ไอ้เสือนี่มันแน่จริงๆ .... [ปูมวันที่ 24 ]

xx xxxx 2502


หุบหมาหอน


สองวันที่ผ่านมาเส้นทางของพวกเรานับว่าทุลักทุเลพอดูทีเดียว ทั้งขึ้นเขา ลุยโคลน ข้ามน้ำ ครบเครื่องจริงๆ
แงซายแสดงการตอกทอย ช่วยพวกเราร่นระยะทางไปได้ร่วมสามสิบกิโลเมตร ได้ยินมานานก็เพิ่งเห็นกับตานี่แหละ ดูครั้งแรกก็ไม่น่าเชื่อว่าทอยลูกเล็กนิดเดียวจะรับน้ำหนักคนทั้งคนได้ สองครั้งแล้ว ที่แงซายแสดงความแปลกพิสดารออกมา เห็นขรึมๆ นิ่งๆ พอเอาเข้าจริงก็สำคัญไม่หยอกเหมือนกัน ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่รับเสือนี่เข้าคณะเดินทางด้วย

ตลอดเส้นทางมีแต่ขึ้นกับลงเท่านั้น ประเดี๋ยวก็ไต่สูง ประเดี๋ยวก็เทลาดลง สลับไปสลับมา เล่นเอาเมื่อยไปหมด เดินแทบไม่ไหว เมื่อคืนเลยต้องไปนอนค้างเติ่งอยู่บนสันเขาไกลาส (มีสระโบกขรณีด้วย แต่ไม่ยัก มี กินนรีแฮะ)

เมื่อวานก็ว่าทุลักทุเลแล้วนะ ถ้าเอามาเทียบกับวันนี้ เป็นเรื่องเล็กไปเลย วันนี้ทั้งวันมีแต่เรื่องให้ลุ้นระทึกตื่นเต้นได้ตลอด ตั้งแต่ตอนที่จะตัดลงแอ่งข้างล่าง เชษฐาเกือบได้ลงไปเป็นผีเฝ้าก้นเหวซะแล้ว ดีที่ช่วยกันดึงไว้ทัน แล้วไหนจะต้องเดินลุยป่าพรุ ลุยดงทาก บริจาคเลือดให้มันโดยไม่เต็มใจอีก แต่ทั้งหมดนั่นก็ยังไม่เทียบกับการข้ามบึงเมื่อตอนบ่าย มองผาดๆ นึกว่าไม่มีอะไร ที่ไหนได้ ดงจระเข้แท้ๆ แล้วแต่ละตัวขนาดเรือเอี้ยมจุ๊นทั้งนั้น ดีที่รพินทร์ได้สมเสร็จมาล่อพวกมันก่อน ไม่อย่างนั้นยังคิดไม่ออกเลยว่าจะข้ามกันไปได้ยังไง

ก็ใช่จะมีแต่เรื่องร้าย เรื่องดีก็มีเหมือนกัน อย่างน้อยๆ ก็ตอนที่ยิงละมั่งตัวนั้นละ ฟลุ๊คจริงๆ เห็นมันโดดหนีไปคิดว่าพลาดซะแล้ว ที่ไหนได้ กระสุนจับขาหน้าทะลุปอดพอดี นอกจากนั้นมื้อค่ำยังได้ลาภปากเป็นหมูหันสูตรบ้านป่าจากฝีมือพรานใหญ่ของเราอีก ไม่น่าเชื่อ กรรมวิธีก็ง่ายๆ ไม่มีอะไรมาก ผ่าท้องออก เอาใบตองคลุกเกลือยัดเข้าไป เย็บท้องด้วยหวาย แล้วก็ย่างไฟ แค่นี้เอง แต่ทำไมทั้งหอมทั้งอร่อยได้ขนาดนั้นก็ไม่รู้ พอเงยหน้ามาอีกที กระดูกก็แทบไม่เหลือ รสเยี่ยมจริงๆ




::::::::::: credit ::::::::::::::::::::::::::::::

ตรวจคำผิด :mera , สหายน้อย

ตรวจเนื้อหา :wormy , นายเค

รวบรวมแก้ไข : ฟ้ากาง

ตรวจสำนวน :ภคิน , จตร

รูปประกอบ : นายเค





Create Date : 08 ธันวาคม 2550
Last Update : 8 ธันวาคม 2550 9:19:55 น.
Counter : 706 Pageviews.

2 comment
ขอบคุณเจ้าป่าเจ้าเขาที่เมตตาส่งน้อยกับพรานใหญ่กลับคืนมา [ปูมวันที่ 23]

xx xxxx 2502

ห้วยแม่เลิง
ขอบคุณเจ้าป่าเจ้าเขาที่เมตตาส่งน้อยกับพรานใหญ่กลับคืนมา นับแต่เมื่อคืนก่อน พวกเราต้องผลัดหลงกระจัดกระจายกันไปด้วยฤทธิ์ของน้ำป่า แต่ละคนต่างก็อยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ทั้งสิ้น แม้กระทั่งตัวเราเอง โดนกระแทกจนสลบไปหลายชั่วโมงเหมือนกัน ลืมตาขึ้นมาหันไปมองรอบข้าง มีแต่ป่ากับป่าพรรคพวกที่ร่วมเดินทางหายเกลี้ยง ไม่มีเหลือสักคนเดียว สับสนงุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกไปพักใหญ่

พอตั้งสติได้ ก็ยึดลำธารเป็นหลัก เดินย้อนกระแสน้ำ กลับไปยังจุดพักแรมของพวกเรา อย่างน้อยๆ ก็ยังดีกว่าเดินอย่างสะเปะสะปะไปเรื่อยในป่าลึกอย่างนี้ เดินไปได้พักเดียวเท่านั้น ก็พบทั้งเชษฐาและแงซาย

และคงเป็นโชคดีอย่างที่สุดในโชคร้ายครั้งนี้ ที่อาวุธและสัมภาระส่วนใหญ่ของเราไม่ได้สูญหายไปด้วย หลังจากรวบรวมสัมภาระทั้งหมดแล้ว เราทั้งสามก็ออกเดินทางต่อ ประมาณเที่ยงวันแงซายก็พบรอยของเกิด เราออกตามไปจนทันได้ตัวเกิดกลับมาเป็นคนที่สี่

ขาดเพียงสองคนเท่านั้น รพินทร์กับน้อย

ตกค่ำแงซายนำพวกเราเข้าพักในหมู่บ้านกะเหรี่ยงของโต๊ะถะ ที่ห้วยแม่เลิง พวกนั้นกำลังประสบปัญหาเสือกวนหนักอยู่พอดี เชษฐาจึงรับปากจัดการให้ โดยแลกกับการช่วยค้นหาคนหาย โต๊ะถะตกลงในทันที

พอเช้าพวกเรามุ่งไปยังตำแหน่งที่ตั้งปางพักของพวกที่ถูกเสือลากเอาไป แล้วก็ได้มาพบกับพรานใหญ่และดารินอย่างไม่คาดฝัน ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณจริงๆ

พรานใหญ่ก็ยังเป็นพรานใหญ่อยู่วันยังค่ำ ตกอยู่ในที่นั่งลำบากขนาดนั้น มีปืนสั้นติดมือแค่กระบอกเดียว ยังอุตส่าห์จัดการเสือผีสิง (น้อยว่าอย่างนั้น) ลงจนได้ แถมยังเป็นไอ้เสือร้ายตัวที่ลากพวกตัดไม้ไปกิน และโต๊ะถะขอร้องให้เราออกล่าพอดี กลายเป็นโชคสองชั้นซ้อน คนก็ได้กลับมา เสือก็ถูกกำจัด ดีจริงๆ

คืนนี้เราตกลงพักค้างคืนที่ห้วยแม่เลิง ตามคำชวนเชิงขอร้องของโต๊ะถะ ให้ช่วยปราบเสือให้พวกแกหน่อย เสือที่ห้วยแม่เลิงชุมเหลือเกิน เข้ามาอาละวาดกัดกินวัวของชาวบ้านแทบทุกคืน บางตัวกำแหงหาญขนาดปีนขึ้นบนชานเรือนก็ยังมี รพินทร์ว่าคืนนี้เราจะได้ยิงเสือกันจนฉ่ำมือ ได้ยิงเสือมันก็ดีอยู่หรอก แต่ติดอยู่ที่วิธียิงมันนี่สิ แทนที่จะให้นั่งห้างยิงอย่างที่เคยมา คืนนี้เราต้องเดินส่องไฟยิงมันซึ่งๆหน้า บนพื้นระดับเดียวกับมัน เหมือนไล่ยิงเก้งยิงกวาง ผิดอยู่แต่ว่า ไอ้เก้งไอ้กวางที่เราตามยิงคราวนี้ แทนที่จะมีเขามีกีบ ดันทะลึ่งมีเขี้ยวมีเล็บงอกออกมาแทน

สิบหกตัว !! จากฝีมือเราไปสาม น้อยสอยไปสี่ เชษฐาทำสถิติสูงสุด เจ็ดตัว รวมกับที่รพินทร์ยิงไปเมื่อหัวค่ำอีกสองตัว

ห้วยแม่เลิงเสือชุมสมกับที่โต๊ะถะบอกไว้จริงๆ เดินยิงเสืออย่างกับเดินยิงแมว เกิดมาก็คราวนี้แหละ ยิงเสือคืนเดียวสามตัวรวด แถมยังเดินยิงกันซึ่งๆ หน้าอีก ทีแรกยังกลัวอยู่เลยว่าไม่ใครก็ใครได้โดนมันตะปบหนังหัวเล่นกันมั่ง ที่ไหนได้ ไอ้เสือพวกนี้แทนที่จะดักซุ่มอยู่ในรกในพง กลับเดินเพ่นพ่านลากหางไปทั่ว แถมไม่กลัวคนอีกแน่ะ ส่องไฟไปยังหันหน้ามาสบตา เอากับมันสิ แต่ถึงยังไง พ้นคืนนี้เชื่อว่ามันคงลดความกำแหงไปเยอะล่ะ ก็เพื่อนตายไปร่วมสิบหกตัว จะไม่เข็ดมั่งก็ให้มันรู้ไป




::::::::::: credit ::::::::::::::::::::::::::::::

ตรวจคำผิด :mera , สหายน้อย

ตรวจเนื้อหา :wormy , นายเค

รวบรวมแก้ไข : ฟ้ากาง

ตรวจสำนวน :ภคิน , จตร

รูปประกอบ : นายเค





Create Date : 01 ธันวาคม 2550
Last Update : 1 ธันวาคม 2550 9:27:02 น.
Counter : 760 Pageviews.

0 comment
สองศรีพี่น้องคู่นี้ มือทำบาปขึ้นจริงๆ เฮ้อ.... อนาจตัวเองแท้!? [ปูมวันที่ 22]

xx xxxx 2502

ห้วยยายทอง

อย่างที่รพินทร์บอกไว้ไม่มีผิด ห้วยยายทอง “เสือชุมอย่างกับแมวบ้าน” พ้นเวรอยู่ยามของเราไปเพียงพักเดียวเท่านั้น เชษฐาก็ประเคนหัวกระสุนขนาด 500เกรน ดับชีวิตมันไปซะหนึ่งตัว โทษฐานมาเลียบๆ เคียงๆ อยู่รอบที่พักเรา

เมื่อคืนนอกจากเสือจะเข้าแล้ว ไอ้มหิงสาตัวแสบก็แอบมาเดินเล่นรอบที่พักเราเหมือนกัน เหมือนจะท้าให้ออกไปรบกับมันงั้นแหละ ไอ้นี่พอเราออกตามมันคอยหลบ พอเราไม่ตาม จะหลับจะนอนบ้าง ดันเข้ามากวนซะอย่างนั้น พวกเราเลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายชั่วคราว ต้องกำจัดมันก่อนเป็นอันดับแรก ขืนปล่อยไว้ไม่รู้มันจะมาไม้ไหนกับเราอีก

ก่อนออกเดินทาง น้อยก็เผยความลับ ในคืนที่ไปนั่งห้างมาจนได้ ฟังแล้วก็รู้สึกขนลุกเหมือนกัน ถ้าต้องเจอกับตัวเอง สงสัยต้องมีโดดห้างกลางดึกบ้างล่ะ ดีเท่าไหร่แล้วที่ให้ รพินทร์ไปนั่งคู่ด้วย รพินทร์เองก็ใช่ย่อย เพิ่งรู้เหมือนกันว่าหมอก็มีดีทางด้านไสยศาสตร์ด้วย แต่ก็สมเหตุสมผลล่ะนะ เป็นถึงจ้าวไพรในป่าดุขนาดนี้ มันก็ต้องมีของดีอยู่กับตัวบ้าง ไม่เช่นนั้นหมอคงไม่รอดมานำทางเราได้หรอก

น่าเสียดายอยู่เหมือนกันที่เราไม่ได้เป็นคนลั่นไกสังหารเจ้ามหิงสาตัวนั้นเอง ไม่ใช่ทั้งเชษฐา แงซาย หรือแม้แต่รพินทร์ที่น่าจะเป็นคนยิง ก็ไม่ได้ยิงเช่นกัน สิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดในวันนี้ เจ้ามหิงสาตัวร้ายที่เราตามล่ามันมาทั้งวัน เดินกันเหงื่อตกไปหลายลิตร ต้องมาจบชีวิตของมันลงด้วยน้ำมือของ หม่อมราชวงศ์ดาริน วราฤทธิ์ นักเรียนพรานฝึกหัดมือทารกที่สุดในคณะเรา


หวังว่ายายน้อยคงไม่เอาเรื่องนี้มาบลัฟเราตลอดทางนะ...


น้อยน่ะโชคดี แต่พวกเราที่แยกไปสิ เกือบตาย แกะรอยควายป่าอยู่ดีๆ ทำไมมันกลายร่างเป็นกระซู่ตัวเท่าภูเขาไปได้ก็ไม่รู้ ซ้ำยังโผล่พรวดเข้ามากลางวงเรา เสยเชษฐาซะลอยขึ้นไปทั้งตัว เราก็ใช่ย่อยโดนมันไล่บี้จนต้องหนีเข้าไปอยู่ในดงหนาม ต้องให้แงซายเอามีดมาถางทางให้ถึงออกไปได้ หนามเกี่ยวถลอกปอกเปิก ไปทั้งตัว แต่อย่างไรซะ เชษฐากับแงซายก็ระเบิดไรเฟิลในมืออย่างไม่นับ ล้มมันลงจนได้

เท่ากับวันนี้สองพี่น้องสร้างสถิติล้มสัตว์ใหญ่อย่างควายป่า และกระซู่ ลงได้คนละตัว ว่าไว้ไม่มีผิด สองศรีพี่น้องคู่นี้ มือทำบาปขึ้นจริงๆ แต่ไม่เป็นไร ยังเหลือไอ้ช้างเกเรนั่นอีกตัว คราวนี้คงเป็นทีของเราได้แสดงฝีมือบ้างล่ะ ไอ้แหว่งก็ไอ้แหว่งเถอะ เจอ .600ไนโตรเข้าไป ได้ล้มทั้งยืนเป็นแน่


::::::::::: credit ::::::::::::::::::::::::::::::

ตรวจคำผิด :mera , สหายน้อย

ตรวจเนื้อหา :wormy , นายเค

รวบรวมแก้ไข : ฟ้ากาง

ตรวจสำนวน :ภคิน , จตร

รูปประกอบ : นายเค





Create Date : 24 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2550 10:01:58 น.
Counter : 843 Pageviews.

2 comment
เสร็จจนได้ ไอ้โขมดดง ! [ ปูมวันที่ 21]

xx xxxx 2502

โป่งน้ำร้อน

ในที่สุด ความลึกลับอย่างที่สุดของป่าดงพงไพร ก็ถูกเฉลยออกมาด้วยมือของพวกเรา

จะเป็นเพราะเหตุผลใดไม่ทราบได้ เจ้าโขมดดง เลือกกลุ่มของพวกเราเป็นเหยื่อในคืนนี้ และคงเป็นคราวซวยของมันจริงๆ ที่แงซายไม่ได้ผล็อยหลับไปด้วย เลยส่องมันเข้าให้ ถึงจะไม่โดนตัว แต่เสียงปืนก็ช่วยให้พวกเราตื่นจากฤทธิ์ยาสลบของมัน หลังจากพวกเราได้สติ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป จากผู้ล่า กลายเป็นฝ่ายถูกล่า

ในช่วงแรกของการตามล่าก็ขลุกขลักกันพอควร เนื่องจากเหยื่อของเราในครั้งนี้ มันบินได้ ถึงไม่เร็วนัก แต่ก็เป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืนอย่างนี้ แต่โชคดีที่เราพอจะจับทางได้ว่ามันกลัวแสงไฟ ไฟฉายทุกดวงของเราจึงถูกนำออกมาใช้เพื่อสะกดให้มันบินได้ช้าลง

จนเช้าตรู่ พวกเราก็ประสบความสำเร็จ ไล่ต้อนมันเข้าไปจนมุมในแง่หินตอนหนึ่ง หลังจากพยายามกันอยู่พักใหญ่ เราก็สามารถจับตัวมันออกมาได้ ถึงแม้จะไม่ใช่โขมดดงที่สมบูรณ์สักเท่าไหร่ ก็ใครใช้ให้มันวิ่งทะเล่อทะล่าไปทางเชษฐาล่ะ หมอยิ่งตีนโตอยู่ กระทืบไปที เตะไปอีกที ก็เละไปเท่านั้น

ลักษณะของมันน่าจะเป็นแมลงชนิดหนึ่ง ตัวป้อมกลมขนาดซองบุหรี่เท่านั้น มีหกขาลักษณะคล้ายแมงมุมมีพิษ ตาโปนสีแดงยื่นออกมาเหนือหัวที่เรียวเล็ก คล้ายๆกับตาปู แต่ดันมีงวงหรือจะเป็นปากอันยาวแหลมคล้ายยุง ส่วนปีกเหมือนปีกแมลงวัน ที่ใต้แผ่นท้องของมันมีลักษณะเป็นต่อมผลิตไฟฟ้าสำหรับผลิตแสงสว่าง ตัวมันก็ว่าประหลาดถึงที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่มากไปกว่าทับทิมรูปร่างแบนก้อนหนึ่ง ขนาดสักดวงทับทิมสะท้อนแสงที่ติดกับบังโคลนจักรยาน ซึ่งแนบติดอยู่ใต้แผ่นท้องของมัน ไม่ผิดอะไรกับไข่ที่ติดท้องแมงมุม สีแดงคล้ำราวกับสีเลือด

พวกเราหาข้อสรุปสำหรับทับทิมเลือดก้อนนี้ไม่ได้ รพินทร์ว่ามันคงเป็น “ตัวแม่” ของเพชรพลอยทั้งหลายที่อยู่ในเขานี้ เกิดยืนยันให้เผาทำลายทิ้งซะ คงกลัวว่าวันดีคืนดี มันจะลอยขึ้นมาสูบเลือดใครเข้ากระมัง จะว่าไปเราก็หลอนๆ อยู่เหมือนกัน ตรงข้ามกับเชษฐา นอกจากจะไม่กลัวแล้ว ยังจะขอเก็บไว้เองอีกแน่ะ

ก่อนถึงห้วยยายทองเราพบร่องรอยของไอ้มหิงสาตัวนั้น เป็นรอยลงไปนอนแช่ปลักอย่างสบายอารมณ์ เสียดายถ้าลมไม่เปลี่ยนทิศให้มันรู้ตัวเสียก่อน ยังไงๆ ก็ต้องได้ตัวมันแน่

พูดถึงห้วยยายทอง รพินทร์เคยบอกว่าที่นี่เสือชุมอย่างกับแมวบ้าน แล้วคืนนี้เราต้องพักที่นี่ด้วยสิ จะเข้าช่วงไหนก็เข้ามาเถอะ แต่ขออย่างเดียว อย่าเข้าในเวรของเราก็แล้วกัน ไอ้กลัวมันไม่กลัวหรอก แต่มาอยู่ในป่าห่างจากพรรคพวกอย่างนี้ ไม่เจอได้เป็นดี









::::::::::: credit ::::::::::::::::::::::::::::::

ตรวจคำผิด :mera , สหายน้อย

ตรวจเนื้อหา :wormy , นายเค

รวบรวมแก้ไข : ฟ้ากาง

ตรวจสำนวน :ภคิน , จตร

รูปประกอบ : นายเค





Create Date : 17 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2550 9:29:55 น.
Counter : 4103 Pageviews.

2 comment
วันนี้เจอฟานด้วยแหละ !? [ปูมวันที่ 20]

xx xxxx 2502

โป่งน้ำร้อน

เนื่องจากเมื่อคืนคณะเราต้องผจญกับฝนห่าใหญ่ อะไรๆ มันจึงไม่ค่อยเข้าที่ กว่าจะออกเดินทางได้ก็ปาเข้าไปสามโมงเช้าแล้ว หลังออกเดินทางไปได้สักพัก พวกเราก็ตกลงกันว่าจะแยกออกจากขบวนใหญ่เพื่อตามล่าไอ้แหว่งอย่างเต็มที่เสียที

หลังอาหารเที่ยงที่หุบชะมด พวกเราหกคน คือ เรา เชษฐา ดาริน แงซาย เกิด และรพินทร์ ก็แยกออกจากขบวนใหญ่ เราก็ยังแบกไอ้ .600 ไนโตรกระบอกเดิม เชษฐาถือ .458 แม็กนั่ม น้อยเลือก .470 ริกบี้ ไรเฟิลขนาดใหญ่สุดที่คุณเธอพอจะคอนได้ ส่วนสองเสือเกิดกับแงซายใช้ .375 เอชแอนด์เอชแม็กนั่ม ที่เราแจกให้ไปทั้งคู่ รพินทร์เปลี่ยนไปใช้ .458 อีกกระบอกที่เชษฐาให้ไว้ สำหรับการตามล่าไอ้แหว่งโดยเฉพาะ

พวกเรายึดเส้นทางตามที่รพินทร์ได้แกะรอยไว้ตั้งแต่เมื่อวาน แยกจากกลุ่มมาได้ไม่ทันไร พวกเราก็ตะลึงกับเขางามของสมันที่คนทั้งโลกคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว นี่ถ้าได้เขาหรือจับออกไปเป็นๆ ได้ คงตกตะลึงกันทั้งโลก แต่ก็ปล่อยมันไป เสียดายก็เสียดายอยู่ แต่เชษฐาก็พูดถูก ปล่อยให้มันอยู่กับธรรมชาติของมันอย่างนี้แหละดีแล้ว


โชคไม่เป็นของเราในวันนี้ ขณะกำลังกระชั้นรอยไอ้แหว่งเข้าไปทุกที ไอ้มหิงสาเจ้ากรรมดันโผล่พรวดเข้ามากลางวงของพวกเรา เล่นซะวงแตก รพินทร์กับน้อยก็เกือบเสียท่า เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นกับตานี่แหละ ควายป่า ตัวอย่างกับยักษ์ปักหลั่น สูงท่วมหัวเราทีเดียว เขาโง้งยาวเป็นวา ดีที่เรากับเชษฐาพอตั้งตัวได้ ยิงปะทะไว้ได้ทัน ถึงแม้ทั้งสองลำกล้องของเราจะไม่เข้าเป้าเลยก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็ทำให้มันเปิดตูดเตลิดหนีไป ก่อนจะทันร้อยพวงรพินทร์กับน้อยได้ ถึงจะโชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร แต่เสียงปืนของเราก็ทำให้โขลงไอ้แหว่งรู้ตัว เตลิดหนีกันป่าแทบแตก กลายเป็นว่าเราต้องฟาล์วไปสำหรับวันนี้

หลังอาหารค่ำ พวกเราก็ได้เห็นความประหลาดของป่าอีกครั้ง งูเหลือมตัวเท่าเสาตอม่อ ผูกตัวเองกับกิ่งไม้แล้ววิดน้ำเพื่อจะลงไปกินปลา !! ประหลาดจริงๆ









::::::::::: credit ::::::::::::::::::::::::::::::

ตรวจคำผิด :mera , สหายน้อย

ตรวจเนื้อหา :wormy , นายเค

รวบรวมแก้ไข : ฟ้ากาง

ตรวจสำนวน :ภคิน , จตร

รูปประกอบ : นายเค





Create Date : 10 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2550 9:39:34 น.
Counter : 1017 Pageviews.

5 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  

ฟาฬ
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ฝากช่องยูทูป Misterfharl ด้วยนะครับ
All Blog