Group Blog
 
All blogs
 
ความหลัง ผ้าเช็ดหน้า กับอาการกลัวน้ำมูก


(ขอบคุณภาพประกอบจากคุณแป๋ว sevendaffodils นะครับ)

มีคำถามที่คุณ Ongie ถามไว้ ผมขอยกมาตอบไว้ในนี้ดังนี้ครับ

คุณ Aston27 ครับ ผมได้อ่านอะไรหลายๆ อย่างที่คุณเขียนหรือตอบแล้วรู้สึกชอบและทำให้คิดและยอมรับอะไรได้หลายอย่าง แต่ผมก็ยังมีํัปัญหาที่คิดไม่ตกและต้องการคนแนะนำว่าจะแก้้ไขอย่างไร

มันเป็นความรู้สึก หรือเป็นนิสัยไปแล้วก็ไม่รู้ แต่รู้ว่าเมื่อก่อนผมไม่เป็นแบบนี้ ผมเคยคบ ญ มาแล้ว 3 คน จบลงด้วย ผมเป็นคนถูกทิ้ง ทุกครั้ง แต่ครั้งที่สองนั้นแรงสุด เพราะ ผมทั้งถูกหลอก โกหก และถูกเล่นกับความรู้สึกรักของเอา ผมคิดไม่ได้ เมามายอยู๋เกือบสองเดือน แล้วก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น มีอยู่คืนหนึ่งผมกลับเข้าบ้าน แล้วเจอแม่นั่งร้องไห้ รอผมกลับบ้านอยู่ ทำให้ผมคิดขึ้นมาได้ว่า ผมจะไปเสียใจกับคนที่เค้าไม่ได้รักเราทำไม แต่คนที่รักเราที่สุดเรากลับไม่สนใจเค้า พอคิดได้ผมก็ให้ความสำคัญกับครอบครัว พ่อแม่พี่น้องมากขึ้น จนมาเสียคุณแม่ไปในเวลาใกล้ๆ กัน ทำให้ผมเสียใจมากๆ ว่า ตอนที่แม่อยู่ผมไม่ได้ให้ความรักกับแม่เลย มั่วแต่เสียเวลาให้กับคนที่ไม่ได้รักเราจริง

หลังจากนั่นไม่ว่าผมจะคบใคร ไม่ว่า ญ หรือเพื่อน ผมจะเป็นคนที่คิดเสมอ ว่า ใครดีกับผม ผมก็จะดีด้วย คุณให้ใจจริงกับผม ผมก็ตอบแทนด้วยการให้ใจ แต่เมื่อไรที่คุณทำร้ายผม หรือทำไม่ดีกับผม ผมก็จะทำไม่ดีกับคุณบ้าง
ทำไม ผมถึงเป็นคนแบบนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนผมไม่ได้เป็นคนแบบนี้เลย ผมจะเป็นคนที่ให้มากกว่า ที่คิดจะรับ แต่ตอนนี้ผมก็เริ่มที่คิดจะเป็นคนที่รับบ้างแล้ว เพราะคิดว่าทำดีแล้วไม่ได้ดีหรือเปล่าครับ

และทุกวันนี้ ผมคบกับ ญ คนหนึ่ง แต่ผมแทบไม่รู้สึกเลยว่า ความรักคืออะไร รู้สึกอย่างไร และจะทำยังไงให้รู้สึกว่ารัก ผมรู้สึกแค่ว่า คุณดีกับผม ผมก็ดีกับคุณ เท่านั้นเอง

ผมเห็นแก่ตัว และเป็นคนไม่ดีไปแล้วหรือเปล่าครับ
ผมถือคติว่า " You Get What You Give " หรือเปล่ามันก็เป็นแบบนี้ ซึ่งทำให้ผมไม่สบายใจ ว่าเวลาผมคบกับใครแล้วมันจะกลายเป็นความไม่จริงใจกัน ให้เค้ารักเราฝ่ายเดี่ยว แต่เราไม่รักตอบเลย มันเห็นแก่ตัวและกลายเป็นทำร้ายจิตใจ คนที่เค้ารักเราไปแล้ว


สมัยผมวัยรุ่น เป็นยุคที่หนังทีวีจีนพวกกำลังภายในเฟื่องฟู
จุดเด่นของนิยายกำลังภายใน คือมีคำพูดคมๆ ที่คนจำติดหูติดปากหลายๆอัน
อย่าง ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา (ที่ผมชอบพูดต่อว่า) ไม่เห็นผ้าเช็ดหน้าไม่สั่งน้ำมูก

ถามว่าคุณเป็นคนไม่ดีไหม ผมว่าคงไม่ถึงขนาดนั้น
แต่จิตคุณมันฝังใจกับความเจ็บเมื่ออดีตมากไปหน่อย
ทางจิตวิทยาเขาจัดว่า เป็น defensive mechanism อย่างหนึ่ง

ตอนนี้เห็นผ้าเช็ดหน้าปุ๊บก็หยิบมาสั่งขี้มูกปั๊บ
ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เป็นหวัด คัดจมูก ไม่ได้มีน้ำมูกอะไร
หรือเห็นโลงศพปุ๊บรีบหลั่งน้ำตาไว้ก่อน ทั้งๆที่ยังไม่มีใครตาย

สิ่งที่พึงระวัง คืออย่าคบหาให้ความหวังใครโดยที่ใจไม่ได้รักเขามากพอ
เพราะคุณจะมีกรรมติดตัว คือรู้สึกผิดในภายหลัง อันนี้ผมเคยเป็นมาก่อน

ลองนึกถึงวันที่คุณถูกอดีตคนรักทำให้เสียใจ จนแม่คุณต้องทุกข์
ผู้หญิงที่คุณจะใจร้ายด้วย เขาก็มีพ่อมีแม่เหมือนกัน

ถ้าคุณไม่ชอบที่แม่ตัวเองเสียใจ ก็ไม่ควรทำให้แม่คนอื่นเสียใจด้วย
คนที่เขาเคยหลอกลวงก็คนหนึ่ง คนที่คุณเจอทีหลังจากคนนั้น ก็คนละคนกัน
จะผูกใจเจ็บแค้น เคืองโกรธ โทษผู้หญิงทั้งโลก ก็เห็นจะไม่เกิดผลดีอะไร

คนเราเคยเจ็บเคยมีบทเรียน ก็เรียนรู้จากมัน อันนั้นเป็นสิ่งดี และเพียงพอแล้ว
แต่อย่าให้อดีต มันมาทำลายปัจจุบัน มาเป็นภาระต่อไปถึงอนาคตเลยนะครับ

ถ้าคิดจะคบใครสักคนตอนนี้ ขอให้รักเขาด้วยเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา
อยู่กันแบบกัลยาณมิตร อย่าคิดทำร้ายกัน ถนอมกันไว้ดีๆ

ส่วนที่ผ่านไปแล้ว ก็คงต้องให้มันผ่านไป ที่พลาดไปแล้วก็ต้องยอมรับผลกรรมไป
เอาสติ เอาปัญญา มาอยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดี จะได้เป็นเหตุ เป็นปัจจัยที่ดีไปถึงอนาคต

เสียดายที่อัพบล้อกช้าไปสองวัน ไม่งั้นจะแนะนำให้จุดประทัดสักพวงนึง
เอาให้ตื่นจากอาการมัวเมาในอดีต แล้วมาอยู่กับปัจจุบัน

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ เริ่มต้นศักราชชีวิตใหม่ไปกับคนจีนเขาก็แล้วกันนะครับ





Create Date : 24 มกราคม 2552
Last Update : 29 เมษายน 2552 8:31:21 น. 28 comments
Counter : 945 Pageviews.

 
อ่านบล็อกของคุณaston มานานแล้วรู้สึกคิดอะไรได้หลายๆอย่าง
ขอบคุณนะครับ


โดย: net_neta IP: 222.123.199.104 วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:19:37:46 น.  

 
"ส่วนที่ผ่านไปแล้ว ก็คงต้องให้มันผ่านไป ที่พลาดไปแล้วก็ต้องยอมรับผลกรรมไป"
.
.
.
เห็นประโยคนี้ของพี่เอ็ดทำให้นึำกถึงเรื่องของตัวเองเมื่อหลายวันก่อนค่ะ
เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้หนูรู้สึกผิดมาก รู้สึกทุกข์ ยิ่งดิ้น ก็ยิ่งทุกข์ แล้วก็จมอยู่ในความทุกข์นั่นแหละค่ะ
(พยายามดึงขึ้นมา มันก็ไม่ขึ้น ^^")
ตอนนั้นนี่ไม่รู้เลยค่ะ หลงซ้อนหลง เหอๆ
ดิ้นจนเหนื่อย แล้วก็เลยถึงจุดนึงที่หนูคิดว่า
"เอาเถอะ ก็ทำไปแล้วนี่นา ถ้าอะไรจะเกิดมันก็เป็นสิ่งที่สมควรเกิดแล้วแหละ"
ไม่น่าเชื่อว่าจะหายทุกข์ได้ (แม้ว่าจะเป็นชั่วขณะสั้นๆค่ะ ^^" แปบเดียวความรู้สึกผิดก็กลับมาอีก แต่ไม่มากเท่าตอนแรก)

เหตุการณ์นี้ก็ทำให้หนูได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างค่ะ
อย่างหนึ่งที่รู้เลยก็คือ ตัวเองร้ายกว่าที่คิดไว้มากเลย
^^"

ขอบคุณสำหรับบล็อคดีๆ + เพลงเพราะๆ อีกหนึ่งวันนะคะ
(-/|\\-)


โดย: aritsumemoon IP: 203.131.208.115 วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:20:12:04 น.  

 
ของพี่ ต่อว่า "ไม่เห็นขี้หมาไม่ใส่รองเท้า" ค่ะ

ประโยคนี้ดีจัง อีกฝ่ายที่คุณจะใจร้ายด้วย เขาก็มีพ่อมีแม่เหมือนกัน

ถ้าเราทำอะไรโดย คิดถึงอีกฝ่าย
มองอีกฝ่ายในมุมกลับกันบ้าง
ความเข้าใจก็จะกลับคืนมาอีกเยอะเลยนะคะ

ว่าแต่ มีประทัดแบบไหนบ้างที่ปลุกให้ตื่นจากอดีตได้...
ชักสงสัยแล้วว่าคงเป็น ประทัดจากบล็อกนี้แหละ


โดย: HoneyLemonSoda (HoneyLemonSoda ) วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:23:23:49 น.  

 



ถึงเราจะ้โชคร้ายได้เจอคนแย่ๆ
แต่..ก้อไม่ได้หมายความว่า
จะมีสิทธิ์ทำให้ชีวิตคนอื่นต้องแย่ตามไปด้วย..
เจ็บแล้วจำ..เนี่ยะดีคะ
แต่ก้อต้องฉลาดพอ จะไม่ทำซ้ำ ด้วยน๊า...


โดย: myover วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:8:17:58 น.  

 
ตอบตรงดี เป็นประทัดจุดเตือนใจอย่างที่คุณฮันนี่บอกเลย

สำหรับแป๋ว ถือคติว่า Where there is a will, there is a way. ค่ะ อะไรที่พลาดไป ก็พยายามใหม่วันนี้ (เกี่ยวกันไหมนี่)

บล็อกนี้ชอบอีกแล้วค่ะ


โดย: SevenDaffodils วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:8:27:45 น.  

 
"คนเราเคยเจ็บเคยมีบทเรียน ก็เรียนรู้จากมัน อันนั้นเป็นสิ่งดี และเพียงพอแล้ว
แต่อย่าให้อดีต มันมาทำลายปัจจุบัน มาเป็นภาระต่อไปถึงอนาคตเลยนะครับ"

ชอบตรงนี้ค่ะ ขอบคุณคุณ Aston

ขออนุญาต นำยาสูตรแก้อาการอกหักมาใส่ในนี้นะคะ ได้มาจากลานธรรมเสวนาค่ะ ขออภัยเจ้าของเรื่องด้วยที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อน เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้าของคำถามและคนอื่นๆด้วยค่ะ

"ยาแก้อาการอกหัก

สูตรส่วนผสมตัวยา
1.น้ำใจเพื่อนที่ปรารถนาดี 5 กรัม
2.น้ำตาพ่อแม่ที่รักเรา 10 หยดหรือมากกว่านั้น
3.ความเข้มแข็ง 10 ช้อนชา
4.รากแห่งศักดิ์ศรี 10 กรัม
5.ใบเจ็บแล้วจำ 5 ใบ
6.ความใฝ่ดี 5 ช้อนชา
7.ความเข้าใจ(ในรัก) 5 ช้อนชา
8.สติ 20 กรัม
9.สมาธิ 5 กรัม
10.ปัญญา 20 กรัม
11.น้ำล้างตา(ให้สว่าง) 2 ฝา
12.ความรักตัวเอง เท่ากับกำปั้นของผู้ใช้ยา

วิธีปรุงยา
ทันทีที่อกหัก ให้รีบนำส่วนผสมทั้งหมดมาบดให้ละเอียด
แล้วผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ปั้นเป็นรูปหัวใจเล็กๆ..
(เพื่อความน่ารัก)..ใส่ขวด..อย่าลืมติดฉลาก"ยาแก้อกหัก"

วิธีใช้
ให้กินวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร จนกว่าจะหายจากอาการเจ็บอก
ยานี้ไม่มีวันหมดอายุ สามารถเก็บไว้รักษาโรคอกหักได้ตลอดไป





โดย: wankawaew IP: 117.47.128.205 วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:9:15:49 น.  

 
จากเมนต์ข้างบน ยานี้มีผลข้างเคียง
คือทำให้คนที่รักและปรารถนาดีต่อ
คุณจริง สบายใจหายห่วงไปด้วย


โดย: meang IP: 118.172.92.178 วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:9:37:56 น.  

 
ขอบคุณสำหรับ
เนื้อหาในบล็อกนี้ค่ะ

ช่วงนี้หนังอ่านหนังสือ
ธนาคารความสุข
เรื่อง รักแบบม้าหมุน
ทุกวันเลย

และกำลังกระโดดออกมาแล้วค่ะ


โดย: ชมพู่มะเหมี่ยว วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:10:29:25 น.  

 
นึกถึงบล๊อกก่อนๆ ของพี่ที่ว่า คนเรามักจะ
เป็นทุกข์กับอดีต ไม่พอใจในปัจจุบัน และกังวลเรื่องอนาคต

ขอแค่ค่อยๆปรับเปลี่ยนมุมมอง อยู่กับปัจจุบัน และลองขอบคุณสิ่งดีๆรอบตัว ก็น่าจะทำให้มีความสุขในการเดินทางของชีวิตต่อไปได้นะคะ


โดย: เจ้าหญิงทิงนองนอย วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:12:51:03 น.  

 
อ่านแล้วตรงกับชีวิตตอนนี้เลย
เอาทุกข์เก่าๆมากังวล พลอยทำให้ปัจจุบันและอนาคตปรวนแปรไปด้วย

ชอบตรงไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
จะบอกว่า เห็นเป็นประจำ ยังไม่เข็ดเลย
ช่วงนี้ เอาคำพูดพี่จากหนังสือธนาคารความสุขมาเตือนสติประจำค่ะ


โดย: My Life as a Doc (อย่างไรก็ดี ) วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:18:37:56 น.  

 
คมเหมือนเดิมค่ะ คุณเอ็ด


โดย: พี่แหม๋ว (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:18:57:58 น.  

 
โฮ...โฮ
ช่วยด้วย มัวเมามาก
ไม่กล้าโดดจากม้าหมุน
แต่อยู่บนนั้นก็ไม่เคยสบายใจเลย
จะทำยังงัยดีน้อ


โดย: meang IP: 118.172.55.12 วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:20:20:13 น.  

 
รักคนอื่น ให้เหมือนรักตัวเอง รักตัวเอง ให้มากเท่าๆกับรักคนอื่น นะคะ... รอคุณเอ็ดมาอัพหลายวันแล้ว ไม่ผิดหวังเลยค่ะ


โดย: เปลวเทียน IP: 210.203.179.86 วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:22:07:30 น.  

 
"สิ่งที่พึงระวัง คืออย่าคบหาให้ความหวังใครโดยที่ใจไม่ได้รักเขามากพอ
เพราะคุณจะมีกรรมติดตัว คือรู้สึกผิดในภายหลัง"

แต่ถ้ามันไปไกลเกินจะหันหลังกลับ เพราะว่าคุณดีกับฉัน ฉันก็ดีกับคุณ ทั้งที่ยังมีความรู้สึก "ใจไม่ได้รักเขามากพอ" จะทำไงดีล่ะคะ - -"


โดย: Arin IP: 124.121.220.156 วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:7:49:16 น.  

 
แวะมาขอบคุณผู้ตอบและเป็นกำลังใจให้ผู้ถามค่ะ ^_^

Come on, life is not that bad!!! ^_^





โดย: เป่าจิน IP: 61.47.19.72 วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:9:58:35 น.  

 
คำตอบชัดเจนเหมือนเคยนะคะพี่เอ๊ด ^^

เอาใจช่วยคุณ Ongie ให้วางกลไกการป้องกันตัว ทลายกำแพงความไม่ไว้วางใจ และกลับมาอยู่กับปัจจุบันได้เร็วไวนะคะ :)


โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 74.125.74.83 วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:13:19:37 น.  

 
เห็นคุณแอสตันอัพบล๊อคดึกๆแบบนี้ แสดงว่ามีเนทที่บ้านแล้วใช่มั้ยคะ ดีใจจังค่ะจะได้มาอัพบล๊อคได้บ่อยๆให้ลูกค้าธนาคารได้อ่านกันอย่างจุใจ


โดย: ลูกค้าแบงค์ออฟแฮปปี้เนส IP: 58.8.183.76 วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:14:14:50 น.  

 
ขออนุญาตตอบคุณ meang ว่า
เราเองก็เคยกลัวนะ ตอนนี้โดดออกมาแล้วแหละ ถามว่ายังรู้สึกแย่ๆไหม ก็ยังเป็นบางที
แต่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ


โดย: อย่างไรก็ดี วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:17:31:07 น.  

 
ขออนุญาตตอบคุณ Meang เช่นกันค่ะ คุณ Aston

เคยเป็นเหมือนกัน...ม้าหมุนเนี่ย เวลาเป็นคนเล่น มันสนุก...มันลุ้น... มันหวั่น... มันน่าเบื่อ...เพราะวนๆอยู่แบบเดิมๆ เจอแต่เพื่อนๆ แต่เวลาออกมาได้ มาเป็นคนดู..เพราะรู้แล้วว่าความสนุกเป็นอย่างไร ความหวาดหวั่นน่ากลัวเพียงใด ความลุ้นมันเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน ใจก็เบาขึ้นค่ะ ก็เลยมาตั้งอกตั้งใจเดินขึ้นภูเขาไปหาพ่อแม่พี่น้องเราดีกว่า

คุณ Meang ลองตามรู้ความไม่สบายใจที่ต้องอยู่บนม้าหมุนดูนะคะ ไม่สบายใจแล้วไม่ชอบก็รู้ อยากกระโดดออกเมื่อไหร่ก็รู้ สักวันรวบรวมความกล้าหาญได้ก็โดดออกมาเลยนะคะ

ที่เล่ามานี่ อยากบอกว่าทำได้ เพราะคุณ Aston เคยสอนไว้บ้างค่ะ

ขอบพระคุณ คุณ Aston อีกทีนะคะ




โดย: wankawaew IP: 222.123.226.65 วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:5:35:03 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ
ตั้งใจและพยายามรวบรวมสติ
ตามรู้ความรู้สึก
ขอบคุณในความปรารถนาดี
รู้สึกดีมากๆ ค่ะ ว่าคนเรามีเมตตา
และปรารถนาดีโดยที่ไม่เคยรู้จัก
ก็มี ทำให้รู้สึกโลกนี้มีอะไรดีๆอีกเยอะ



โดย: meang IP: 118.172.48.135 วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:10:00:30 น.  

 
ขออนุญาตเจ้าของblogนะคะ

คือดิฉันอ่านคำถามของคุณOngieแล้วรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ มันก็แค่การปกป้องตัวเองหลังจากเจอเรื่องร้ายๆมา ไม่ได้คิดว่ามันเป็นปัญหา

" You Get What You Give " ก็ไม่ใช่เรื่องผิดนี่คะ การที่คุณทำดีตอบแทน คุณก็ตั้งใจ เต็มใจทำให้ไม่ใช่เหรอ คุณไม่ได้หลอกลวงแกล้งทำซะหน่อย

จะมีติอยู่นิดเดียวตรงที่ "...แต่เมื่อไรที่คุณทำร้ายผม หรือทำไม่ดีกับผม ผมก็จะทำไม่ดีกับคุณบ้าง" อันนี้ไม่จำเป็นค่ะ ใครไม่ดีคุณก็แค่เขี่ยเค้าออกไปจากชีวิต...ก็เท่านั้น

คุณทำดีตอบแทนให้กับคนที่รักคุณ และยังกังวลว่าสิ่งที่คุณเป็นจะไปทำร้ายความรู้สึกคนอื่น ... ดิฉันว่า แค่นี้คุณก็ไม่ใช่คนที่คิดถึงแต่ตัวเองแล้วค่ะ






โดย: Q.NUH วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:11:51:30 น.  

 
คุณ Q จะคิดแบบคุณ Q ก็ไม่ผิดหรอกครับ

ผมเข้าใจวิธีคิดของคุณ Q มั้ง เพราะคุณมี defensive mechanism เยอะ แล้วคุณก็รู้สึกว่ามันปลอดภัยดี แฟร์กับตัวเองและคนอื่น

ประเด็นคือ เจ้าของคำถาม คือคุณ Ongie เขาไม่ได้ชอบที่ตัวเองเป็นอย่างนั้น ผมรู้สึกว่าเพราะพื้นฐานเขาไม่ได้เป็นแบบคุณ Q น่ะ

You get what you give ไม่ใช่วิธีคิดที่ผิดในฐานะปัจเจกบุคคล แต่ผมอยากบอกว่า ในการมีคู่ มีชีวิตร่วมกันฉันคนรัก

ถ้าเราจะ give เพียงเท่าที่เรา get มันจะกลายเป็นสัมพันธภาพที่แห้งแล้ง ไร้น้ำใจ และอยู่กันแบบซังกะตายคล้ายนายจ้าง ลูกจ้าง หรือพ่อค้ากับลูกค้า ที่คิดว่าเธอให้เงินมาเท่าไหร่ก็เอาของไปเท่านั้น

ไม่แน่ใจว่าคุณ Q จะเข้าใจไหมนะ เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดเรื่องถูก

ใครจะชอบอยู่บ้านเดี่ยวมากกว่าอยู่คอนโด หรือชอบคอนโดมากกว่าบ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องผิด ถูกอะไรนะคุณ



โดย: aston27 วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:23:00:55 น.  

 
ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา
ไม่เห็นผ้าเช็ดหน้าไม่สั่งน้ำมูก
งั้นขอต่อด้วย.....
บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ...ออกไปจากจิตใจ ค่ะ


โดย: begin IP: 58.137.129.220 วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:14:13:18 น.  

 

วันนี้ตัดใจรวมรวมสติโดดออกมา

ทั้งๆที่รู้ว่าแรกๆคงเสียใจมากเป็นธรรมดา

เตรียมตัวเตรียมใจแต่ก็ยังเจ็บจุกแอ็ก

เนี่ยถ้าเป็นหน้าฝนคงเป็นนางเอกมิวสิค

ให้คุณแอสตันเหน็บเอา อยากจะร้องกร๊ด

ทำไมมันเศร้าจริงน้า...พรุ่งนี้เราจะดีขึ้นนะ





โดย: meang IP: 118.172.59.94 วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:23:51:48 น.  

 
เอาใจช่วยค่ะ คุณ Meang

ความเศร้ามันก็ไม่เที่ยงเหมือนกันค่ะ

สุขก็ชั่วคราวฉันใด ทุกข์ก็ชั่วคราวฉันนั้น

_/\\_


โดย: wankawaew IP: 222.123.15.80 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:30:38 น.  

 
ฮ้อ...กลุ้มจัง


โดย: pitida IP: 61.90.186.162 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:38:38 น.  

 
รบกวนคุณแอสตันตอบคอมเม้นต์ที่ 64 ตรงที่ถามคำถามด้วยค่ะ เป็นการโพสต์สืบเนื่องมากจากคำถามคุณ Onjie ก่อนนำมาขึ้นบล๊อค


โดย: เหนื่อยใจ IP: 61.19.44.26 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:19:03 น.  

 
กริตเตอร์ ลดโลกร้อน จากใจ COOL93


โดย: t-sakarin1968 วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:8:59:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.