง เกลือ พลิกไทย ซ้อส เค็ทฉัพ
“พริกไทยเยอะๆ..ใช่ไหมคะ”
ฟ้ากระจ่างเพิ่งกระเดือกวิตามินเม็ดสุดท้ายลงคอ รีบห้าม
“น้องทราย..รับประทานตามสบายเถอะนะครับ พี่ทำเองได้”
“จ้างเอาขนมปังแบบไหน แบบแผ่น หรือแบบกลมดีลูก” คราวนี้เป็นทีดารากานต์เอาใจ
“ขอแบบแผ่นครับ…” ฟ้ากระจ่างบอก
“มา..ทาเนยซะนิด”
“แม่ครับ.. ผมทำเองได้ครับ..กาแฟของแม่เย็นหมดแล้วฮะ”
“เอ๊ะ..แล้วผัก น้ำผลไม้ของจ้างล่ะ ป้าบัวๆๆ”
ป้าบัวถือจานผลไม้รวมมาพอดี มีเด็กรับใช้ถือถาดเหยือกแก้วใส่น้ำส้ม นมสด และน้ำผลไม้อื่นสีแดง สีเขียวเรียงเต็ม ตามมาวาง
“มาแล้วค่ะ นายหญิง”
“คุณจ้างไม่กินหรอก..นมสดน่ะ” นายน้อมบอกอย่างรู้ใจ
ป้าบัวทำหน้าเบื่อๆใส่ “ชั้นรู้หรอกน่า..นายน้อม..นี่มันนมถั่วเหลือง”
เด็กรับใช้รินน้ำส้ม น้ำสีแดง น้ำสีเขียว
เกียรติบดินทร์เดินลงมาพอดี เห็นภาพข้างหน้า ยืนมองแบบอึ้งๆ
“ขอชั้นด้วย ชั้นเอาหมด 3 น้ำเลย น้ำส้ม น้ำเบอรี่ น้ำผัก” ทรายทองบอก
“เอ่อ..ผม..ขอแค่น้ำส้มอย่างเดียว..ได้ไหมครับ” ฟ้ากระจ่างบอก
“ทำไมล่ะ จ้าง..จ้างต้องไปทำงานที่ไซด์งานนะวันนี้ ต้องใช้สมอง ใช้พลังงานมาก จ้างต้องกินของมีประโยชน์เยอะๆ นะลูก แล้วน้ำพวกนี้ ป้าบัวเค้าคั้นสด สารอาหารมีครบ ถ้าเก็บแช่ไว้ มันจะไม่ค่อยดีแล้ว”
“เอ่อ..น้ำผักมัน..ยังไงก็ไม่ทราบ..คือผมไม่ค่อย” อึกอักไม่กล้าบอกว่าไม่ชอบ
เกียรติบดินทร์ทนดูไม่ไหว เดินลงส้นปังๆๆ เข้ามาหยุดมอง
“กินไม่ลงก็ไม่ต้องไปกินสิคุณพี่! เดี๋ยวก็ได้อ้วกแตกออกมาหรอก”
ทุกคนอึ้ง หันไปมองตามเสียง
ดารากานต์อารมณ์ดีม่เลิก “อ้าว..น้องดิน วันนี้ตื่นเช้าจัง..มาทานอาหารเช้าด้วยกินสิลูก..ป้าบัว จัดเพิ่มอีกทีสิจ๊ะ”
“ไม่ต้อง ป้าบัว ไม่จำเป็น” เกียรติบดินทร์เดินโครมๆ ออกไป อย่างไม่สบอารมณ์
ทุกคนมองตามอย่างอึ้งๆ อีกรอบ

เกียรติบดินทร์เดินมา กระแทกตัวลงนั่งหน้าคอมพ์ฯ เปิดคอมพ์ ดารากานต์เดินเข้ามาทำทีมองๆ เกียรติบดินทร์รู้ แต่ไม่สน จ้องแต่จอ เข้าออนไลน์ เปิดเล่นเกมส์
ดารากานต์เข้ามาหา แตะแขนอย่างเกรงใจ “น้องดินครับ”
เกียรติบดินทร์ ดึงแขนหลบ ไม่สงวนอาการ “นายหญิง..ผมจะเล่นเกม อย่ากวนใจได้ป่าวคับ..นายหญิงก็ไปดูแลลูกชายนายหญิงโน่นดิ”
“น้องดิน..ตื่นมาปุ๊บ เล่นเกมปั๊บ มันจะไม่ดีนะลูก”
“ผมอยากทำอะไรตอนไหน ผมก็จะทำ ผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนก็แล้วกัน”
ป้าบัวเดินมา ทำทีจะเอาใจสุดๆ
“คุณดิน..จะรับโจ๊กไหมคะ..ป้ามีโจ๊กที่คุณดินชอบ”
เกียรติบดินทร์หันมา ทำตาขวาง “ไม่หิว!!”
ป้าบัวยังไม่ท้อ “อร่อยนะคะ ป้าเคี่ยวน้ำซุปเป็นพิเศษ”
เกียรติบดินทร์มองหน้า นิ่ง เสียงเย็นชา “ผมบอกว่าไม่หิว”
คราวนี้ป้าบัวหน้าซีด นึกน้อยใจ สะบัดหน้า น้ำตาไหลออกไป
“น้องดิน..ทำใจร้ายกับป้าบัวได้ไง ป้าบัวเสียใจแล้วเห็นไหม” ดารากานต์ต่อว่านิดๆ
“ขอผมอยู่คนเดียวได้ไหมครับ ขอร้องล่ะ”
เกียรติบดินทร์พูดเสียงเย็นชา จนดารากานต์อึ้ง แล้วหันกลับ เดินออกไปเงียบๆ
เกียรติบดินทร์หน้าเรียบเฉย หันมากดเล่นเกมโหดสุดโปรด

เวลาเดียวกันสองคนพ่อลูกดวงยิหวา กับนายเด่นยังอยู่ที่บ้าน และมองหน้ากัน อย่างอึ้งๆ
“ต่อไปนี้..พวกเราต้องระวังคุณบุรีให้ดี..หรือเปล่าคะพ่อ” ดวงยิหวาถาม
นายเด่นส่ายหัว แต่ก็ลังเล ไม่มั่นใจ “ไม่หรอก..คุณบุรีเค้าคง..ไม่กล้า..ทำอะไร”
“พ่อบอกนายหัวสิคะ ว่าคุณบุรีเค้ามาข่มขู่พ่อ”
“จะบอกไปทำไม..เรื่องเล็กๆ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ดีกว่า นายหัวยิ่งไม่สบายใจอยู่”
“ทีเรา..ยังเป็นห่วงความรู้สึกของนายหัว ไม่อยากให้นายหัวสะเทือนใจ แต่ทำไมคุณบุรีกลับทำเรื่องแกล้งให้นายหัวเครียด”
“อย่าเที่ยวพูดไปนะดวง..เค้าพี่น้องกัน..เราอย่าไปขยายรอยร้าวให้มันลึกขึ้น อย่ายุแยงตะแคงรั่ว เค้าจะได้คืนดีกันเร็วๆ”
ดวงยิหวานึกได้อึ้งไป “ค่า..”
ทันใด โทรศัพท์นายเด่นดังขึ้น นายเด่นหยิบมาดู แล้วอึ้ง เดินออกมาดวงยิหวามองตามสีหน้างงๆ
นายเด่นเดินเลี่ยงหลบไปมุมหนึ่งที่บริเวณหน้าบ้าน แล้วกดรับ
“ครับผม..ผมเด่นพูดครับ”
ดารากานต์ เป็นคนโทร.หา และกำลังพูดอยู่ในมุมหนึ่งของบ้าน
“นายเด่น..เป็นไงบ้าง สบายดีนะจ๊ะ”
นายเด่นงงๆ ไม่รู้ว่าดารากานต์จะมาไม้ไหน “ครับ สบายดี”
“วันนี้ ..จ้างจะไปคุมงานที่ไซด์งาน..ใช่ไหมจ๊ะ”
“ครับ”
“แล้ว..ดวงยิหวาล่ะ ทำอะไร”
นายเด่นหันไปมองลูกสาว รู้สึกสงสารจับใจ “ดวง..ผมจะให้อยู่อีกที่นึงครับ ไม่เจอกัน”
พอดีกับที่เด็กรับใช้ชายบ้านนายเด่นขี่จักรยาน มีถุงของกินขนาดใหญ่เข้ามาหลายถุง แล้วพอดวงยิหวาเห็น ก็รีบวิ่งไปรับถุงพวกนั้น
นายเด่นมองไปทางลูกสาวอย่างเศร้าใจ “ครับๆ..สวัสดีครับ” กดวางสาย แล้วเดินไปหาลูก “อะไรน่ะ..ดวง”
ดวงยิหวายิ้มกว้าง หน้าตามีความสุข “ไก่ทอดอิสลามค่ะ เอาไปฝากพี่จ้าง พวกอาจารย์กับพวกรุ่นน้องที่มาทำงานกันไงคะ”
นายเด่นพูดหน้าตาเฉย “เออ ดีๆๆ พ่อจะเป็นคนจัดการ เอาไปให้ทุกคนเอง..ดวงไปที่บ้านนายหัวนะ ไม่ต้องไปไซด์งานไหนทั้งนั้น วันนี้”
ดวงยิหวาหน้าเสีย “อ้าว..ทำไมล่ะคะ”
“นายหญิงบอกว่า..มีธุระกะดวง พ่อก็ไม่ได้ถาม..ว่าธุระอะไร”
ดวงยิหวาหน้าจ๋อยๆ “เหรอคะ”
นายเด่นมองลูกสาว รู้สึกไม่สบายใจ

ฟ้ากระจ่างเดินขึ้นมาบนอาคาร พวกรุ่นน้อง ที่แต่งตัวด้วยเครื่องแบบเหมือนกัน ทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้ากระจายกันอยู่ บ้างแกะของจากแพ็คเกจ เรียงรายเป็นระเบียบ มีพวกโคมไฟสำนักงานประเภทต่างๆ ดูสวยงามโมเดิร์น
อาจารย์ทั้งสองคน กำลังตรวจเช็คแบบกันอยู่ ดูผังการวางปลั๊กและสวิทช์ต่างๆ
เด็กๆ หันมาไหว้ ทักทายกันเสียงระงม “พี่จ้าง..หวัดดีก๊าบ..คุณชายจ้างๆ โหๆๆ ว้าวๆๆ”
บางคนพุ่งมาจับเนื้อจับตัว ฟ้ากระจ่างร่าเริงสุดๆ ตบหลังคนนั้น ตบไหล่คนนี้ “ไง..เย้ย..มากะเค้าด้วย ไรวะ เป็นไงๆ สบายดีป่าว”
พอหันไปเห็นอาจารย์รีบเข้าไปไหว้ “เรียบร้อยหรือเปล่าครับ อาจารย์”
“ดีๆๆ ไม่มีปัญหาอะไร” อาจารย์คนหนึ่งบอก
อาจารย์แกคนมองๆ หา “อ้าว..มาคนเดียวเหรอ”
ฟ้ากระจ่างยิ้มให้ “ครับ อาจารย์จะให้ผมมากะใครครับ”
“ดวงล่ะ ดวงไม่มาเหรอ” อาจารย์อีกคนเฉลย
“ไหนวันก่อนคุยโทรศัพท์กัน ดวงบอกว่า จะเอาของกินอร่อยๆ มาเลี้ยงพวกเราทุกวัน”
ฟ้ากระจ่างดูนาฬิกา “เดี๋ยวก็คงมาครับ ดวงมาตรงเวลา..ไม่เคยสายนะฮะ”
นายเด่น เดินถือถุงของกินมากมายขึ้นมา
“สวัสดีครับทุกคน เอ้าๆๆ ใครช่วยมารับของอร่อยๆ หน่อยครับ”
พวกเด็กๆ กรูมาช่วยรับ
“ดวงยิหวาเค้าฝากมาให้อาจารย์และลูกศิษย์ทุกคน ให้รับประทานกันให้อร่อยๆนะครับ แล้วถ้าอยากได้อะไร ก็สั่งได้ เค้าจะส่งมาอีก”
“อ้าว..”
ฟ้ากระจ่างและพวกอาจารย์มองหน้ากัน อึ้งเล็กน้อย
“อ้าว” อาจารย์ถามแทนใจฟ้ากระจ่าง “วันนี้ดวงจะไม่มาหรือครับ”
“อ๋อ พอดี เค้ายุ่งอ่ะครับ แล้วคงจะยุ่งมากๆไปอีกระยะเลย แต่เห็นเค้าบอกว่า..ถ้ามีเวลา จะพยายามมาเจอทุกคนให้ได้ครับ..” นายเด่นยิ้มกว้าง “แล้วนี่..เป็นไงบ้างครับ..ดูท่าทางจะเริ่มต้นกันได้สวยนะฮะ”
ทุกคนยิ้มๆ กัน ฟ้ากระจ่างแอบอึ้งเล็กน้อย

เวลาเดียวกัน ดวงยิหวาเดินงงๆ ปนกังวลขึ้นมา เจอป้าบัวจึงยกมือไหว้
“นายหญิงให้ดวงมาค่ะ คุณป้า..ไม่ทราบว่า..จะให้ดวงทำอะไร หรือว่านายหัว..มีอะไร”
“อ๋อ..คือ..” ป้าบัวกระอักกระอ่วน
ดารากานต์เดินลงมา พอเห็นดวงยิหวาก็ดีใจ รีบพุ่งเข้ามาหา ดวงยิหวาไหว้แทบไม่ทัน ดารากานต์รีบคล้องแขนอย่างสนิทสนม
“หนูดวงยิหวา ช่วยชั้นที..ช่วยไปดูน้องดินที..น้องดินแย่แล้ว”
ดวงยิหวาตกใจ “คุณดินเป็นอะไรคะ”
“น้องดินเครียด ไม่สบาย ไม่ยอมพูดกับใครทั้งนั้น มีแต่หนูดวงเท่านั้นล่ะจ้ะ ที่จะช่วยชั้นได้ มาดูสิจ๊ะ มาๆๆ” ดารากานต์รีบดึงตัวดวงไป
ป้าบัวมองตาม แล้วทำหน้าเบื่อๆ บ่นออกมาคนเดียว
“นายหญิงทำอะไรอยู่ ลูกสาวตาเด่นไม่เห็นจะสมกะคุณดินตรงไหน”

ครู่ต่อมาเกียรติบดินทร์ผลักชามโจ๊กออกไปจากตรงหน้า “ชั้นไม่หิว ชั้นไม่กิน”
ดวงยิหวาอึ้ง ยืนมองตาปริบๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“คุณต้องการให้ใครสนใจคะ”
“อะไรนะ” เกียรติบดินทร์ฉุน
“ก็ไอ้การอดอาหารประท้วงเนี่ยสิ..คุณทำเพื่อต้องการให้ใครเดือดร้อนที่สุดเหรอ..บอกมาซิ ชั้นจะได้ไปบอกคนนั้นโดยตรง..นายหัว หรือว่า...”
“ไม่มีใครมาสนใจ ไม่มีใครมาเดือดร้อนเพราะชั้นทั้งนั้น ชั้นมันประชากรชั้น 2 ของบ้านนี้” เกียรติบดินทร์ประชดส่ง
ดวงยิหวานั่งลง ทำหน้าท้อใจ “คุณนี่มันเด็ก 5 ขวบชัดๆ”
เกียรติบดินทร์ ใช่สิ ชั้นมันปัญญาอ่อน งี่เง่า ไม่ใช่อัจฉริยะอย่างไอ้เด็กศาลเจ้าหนิ ทำอะไรก็เท่ไปหมด
“คุณดินเป็นเด็กขี้อิจฉา”
“อิจฉา..ชั้นเนี่ยนะ อิจฉามัน คนอย่างมัน ต่ำต้อย อนาถา พ่อเป็นใครก็ยังไม่รู้เลย”
ดวงยิหวาหันขวับ “อะไรนะ คุณดิน คุณพูดออกมาได้ยังไง”
เกียรติบดินทร์จ้องหน้า “ทำไม ก็ไม่จริงหรอกเหรอ”
“คุณไม่ควรพูดถึง..พ่อแม่”
“เธอเจ็บแค้นแทนมันเหรอ ดวง” น้ำเสียงเยาะแกมหยัน
ดวงยิหวาอึ้ง “คุณพูดแบบนี้..ก็เท่ากับว่าแม่ตัวเอง”

ทันใดนั้น มือถือดวงยิหวาดังขึ้น ทั้งดวงยิหวาและเกียรติบดินทร์ต่างคนต่างชะงัก เป็นสายจากฟ้ากระจ่าง ที่ออกมาแอบโทร.อยู่มุมหนึ่งนอกตึก รอฟังเสียงตอบรับ
ดวงยิหวามองมือถือ เป็นหน้าฟ้ากระจ่าง ดวงยิหวาหันมามองเกียรติบดินทร์ ซึ่งมองมาเป็นเชิงถาม ว่าใครโทร.มา
ดวงยิหวาตัดสินใจ กดสายทิ้ง
ฟ้ากระจ่างชะงัก เอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู แบบไม่เชื่อ
เกียรติบดินทร์ทำหน้าแสยะใส่ “กดทิ้งทำไม..ใครโทร.มา..ทำไมเธอไม่รับ”
ดวงยิหวารีบเก็บโทรศัพท์
เกียรติบดินทร์เข้ามาในระยะประชิด “ไอ้จ้างใช่ไหม มันโทร.มาทำไม แล้วทำไมเธอไม่รับ กลัวมันรู้รึไง ว่าอยู่กะชั้น”
“ไม่ใช่!”
“ไม่ใช่อะไร” เกียรติบดินทร์คาดคั้น
“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”
เกียรติบดินทร์จ้องหน้า พยายามค้นหาว่าดวงยิหวาคิดอะไร ดวงยิหวาจ้องตอบหน้าดุสู้ ไม่ยอมหลบ

ฟ้ากระจ่างยังยืนเหวอๆ มองโทรศัพท์ตัวเอง จ้องใบหน้าดวงยิหวาที่หน้าจอ
ฟ้ากระจ่างคิดอยากกดเรียกไปอีกที แต่ก็ตัดสินใจว่าไม่ เพราะคิดว่าดวงยิหวาอาจจะยุ่งจริงๆ ในที่สุดจึงเก็บโทรศัพท์ไป
ในอีกมุมหนึ่ง นายเด่นแอบดูหน้าตาอึดอัดใจ “คุณจ้าง..ผมเสียใจด้วยนะ”

ทางด้านเกียรติบดินทร์เดินถือกุญแจรถ เดินพรวดๆ พุ่งไปที่รถสปอร์ต ดวงยิหวาตามมาติดๆ
“คุณดินๆ..คุณจะไปไหน”
“เธอก็รีบไปรับใช้ไอ้จ้าง นายใหญ่คนใหม่ของเธอก็แล้วกัน ส่วนชั้น ก็จะไปหาคนที่จริงใจกะชั้นไง”
“ใครคือคนที่จริงใจกับคุณ”
“ก็มีอยู่คนนึงก็แล้วกัน”
“ใครๆ เค้าก็จริงใจกะคุณทั้งนั้น..แต่คุณไม่ต้องการ คนที่คุณต้องการ คือคนที่ตามใจ แล้วก็ประจบประแจง สรรเสริญเยิรยอคุณตังหาก”
“ผิดแล้ว ดวงยิหวา ผมกับอาบุรีจริงใจต่อกัน เพราะเรามีหัวอกเดียวกันตังหากล่ะ”
“อ๋อ..” ดวงยิหวานึกอยู่แล้วเชียว “นี่...คุณจะไปหา..คุณบุรี งั้นเหรอ”
“ใช่ เรามันหมาหัวเน่าเหมือนกัน ได้รับความอยุติธรรมเหมือนกัน ก็ต้องคบกันไป ตามประสาคนที่ไม่มีใครคบไง”
“คุณดิน..คุณอย่าไป..ได้ไหม” ดวงยิหวาขอร้อง
เกียรติบดินทร์ประหลาดใจ “อะไรนะ”
“ดวงมาหาคุณ..แต่คุณจะหนีดวงไปแบบนี้เหรอ”
เกียรติบดินทร์มอง สีหน้าไม่ไว้ใจ เหวี่ยงใส่ “ก็ใครใช้คุณมาล่ะ”
ดวงยิหวาอึ้งไปนิด สลดใจตัวเอง ที่เป็นเหมือนเครื่องมือของคนอื่น แล้วถอนใจ ตัดสินใจ “ทำไมคะ..ดวงห่วงคุณ..เพราะดวงห่วงเอง..ไม่ได้เหรอคะ”
เกียรติบดินทร์อึ้ง สีหน้าอ่อนลง อยากจะเชื่ออย่างนั้นจริงๆ

ด้านพวกของฟ้ากระจ่างกำลังทำงานกัน อาจารย์คือคนที่คอยชี้ คุมงานเด็กๆ ฟ้ากระจ่างปะปนในหมู่เด็กๆ ปีนอยู่บนที่สูง ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ ช่วยกับรุ่นน้อง1คน
ทรายทองเดินเข้ามา พร้อมเด็ก 2 คนที่ยกถังตู้แช่น้ำแข็งพลาสติก ท่าทางหนักอึ้งเข้ามา
ทรายทองมองหา พอเห็นก็ตื่นเต้นสุดๆ “อ๊าย..พี่จ้าง..พี่จ้างขึ้นไปทำอะไรบนนั้นค้า”
ฟ้ากระจ่างได้ยินเสียง หันมองหา “อ้าว..น้องทราย”
“นึกสนุกอะไรขึ้นมาคะ เดี๋ยวตกลงมาคอหักตายพอดี”
ฟ้ากระจ่างหันไปฝากงานให้รุ่นน้องทำต่อ ก่อนจะไต่ลงมา “แล้วน้องทรายมาได้ไง มาทำอะไรครับ”
“นายหญิงใช้ให้มาค่ะ ให้ทรายเอาเครื่องดื่มบำรุงกำลังมาให้พี่จ้างและคณะ” จัดแจงไปเปิดถัง “พี่จ้างดื่มอะไรดีคะ น้ำเกลือแร่ น้ำอัดลม กาแฟเย็น..หรือว่า..” มองหน้า แล้วทำท่าตกใจ “โห..ดูพี่จ้างสิ เหงื่อไหลซ่กเลย” เปิดกระเป๋าถือ หยิบซองกระดาษทิชชูออกมา ดึงกระดาษออกมา จัดแจง ผวาจะเข้าซับหน้าให้
พวกอาจารย์เหล่มองๆกัน พวกรุ่นน้องหนุ่มซุบซิบ
ฟ้ากระจ่างเบี่ยงตัวออก “เอ่อ ไม่เป็นไร ทราย..ขอบใจมากนะน้อง..แล้วฝากไปบอกนายหญิงว่า..พี่ขอบพระคุณ ทรายกลับไปได้แล้วล่ะ พี่ต้องทำงาน”
“พี่จ้างไม่ใช่แค่มาดูๆ คุมๆ คนพวกนี้เท่านั้นเหรอคะ ทำไมต้อง..ทำเองด้วย”
“พอดี..พี่ทำอะไรพวกนี้เก่ง..ทรายกลับไปได้แล้ว..ไป..ที่นี่ร้อน ฝุ่นก็เยอะ”
“พี่จ้างอ่า..ไล่ทรายจังเลย ถ้าเป็น..แม่ดวงยิหวา พี่คงอยากให้อยู่นานๆ สินะ ชิ!”
ทรายทองประชดแล้วแกล้งงอนใส่ ฟ้ากระจ่างอึ้งไป ทรายทองรีบยื่นหน้ามากระซิบเยาะใกล้ๆ
“เค้าไม่มาหรอกค่า..วันนี้เค้าลางานไปเที่ยวกะแฟนเค้าทั้งวันรู้ไว้ด้วย”
“ทรายอย่าพูดจาเลอะเทอะน่า”
“อะไรเลอะเทอะคะ..พี่จ้างก็รู้อยู่แล้ว ว่าดวงกะพี่ดินรักกัน ตอนนี้พี่ดินเค้าเสียใจ เรื่องที่เค้ากะพ่อทรายพลาดจากงานนี้ ยัยดวงเลยต้องทำหน้าที่คนคอยโอ๋ไงล่ะคะ” ทรายทองหัวเราะใส่หน้าอย่างสะใจ
ฟ้ากระจ่างหน้าซีด ทรายทองทำหน้ายั่วๆ
ทั้งคู่ไม่รู้ว่าในอีกมุมหนึ่ง นายเด่นแอบมองอยู่ รู้สึกไม่สบายใจ

ตอนกลางวันของวันนั้น ชิงชัย และมาดามพิณ แวะมาหารือเรื่องงานในบ้านใหม่ของปีเตอร์ ส่วนเทเรซ่าวิ่งเล่นอยู่กับลูกหมาตัวน้อยในสนาม ชิงชัยยืนดูอยู่อย่างครุ่นคิด

มาดามพิณเดินมาแตะบ่าลูก “เก่งมาก..ชิงชัย ลูกทำให้เทเรซ่ามีความสุข หายเหงาไปได้จริงๆ
ชิงชัย “เทเรซ่ามีเวลาว่างมากเกินไป ทำให้มีโอกาสคิดเรื่องเหลวไหลได้มาก” ชิงชัยบอก
มาดามพิณหัวเราะเบาๆ “อย่าปล่อยให้น้องเหงา แล้วอย่าเปิดโอกาส..ให้คนอื่น” เน้นเสียง “เข้ามา”
“ผมจะพยายามสุดชีวิตเลยครับ”
ปีเตอร์เดินเข้ามา พร้อมเอกสารในมือ
“ผมเช็คตัวเลขในนี้หมดแล้ว โอเคนะครับมาดาม เราจะยื่นซองประกวดราคาทำถนนสายนั้น..ตามรายละเอียดทั้งหมดนี่ ไม่ต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรอีก”
“ดีค่ะ ปีเตอร์ งั้น..ชั้นจะนัดกินข้าวกับกำนันกับท่านนายกอบต. เสาร์นี้เลยดีไหม”
ชิงชัยหัวเราะเบาๆ “ช่วงนี้ ท่านนายกฯอารมณ์ไม่ค่อยดี ผมว่า เรารอไปต้นเดือนหน้าดีกว่าครับ”
“ทำไมล่ะ” มาดามพิณนิ่วหน้า สงสัย
“เด็กท่าน..หนีตามน้องชายนายหัวบัญชาไปล่ะสิ ฮ่าๆๆๆ” ชิงชัยชอบใจ
“น้องชายนายหัวบัญชา”
“นายบุรีไงคะ” มาดามพิณรีบบอก
“คุณปีเตอร์ทราบไหมครับ..ว่ามันหมายความว่าไง” ชิงชัยถามเอง แล้วก็ตอบเสียเอง
“หมายความว่า..ในการประมูลงานสร้างถนนคราวนี้ ถ้านายหัวบัญชามาประมูลสู้กับเรา..เค้าก็อาจจะมีปัญหากับท่านนายกอบต.ได้”
ทั้งสามยิ้มให้กัน
“ไอ้นายหัวบัญชา..พวกเราไม่ต้องทำอะไร..กรรมก็ยังตามทันแบบบูรณาการจริงจริ๊ง” มาดามพิณสะใจ ชอบอกชอบใจใหญ่ในวิบากกรรมของบุรี
“ไอ้แก่บุรีเอ๊ย..อยู่ดีๆ ก็ไปแย่งเมียชาวบ้าน ป่านนี้มันคงยังไม่รู้ตัวสินะ ว่าโดนนารีพิฆาตซะแล้ว”

มาดามพิณกับชิงชัย พากันหัวเราะออกมาในที่สุด

บุรีอยู่ที่ห้องพักในคอนโด หน้าเจื่อนๆ ซีดสนิท ในขณะที่เฮียปุ่นกับเฮียกุ่ยหน้าเหวี่ยงสุดขีดหลังรู้เรื่องราวที่พลิกผัน
“ไหนคุณว่าชัวร์ไง ไหนคุณว่า..ให้พวกเราเล่นละครไปซักพักแล้วนายหัวจะมาง้อเราไง” เฮียปุ่นเปิดฉาก
“นั่นสิ แบบนี้ พวกเราก็เน่าเลย เงินเท่าไหร่ที่หลุดมือไป..เพราะแผนงี่เง่าเหลวไหลไร้สาระของคุณบุรี” เฮียจุ้ยตาม
บุรีหน้าม้าน “เฮ่ย..พี่จุ้ย..แรงไปรึป่าว”
“ไม่แรงไปหรอก คุณบุรี แต่ความคิดเพี้ยนๆของคุณ ทำให้พวกเราซวยกันไปหมด เสียทั้งรายได้ เสียทั้งเพื่อน ตอนนี้ นายหัวก็คงเห็นเราเป็นหมาไปแล้ว” เฮียจุ้ยว่า
“คุณบอกว่าไอ้เด่นมันไม่มีน้ำยา บอกว่าไอ้เด็กฟ้ากระจ่างเป็นไอ้เด็กกระจอก..แล้วไหงมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ แล้วแบบนี้ใครจะรับผิดชอบ”

บุรีเครียดจัด ไม่รู้ว่าในอีกมุมหนึ่งของห้อง ฟ้าใสแอบฟังอยู่












Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 2:00:46 น.
Counter : 236 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]