*** พื้นที่ส่วนตัวของ พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี นี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนหยัดในหลักการที่ว่า คนเรานั้นจะมีความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพในการแสดงความคิดโดยบริบูรณ์ และความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีอำนาจใดจะพรากความเป็นมนุษย์ไปจากเราได้ ไม่ว่่าด้วยวิธีการใด ๆ และอำนาจผู้ใด ***
*** We hold these truths to be self-evident, that all men are created equal, that they are endowed by their Creator with certain unalienable rights, that among these are life, liberty and the pursuit of happiness. That to secure these rights, governments are instituted among men, deriving their just powers from the consent of the governed. That whenever any form of government becomes destructive to these ends, it is the right of the people to alter or to abolish it, and to institute new government, laying its foundation on such principles and organizing its powers in such form, as to them shall seem most likely to effect their safety and happiness. [Adopted in Congress 4 July 1776] ***
Group Blog
 
All Blogs
 
การสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญของไทย

ผมได้อ่านบล๊อกของว่าที่ ดร. Pok ซึ่งเป็นอาจารย์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ในเวปไซต์ของท่าน “นิติรัฐ” แล้ว ต้องยอมรับว่ามีความคิดเห็นที่น่าสนใจหลายประการ แม้ความเห็นของท่าน กับของผม จะไม่ตรงกันหลายประการ โดยเฉพาะเกี่ยวกับรัฐบาลในยุคปัจจุบัน คือ ฯพณฯ ดร. คุณพี่ ทักษิณ ของผม .....




ท่านเขียนไว้เกี่ยวกับกระบวนการคัดสรร บุคคลที่จะมาเป็นองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญของไทย ซึ่งท่านมองว่า รัฐบาลของท่านพี่ทักษิณฯ สำนึกช้าไปหน่อย เกี่ยวกับกระบวนการคัดสรรบุคคลที่จะมาเป็นองค์กรอิสระ ว่าจะต้องตัดองค์กรทางการเมืองออกไป ฯ ผมอยากให้ท่านทั้งหลาย ได้เข้าไปอ่านบทความเรื่อง “รัฐบาลกับการแก้ไขกระบวนการสรรหา ป.ป.ช.” ของคุณ “นิติรัฐ” ครับ ผมได้ให้ข้อคิดเห็นไว้หลายประการ ซึ่งก็มีผู้ทรงภูมิรู้ อย่างท่าน “ปิ่น” เข้ามาแสดงความเห็นแย้งไว้ น่าสนใจมากครับ

ความจริงผมกับ คุณ “นิติรัฐ” รู้จักกันมาเนิ่นนาน ตั้งแต่ครั้ง ยังเรียนในหลักสูตร นิติศาสตรมหาบัณฑิต ที่ธรรมศาสตร์ด้วยกัน ก่อนที่ว่าที่ ดร. “นิติรัฐ” จะไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส ผมชื่นชม “เด็ก” คนนี้ มาโดยตลอดว่าเป็นผู้มีความเฉลียวฉลาด พูดจาฉะฉาน มีความรู้รอบด้านฯ ต่อมา คุณนิติรัฐ ได้สมัครเป็นอาจารย์ฯ ผมเชื่อว่า คณะนิติศาสตร์ ไม่ผิดหวังแน่ ที่จะได้เพชรเม็ดงามไปสร้างความดีให้ปรากฎฯ

ผมไม่ทราบว่า กระบวนการคัดเลือกบุคคลเป็นอาจารย์ เขาทำอย่างไร แต่เพื่อนผม คือ คุณแก้วฯ กว่าจะได้เป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มธ. ต้องผ่านการทดสอบประมาณ ๕ ครั้ง ทดสอบความรู้ ทดสอบการสอนฯ ทดสอบเรื่องบทความ ฯลฯ ให้ผู้ทรงคุณวุฒิฯ และนักศึกษาฯ เข้ามาฟังการสอนฯ และประเมินความสามารถในการเป็นอาจารย์แล้วประเมินอีก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ผมเชื่อว่า ถ้ามีระบบการประเมินที่จริงจัง ไม่เฉพาะก่อนเข้าเป็นอาจารย์ แต่รวมถึงขณะเป็นอาจารย์ โดยยึดตัวแบบของสหรัฐฯ หากอาจารย์ ไม่มีผลงานวิจัยที่มีคุณภาพเพียงพอ ในเวลา ๒ ปี ก็ถูกไล่ออกทันที ถ้าเมืองไทย มีการประเมินแบบนั้น ป่านนี้ วิชาการเมืองไทย คงก้าวไกล ไม่แพ้ที่อื่นแล้ว เสียดาย ระบบเส้นสายและการช่วยเหลือ ก็ไม่ว่างเว้น แม้แต่ในวงวิชาการเช่นกัน ผมหวังว่าว่าที่ ดร. “นิติรัฐ” จะนำระบบดี ๆ ไปแก้ไข ต่อไป

แต่สิ่งที่ผมและคุณนิติรัฐ เห็นต่างกัน คือ กระบวนการบางอย่าง เป็นกระบวนการทางการเมือง ที่นักกฎหมายไม่ควรเข้ายุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะกระบวนการสรรหาบุคคลจะเข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง และองค์กรอิสระ ซึ่งในแนวคิดทางรัฐศาสตร์ ซึ่งผมได้ร่ำเรียนมาจากสำนักสิงห์แดง หลายปีก่อนฯ ก่อนที่จะมาเรียนที่คณะนิติศาสตร์ ฯ

ผมได้ยกตัวอย่าง ระบบการแบ่งสรรอำนาจ ระหว่างฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ ในสหรัฐอเมริกาฯ โดยกระบวนการคัดสรรบุคคลที่จะไปดำรงตำแหน่งบุคคลสำคัญ ๆ ล้วนแต่เป็นอำนาจหน้าที่ของประธานาธิบดีทั้งสิ้น รัฐสภา (Congress) จะกำหนดเป็นอย่างอื่น ก็ไม่ได้ กฎหมายที่กำหนดให้มีกระบวนการสรรหาบุคคลไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ล้วนแต่ขัดรัฐธรรมนูญ (unconstitutional) ทั้งสิ้น

ผมคิดว่ามันมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย บุคคลเหล่านี้ ได้รับมอบอำนาจอธิปไตยมาจากปวงชน ต้องรับผิดชอบต่อปวงชน ชั่วหรือดี ที่เขาทำ ล้วนแต่ถูกจารึกไว้ เขาต้องถูกตราหน้าไปชั่วฟ้าดินสลาย หากทำชั่ว “เงยหน้า ก็อายฟ้า ก้มหน้า ก็อายดิน” การมีส่วนร่วมของประชาชน จึงเป็นทางออกที่จะมาคานอำนาจของฝ่ายการเมืองฯ

กระบวนการทางการเมือง ต้องได้รับการพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ก้าวกระโดด แบบที่ สสร. ได้ร่างไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน หากกระทำที่เป็นการยัดเยียดสิ่งที่นักวิชาการได้กระการในสิ่งที่เรียกว่า “ชักว่าวทางวิชาการ” ตามที่คุณปิ่นฯ ได้กล่าวไว้ จึงไม่อาจจะเล็งผลดีเลิศได้

กระบวนการคัดสรรบุคคลมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยให้บุคคลที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน และไม่มีกระบวนการใด ในการขับไล่เขาออกจากตำแหน่ง ไม่มีจุดเชื่อมโยงระหว่างอำนาจอธิปไตยของปวงชน กับตำแหน่งของบุคคลเหล่านี้ จึงอธิบายไม่ได้ทางทฤษฎีประชาธิปไตย หากเขาคัดเลือกบุคคลที่ “ห่วยแตก” เข้ามาดำรงตำแหน่งฯ เช่น การให้ท่านอธิบการบดีมหาวิทยาลัย (ซึ่งก็ยังแบ่งแยกว่า จะต้องเป็นอธิการบดีเฉพาะมหาวิทยาลัยของรัฐเท่านั้นอีกต่างหาก) ฯลฯ มาทำการสรรหาฯ บุคคลพวกนี้ คือ คนธรรมดา ที่สามารถ เลวได้ ชั่วได้ มีรักโลภ โกรธ หลง และ ขี้เหม็น เหมือนนักการเมือง ที่ สสร. รังเกียจนั่นแหละ บุคคลเหล่านี้ เขาก็ไม่ต้องรับผิดชอบต่อปวงชน ไม่ต้องลาออกจากตำแหน่ง ไม่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือ ด่าในสภาฯ




ความดี ความชั่ว มันไม่ได้เลือกอาชีพหรอกครับ ชั่วได้เสมอหน้ากัน ไม่ว่าอาชีพอะไร แต่สิ่งใดที่เป็นกระบวนการทางการเมือง ควรได้รับการพัฒนาโดยวิถีทางในทางการเมือง อย่างค่อยเป็นค่อยไป และมีพื้นฐานที่ดี ผมเชื่อเช่นนั้นมาตลอด และจะเชื่อเช่นนั้น ตลอดไป [last update: 20 กรกฎาคม 2548]



Create Date : 13 มิถุนายน 2548
Last Update : 18 มิถุนายน 2553 8:52:10 น. 12 comments
Counter : 908 Pageviews.

 

แวะมาอ่านค่ะ คลิกเข้ามาหลายครั้งพยายามจะตอบ
แต่ไม่ค่อยมีความรู้เลยบอกได้แค่ว่าเขียนได้ดี
อ่านแล้วเพลิน ๆ ดีค่ะ
แต่เห็นด้วยกับความเห็นหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ในเวลานี้


ขอบคุณนะคะที่แวะไปเยี่ยม blog ในคราวก่อน
ปล.ความถูกต้อง ความรับผิดชอบถูกกำหนดโดยบทบาทหน้าที่นะคะ


โดย: totoh IP: 203.151.140.119 วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:5:05:41 น.  

 


ไม่รู้เรื่องทั้งนิติศาสตร์ทั้งรัฐศาสตร์เลยค่ะ
เดี๋ยวจะลองตามไปอ่านบลอกคุณนิติรัฐ เผื่อจะเข้าใจมากขึ้น
หรืออาจจะยิ่งงง


โดย: rebel วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:6:09:36 น.  

 
สวัสดีครับ

พี่ครับ (เดาว่าเป็นพี่) ผมเข้ามาทีไร ปวดหมองทุกทีเยย ตาลาย วิงเวียน โอ้ย โอ้ย จะป็นลม 55555

ผมไม่ได้อ่านนะครับ (ไม่ว่ากันนะครับ)

ขอบคุณที่ไปฟังเพลงที่บล้อกผมนะครับ





โดย: หัวหน้าแก้งค์ ความโ(สด) (note-d ) วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:7:11:03 น.  

 
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ


โดย: prncess วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:7:56:39 น.  

 
เห็นด้วยนะพี่ที่คนเลือกมันต้องโยงกับอำนาจอธิปไตยของปวงชน

แต่ผมเห็นอีกมุม ผมมองว่า นี่มันแบ่งออกเป็นสองขั้นตอน คือ

1. กระบวนการสรรหา

2. กระบวนการเลือก

ไอ้สรรหานี่ เค้าก็ต้องตั้ง คณะกรรมการสรรหาขึ้นมา เพื่อรวบรวมผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เพื่อเสนอชื่อให้แก่ องค์กรที่ทำหน้าที่ในการเลือก หรือจะเห็นชอบอะไรก็แล้วแต่ต่อไป

ซึ่งสุดท้ายขั้นตอนของการเลือกจริงๆ ก็คือ วุฒิสภา ซึ่งก็มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเหมือนกัน

ผมว่ามันมาโยงให้ในขั้นตอนที่สอง

ดังนั้น ในขั้นตอนแรก คงต้องมานั่งคิดกันแหล่ะครับว่ามันจะให้โยงการเมืองขนาดไหน ตามอำนาจหน้าทีที่เค้ามีอยู่ ตรงนี้ผมมองว่า เค้าอาจจะออกแบบให้การสรรหากระทำโดยบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ และรวมถึงกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง (คำที่พี่ชอบใช้) ให้มันได้ดุลกันหรือไม่

แล้วสุดท้ายก็โยนไปที่องค์กรทางการเมืองที่โยงกับอำนาจการเลือกตั้งของประชาชน ที่สามารถถอดถอนได้ มี accountability คือ วุฒิฯ เหมือนดั่งที่พี่ต้องการ

ดังนั้นถ้าพี่ต้องการให้มันเป็นการเมืองร้อยเปอร์เซนต์ พี่อาจจะต้องให้วุฒิฯ นั่นแหล่ะ ตั้งกรรมาธิการเพื่อสรรหารายชื่อบุคคลด้วย เรียกว่า "ชงเองกินเอง"

ผมมองว่า สสร. เองก็คงมองการเมืองบ้านเราแบบค่อยเป็นค่อยไปนะพี่ เค้ายังไม่เชื่อว่าการเมืองบ้านเรา ในความหมายของความเป็นประชาธิปไตยในสายเลือดของคนบ้านเรามันจะเข้มข้นเหมือนในประเทศอื่นๆที่เค้ามีมาเป็นร้อยๆปีแล้ว

ดังนั้นเริ่มต้นแห่งการเมืองใหม่ของเรา โดยเฉพาะรธน ปี 40 เค้าอาจจะวางโครงสร้างให้มันโยงการเมืองบ้างแต่ไม่ทั้งหมด เค้าต้องการคนที่มีต้นทุนทางสังคมมาก มาทานอำนาจทางการเมืองตรงนี้ ซึ่งเมื่อวันหนึ่ง เมื่อการเมืองพัฒนาขึ้น อย่างที่พี่และผมอยากเห็น

องค์กรเหล่านี้ก็ต้องถอยออกไปล่ะครับ แล้วให้การเมืองว่ากันล้วนๆ

แต่ตอนนี้ ผมยังไว้ใจการเมืองไม่ค่อยได้เท่าไหร่ การออกแบบแบบนี้มันอาจทำให้ดุลทางการเมืองมันยังมีอยู่ก็ได้นะครับ มันไม่ติดกับการเมือง แต่มันก็ไม่ขาดหรอกครับ

ลองแสดงความเห็นดู จากคนที่รู้การเมือง และรัฐศาสตร์น้อยมาก อย่างผมครับพี่


โดย: ต้อง IP: 203.144.206.130 วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:9:08:12 น.  

 
ความดี ความชั่ว มันไม่ได้เลือกอาชีพหรอกครับ



สวัสดียามสายค่ะ..


โดย: ป่ามืด วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:9:48:08 น.  

 

แวะมาลงชื่อ เดี๋ยวกลับมาอ่านอีกรอบนะคะ


โดย: ~nawo~ วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:10:36:17 น.  

 
ทำลิงค์ให้ค่ะพี่ นิติรัฐ

ไปอ่านของคุณนิติรัฐก่อนแล้วค่ะ ค่อนข้างยาว

ย้อนกลับไปดูจุดกำเนิด องค์การตามรัฐธรรมนูญ มีลักษณะเป็นองค์การการบริหารพัฒนา
ที่ต้องอาศัยทิศทางที่ชัดเจนและเอื้อต่อการมีส่วนร่วมภาคประชาชน

แต่ประเทศเรา การเมืองภาคประชาชนอ่อนแอ โดยมากคนมักจะคิดว่า หน้าที่ทางการเมือง
ของประชาชนจบตั้งแต่หย่อนบัตรเลือกตั้ง

ถ้าภาคประชาชนไม่เข้มแข็งพอที่จะตรวจสอบการเมืองได้
โครงสร้างหรือระบบตรวจสอบมันก็ต้องออกแบบโดยใช้โจทย์นี้เป็นตัวตั้ง
ถ้าตัดฝ่ายการเมืองออกไป แน่นอนว่ามันคงจะไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย
หากมีปัญหา ฝ่ายการเมืองควรจะต้องรับผิดต่อประชาชน
แต่เท่าที่ผ่านมา ไอ้ตัวaccountabilityของนักการเมืองนี่แหละที่สร้าง
ความไม่เชื่อมั่นมากที่สุด

เดี๋ยวกลับมาต่อค่ะ ต้องไปเรียนก่อน...





โดย: keyzer วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:10:56:36 น.  

 
เลือกได้ ต้องไล่ออกได้ ใช่ครับ
ไม่ควรมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ไม่ว่าจะตำแหน่งใดๆ
เพราะความดี ความชั่ว มันไม่ได้เลือกอาชีพหรอกครับ


โดย: noom_no1 วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:11:06:46 น.  

 
โทษทีค่ะ ทำลิงค์ผิด






โดย: keyzer วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:13:32:50 น.  

 
หวัดดีค๊า ตามมาอ่านนนนนนนนนนนนน

กู้ดเดย์นะคะ


โดย: yadegari วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:18:51:21 น.  

 
ความลับของเว็บ
www.manusaya.comที่เกิดขึ้นโดยมีเนื้อหาทำลายสถาบันพระ
มหากษัตรืญ์ของไทย

หากได้ย้อนกลับไปฟัง
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่ผ่านมานี้นั้น
พระเจ้าอยู่หัวได้ทรงตรัสตอนหนึ่งว่า........แต่ว่าวันนี้ตั้งใจจะพูดอะไร
ที่ไม่พาดพิงถึงใครเลย ไม่ติเตียนใครเลย เพราะว่าการติเตียนใคร
พาดพิงใคร
ก็เกิดเคือง เกิดไม่สบายใจ แต่ที่เห็นอยู่ข้างหน้านี่ มีคนที่พูดว่า
ก็คงรู้ว่าใครพูด มีคนที่พูดว่าจ้าพเจ้าไม่ดี คือพระเจ้าอยู่หัวไม่ดี
ทำอะไรผิด แต่เค้าต้องแสดงออกมาว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ผิด ผิดไม่ได้
ซึ่งเป็นตามความจริงในระบอบประชาธิปไตย
ในระบอบรัฐธรรมนูญซึ่งมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข..............

เผื่อว่าใครอาจจะเปิดเข้าไม่ได้ เพราะอาจจะถูกปิดซะก่อน ก็เลยนั่งพืมพ์
(copy จากเว็ปไม่ได่) มีเนื้อหาดังนี้คะ....
ความลับของ //www.manusaya.com
ที่เกิดขึ้นโดยมีเนื้อหาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์

1. Server ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเว็บดังกล่าว อยู่ใน ทำเนียบรัฐบาล
เป็น
Server พิเศษ ที่ใช้ได้เฉพาะนายกรัฐมนตรี แลัที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
เท่านั้น
2. ข้อมูลของเว็บดังกล่าว ใช้เทคนิคการยิงขึ้นดาวเทียม 2 ดวง
โดยมีดาวเทียมหลัก และสำรอง กรณีถูกตรวจพบ สามารถทำการย้ายหนีได้ทันที
3. ข้อมูลของ //www.manusaya.com ถูกยิงลงสู่ 4 ประเทศในทวีปยุโรป
ได้แก่
สวีเดน เยอรมัน อังกฤษ และผรั่งเศส
4. จากนั้นข้อมูล //www.manusaya.com ได้เผยแพร่ไปทั่วโลก
จนเวลาผ่านไปนานถึง
1 ปี 2 เดือน ต่อมาถูกกระทรวง ICT ทำการปิด
ไม่ให้คนไทยในประเทศสามารถเจ้าถึงได้
แต่ในต่างประเทศสามารถเข้าถึงได้เหมือนปกติ
และเพิ่งจะมีการระงับการยิงข้อมูลอัพลิงค์ขึ้นสู่ดาวเทียมหลังจากที่กษัตริย์สวีเดนทรงสั่งให้จับกุม
และดำเนินการกับผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในประเทศสวีเดน
และหลังจากการตรวจสอบผู้ต้องสงสัย พบว่า มีการโอนเงินจากประเทศไทย
ไปยังสวีเดนในบัญชีของผู้ต้องสงสัย จนนำมาสู่การเปิดเผยผู้ส่งเงิน คือ
นายภูมิธรรม เวลยชัย ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรีพรรคไทยรักไทย
5. สถานภาพของ //www. manusaya.com ยังมีข้อมูลบางส่วนไหลเวียนอยู่ใน
Internet และถูกแปลเป็นภาษาต่างๆมากถึง 5 ภาษา ในทวีปเอเชีย
และข้อมูลทุกเว็บเพจ ได้รับการตรวจสอบและมีหลักฐาน ที่พร้อมดำเนินคดีกับ
พ.ต.ท. ทักษิณ ชิณวัตร ที่ปรึกษาคือภูมิธรรม และผู้เกี่ยวข้อง แล้ว
โดยตำรวจสากล Interpolice ในข้อหา ผู้บงการเบื้องหลัง
ความพยายามล้มล้างการปกครองประเทศซึ่งมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ร่วมกับหลักฐานต่างๆที่ปรากฎและเชื่อมโยงในเหตุการณ์
ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้


(**** อยากให้ช่วยกันจุดเทียนปัญญาต่อๆกันไปเรื่อยๆจะ
....เพราะ.เท่าที่ได้คุยกับเพื่อนๆ พี่น้องญาติมิตร
หลานๆที่เมืองไทย....หลายคนยังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้สึก
ถึงความวิกฤตของประเทศในตอนนี้ซึ่งมีหลายเรื่องมากๆๆ ...สุดจะพรรณา....
เพราะได้ดูแต่สื่อที่รัฐบาสผเด็จการสร้างภาพหลอกลวงลครอบงำใช้เวินอุดไว้หมดแล้วทั้งทีวี
และวิทยุ...ซึ่งมักจะออกมาในลักษณะหักเห บิดเบือน ปกปิด
ความจริงบางคนมองเป็นเรื่องไกลตัวไม่รู้จะรู้ไปทำไม.......บางคนรู้เผินๆ.....บางคนรู้แต่ไม่อิน.....ยังไม่ค่อยรู้ร้อนรู้หนาวกันเลย.....เพราะรัฐบาลชั่วได้ปิดหูปิดตาประชาชน...ซึ่งก็ได้ผลมากทีเดียว....คนอยู่ต่างประเทศยังรู้เรื่องมากกว่าคนที่อยู่เมืองไทยอีกหลายคนซะอีก.....ไม่น่าเชื่อเลยว่าในยุคนี้จะสามารถปิดสื่ออีกด้านหนึ่งที่เปิดโปงความชั่วร้ายเลวทรามของรัฐบาลได้สำเร็จเยี่ยมยอดขนาดนี้....คนในเม ืองไทยอีกเยอะมากๆที่ไม่รู้ความจริงถึงนโยบายขายชาติของรัฐบาลนี้...กว่าจะรู้แจ้งเห็นจริงอีกที...ก็...เหลือแต่กระดูกแล้ว....กลายเป็นของคนไทยสุดชั่วกลุ่มหนึ่งที่คบคิดกับต่างชาติเพื่อขายชาติไทย
....นั่นแหละ...จึงจะถึงบางอ้อกัน......หากคนดียังอยู่นิ่งเฉยกันอยู่....ไม่ช่วยกันต่อต้านคนชั่ว.....ประเทศไทยเราก็คงต้องพบกับความหายนะในไม่ช้านี้....หากต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ.....ก็คงเป็นเวรเป็นกรรมของประเทศ..........)


“ สิ่งเดียวเท่านั้นที่คนชั่วจะมีชัยชนะ ก็คือ คนดีอยู่นิ่งเฉย \\"
( The only thing necessary for evil to triumph is the good
people
do nothing. )


โดย: ทักสินหนักแผ่นดิน IP: 125.24.84.125 วันที่: 8 มีนาคม 2549 เวลา:10:29:01 น.  

POL_US
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




คลิ๊ก เพื่อ Update blog พ.ต.อ.ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ได้ที่นี่
https://www.jurisprudence.bloggang.com






รู้จักผู้เขียน : About Me.

"เสรีภาพดุจดังอากาศ แม้มองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้ "










University of Illinois

22 Nobel Prize & 19 Pulitzer Prize & More than 80 National Academy of Sciences (NAS) members







***คำขวัญ : พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า

ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ

เจ้าคือความหวังทั้งมวล



*** ความสุข จะเป็นจริงได้ เมื่อมีการแบ่งปัน :

Happiness is only real when shared!














ANTI-COUP FOREVER: THE END CANNOT JUSTIFY THE MEANS!






Online Users


Locations of visitors to this page
New Comments
Friends' blogs
[Add POL_US's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.