All Blog
ลิขิตฟ้าชะตาดิน ตอนที่ 7 (ต่อ)



ร่วมพูดคุย ถก เถียง แสดงความคิดเห็นเรื่องละครอย่างสร้างสรรค์ หรือจะด่าทอ ต่อว่า...ทีมงานได้ที่ แฟนเพจละครออนไลน์ facebook.com/ละครออนไลน์ เอเอสทีวี ได้แล้วจร้า...

ลิขิตฟ้าชะตาดิน ตอนที่ 7 (ต่อ)

มื้อเย็นตอนค่ำวันเดียวกันนั้น อาหารชั้นดีเลิศรสจากภัตตาคารดัง วางเรียงรายเต็มโต๊ะอาหาร แต่กลับยังไม่มีใครแตะต้องกิน บัญชานั่งอยู่ที่ประจำตรงหัวโต๊ะ กินอาหารเฉพาะที่ทรายทองจัดให้ บัญชากินตามหน้าที่ และเวลานี้กำลังจะอิ่ม โดยไม่ยอมแตะสำรับนั้น

ใกล้ๆ โต๊ะอาหาร ดารากานต์เดินไปเดินมาอย่างวุ่นวายใจ กดโทรศัพท์โทร.ออก แล้วรอฟัง กดปิด แล้วกดใหม่ เหมือนคนประสาทเสีย
น้อม และบัว ยืนคุมเชิงอยู่คนละมุม สบตากันอย่างระอา แล้วต่างหลบตากัน ไม่อยากให้อีกคนรู้ความคิดของตน
จังหวะนั้นดารากานต์ทนไม่ไหว หันมาหาบัญชาเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ
“โทรศัพท์ของจ้างติดต่อไม่ได้เลยค่ะ เหมือนอยู่ในที่ที่ไม่มีสัญญาณ หรือปิดเครื่อง ทำไมล่ะค่ะ เกิดอะไรขึ้นกับเค้าหรือเปล่า เค้าควรจะมาถึงตั้งแต่สายๆ ด้วยซ้ำ แต่นี่..มันจะดึกแล้วนะคะ”
บัญชาพยายามข่มอารมณ์ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ คล้ายปลอบโยน
“เค้าอาจจะ..ไปแวะที่ไหนมั้ง วันนี้ยังมาไม่ถึง เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มาถึงเองนั่นแหละ”
“ทำไมลูกเหลวไหลแบบนี้ บอกผู้ใหญ่ว่าจะมาหาแม่ แต่กลับไปเถลไถลที่ไหนก็ไม่ทราบ” ดารากานต์บ่น แต่ในใจเป็นห่วงนัก
“ที่จริง..เขาก็ยังไม่ได้บอกมาทางเรา เขาอาจจะวางแผนที่จะไปที่อื่นก่อนอยู่แล้ว” บัญชาว่า
“แล้วถ้าเค้ามีอันตรายอะไรล่ะค่ะ อาจจะเกิดอุบัติเหตุ หรือว่า..ถูกใครทำอะไร”
บัญชาชักเอือมกับความเยอะ จึงเลิกสนใจ หันมาหาทรายทอง “ของลุง..มีของหวานอะไรไหม น้องทราย”
“มีค่ะ..คุณลุงรับประทานเงาะหรือ มะม่วงสุกดีคะ” ทรายทองถาม
“นายหัว..จะไม่รอจ้างอีกซักหน่อย” ดารากานต์พูดแทรกขึ้น
“ไม่ต้องรอแล้วดารากานต์ เธอเองที่คิดเหมาเป็นตุเป็นตะไปคนเดียว ว่าเค้าจะมาวันนี้ เธอเองก็กินอะไรได้แล้ว นี่มันกี่ทุ่มแล้ว เดี๋ยวก็ไม่สบายไปจนได้” บัญชาพูดปราม
ดารากานต์อึ้งไป แต่ก็ไม่วาย ลองกดโทร.เบอร์ฟ้ากระจ่างอีกครั้งจนได้ พวกบ่าวสบตากัน มองของบนโต๊ะ ที่เหลือบานเบอะ

จังหวะนั้นรถสปอร์ตสุดหรูพุ่งเข้ามาจอดหน้าตึกใหญ่ เกียรติบดินทร์เดินลงมา สภาพดูออกว่าผ่านการต่อสู้มาเห็นได้ชัด มีร่องรอยฟกช้ำดำเขียว เลือดออกซิบๆ เสื้อผ้า รองเท้าเลอะเทอะน้อมโผล่มาดู แล้วตกใจ เกียรติบดินทร์เห็นสายตานายน้อม รีบเอามือมาบังๆหน้า แต่นายน้อมกลับยิ่งอยากรู้ เข้ามาเพ่งดูแล้วถามขึ้น
“คุณดินไปทำอะไรมาครับ”
“ก็..ไป..ซ้อมบาส” เกียรติบดินทร์โกหก
“แล้วทำไม”
“ทำไม ทำไมอะไร สงสัยอะไร ก็แค่..ปะทะกันหนักไปหน่อย” เกียรติบดินทร์ขยับจะขึ้นบ้าน แต่แล้วชะงัก เหมือนนึกบางอย่างได้ “ไอ้นั่น..มันมารึยัง”
น้อมเข้าใจตอบไปทันที “ยังครับ”
เกียรติบดินทร์มองหน้าเป็นเชิงถาม รู้ด้วยเหรอว่าหมายถึงใคร แล้วเมิน รีบเดินขึ้นบ้าน
“เดี๋ยวครับ” น้อมเรียกไว้
เกียรติบดินทร์ชะงัก หันมา
“รองเท้าคุณ...เปื้อนดินโคลนเป็นปึกๆ เลย อย่าย่ำขึ้นบ้าน จะดีกว่าไหมครับ” น้อมแนะนำ
เกียรติบดินทร์มองอย่างโมโห ที่โดนจับผิด ถอดรองเท้าแบบสะบัดๆ พอให้พ้นๆ ตัวแล้วรีบเข้าบ้านไป
น้อมมาหยิบรองเท้าดูด้วยความสงสัย เห็นชัดว่ารองเท้าเลอะโคลนมากจริงๆ

พอเกียรติบดินทร์เดินเข้ามาในบ้าน แล้วชะงัก เพราะเห็นทรายกำลังเข็นรถพาบัญชาเลี้ยวจะเข้าห้องนอน ไวเท่าความคิดเกียรติบดินทร์รีบกระโดด แอบหลบ กลัวคนเห็นสภาพ
ดารากานต์เดินตามเข้าไปในห้องนายหัว พลางบ่น
“จะโทร.ไปถามที่ศาลเจ้า ก็กลัวเค้าจะหาว่าวุ่นวาย”
“เค้าต้องว่าเธอวุ่นวายแน่ ดึกป่านนี้” บัญชาพูดเสียงดุๆ
“จ้างไปไหน ทำไมไม่มา..แล้วถ้าจ้างมาถึงที่นี่แล้ว แต่ไม่มาบ้านเรา แล้วเค้าไปนอนที่ไหน โธ่..ทำไมต้องทำให้เป็นห่วงด้วย” ดารากานต์รำพัน
เกียรติบดินทร์ทำหน้าขยะแขยง แล้วจะรีบเดินขึ้นบันไดชั้นบน จนเกือบชนกับบัว
“เฮ้ย!”
“ว้าย..เอ๋า คุณดิน โผล่มายังกะผี” บัวมองหน้า เห็นสภาพก็ตกใจ “แล้วนั่นคุณดินไป...”
“ไปซ้อมบาสมา บาสแพ้ คนไม่แพ้..มันก็เป็นแบบนี้แหละ อย่าไปบอกนายหัวกับแม่ล่ะ”
ทรายทองวิ่งหน้าตื่นออกมาจากห้องนายหัว
“ป้าบัวๆ..งานเข้าแล้วๆ นายหัวจะยกห้องนอนนายหัวให้...”
พอเห็นเกียรติบดินทร์ ทรายทองชะงัก หยุดพูด
“นายหัวจะยกห้องนอนให้ใคร”
เกียรติบดินทร์ถามคาดคั้น ทรายทองอึกอัก
“ก็..ถึงยังไง นายหัวก็ไม่ใช้ห้องนอนอยู่แล้วนี่คะ นายหัวย้ายมานอนข้างล่างแล้ว”
“ชั้นไม่ยอม..ชั้นต้องพูดกะนายหัวให้รู้เรื่อง
“จะพูดรู้เรื่องเหรอคะ หน้าพี่ดินยังกะไปฟัดกะใครมาเดี๋ยวนายหัวถาม แล้วพี่ดินจะตอบว่าอะไร”
เกียรติบดินทร์ ชะงัก หันมาด่า “แส่!”
“ไม่เชื่อ..พี่ดินก็ลองดูซี้ กล้าหรือเปล่า..แล้วจริงๆ พี่ดินไปทำอะไรมาคะ หวังว่าคงไม่ไปทำอะไร ที่จะชักนำความร้อนอกร้อนใจมาเพิ่มให้พ่อแม่ของตัวเองหรอกนะคะ”
เกียรติบดินทร์โดนพูดแทงใจดำ อึ้งไปครู่หนึ่ง “ยัยเด็กบ้า”
เกียรติบดินทร์หันกลับ เดินจ้ำอ้าว กระแทกเท้าตึงๆๆขึ้นบ้านไป ทรายทองมองตามอย่าง หมั่นไส้ บัวมองตามด้วยความเป็นห่วง

ที่คลินิคขนาดกลางแห่งหนึ่ง หมอเย็บแผลที่หน้าผากจ้างเสร็จแล้ว โดยมีพยาบาลคอยช่วยอยู่ข้างๆ เทเรซ่ากับปีเตอร์ยืนรอหน้าม่าน อยู่ในอาการลุ้น สีหน้าวิตกกังวลทั้งคู่
ถัดออกมาคือมาดามพิณ ชิงชัย และบอดี้การ์ดที่เฝ้าหน้าคลินิคแบบจริงจัง แข็งขัน ฟ้ากระจ่างเดินออกมา พยาบาลเข็นรถตามมา
“นั่งที่รถเข็นสิคะ..คุณ” พยาบาลบอก
“ไม่เป็นไรครับ ผมเดินไหว”
“คุณเป็นยังไงบ้างคะ เจ็บมากมั้ย” เทเรซ่ารีบถาม
“คุณนั่งพักดูอาการก่อน ดีไหมครับ” ปีเตอร์แนะ
“ผมไม่เป็นอะไรมากหรอก แต่ผมว่า..เราควรรีบไปแจ้งความนะ คุณจำหน้าคนร้ายได้หรือเปล่า เป็นคนรู้จักหรือเปล่า แล้วทำไมทางโรงแรมไม่เห็นทำอะไรซักอย่าง คุณจะแจ้งหรือไม่แจ้ง ถ้าคุณไม่แจ้ง..ผมแจ้งเอง..เพราะผมถูกทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าคุณจะกรุณายอมมาเป็นพยานก็โอเค”
มาดามพิณกับชิงชัยฟังอยู่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก จู่ๆ มาดามพิณรีบปรี่มา
“เอ่อ เอาอย่างนี้นะจ๊ะคุณ..ฉันขอให้ค่าเสียเวลา กับค่าทำขวัญคุณ...” รีบหยิบแบงก์พันออกมา แทบไม่นับ “อ่ะ..6 พันนะ..พอไหม หรือจะเอามากกว่านี้ แต่ขออย่างเดียว อย่าแจ้งความ”
“ทำไมล่ะครับ” ฟ้ากระจ่างสงสัย
“เพราะ..นี่คือคุณปีเตอร์ โจว มิสเตอร์โจว..กับคุณเทเรซ่า ที่เป็นแขกวีไอพีของชั้นน่ะสิ พวกเราเป็นนักธุรกิจ เป็นไฮโซ..มีชื่อเสียง พวกเราไม่อยากอื้อฉาว เป็นข่าว ไม่อยากให้ตำรวจมาซักไซ้อะไร” ชิงชัยอธิบาย
“มีแต่ผู้ร้าย ที่ไม่อยากเจอตำรวจ” ฟ้ากระจ่างพูดพาซื่อๆ
“อ้าว..ไอ้นี่..เอ๊ย..คุณ..พูดแบบนี้ก็สวยสิ” ชังชัยพาล
“เอาล่ะๆ รับไปนะคะ..อ่ะ 6 พันคงน้อยไป เอาไป 8 พันเลย อย่าให้มีปัญหาเลย คุณคงเป็นนักท่องเที่ยวล่ะสิ แต่คงไม่ใช่แขกของโรงแรมหรอก พักที่ไหนล่ะคะ จะได้พาไปส่ง ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ..หรือว่า 8 พันก็ไม่พอ จะเอาเป็นหมื่น ว่างั้น...” มาดามพิณว่า
“มาดามคะ คุณชิงชัยคะ.. เทเรซ่าไม่อยากรบกวน..คือ..คุณคนนี้..เป็นคนที่มีบุญคุณกับเทเรซ่า เทเรซ่า..กับแดดดี้..จะเทคแคร์เค้าเอง แล้วก็จะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เค้าเข้าใจ ใช่ไหมคะ แดดดี้”
“นั่นสิ ผมรับผิดชอบเรื่องของคุณคนนี้เอง พวกคุณอย่าลำบากดีกว่า คุณครับ..ผมขอเชิญคุณเป็นแขกของผมก่อน..ไม่ทราบว่าคุณรับประทานอาหารเย็นหรือยังครับ” ปีเตอร์ว่า
ชิงชัยชักสีหน้าไม่พอใจ

ที่หน้าคลินิก มีรถของโรงแรม สองคันจอดรออยู่ ชิงชัยดึงแม่ออกมากระซิบ
“แม่ ไม่ได้นะ เดี๋ยวพวกนั้นเกิดงุบงิบกัน บ้าจี้ไปแจ้งความ เดี๋ยวก็บานปลาย สอบสวนขยายผลไปกันใหญ่ ย้อนกลับมาโดนเราจนได้หรอก”
“ทีอย่างนี้ละ กลัว ที่จ้างมือปืนไปถล่มเค้าล่ะ ไม่กลัว” มาดามพิณด่า
“ก็มันฆ่าพ่อนี่แม่”
“ไอ้พวกชั่วนี่มันชั่วบริสุทธิ์จริงๆ นี่ไอ้นายหัวคงส่งใครให้มาจัดการกับหนูเทเรซ่าแก้แค้นแน่ๆ” มาดามพิณคำราม
“ไอ้แก่หนังเหนียว มันห้อยพระอะไรนะ ไอ้นายหัวบัญชาเอ๊ย” ชิงชัยสบถ
ปีเตอร์แทบจะประคองฟ้ากระจ่างไปที่รถ พร้อมกับจ้องมองใบหน้า
สายใยสายสัมพันธ์พ่อลูก ทำให้ปีเตอร์เกิดความห่วงใยฟ้ากระจ่างมากเป็นพิเศษ!
“ผมว่า..ดูหน้าคุณซีดมาก เอาอย่างนี้นะ ผมจะไปส่งคุณที่ที่พักก่อน..คืนนี่คุณน่าจะรีบนอน แล้วพรุ่งนี้ ผมกับเทเรซ่าจะไปเยี่ยม คุณพักที่ไหนครับ โปรดบอกมา อย่าได้เกรงใจเลย”
“ขอบคุณครับ แต่ว่า..ไม่…”
ฟ้ากระจ่างพูดไม่ทันขาดคำ รถมูลนิธิวิ่งมาจอด เพื่อนๆ พี่ๆ กรูกันลงมา ชิงชัย และพวกบอดี้การ์ด ตื่นตัว เตรียมควักปืน
“นั่นไง อาจ้างๆ ลื้อเป็นไรมากไหมวะ” รุ่นพี่ร้องถามทันที
พวกพี่ๆ ปราดมาถึงตัวก่อน
“หัวแตกเย็บกี่เข็ม ตกลงคนร้ายมันหนีไปได้ใช่ไหม” รุ่นพี่อีกคนซัก ท่าทีร้อนใจ
ฟ้ากระจ่างสงสัย “นี่ ตามมาได้ไง แล้วรู้เรื่องได้ไง”
“ทำไมจะไม่รู้ ก็แอบฟังมาจากว.ของการ์ดโรงแรมนั่นแหละ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นลื้อ” สมหมายว่า
“ทางโรงแรมมีให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับด้วย กลัวแขกวีไอพีจะเสียหาย แล้วไหนวะ แขกวีไอพี” หมีใหญ่กวาดตามองไปมา
ทุกคนหันมาเห็นเทเรซ่า แล้วต่างชะงัก อึ้ง ตะลึง เก้อเขินกันไปในความสวยสง่า และดูสูงค่า
“อุย” สมหมาย หมีใหญ่ ปักเป้าละเมอพร้อมกัน
จากนั้น เพื่อน 3 คนรวมทั้งพวกพี่ๆ พากันบีบเนื้อบีบตัว ทำตัวสุภาพขึ้นมาทันที
“เอ้อ..คุณปีเตอร์ครับ..ถ้าอย่างนั้น..ผมกลับไปกับเพื่อนๆ ก็ได้ เรื่องอื่นๆ..ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมไม่เป็นอะไร”
เพื่อนๆสะกิด ให้ฟ้ากระจ่างรีบแนะนำ
“อ้อ..คุณปีเตอร์ครับ..คุณเทเรซ่า นี่..เพื่อนๆผมเองครับ อ่ะ..ทุกคน นี่คุณปีเตอร์ กับคุณเทเรซ่า ..ลูกสาว ที่เป็นผู้เสียหาย..ที่อั๊ว..เอ๊ย..ชั้นปีนขึ้นมาเจอเหตุการณ์พอดี แล้วก็เลยพยายามจะจับผู้ร้าย แต่จับไม่ได้..เสียท่ามันซะก่อน”
ชิงชัยรีบเข้ามาโชว์พาว ยืนเคียงเทเรซ่า ทำท่าเหมือนพูดกะคนที่ต่ำกว่า แต่ต้องเอาใจ ทำท่าเหมือนพวกสส.เวลาพูดกะชาวบ้าน
“เราต้องขอบคุณเพื่อนของพวกคุณมาก..เขาเป็นพลเมืองดีจริงๆ และหวังว่า เขาคงจะเข้าใจ ว่าเรื่องทั้งหมด..เป็นเรื่องของความขัดแย้งทางธุรกิจของเรา..ที่เราไม่อยากให้เป็นข่าวออกไป..เพราะอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของบริษัทได้”
“ใช่จ้ะ..สำหรับความเดือดร้อน การบาดเจ็บ ต้องเสียเวลา เรายินดีจ่ายค่าทำขวัญและค่าตอบแทนน้ำใจทุกอย่างให้คุณจ้าง..เพื่อนของพวกคุณ..(ควักนามบัตร)เอาอย่างนี้นะคะ คุณจ้าง..หากคุณคิดได้..ว่าอยากจะเรียกเท่าไหร่ โทติดต่อดิฉันมาได้เลย ทุกอย่าง..เราตกลงกันได้เสมอ” มาดามพิณบอก
ทุกคนมองสองแม่ลูก ด้วยความรู้สึกงงๆ
“คุณนายเก็บนามบัตรไว้เถอะครับ..ผมไม่ต้องการอะไร..พวกเราไปกันเถอะ”
“อ้าว..แล้วตกลง” พี่นักกู้ชีพบอกถาม
“เราตกลงกันเรียบร้อยแล้วครับ” ฟ้ากระจ่างหันมาหาปีเตอร์ เทเรซ่า “เป็นอันว่า..ผมจะไม่แจ้งความก็แล้วกัน พวกคุณสบายใจได้..ไป พวกเรา”
“แต่ว่า...” หมีใหญ่อิดออด
“ไปๆๆ อั๊วเหนื่อยแล้ว เพลียมากๆ..อยากนอน เข้าใจ๋” ฟ้ากระจ่างบอก
“เข้าใจๆๆ” เพื่อนๆ พูดประสานเสียง
ฟ้ากระจ่างหันมา ไหว้กราด “ไปล่ะครับ โชคดีนะครับ..ทุกคน” แล้วเดินหนีนำเพื่อนๆลิ่วๆไป
“แต่ว่า..คุณจ้างคะ..คุณ...” เทเรซ่าหันมามองหน้าพ่ออย่างขอความเห็น
ปีเตอร์พูดไม่ออก จับมือลูกสาวไว้ มองตามฟ้ากระจ่างไป
บรรดาเพื่อนๆ รีบตาม หันมามองเทเรซ่าด้วยความเสียดายกัน ส่วนฟ้ากระจ่างไม่เหลียวหลังกลับมา เบื่อสองแม่ลูกจนอยากจะไปให้พ้นๆ จากตรงนั้น

กลางดึกคืนนั้น ดารากานต์อยู่บนเตียงข้างๆ สำหรับคนเฝ้าไข้ยังไม่ยอมหลับ นอนลืมตาโพลงในแสงสลัวส่วนที่เตียงคนไข้ บัญชานอนตาโพลงเช่นกันแต่หันไปอีกทาง
ดารากานต์แอบถอนใจเบาๆ ในที่สุดลุกขึ้น แล้วเดินไปดูเตียงคนไข้ บัญชารีบหลับตา แกล้งหลับ ดารากานต์ค่อยๆ ย่อง เดินออกไปข้างนอก บัญชาลืมตาขึ้นมา มองตามไป สีหน้าหมั่นไส้จัดพูดเข่นเขี้ยว
“นอนไม่หลับล่ะสิ นังหญิงแพศยา”

พระอาทิตย์ขึ้น โผล่พ้นโค้งขอบทะเลในยามเช้าของวันใหม่ ฟ้ากระจ่างนั่งที่บันไดบังกะโล ให้สมหมายทำแผลให้ด้วยอุปกรณ์จากกระเป๋าการปฐมพยาบาลที่มีของครบของมูลนิธิ
“อูย..ซี้ด..ไอ้นี่..บอกว่าไม่ต้องใส่ไฮโดรเจ้นเปอร์ออกไซด์..โคตรจะแสบ”
“ไอ้บ้า มันต้องล้างแผลก่อนสิวะ ฆ่าเชื้อโรคด้วย” สมหมายบอก
“ใส่แค่เบตาดินก็พอ อูย..พอแล้วๆๆๆ เจ็บๆๆๆ” ฟ้ากระจ่างร้อง
สมหมายแปะผ้าก๊อสปิดแบบฝีมือเนี้ยบมาก
“เดี๋ยวกันข้าวแล้วกินยาแก้อักเสบด้วย ชั้นว่ามันบวมๆ เขียวๆ แล้วนะ ท่าจะเน่า ดูสิ หน้ามันเบี้ยวไปข้างนึงแระ” ปักเป้าแซว
“ปักเป้า แกเคยเดินๆแล้วหน้าทิ่มดินโดยไม่ทราบสาเหตุไหม”
“ไม่เคยคร้าบ..พี่จ้าง..แหม..พี่คนเก่ง..พี่นักเลง พี่พลเมืองดี พี่รูปหล่อ..พี่พระเอก..ในที่สุดนายก็เจอนางเอกตัวจริงเข้าแล้ว เสียอย่างเดียว..มีไม้กันหมาดุ้นใหญ่คอยกั๊ก”
ฟ้ากระจ่างทำหน้าสมเพชนิดๆ “หึๆ คนพวกนี้มันชอบดูถูกคนอื่น การกระทำแบบนี้กู๋เหลียงเรียกว่า..ยกตนข่มท่าน กู๋สอนไม่ให้พวกเราทำ..คนพวกนี้น่าสงสารมาก เพราะไม่มีใครสั่งสอน”
“อย่าไปยอมมัน อาจ้าง ตอนนี้ลื้อไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว ลื้อคือคุณชาย..ทายาทนักธุรกิจใหญ่ เผลอๆ..ใหญ่กว่าคนพวกนั้นอีกนา..ลื้อจีบคุณเทเรซ่าแข่งกะมันเลย ชั้นว่า..สายตาคุณเทเรซ่าออกจะปลื้มลื้อซะ” หมีใหญ่เสริม
“อย่าไปบอกพวกศาลเจ้านะ ว่าอั๊วเจ็บตัว..ใครปากบอน..โดน” ฟ้ากระจ่างกำชับเพื่อนๆ
สมหมายเก็บอุปกรณ์ปฐมพยาบาลพลาง “ใครจะไปบอก เดี๋ยวพวกคนแก่พวกนั้นห่วงลื้อตาย”
ฟ้ากระจ่างสีหน้าอ่อนลงรู้สึกเป็นกังวล
“ไม่รู้พวกคนบ้าน..คุณนายดารากานต์..จะเป็นยังไง จะดีหรือร้าย”
“อย่างน้อย..คุณบัญชาเขาก็เป็นคนดีนะ เขาออกจะรักลื้อออก..เชื่อดิ ว่าลื้อต้องติดใจชีวิตใหม่ๆ..จนอาจจะไม่ยอมกลับบ้านเราไปเลยก็ได้” ปักเป้าว่า

ฟ้ากระจ่างอึ้ง แววตาหวาดหวั่น เพราะลึกๆ ภายในใจเป็นกังวลเอามากๆ

เช้าวันต่อมา ดวงยิหวาอยู่ที่บ้าน และอยู่ในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อยืดตัดแขน กำลังพยายามโทร.หาฟ้ากระจ่าง แต่ก็ไม่สำเร็จ สีหน้าแววตาขัดเคืองใจ ในขณะที่บ่นออกมา

“อะไรของเค้านะ..ทำไมเหมือนโทรศัพท์ปิดเครื่องอยู่ตลอดเวลา แล้วโทร.มาเรื่องอะไรก็ไม่รู้ พี่จ้างนพี่จ้าง..”
จังหวะนั้นเด่นถือแก้วกาแฟดื่มเดินเข้ามาทันได้ยินเสียงบ่นของดวงยิหวา “อะไรนะ..ลูกว่าอะไรนะ”
“อ๋อ เปล่าค่ะพ่อ”
“อ้าว นึกว่าบ่นอะไรพ่อจ้างๆๆๆ พ่อควรจะจ้างใครหรือไง” เด่นแซวขึ้น
ดวงยิหวาหัวเราะ เขินๆ “ไม่ใช่ค่า..หนูพูดคนเดียว”
“เดี๋ยวเราไปจ่ายกับข้าวกันดีกว่า” เด่นบอกลูกสาว
“ค่ะ..งั้นเดี๋ยวหนูไปเปลี่ยนเสื้อ”
ดวงยิหวาพูดยังไม่ทันขาดคำ รถสปอร์ตของเกียรติบดินทร์แล่นมาจอดเอี๊ยด สองพ่อลูกหันไปดู แล้วมองสบตากัน ทั้งอึ้ง และแปลกใจ
เกียรติบดินทร์เดินลงมา เห็นนายเด่นก็ไหว้
“วันนี้วันหยุด..เราไปเที่ยวกันเถอะ ดวงยิหวา ผมขออนุญาตนะครับ..นายเด่น”
“เอ่อ..คุยกันเองก็แล้วกันครับ ตามสบายๆ” เด่นเดินเลี่ยงออกไป
“ไป...”
“ไปไหนคะ” ดวงยิหวางง
“ไปไหนก็ได้ ให้พ้นๆ ขี้เกียจอยู่บ้าน เบื่อ”
“คุณควรรีบจัดการเรื่องกลับไปเรียน จะได้มีอะไรทำ ไม่ใช่ว่างไปวันๆ มันจะทำให้คุณยิ่งฟุ้งซ่าน”
“ถ้าเธอไม่อยากให้ชั้นว่าง..ก็สอนงานให้ชั้นสิ ดวงยิหวา..มาสอนชั้น..ให้รู้งานเท่าๆ กับเธอก็ยังดี..พ่อจะได้เห็น..ว่าชั้นรู้งาน เป็นงานไม่แพ้คนอื่น”
ดวงยิหวาถอนหายใจ
“ทำไมคุณดื้อดึงนักนะ คุณดิน ถ้าคุณอยากให้นายหัวสบายใจ หมดห่วง..คุณก็แค่ทำตามที่ท่านต้องการ..อยากให้พ่อแม่รัก..ทำได้ง่ายนิดเดียวเองนะคะ”
เกียรติบดินทร์เริ่มหงุดหงิด เดินปังๆ เข้าไปในบ้านดวงยิหวา แล้วนั่งลงที่โต๊ะอาหาร หยิบขนมที่เป็นอาหารเช้าบ้านๆ บนโต๊ะ ขนมครกจิ้มน้ำตาล มากินแบบไม่สนอะไร
ดวงยิหวาตามมา ทำหน้าขำปนหนักใจ

ในเวลาเดียวกัน ทรายทองเข็นรถบัญชาออกมาชมสวนในบ้าน ดารากานต์ตามมา แต่ยังคงหมกมุ่นกับการโทรศัพท์หาลูกชาย
“จ้างต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ ทำไมไม่เปิดโทรศัพท์ซะที..ที่ศาลเจ้าอาจจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ดารากานต์ เมื่อติดต่อไม่ได้
“อย่าวุ่นวายนักเลย ดารากานต์..ถ้ามีปัญหาอะไร ทางศาลเจ้าเค้าต้องรีบติดต่อมาเองล่ะ คนพวกนั้น..น่าจะตื่นเต้น..ที่เด็กจ้างจะได้มาอยู่กับเธอ..พอๆกับที่เธอตื่นเต้นอยู่เนี่ย” บัญชาเอ่ยขึ้น
“มันน่าจะมีอะไรนะคะ ไม่งั้น..เค้าก็ต้องโทมาถามฉันบ้างสิ ว่าจ้างมาถึงรึยัง เป็นยังไงบ้าง..ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”
ทันใดนั้น รถมูลนิธิแล่นมาจอดหน้าประตูรั้วบ้าน ทุกคนชะโงกหน้าไปดู
“ใครมาคะนั่น” ทรายทองถาม
“รถอะไรแปลกๆ ยังกะพวกเก็บศพ” น้อมบอก แล้วรีบเอามือปิดปากตัวเอง
“พูดจาอะไร..นายน้อม”
ยามหน้าประตูวิ่งเข้ามาพอดี พร้อมกับเอ่ยขึ้น
“มีพวกมูลนิธิกู้ชีพมาพบคุณนายครับ”
“จะมาเรี่ยไรให้ทำบุญอะไรอีกล่ะสิ ไปบอกเค้าไป..ว่าบ้านนี้ทำบุญมากมายอยู่แล้ว” บุรีแขวะใครบางคน
“เอ้อ..ไม่ใช่ครับ..คือ...” ยามอึกอัก
“รถมูลนิธิเปาเก๊งเต๊งใช่ไหม” น้ำเสียงบัญชาตื่นเต้น
ดารากานต์นึกได้รู้สึกดีใจ “จริงด้วย..หรือว่า...”
“ทำไม..มีอะไร..เกี่ยวกะไอ้พวกมูลนิธิพวกนี้เหรอ” บุรีถาม
ดารากานต์ไม่รีรออะไร รีบวิ่งถลาแซงหน้ายาม ตรงไปที่ประตู ในอาการตื่นเต้นสุดๆ

ดารากานต์วิ่งมาเปิดประตูใหญ่ออกมา พอดีกับที่รถมูลนิธิขับออกไป เหลือแต่ฟ้ากระจ่างที่กำลังยกพวกกระเป๋า เป้ ถุงอะไรพะรุงพะรังขึ้นมาสะพาย หิ้ว หอบ ยามวิ่งตามมา
ดารากานต์มองฟ้ากระจ่างอย่างดีใจ ทั้งตื้นตัน และตื่นเต้น “จ้าง...”
ฟ้ากระจ่างหันมาพอเห็นดารากานต์ จึงต้องวางของในมือลงใหม่ แล้วไหว้ก้มหัวอย่างนอบน้อมสวยงาม
“คุณนายครับ”
ดารากานต์อยากจะวิ่งเข้าไปกอด แต่ก็ต้องชะงัก เพราะสรรพนามในการทักทายของฟ้ากระจ่าง
“จ้าง..ทำไมเพิ่งมาถึง..แม่เป็นห่วงมาก..รู้ไหม แม่โทหาลูกเท่าไหร่ๆ ก็ติดต่อไม่ได้”
“อ๋อ” ฟ้ากระจ่างก้มเอาของมาถือต่อ “พอดี..โทรศัพท์เสียน่ะครับ”
ดารากานต์มองแผลที่มีผ้าก็อสปิดตรงหน้าผาก “นั่น..ศีรษะจ้าง..ไปโดนอะไรมา”
ฟ้ากระจ่างคลำแผล พูดยิ้มๆ “อ่อ..ไม่มีอะไรครับ ผมไปเล่นน้ำทะเล แล้วโดดไปโดนหิน...”
ฟ้ากระจ่างมองที่แม่ ด้วยสีหน้าห่วงใย และปรารถนาดี
จังหวะนั้นบัญชานั่งในรถเข็น โดยมีทรายทองกำลังเข็นใกล้เข้ามา ฟ้ากระจ่างหันไปเห็น
“คุณบัญชา...” ฟ้ากระจ่างรีบเข้าไปหา ไหว้แล้วทรุดตัวลงใกล้ๆ อย่างคนที่คุ้นเคยชอบพอกันดี “คุณนายบอกว่า..ท่าน...ไม่สบายมาก พวกที่ศาลเจ้าทุกคนตกใจกันมากครับ ทุกคนฝากให้ผมมาบอกคุณว่า..พวกเราห่วงท่านมาก แล้วหวังจะให้ท่านหายเป็นปกติให้เร็วที่สุด”
ทรายทองมองฟ้ากระจ่างอย่างตื่นตา แต่บุรีกลับมองด้วยสายตา ระแวง และหมั่นไส้
บัญชามองหน้าฟ้ากระจ่าง เกลียดสุดขีด แต่ฝืนปั้นหน้ายิ้ม ทำเป็นดีใจ
“งั้นหรือ..บอกทุกคน ว่าฉันขอบคุณมาก”
ฟ้ากระจ่างก้มลง กุลีกุจอล้วงกระเป๋าสตางค์ใบเยินๆ ออกมา ทุกคนมองอย่าง งงๆ
ฟ้ากระจ่างเปิดช่องที่เก็บของสำคัญที่สุด ล้วงหยิบหยกรูปเจ้าแม่กวนอิมเล็กๆ ที่ห้อยด้วยไหมสีแดง สำหรับพกติดตัวออกมา
“อาจารย์ตงฝากมาให้ท่านครับผม..ปลุกเสกเรียบร้อยแล้วครับ เจ้าแม่มีปาฏิหาริย์มากนะครับ แต่ว่า..เราก็ต้องเชื่อในปาฏิหาริย์ด้วย คือ..ถ้าท่านสมัครใจ ปวารณาตัวเป็นศิษย์เจ้าแม่ แล้วเลิกกินเนื้อวัว..ด้วย..ความเป็นไปได้ก็จะมากขึ้น” ฟ้ากระจ่างเงยหน้าขึ้น เห็นทุกคนมองมา ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร แล้วไหว้คนที่ดูเป็นผู้ใหญ่ทุกคนพร้อมกับแนะนำตัว
“สวัสดีครับ..ผมชื่อฟ้ากระจ่างครับ..เรียกว่าอาจ้างก็ได้ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
ทุกคนอึ้งไปหมด กับบุคลิกท่าทีที่ไม่คาดว่าฟ้ากระจ่างจะเป็นคนนอบน้อมแบบนี้
บัวกับน้อมยืนมองอยู่ด้านหลัง ฟ้ากระจ่างเห็นบัว ก็ยิ้มอย่างดีใจ รีบเดินเข้าไปหา พลางล้วงถุงออกมาจากกระเป๋าเป้
“คุณป้าครับ..ผมมีของฝากจากที่ศาลเจ้าด้วยครับ ปาป๊าผมทำขนมบะจ่าง...ฝากมาให้ทุกคน..เมื่อเช้าผมอุ่นมาแล้ว ถ้าจะรับประทานเลยก็ได้นะครับ หรือไม่ก็แช่ตู้เย็นไว้ ปาป๊าผมทำสูตรพิเศษ เก็บได้นานหลายวัน แช่ตู้เย็นแล้วข้าวเหนียวก็ยังนุ่มหอมตลอดๆ ครับ”
บัวอึ้ง ยิ้มทำหน้าปุเลี่ยนๆ แบ่งรับแบ่งสู้ น้อมมอง ด้วยสีหน้าแปลกใจเป็นที่สุด
บัญชาลูบคลำหยกกวนอิมในมือ ด้วยจิตใจวุ่นวายสับสน ในขณะที่ดารากานต์เป็นปลื้ม น้ำตาคลอ ยิ้มหน้าบานอย่างภาคภูมิใจ

ส่วนเกียรติบดินทร์ซึ่งอยู่ที่บ้านดวงยิหวา เดินมาเปิดอ่านข้อมูลต่างๆ ในคอมพ์ฯของดวงยิหวา
“คุณดิน..มันไม่เวิร์คหรอกค่ะ คุณจะมาเรียนงานจากการอ่านเอกสารของบริษัทได้ยังไง” ดวงยิหวาว่า
“เธอก็อธิบายชั้นมาทีละขั้นตอนสิ ตามลำดับ 1-2-3-4-5” เกียรติบดินทร์บอก
“ก็แฟ้มนี้ล่ะค่ะ คือลำดับที่ 1 แต่คุณไม่มีทางเข้าใจหรอก”
“อย่ามาดูถูกชั้นนะ ดวงยิหวา ก็นายหัวยังคิดจะเอาไอ้บื้อที่ไหนมาเป็นผู้บริหารงานแทนในไม่กี่วัน มันก็คงต้องมาเรียนงานแบบเร่งรัดอย่างนี้เหมือนกัน ก็ให้มันมาชนกะชั้นกันตัว-ตัวไปเลย ว่าใครจะแน่กว่าใคร”
“คุณดิน..ดวงว่า..นายหัวเอาคนอื่นมาทำงานในตำแหน่งนี้ ก็เพราะหวังดีกะคุณต่างหาก”
“แล้วนายหัวเคยถามชั้นซักคำไหม ว่าชั้นอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร”
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์เกียรติบดินทร์ดังขึ้น เกียรติบดินทร์หยิบมาดู ทำหน้าแปลกใจ
“นายหญิง...” เกียรติบดินทร์ รู้สึกเสียวๆ “โทร.มาทำไม หวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงนะ” รีบกดรับสาย “ครับแม่”
“ดิน..ดินอยู่ที่ไหนลูก” ดารากานต์โทร.มาจากที่บ้าน
“ก็..แถวๆ นี้ละครับ มีอะไรหรือครับ”
“กลับมาที่บ้านแป๊บนึงสิจ๊ะ มาทานข้าวกลางวันกันดีไหม วันนี้ จะได้พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวยังไงจ๊ะลูก” ดารากานต์ พูดด้วยน้ำเสียงยินดีเป็นอย่างมาก
“พร้อมหน้าพร้อมตา..ทั้งครอบครัว..ยังไงหรือครับ” เกียรติบดินทร์งง
“พี่ชายของดินมาถึงแล้วลูก..มารู้จักกันหน่อยนะจ๊ะ” ดารากานต์เสียงระรื่น
พอได้ยิน เกียรติบดินทร์กดวางสายทันที ดารากานต์ผงะ
เกียรติบดินทร์เดินวุ่นวายไปมา หงุดหงิดจี๊ดในใจสุดๆ ดวงยิหวามองอย่างแปลกใจ
“มีอะไรคะ..นายหัวไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม”
เกียรติบดินทร์พยายามระงับอารมณ์ หันมาฝืนแค่นยิ้ม “นายหัวสบายดี...” เดินวนไปมาอีกครู่หนึ่ง แล้วอยู่ๆ ก็เดินไป ปิดคอมพ์ฯ “พอดีกว่า ไม่มีอารมณ์แล้ว เราไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันดีกว่า”
“ดวงมีธุระกะพ่อแล้ว” ดวงยิหวาบอก
“งั้นเหรอ..นายเด่นครับ นายเด่น” เกียรติบดินทร์เรียกเสียงดัง
เด่นโผล่มา “ว่าไงครับคุณดิน”
“นายเด่นกับดวง..มีธุระอะไร ถ้าไม่รังเกียจ..ขอผมไปด้วยคนได้ไหมครับ...” เกียรติบดินทร์ทำหน้าร้าวรานใจ “นึกว่าสงสารผมเถอะ..ผมไม่มีที่ไปอีกแล้วจริงๆ”
สองพ่อลูกเจอมุกนี้ ถึงกับใบ้กิน มองหน้ากันไปมา

เหตุการณ์ที่บ้านบัญชา บุรีเข็นรถบัญชานำเข้ามาในบ้าน แล้วหันมาพยักให้ฟ้ากระจ่างเดินตามเข้ามาในห้องทำงานบัญชา
ฟ้ากระจ่างมองไปรอบๆ ห้องด้วยความตื่นตาตื่นใจ มองทุกอย่างในห้องอย่างสังเกต
“ปิดประตูด้วย” บัญชาสั่ง
ฟ้ากระจ่างหันไป เห็นทรายทองตามมามองอยู่ที่หน้าห้อง ในอาการอยากรู้อยากเห็น ฟ้ากระจ่างยิ้มให้ ทรายทองสะดุ้ง รีบยิ้มตอบเขินๆ
“ปิดประตูด้วย..จ้าง!” บัญชาสำทับ
“ครับผม”
ฟ้ากระจ่างมองจ้องหน้าทรายทอง เป็นทำนองว่าขอโทษทีนะ ก่อนจะปิดลง ทรายทองทำหน้าผิดหวัง
“มานั่งนี่สิ” บัญชาเรียก
“เชิญ” บุรีเอ่ยขึ้น
“ครับผม” ฟ้ากระจ่างเดินอย่างสำรวม มานั่งตรงข้ามบัญชา
บัญชามองบุรี “อ้อ..บุรี..เธอก็ออกไปรอข้างนอกก่อนนะ”
บุรีผงะ ไม่เชื่อหู “อะไรนะครับ”
“พี่อยากจะคุยกับจ้าง..ตามลำพัง..ตามประสา..พ่อ-ลูก” บัญชาบอก
บุรีขยับจะอ้าปากค้าน แต่บัญชามองมาด้วยแววตาแข็งกร้าว
“ขอโทษ..ครับ” บุรีอารมณ์เสีย เดินออกไปแล้วปิดประตู
บัญชา กับ ฟ้ากระจ่าง เผชิญหน้ากัน ฟ้ากระจ่างท่าทางสำรวม เจียมตัว แต่จริงจัง
บัญชา มองอย่างตรวจตรา เหมือนจะประเมินความสามารถของฟ้ากระจ่าง

ออกมาจากห้อง บุรีลากแขนทรายทองมาที่มุมหนึ่ง
“นายหัวหลงไว้วางใจไอ้เด็กนั่นได้ไง รู้จักกับมันดีขนาดไหนกันเชียว”
“เค้าเป็นลูกนายหญิง..ไม่ใช่เหรอคะ”
“ถุย..แบบนี้ก็ยิ่งน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงเข้าไปใหญ่ ถ้ามันเป็นเรื่องจริง นายหญิงก็ควรจะโดนเฉดหัวไปให้พ้นๆแล้วสิ..พ่อรู้จักพี่ชายตัวเองดี..แต่นี่..มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ” บุรีไม่เชื่อใจสิ่งที่พี่ชายทำว่า ไม่มีอะไรแอบแฝง
“ยังไงคะ” ทรายทองสงสัย
“มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง”
“แต่ทรายว่าใช่” น้ำเสียงทรายทองจริงจัง
“งั้นแกก็ประกบมันให้ติด สืบความจริงทั้งหมดมาให้ได้ ว่ามันเป็นใคร เป็นมือดีมาจากที่ไหน หรือมันเอายาดีอะไรให้นายหัวกินจนหลงใหลได้ปลื้มขนาดนี้..ไอ้นี่มันไม่ธรรมดาแน่ๆ ท่าทางมันเล่นละครเก่ง ขี้ประจบ โกหกตอแหลไม่ใช่เล่นๆ”
ทรายทองมองพ่ออย่างเอือมระอา ไม่เชื่อถือ แต่ขี้เกียจเถียง

บัญชายังคงมองหน้าฟ้ากระจ่าง อย่างเพ่งพินิจ
“เธอกับพ่อเธอ..มีอะไรคล้ายๆ กันไม่น้อย”
ฟ้ากระจ่างตกใจ เพิ่งได้ยืนเรื่องพ่อ “คุณบัญชา..เอ้อ..นายหัว..รู้จักพ่อผมด้วยหรือครับ”
บัญชายิ้มอ่อนโยน ราวกับพ่อพระสุดประเสริฐ “ฉัน..กับแม่เธอ..เราไว้วางใจกันทุกอย่าง ไม่มีอะไรเป็นความลับต่อกัน ที่จริง..ฉันบอกให้เขาไปรับเธอมาตั้งแต่เธอยังเล็กๆ แล้วนะ แต่แม่เธอเค้าไม่กล้าเอง”
“ทำไม..ถึงไม่กล้าล่ะครับ” ฟ้ากระจ่างสงสัย
“เค้ากลัว..ว่าชั้นจะเสียหน้า กลัวว่า..ตัวเองจะเสียชื่อเสียง กลัวว่าครอบครัวจะมัวหมองน่ะสิ แต่เธอก็ควรจะเห็นใจเค้านะ เพราะเราอยู่ในจังหวัดเล็กๆ แล้วเรื่องแบบนี้..มันก็เป็นเรื่องที่ชาวบ้านชอบนัก”
บัญชาเริ่มให้ข้อมูลเท็จกับฟ้ากระจ่าง
“แล้วตอนนี้..นายหญิง..เค้าไม่กลัวแล้วหรือครับ”
“อาจเป็นเพราะ..สภาพของชั้นมันน่าสมเพช..จนแม่เธอเค้าอาจจะเห็นว่า..เวลานี้ชาวบ้านอาจจะกำลังสงสารชั้นเหลือเกิน..จนขี้เกียจจะนินทาแล้วก็ได้ เค้าถึงยอม..ทำตามที่ฉันบอกเสียที” บัญชาหัวเราะเหมือนทีเล่นทีจริง
“ที่จริง..ผมจะว่าท่านผมทอดทิ้งผมโดยสิ้นเชิงไปเลยก็ไม่ได้ เพราะที่ผมโตขึ้นมา เรียนจนจบมาได้นี่..ทั้งหมด ก็เพราะทุนทรัพย์ของท่านกับคุณนายแท้ๆเลยครับ ผมต้องขอบพระคุณมากครับ..ที่ท่านกับคุณนาย..อุปถัมภ์ผมมาโดยตลอด”
“ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องขอบคุณ..เราก็แค่..ทำหน้าที่ของเรา แล้วเราก็ทำได้ไม่สมบูรณ์นักหรอกนะ ที่จริง..เธอควรจะมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้มากนัก”
“ผมมีความเป็นอยู่ที่ดีมากๆ แล้วนะครับ..ท่านก็ไปเห็นมาแล้วไม่ใช่หรือครับ ว่าพ่อแม่..แล้วก็ทุกคนที่ศาลเจ้า..ดีกับผมมาก”
“ยังไงๆ มันก็ไม่ยุติธรรมเลย..ที่เธอต้องโตมาแบบนั้น หากจะเทียบกับ...เกียรติบดินทร์ ลูกของเรา...”
ฟ้ากระจ่างพูดสวนออกมาเสียงสุภาพ “อย่าเทียบผมกับลูกของท่านเลยครับ เราคงเปรียบกันไม่ได้..เพราะพ่อผม..เอ้อ..คุณนายบอกว่า..ท่านแต่งงานไปกับคนอื่น”
“ใช่..เค้าก็มีครอบครัวของเค้า เค้าไม่รับรู้เรื่องเธอด้วยซ้ำ”
“ดีแล้วล่ะครับ..เพราะ..ครอบครัวของคุณพ่อท่าน..ถ้าพวกเค้าทราบเรื่องผม..อาจจะทำให้ครอบครัวต้องมีปัญหาก็ได้ครับ”
บัญชาฟังแล้วอึ้งไป และทึ่งจริงๆ ว่าทำไมฟ้ากระจ่างช่างเป็นคนดีเหลือเชื่อ

ดวงยิหวาอยู่ในห้างโลตัส และกำลังหยิบข้าวของพวกกาแฟ และชา ชะงัก
“นั่นคุณทำอะไรน่ะ”
เกียรติบดินทร์หยิบพวกขนมล้วนๆ ทั้งช็อกโกแลตต่างๆ เต็มไปหมด มันฝรั่งทอดเป็นโหลๆๆ
“อ้าว..นี่ไม่ใช่ของคุณ ของผม”
“คุณกินแต่ของพวกนี้เนี่ยนะ”
“นี่มันเสบียง ผมว่าจะ..ไปค้างที่อื่นซักระยะนึง” เกียรติบดินทร์บอก
“แปลว่าอะไร คุณจะไปไหนงั้นเหรอ”
“ดวงห่วงผมเหรอ...” เกียรติบดินทร์ยิ้มกริ่ม
ดวงยิหวาถอนหายใจ ในที่สุดก็ตัดสินใจถาม “คุณดิน..ชั้นอยากให้คุณกับพ่อแม่เข้าใจกัน บอกมาซิ คุณมีปัญหาอะไรอีก..เมื่อกี๊..นายหญิงบอกอะไรคุณ”
“ไม่มี..ไม่ได้บอกอะไร” เกียรติบดินทร์เมินหน้าไม่ยอมสบตา “หรือผมจะไปเที่ยวกรุงเทพฯ สักพัก ไปหาพวกเพื่อนๆ ทีมบาสเก่า..ดวงว่าดีไหม”
“คุณดิน..ถ้าคุณอยากให้คนเห็นว่าคุณเป็นผู้ใหญ่..คุณก็ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ก่อน”
เกียรติบดินทร์หันมา เผชิญหน้า ท่าทีจริงจัง “เช่น..ยังไงล่ะ ว่ามา”
“เช่น..เผชิญกับทุกปัญหา ด้วยความมีวุฒิภาวะมากกว่านี้” ดวงยิหวาเอ่ยขึ้นน้ำเสียงซีเรียส
“ถ้าอย่างนั้น..ต่อไปนี้ ดวงต้องเป็นที่ปรึกษาให้ผม คอยช่วยผมให้เอาชนะพี่ชายกำมะลอบ้าบออะไรนั่นให้ได้ ดวงจะทำได้ไหม” เกียรติบดินทร์อ้อน
“คุณดิน..ดวงจะไปรู้อะไรคะ”
“ดวงไม่ต้องรู้อะไรมากหรอก..แต่เป็นกำลังใจให้ผม อยู่ข้างผม คอยบอก..ว่าตอนไหนผมควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร..แค่นี้เอง..นะ..นะๆๆ” สีหน้าเกียรติบดินทร์อ้อนหนักกว่าเมื่อครู่
ดวงยิหวามองอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

ทางด้านบัญชายังจ้องหน้าพิจารณาฟ้ากระจ่าง เหมือนวัดความจริงใจ ฟ้ากระจ่างมองตอบตาแป๋วใสซื่อ จริงจัง
“เธอนี่..เป็นคนเข้าใจอะไรง่ายดีนะ” บัญชาออกปากชม
ฟ้ากระจ่างยิ้มรับ “ขอบคุณครับ”
“ชั้นรู้อยู่แล้ว..ว่าเธอเป็นคนแบบนี้ ฉันถึงกล้าให้เธอมาทำงาน..ในหน้าที่เจ้านายคนใหม่ของบริษัทเรา..แทนชั้นยังไงล่ะ ความขัดแย้งกับคู่แข่งทางธุรกิจของฉัน..มันรุนแรงมาก..ฉันต้องการคนที่มีความประนีประนอมสูงอย่างเธอ..มาแก้ปัญหา ขืนใช้คนอย่างบุรี หรือเกียรติบดินทร์ ก็คงจะมีแต่ความรุนแรง ที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ..เธอคิดว่า..จะช่วยฉันได้..ใช่ไหม”
“ผมจะพยายามครับ..ท่านคงต้องสอนผมหนักมาก..เพราะผม..ยังไม่ทราบเลย ว่าต้องทำอะไรบ้าง”
บัญชา “ดี..งั้นเธอจำกฎข้อแรกไว้...ว่า..เรื่องทุกเรื่องที่เราพูดกันวันนี้ ไม่ต้องออกไปพูดต่อ โดยเฉพาะ กับแม่เธอ..อย่าบอกเขาเด็ดขาด” บัญชาตั้งข้อแม้ เพื่อป้องกันแผนของตัวเอง
“ครับผม”
“รวมทั้ง..เรื่องงาน บริษัทคู่แข่ง ใครเป็นใคร ชื่ออะไร อะไร ยังไง ไม่ต้องเล่าให้แม่เธอฟังทั้งสิ้น เพราะ..หากเค้ารู้ปัญหาเรื่องงานของฉันมากไปกว่านี้...เขาอาจจะเสียขวัญ หรือประสาทเสียไปเลย”
“ครับผม”
บัญชายิ้มออกมา มองจ้องหน้าฟ้ากระจ่าง
“เธอจะไม่ถาม..ถึงพ่อที่แท้จริงของเธอ..ซักคำเลยหรือ”
ฟ้ากระจ่างทำหน้าเสงี่ยม พอใจแล้ว “ไม่เป็นไรครับ..ผมคิดว่า..เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย..ผมไม่ทราบเลยจะดีกว่า..ไหนๆ..ผมกับท่านก็คงไม่มีอะไรจะไปเดียวข้องกันอีกแล้ว..จริงไหมครับ”
บัญชามองอย่างฉงน ในความง่าย อะไรยังไงก็ได้ไปทุกเรื่องของฟ้ากระจ่าง คิดในใจว่าเด็กคนนี้มันดีเกินจริงไปหรือเปล่า?

ดารากานต์เดินเข้ามาเปิดม่าน ให้ความสว่างสาดเข้ามาเต็มห้อง เป็นห้องเก่าของบัญชาก่อนจะประสบเหตุการณ์ร้าย ทรายทองตามเข้ามา
ดารากานต์หันมา เอ่ยขึ้น “ทราย..ดูสิ ป้าเปลี่ยนพวกผ้าปู ผ้าคลุมให้มันดูวัยรุ่นขึ้น ไม่เรียบร้อยดูเป็นผู้ใหญ่เกินไปแบบตอนที่นายหัวนอน แล้วก็ติดรูปเขียนนี้” ชี้ที่รูปถ่ายแนวเท่ๆ แมนๆ “ทรายว่า..ห้องนี้ดูสบายๆ น่าอยู่ขึ้นไหม”
“ค่ะ..ดูเบาๆขึ้นมากค่ะ นายหญิงจะให้ทรายช่วยอะไรไหมคะ เดี๋ยวทรายไปดูในห้องน้ำให้นะคะ ว่าพวกผ้าเช็ดตัว ผืนเล็ก ผืนใหญ่ ผ้าคลุม อะไรต่ออะไร สบู่ แปรงสีฟัน แชมพู พร้อมหรือเปล่า”
น้อมเดินถือพวกกระเป๋า เป้ของฟ้ากระจ่างเข้ามาวาง ได้ยินพอดี
“คุณทรายอย่าลำบากเลยครับ ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของผม และผมก็จัดการเรียบร้อยแล้ว”
“งั้นเหรอ..นายน้อม..นายน้อมต้องรู้นะ ว่าคุณฟ้ากระจ่างเค้าจะมาเป็นคุณชายคนโตของบ้านนี้” ทรายทองพูดสำทับ “นายน้อมจะมาใช้ของที่ไม่ได้มาตรฐานไม่ได้นะ ของคุณดินใช้ยังไง ของคุณจ้าง..ก็ต้องใช้เหมือนกัน”
“ครับผม...” น้อมแอบบ่นพึมพำอย่างดูแคลน “แต่จะใช้เป็นหรือเปล่า นั่นอีกเรื่องนึง”
“นายน้อม..ว่าอะไรนะ” ดารากานต์ได้ยินพอดี
“เปล่าครับ” น้อมจ๋อยไป
ดารากานต์ยิ้ม อย่างอารมณ์ดี
“ที่นายน้อมว่า..ก็มีเหตุผล..เพราะจ้างเขาอาจจะใช้ของใช้พวกนี้ไม่เป็นจริงๆ เพราะฉะนั้น ฉันขอนะจ๊ะ..ขอร้องให้นายน้อมช่วยลูกชายคนโตของฉันด้วย ขอให้สงสารเมตตาเค้า เพราะที่เค้าต้องไปตกระกำลำบาก ก็เพราะความผิดของชั้นคนเดียว มีอะไรก็บอก ก็สอนเค้า จ้างเค้าเป็นคนว่านอนสอนง่าย นายน้อมคงไม่เหนื่อยมากหรอกจ้ะ”
“ได้ครับๆ” น้อมยิ่งหน้าซีดหนักกว่าเก่า
ทรายทองแอบมอง ขำๆ เยาะๆ สมน้ำหน้าน้อม

บัวเดินนำฟ้ากระจ่างขึ้นมาข้างบน มาหยุดที่หน้าห้อง “เชิญค่ะ คุณจ้าง..ทางนี้..นั่น..ห้องของคุณ”
ทรายทองปรี่ออกมายืนรับ ยิ้มประจบ “มาค่ะ พี่จ้าง..ทรายจะพาพี่ไปชมห้องนอนของพี่เอง”
ดารากานต์ กระแอม “ทรายจ๊ะ ให้พี่เค้าไปชมกับนายน้อมจะดีกว่าไหม ทรายลงไปเตรียมอาหารกลางวันกับป้าดีกว่า ให้พี่เค้าอาบน้ำอาบท่า พักผ่อนให้สบายก่อน”
ฟ้ากระจ่างมายืนหยุด มองรอบตัว อยู่ในอาการงงๆ “ไหนครับ..ห้องผม”
“นั่นไงจ๊ะ” ดารากานต์ชี้ชวนให้ดู
ฟ้ากระจ่าง ผงะ อึ้ง “หือ..อะไรนะครับ..ห้อง..ตรงกลางนั่นน่ะเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ ดีไม่พอหรือคะ คุณจ้าง นั่นห้องนายหัวเชียวนะคะคุณ” บัวแอบกัด
ฟ้ากระจ่างทำท่าเหมือนจะถอย “จะดีหรือครับ..คุณนาย”
ดารากานต์พูดสวนออกมา
“จ้าง..แม่ขอร้อง..เลิกเรียกแม่ว่าคุณนายซะที..แม่นึกว่า..จ้างจะ..ยอมรับแม่แล้วเสียอีก.. แต่แล้ว จ้างก็..ยังมองแม่เป็นคนอื่นอยู่ดี”
ทุกคน มองลุ้นๆ
“คือ..ผม..ผมไม่อยากลามปาม ขอผมไปอยู่ห้องข้างล่าง..อยู่ห้องหลังบ้าน ที่ไหนก็ได้ คือผม..ผมไม่สะดวกจริงๆ ที่จะ..อยู่แบบนี้ครับ คุณนาย!!” ฟ้ากระจ่างพูดเสียงจริงจัง
“จ้าง!! ยังไม่หยุดเรียกแม่แบบนั้นอีก!! ในเมื่อจ้างตัดสินใจมา ก็แปลว่าจ้างยอมรับแล้ว ว่าจ้างคือลูกชายแม่ ไม่งั้นจ้างจะมาทำไม จ้างทำแบบนี้ แม่เสียใจมาก รู้ไหม”
พูดจบดารากานต์ร้องไห้ออกมา ทุกคนตกตะลึง บรรยากาศเงียบกริบ
“คุณนายครับ..คือ..ผมขอโทษๆ” ฟ้ากระจ่างเดินเข้ามา ทำตัวไม่ถูกรีบไหว้ขอโทษตามนิสัย “คือ..ผมไม่ตั้งใจจะทำให้คุณนายเสียใจ แต่ผม..ผม…”
“แค่เรียกแม่ว่าแม่..แค่นี้จ้างทำไม่ได้เหรอ มันลำบากใจอะไรขนาดนั้นเลยเหรอ ที่แท้ จ้างก็ไม่ให้อภัยแม่ จ้างอยากจะลงโทษแม่ใช่ไหม บอกมาสิ แม่ต้องทำยังไงเหรอ แม่ต้องทำยังไง จ้างถึงจะหายโกรธแม่ บอกมาสิ บอกมา แม่ยินดีที่จะทำตามลูกทุกอย่าง” ดารากานต์ระเบิดอารมณ์ใส่ลูกชายอีก
น้อมอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงเอ็ดตะโร ก็ตกใจ โผล่ออกมาดูด้วยท่าทีอกสั่นขวัญหาย
“คุณนายครับ”
บัวไม่พอใจ พูดออกมาอย่างเจ็บแค้นแทนดารากานต์
“...แค่เรียกคุณนายว่าแม่ แค่เนี้ย มันจะตายเลยเหรอ หา..คุณจ้าง! เด็กอกตัญญู..ทำให้พ่อแม่น้ำตาตก ตายไปต้องตกนรก”
“อย่าไปว่าจ้างเค้าเลย..ป้าบัว..จ้างไม่ผิด ชั้นเองที่ผิด” ดารากานต์ปราม
ฟ้ากระจ่างยืนบื้อ แต่จะให้เรียกว่าแม่ออกมาตรงนั้น ก็ทำไม่ได้ ในที่สุด ทรุดนั่งลงพนมมือ
“ผมขอโทษๆ..ผม..ผม..”
เป็นจังหวะเดียวกับที่ เกียรติบดินทร์เดินขึ้นมาแบบชิลล์ๆ มองภาพตรงหน้า เหมือนว่ากำลังดูละครน้ำเน่า พูดแดกดันไปทั่วทุกตัวคน
“ลำบากนัก..ก็อย่าพูดเลย คำว่าแม่น่ะ เรียกแบบคนบ้านนี้เค้าเรียกกันก็ได้ นายหัว กับนายหญิง”
ทุกคนหันไปมองตามเสียง ฟ้ากระจ่างหันไปเห็นเกียรติบดินทร์ ชะงัก รู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อน แต่ไม่แน่ใจ
เกียรติบดินทร์พอเห็นฟ้ากระจ่าง ก็ผงะไปเช่นกัน ถอดแว่นดำออกมอง ไม่แน่ใจเช่นกัน
ทั้งสองต่างมองจ้องกันไปมา ในขณะที่ฟ้ากระจ่างยังนั่งอยู่ ดารากานต์รีบเข้ามาประคองให้ลุกยืนขึ้น แนะนำให้ลูกชายต่างพ่อให้รู้จักกัน อย่างเป็นทางการ
“จ้าง..นี่..น้องดิน ดิน..นี่..พี่จ้าง พี่ชายของลูก..ลูกชายคนโตของแม่”
“ถ้าเค้าไม่นับแม่เป็นแม่ จะมานับผมเป็นน้องได้ยังไง” เกียรติบดินทร์มองเท้าจรดหัว “นั่น..หัวไปโดนอะไรมาล่ะ”
ฟ้ากระจ่างมองหน้าเกียรติบดินทร์อย่างพินิจ รู้สึกสงสัยตะหงิดๆ “โดนหิน..ผม..เล่นน้ำทะเลมา” เลยตัดสินใจบอกไปแบบนั้น
“น้องดิน ไหว้พี่เข้าสิลูก” ดารากานต์เอ่ยขึ้น
“ไม่!” เกียรติบดินทร์จ้องหน้าฟ้ากระจ่างอย่างหยามเหยียด “ผมไม่มีพี่..ผมเป็นลูกคนเดียว”
เกียรติบดินทร์มองฟ้ากระจ่างอย่างดูแคลนอีกครั้ง แล้วหันหน้าเดินเชิดเข้าห้องตัวเองไป พร้อมกับปิดประตูดังโครม
“น้องดิน..น้องดิน..ทำไมพูดกะพี่เค้าแบบนั้น น้องดิน น้องดิน ออกมาขอโทษพี่เค้าเดี๋ยวนี้นะ น้องดิน!!”
ดารากานต์พูดพร้อมกับถลันจะไปเคาะห้อง ฟ้ากระจ่างเข้าไปขวาง จับแขนรั้งไว้
“ช่างน้องเค้าเถอะครับ แม่!”
ทุกคนชะงัก กับสรรพนามที่ฟ้ากระจ่างเรียกดารากานต์ว่า “แม่” เต็มปาก ต่างมองตาค้าง ตะลึงกันไปหมด ดารากานต์นิ่งงัน มองฟ้ากระจ่างเขม็ง ทว่าฟ้ากระจ่างเหมือนไม่ใส่ใจ พูดไปโดยไม่รู้สึกตัว
“ห้องผมห้องนี้ใช่ไหม ได้ครับ..ผมอยู่ได้..ให้ผมอยู่ที่ไหน ยังไง ผมก็อยู่ได้หมดล่ะครับ ทุกคน..ไม่ต้องห่วงนะครับ..ผมขอโทษนะครับ ที่ทำให้วุ่นวายกัน”
ว่าพลางไหว้ทุกคน และค้อมหัวให้ทรายทอง
“งั้น..เชิญครับ..เชิญ” น้อมเดินนำไป

ฟ้ากระจ่างหันกลับมาค้อมหัวให้ทุกคนอีกครั้ง แล้วเดินตามน้อมไป ดารากานต์น้ำตาไหล ด้วยความตื้นตัน บัวเข้ามาบีบมือให้กำลังใจ ทรายทองก็เข้ามาโอบกอดดารากานต์อีกคน












Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2555 13:48:16 น.
Counter : 377 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]