ขอบคุณรูปภาพจากอินเทอร์เน็ต
คำอธิบายจากผู้เขียน คือ คุณ อ. อโณทัย
มะพร้าวนาฬิเกร์แห่งแดนนิพพาน หมายถึง ความเป็นหนึ่งเดียวไม่เปลี่ยนแปลงในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทั้งปวงของสังสารวัฏนั้น ผู้ที่พ้นบาปและไม่ยึดบุญเท่านั้นที่ไปถึงได้ ดังท่านพุทธทาสได้ให้คำอธิบายว่า
เหนือบุญ เหนือบาป ก็คือ นิพพาน นั่นหมายถึง การละวางกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ ที่ก่อความทุกข์เบียดเบียนตนเองและผู้อื่นให้เดือดร้อนลงหมดสิ้น แล้วอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อันเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่ทำให้โลกมีสันติภาพได้
อ. อโณทัย จาก หนังสือที่อ้างแล้ว หน้า 151
สระนาฬิเกร์ ปัญญาจากอดีต ซึ่งท่านพุทธทาสสร้างขึ้นให้เป็นสื่อสอนธรรมะอีกอย่างหนึ่งของสวนโมกข์ โดยอาศัยเนื้อเพลงบทกล่อมลูกของคนโบราณรอบอ่าวบ้านดอนซึ่งมีเนื้อหาเปรียบเทียบให้เห็นว่า
พระนิพพานนั้นอยู่ท่ามกลางวัฏฏสงสาร หรือ ความรู้แจ้งแห่งทุกข์แท้จริงอยู่ท่ามกลางความทุกข์ นั่นเองจาก หนังสืออนุทินภาพ 60 ปีสวนโมกข์ หน้า 117 118
จาก หนังสือที่อ้างแล้ว หน้า 151
มรดกที่ 22 สระนาฬิเกร์ คือ บทเรียนด้วยของจำลองมาจากบทกล่อมลูกให้นอนของประชาชนที่แสดงว่า สมัยโน้นประชาชนได้เข้าถึงธรรมะสูงสุดกันเพียงไร จนถึงกับนำเอาเรื่องของพระนิพพาน มาทำเป็นบทเพลงกล่อมลูกได้
ขอให้รักษาเกียรติของบรรพบุรุษในข้อนี้ และทำตนให้สมกับเป็นลูกหลานของท่าน จงทุกคนเถิด
พุทธทาสภิกขุ (หน้า 153)
ในการบรรยายธรรมะของท่านพุทธทาสตลอดมานั้น บ่อยครั้งที่ท่านอ้างถึง วิธีการดับทุกข์อย่างธรรมชาติโดยง่ายๆ ตามแบบชาวบ้าน ที่สามารถปรับจิตใจเข้าสู่ความคิด เหนือบุญ เหนือบาป ทำให้ไม่เบียดเบียนตัวเอง คือ ไม่ก่อทุกข์ ไม่เกิดทุกข์ และไม่มีทุกข์ ได้อย่างฉับพลันตามความต้องการ เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของปัญหาได้จริง
พื้นฐานความคิดดังนี้ได้แสดงออกถึงหลักการที่ท่านพุทธทาสใช้ปรับเปลี่ยนความเข้าใจของพุทธศาสนิกชน และปฏิวัติการแปลพระไตรปิฎกให้สัมผัสกับชีวิตมนุษย์ตรงขึ้น ง่ายขึ้น และเป็นประโยชน์มากขึ้น เช่น
แปล นิพพาน ว่า ความเย็น
อ. อโณทัย (หน้า 153)