ตื่นมากับข่าวร้าย เจ้าเลิน จากเราไปอย่างไม่มีวันกลับ !? [ปูมวันที่ 19]
xx xxxx 2502
โป่งน้ำร้อน
เป็นอีกวันที่ไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่ พวกเราตื่นขึ้นมาพร้อมกับข่าวร้าย เราเสียลูกหาบไปอีกคน ชื่อเลิน เป็นการตายที่น่าประหลาดที่สุด ไม่พบบาดแผลอะไรเลย นอกจากรอยช้ำสีเขียวตรงซอกคอ น้อยบอกว่านั่นคือสาเหตุของการตาย แต่ก็จนด้วยปัญญาที่จะบอกได้ว่าเกิดจากอะไร ไม่สามารถหาคำตอบของคำถามนี้ได้นอกจากคำบอกเล่าจากปากของแงซาย
เรื่องที่แงซายเล่า มันดูเหมือนนิยายหรือเรื่องเล่าข้างกองไฟมากกว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดกับคณะเราจริงๆ “โขมดดง” คือชื่อเรียกของไอ้ตัวอะไรก็ตามที่พรากชีวิตเลินไป ฟังจากปากของแงซายและรพินทร์รวมกับเรื่องที่เกิดขึ้น พอสรุปได้ว่า โขมดดง คือชื่ออะไรสักอย่างที่ออกหากินในเวลากลางคืนเที่ยวสูบเลือดสัตว์หรือคนที่นอนหลับอยู่ในป่า จะมาพร้อมกลิ่นคล้ายดอกลำเจียก มีฤทธิ์ทำให้สัตว์ทุกชนิดหลับใหลไม่ได้สติ แต่ที่น่าประหลาดที่สุด คือตัวของมันที่มีลักษณะคล้ายดวงไฟ แว่บไปแว่บมา ฟังดูอย่างกับกระสืองั้นแหละ
แต่ทั้งหมดนั่นก็เป็นแค่สมมุติฐานเท่านั้น แถมยังไม่สามารถอ้างอิงเหตุผลข้อใดทางวิทยาศาสตร์ได้เลย เอาเข้าจริงๆ เราก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่า นายเลินตายเพราะอะไร
รพินทร์นำขบวนของเรา ออกเดินทางต่อ บ่ายหน้าขึ้นเหนือมุ่งสู่ป่าหวายอันเป็นจุดหมายต่อไป ระหว่างทางก็ได้ออกแรงอีกเล็กน้อย เมื่อต้องฝ่าเข้าไปกลางฝูงลิงนับร้อย รพินทร์พยายามจะเดินผ่านไปอย่างสงบ แต่ก็นั่นแหละ ตามวิสัยลิง มันไม่ยอมให้เราผ่านไปได้โดยง่าย พวกเราจึงต้องทำสงครามกับลิงทั้งฝูงอย่างเลี่ยงไม่ได้ มันเป็นช่วงเวลาแห่งความโกลาหลอลหม่าน โชคดีที่พวกเรามีปืนลูกซองและกระสุนมาอย่างพอเพียง ทำให้พอปะทะปะทังกับพวกมันได้บ้าง ปืนในมือของทุกคนถูกใช้ จนถึงที่สุดแห่งประสิทธิภาพของมัน กระสุนนับร้อยกราดกระจายออกไปรอบด้าน แล้วแต่ใครจะจับเป้าหมายได้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ทหารพระรามเหล่านั้นล่าถอยไปแต่น้อย กลับยิ่งระดมพุ่งเข้าใส่อย่างไม่กลัวตาย สถานการณ์ของเราเลวร้ายลงเป็นลำดับ จนเมื่อน้อยบรรจุกระสุนพลาด เอาลูกปรายสำหรับยิงนกมาใช้นั่นแหละ ช่างบังเอิญเหลือเกินที่มันส่งผลในการประหัตประหารเยี่ยมกว่าลูกโดดที่เราใช้มากนัก เชษฐาจึงสั่งให้แจกจ่ายกระสุนลูกปรายไปยังปืนทุกกระบอก
พวกเราพลิกสถานการณ์มาเป็นฝ่ายได้เปรียบจนได้ กระสุนลูกปรายเบอร์หนึ่งแผ่รัศมีกว้าง โปรยปรายออกไปได้มากกว่า ถึงจะไม่ให้ผลสังหารแบบเฉียบพลัน แต่ก็สร้างบาดแผลให้พวกมันได้อย่างคาดไม่ถึง หลังจากพวกเราระดมสาดฝนลูกปรายออกไปไม่นาน พวกเราก็เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะในครั้งนี้
แต่ละคนเลือดโทรมไปถ้วนหน้า ทั้งคนทั้งควาย เราเองก็โดนมันกระโดดเข้ามากัดเอาหัวแตกไปเหมือนกัน ยกเว้นก็เพียงเชษฐาคนเดียวที่ไม่ได้รับบาดแผลอะไรเลย สงสัยอยู่เหมือนกันว่าจะเป็นเพราะงาช้างกำจัดที่รพินทร์ให้มาเมื่อวันก่อนรึเปล่า ถึงได้รอดปลอดภัยจากคมเขี้ยว คมเล็บของไอ้ฝูงลิงห่าเหวนั่นได้
ถึงจะเพิ่งผ่านศึกกันมาหยกๆ พวกเราก็ยังอุตส่าห์ได้ความรู้ใหม่ๆ จากรพินทร์อีกจนได้ มันเป็นเคล็ดการยิงปืนลูกซองได้เร็ว สังเกตจากศึกที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าพรานของรพินทร์แต่ละคนยิงได้เร็วกว่าพวกเรามาก เคล็ดลับมันอยู่ที่การถือลูกปืนสำรองไว้กับตัวให้มากที่สุดนั่นเอง ซึ่งบุญคำก็ทำให้เราได้ทึ่งอีกครั้งเมื่อตาพรานเฒ่าสามารถถือลูกกระสุนสำรองไว้กับตัวได้มากถึง 14 นัด มือซ้าย 7 มือขวา 4 และคาบไว้ในปากอีก 3
WOW !!! เห็นทีจะต้องหัดไว้ใช้บ้างแล้วเรา
ระหว่างทางเราพบรอยโขลงไอ้แหว่งอีกครั้ง รพินทร์ขอออกไปสำรวจรอยของมัน และนัดพบพวกเราที่โป่งน้ำร้อนในตอนหัวค่ำ
รพินทร์กลับมาพร้อมข่าวไม่สู้ดีนัก มีรอยมหิงสาตามติดโขลงไอ้แหว่งไปทุกระยะ นั่นหมายความว่า ก่อนที่เราจะเจอกับโขลงไอ้แหว่ง คงต้องปะทะกับควายป่าตัวนั้นเสียก่อน ซึ่งฟังจากน้ำเสียงของรพินทร์เกี่ยวกับการตามล่าสัตว์ชนิดนี้แล้ว คงเป็นเกมส์ที่ไม่จบลงโดยง่ายแน่
::::::::::: credit ::::::::::::::::::::::::::::::
ตรวจคำผิด :mera , สหายน้อย
ตรวจเนื้อหา :wormy , นายเค
รวบรวมแก้ไข : ฟ้ากาง
ตรวจสำนวน :ภคิน , จตร
รูปประกอบ : นายเค
|