Group Blog
 
All blogs
 
ถ้วยน้ำ มือถือ ย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียน



(ภาพจากเว็บนี้ ไม่ทราบชื่อผู้ถ่ายครับ //www.vcharkarn.com/vcafe/135263)

เมื่อวันอังคาร ผมไปงานเปิดตัวหนังสือ OOM โฉมใหม่ในแบบพ็อกเก็ตบุ๊ค
คุณสิริยากรเธอมีของชำร่วยให้แขกที่ไปร่วมงานสองสามชิ้น

หนึ่งในจำนวนนั้น มีถ้วยน้ำอยู่ใบหนึ่ง เป็นเครื่องเคลือบศิลาดลสีอมเขียวอ่อนๆ
อันนี้ ผมชอบมากเลย

ผมเอาถุงใส่ของชำร่วยวางไว้บนเบาะข้างคนขับ
ระหว่างทางขับรถกลับบ้าน รถติดมากเลยหยิบเอาถุงมาดูของ
เห็นแก้วใบนี้ แล้วก็นึกถึงเรื่องที่คุยกับน้องสาวคนนึงเมื่อหลายวันก่อน

เธอเล่าว่า มีแฟนมาตลอดสิบเอ็ด หรือสิบสองปี ผมจำไม่ค่อยแม่น
พอวันหนึ่งมีเหตุอันทำให้ต้องมาอยู่คนเดียว เลยไม่รู้จะทำอะไรดี
กับเวลาส่วนตัว ที่มีเหลือเฟือขึ้นมากระทันหัน

ถ้าใครบังเอิญมีปัญหาแบบนั้นอยู่ ผมบอกคุณได้ว่า มันเป็นเรื่องปกติ
บางคนเรียกว่าภาวะ สุญญากาศ ผมอยากเรียกว่า การย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียน

ผมอธิบายให้น้องสาวฟังว่า มันก็เหมือนเราเคยมีมือถือใช้มาสิบปี
แล้ววันนึง มือถือหายไปนั่นแหละ ถามว่าตายไหม ไม่ตายหรอก
แต่มันก็ต้องหงุดหงิด งุ่นง่าน หงิกหงอยเป็นธรรมดา

สมัยประถม ผมเรียนโรงเรียนสหศึกษามา 4 ปี ไม่รวมอนุบาล
พอขึ้น ป. 5 ย้ายไปเรียนโรงเรียนชายล้วน ผมก็รู้สึกแปลกๆพักนึง

เรียนไปหลายๆปี จนจบ ม. 6 ก็เริ่มชิน พอเข้ามหาวิทยาลัยเจอสาวๆเข้าก็แปลกๆอีก
จะไม่ให้แปลกยังไงไหว เพราะรุ่นเดียวกัน 120 คน เป็นผู้หญิงเข้าไปเกือบๆร้อย
ผู้ชายมีไม่ถึง 30 แถมอยากเป็นผู้หญิงซะอีกหลายคน

คณะอื่นเขาจะหานักกีฬา เชียร์ลีดเดอร์ผู้ชาย เขาต้องคัดตัวแล้วคัดตัวอีก
คณะผมนี่สมัครอะไรก็ได้หมดนะ เพราะหาผู้ชายทำยายากเต็มทน

รู้สึกแปลกอยู่เกือบปีได้มั้ง แล้วก็เริ่มชิน

เรื่องย้ายบ้านก็เหมือนกัน ชีวิตนี้ผมย้ายบ้านมาแล้วสิบครั้ง ไม่เชื่อก็ไม่แปลกนะ
เพราะผมก็เพิ่งเคยมานั่งนับวันนี้เอง แล้วก็ประหลาดใจเหมือนกัน
ว่าเราย้ายบ้านเยอะอย่างนี้เลยเหรอเนี่ย

ทุกครั้งที่ย้าย มันก็จะรู้สึกแปลกๆในช่วงแรก ที่เขาเรียกแปลกที่แปลกทาง
แต่พอสักพัก ชีวิตมันก็จะเริ่มลงตัว เข้าที่เข้าทาง

ย้อนกลับไปเรื่องน้องสาวคนนั้น
ผมบอกเธอไปว่า จิตใจคนเราเหมือนถ้วยน้ำว่างๆ
ที่เรามักจะรู้สึกดีที่มีคนมาเติมเต็มให้เรา

เพียงแต่ถ้วยของมนุษย์ มักเป็นคล้ายถ้วยที่มีรู รินอะไรใส่มันก็เต็มได้แป๊บๆ
แล้วจะค่อยๆพร่องลงๆ จนต้องหาอะไรมาเติม เป็นระยะๆ

บางคนตลอดชีวิต นั่งเฝ้ารอว่า เมื่อไหร่จะมีคนเดินมาเติมถ้วยน้ำของเราให้เต็ม
พอมีคนมาเติมให้ เราก็อยากให้เป็นสิ่งที่เราชอบ เพราะเราคิดว่าถ้าได้สิ่งนั้นมาเติม เราจะมีความสุข
แล้วก็พบว่า มันสุขได้แป๊บๆนะ ชั่วครั้งชั่วคราว

บางทีไม่มีคนมาเติมให้ ก็ต้องดิ้นรนไปหาของเติมจากภายนอก
ไปดูหนัง ฟังเพลง ไปเต้นระบำ กินเหล้า ปาร์ตี้ ช้อปปิ้ง ฯลฯ

สุขภายนอก มันหาง่ายแต่ก็ฉาบฉวย เหมือนกล้วยฉาบ
ต่างจากสุขภายใน ที่ไม่ต้องรอให้ใครมาเติม แต่มันเพิ่มขึ้นเอง ตามระดับสติและปัญญา

ทุกศาสนาเห็นแบบนี้เหมือนกัน และทุกศาสนาก็บอกวิธีเติมเต็มถ้วยน้ำที่ดีที่สุดไว้
จะมีก็พุทธ ที่ต่างจากชาวบ้านอยู่เรื่องหนึ่ง คือพระพุทธเจ้าสอนให้คนเห็นความจริงว่า

แม้แต่ถ้วยน้ำ ก็ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ของเที่ยงแท้ แน่นอน และบังคับไม่ได้
ระหว่างทางของพุทธ คือการมีน้ำเย็นชื่นใจเต็มถ้วยเสมอ โดยไม่ต้องพึ่งพาใครที่ไหน นอกจากตัวเอง

ปลายทางของพุทธ คือการได้เห็นว่า ถ้วยน้ำ "ของเรา" นั้นไม่มี
มีแต่ความเข้าใจผิด คิดว่ามีถ้วยน้ำ "ของเรา"

เมื่อไหร่ที่จิตเรามันมีปัญญาเห็นและยอมรับได้อย่างนั้นว่า
"ถ้วยน้ำไม่ใช่ของเรา" การจะมีใครมาเติมน้ำให้ หรือไม่มี ก็ไม่ใช่ปัญหา
น้ำจะเต็มถ้วย ค่อนถ้วย ครึ่งถ้วย หรือเหือดแห้ง ก็ไม่ใช่ปัญหา

แต่ความอัศจรรย์ของธรรมะ ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะที่ฟังครูบาอาจารย์มา
ท่านบอกว่า.. เมื่อเราไม่ดิ้นรนจะเติมน้ำ เพราะเห็นแจ้งว่าถ้วยน้ำไม่ใช่ของเรา
นั่นแหละ.. น้ำจะไม่เคยพร่องหายไปจากถ้วยอีกเลย

ไม่รู้เขียนเข้าใจยากไปไหม..
ไม่รู้เรื่องไม่เป็นไร อ่านไว้เล่นๆ ก่อน ไว้หัดเจริญสติ รู้สึกตัว รู้จิตตัวเองไว้
วันนึงจะเข้าใจเอง

จะว่ายากก็ยาก เพราะเราไม่เคยชินกับการ "ปฏิบัติ" โดยไม่ลงมือทำ
แต่จะว่าง่ายก็ง่าย เพราะถ้าเดินถูกหลัก มันก็แทบจะไม่ต้องทำอะไร นอกจากคอย "รู้สึกตัว"

อาจจะรู้สึกแปลกๆ ในช่วงแรก เหมือนเรื่องมือถือ ย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียนนี่แหละ

สักพักนึงก็จะชินกับมีชีวิตที่เป็นสุขกับการรู้สึกตัวนะ ..เชื่อสิ



เพลงวันนี้ชื่อ Dust in the wind เถ้าธุลีในสายลม งานของ คณะแคนซัส ครับ



Create Date : 18 กรกฎาคม 2551
Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 23:49:28 น. 16 comments
Counter : 977 Pageviews.

 
น่าคิดดีครับพี่ :D


โดย: แสงเก้า IP: 58.64.74.5 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:1:31:30 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ aston
คงจำกันได้นะค่ะ แวะมาทักทายค่ะ หลังจากที่ถือทุกข์ไว้นาน เข้ามาอ่านบ่อย ๆ อ่านของเก่าของคุณหลายเที่ยวเข้า ก็เริ่ม "รู้สึกตัว" มากขึ้นทำให้ปล่อยทุกข์ที่ถือไว้ได้มากขึ้น ช่วงนี้เลยรู้สึกสบายใจ และสบายกายขึ้นค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกบล็อค มีข้อคิดให้มากมาย ขอบคุณค่ะ


โดย: แม่ลูก 3 IP: 125.25.142.26 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:30:36 น.  

 
ผมก็เปลี่ยนบ่อยนะครับ แต่ไม่ใช่บ้าน หรือ ร.ร. ตอนแรกก็ทำใจไม่ได้ ต่อไปก็ชินเองครับ


โดย: walkerahead (Walkerahead ) วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:35:23 น.  

 

สมัยเด็กๆย้ายโรงเรียน ย้ายบ้านบ่อย
ก็เลยเคยชินกับการเปลี่ยนแปลง
ทั้งสิ่งแวดล้อมใหม่ ครูใหม่ เพื่อนใหม่

แต่พอช่วงหลัง ชีวิตเริ่มอยู่ตัว ก็เลยลืมไปว่า
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
พอมีการเปลี่ยนแปลงแบบกระทันหัน ก็เลยทุรนทุรายอยู่พักหนึ่ง

แวะมาอ่านทีไร ก็รู้สึกดีๆทุกครั้ง




โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:22:24 น.  

 
"นั่งเฝ้ารอว่า เมื่อไหร่จะมีคนเดินมาเติมถ้วยน้ำของเราให้เต็ม"
เอ่อ.. รอแบบนี้ สงสัยชาตินี้ ชาติหน้า ชาติไหน ก็คงไม่เต็มซักที เติมเองดีกว่า 5555

ในวันนี้ ที่ยังเห็นอยู่ทนโท่ว่าเป็นถ้วยน้ำของเรา บางที ถ้วยน้ำว่างเปล่าบ้างก็ดีนะคะพี่ ไม่ต้องคอยเติมน้ำ ไม่ต้องห่วงว่าตะไคร่จะขึ้นหรือเปล่า น้ำจะเน่ารึยัง...

ปล. dust in the wind นี่เป็นเพลงที่ผูกพันกันตั้งแต่ครั้งกระโน้นที่ยังอยู่เชียงใหม่เลยค่ะ เปิดฟังเองยังไงก็ไม่จับจิตเท่าฟังจากคนอื่น 555 ถ้วยน้ำที่ไม่เคยเต็ม d:


โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 202.91.18.206 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:39:27 น.  

 
อืม ชินเหรอ
ไม่ชินซะทีค่ะพี่


โดย: B-ing IP: 58.9.82.23 วันที่: 20 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:55:41 น.  

 
อ่านแล้วได้ข้อคิดเหมือนเคยนะครับ ไม่ผิดหวังที่เข้ามาเลย ว่าแต่คุณน้องสาวของพี่คนนี้น่ารักรึเปล่าครับ อิอิ เผื่อผมจะขอเบอร์ เห็นเธอว่างๆ
เผื่อจะชวนไปทำบุญร่วมกันน่ะครับ ฮ่าๆ..


โดย: กี๋ IP: 203.155.40.19 วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:16:17 น.  

 
เข้ามาอ่านทีไร ก็รู้สึกดีครับ กำลังฝึกฝนการตามจิตให้ทันอยู่ครับ


โดย: add IP: 58.137.133.20 วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:45:04 น.  

 


โดย: aston27 วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:0:05:28 น.  

 
^^ สวัสดีค่ะ
กำลังจะย้ายบ้านอยู่พอดี
มีความวิตกอยู่มากเหมือนกัน
แต่พอมาอ่านข้อความด้านบนนี้ลดความกังวนไปได้เยอะเลยค่ะ...
อื้มมมม....เดี๋ยวก็ชิน


โดย: Arin IP: 124.120.209.116 วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:45:34 น.  

 
อ่านบทความที่พี่เขียนแล้วสบายใจขึ้นเยอะเลย สำหรับคนไกลบ้าน มีเรื่องให้คิดมากมาย เหมือนบล็อคของพี่ได้ ช่วยนำแนวทางให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ เขียนต่อไปนาน นานนะพี่
akilas iceland


โดย: akilas IP: 89.160.133.227 วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:40:01 น.  

 
ผมคิดว่า ที่"เมื่อเราไม่ดิ้นรนจะเติมน้ำ เพราะเห็นแจ้งว่าถ้วยน้ำไม่ใช่ของเรานั่นแหละ.. น้ำจะไม่เคยพร่องหายไปจากถ้วยอีกเลย " เพราะว่าน้ำมันรู้ว่าถึงลดพร่องลงไปยังไงก็ทำอะไรเราไม่ได้อีกแล้ว มันก็เลยเลิกพร่องอีกต่อไป ^^


โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:16:36 น.  

 
ดีฮับลุงแอสตั้นอ่านที่ลุงเล่าเหมือนที่แม่ตอบคำถามเลย..วันที่พ่อจากเราไปเมื่อ8ปีก่อนแม่ร้องไห้ทุกวันไม่กินข้าวปลาผอมเหลือตัวนิดเดียวนานมากที่แม่ร้องไห้พยายามที่จะทำร้ายตัวเองผมถามแม่ว่าถ้าแม่ตายผมจะอยู่อย่างไรเวลาที่แม่หลับผมจะแอบบีบจมูกแม่เพื่อให้แม่ลืมตามาพูดกับผมแอบเอาน้ำหยอดปากแม่เพราะกลัวแม่ตายและในวันหนึ่งแม่กอดผมแล้วบอกแม่จะอยู่เพื่อลูกแม่เข้าวัดเมื่อมีโอกาศผมก้อบวชเณรเพื่อรับใช้พระศาสนาอยากให้แม่สบายใจผมอธิฐานในทุกครั้งหลังจากสวดมนต์ขอให้พ่อกลับมา..พ่อกลับมาจริงๆแต่ไม่นานพ่อก้อจากเราไปอีก..ผมเกิดความกลัวขึ้นจับจิตว่าถ้าแม่เสียใจเหมือนที่ผ่านมาจะทำอย่างไร..แม่เสียใจแต่แม่ไม่ฟูมฟายแม่ซึมๆอยู่สองสามวันผมบอกแม่ว่าเดี๋ยวเราก้อชิน..แม่ยิ้มแล้วบอกผมว่าแม่ดีใจที่ลูกเข้าใจในอนัตตาเออเนอะแม่ผมไปได้ไกลจริงๆ(แม่ผมนะใจดีใจบุญชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์..)ผมก้ออยากจะบอกแม่เหมือนกันผมบาชมา4ครั้งไม่ได้หมายความว่าจะรู้อะไรลึกซึ้งในธรรมมะนักหรอกจุ้ๆ..ผมมีวัคซีนทำให้ผมข้มแข็งต่างหาก5555อยากรู้ม่ะว่าชื่ออะไรบ้าง1..วัคซีนแห่งกาลเวลา..ที่เพราะบ่มทำใหผมได้เข้มแข็งทั้งกายและใจ..2..วัคซีนแห่งความรักที่แม่ได้มอบให้ผมโดยที่ผมไม่รู้สึกขาดอะไรเลย..3..วัคซีนแห่งธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าชี้นำทางแสงสว่างมาสู่ใจของแม่และเผื่อแผ่มาสู่ผม...และผมก้อคิดว่าในยามที่เราเจอปัญหาเจอขวากหนามต่างๆแสงสว่างนี้จะนำพาเราผ่านพ้นไปได้ด้วยดี(วันแม่เผื่อแม่จะอ่านเจออิอิ)..ลาแล้วคร๊าบ..เฮ้อ?จะมีใครเข้าจัยที่เราเล่ามั้ย??????


โดย: เด็กม2นครปฐม IP: 125.27.218.89 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:01:13 น.  

 
เราเข้าใจค่ะ คุณเด็ก ม2นครปฐม
ดีใจแทนคุณแม่คุณที่มีคุณลูกน่ารักๆ อยู่เป็นเพื่อนข้างๆ แบบนี้

You are her friend in deed, coz you're her friend in need...

So touching ka :)


โดย: Versailles IP: 203.101.156.148 วันที่: 31 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:02:26 น.  

 
มาอ่านบล๊อกนี้ด้วยไม่ได้ตั้งใจ

แต่อ่านแล้วกลับผ่านไปไม่ได้

แอดไว้แล้วค่ะ ว่าง ๆ จะมาเยี่ยมอีกนะคะ อย่าหยุดเขียน..


โดย: แม่ของลูกสองคน IP: 118.173.150.177 วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:14:21:43 น.  

 
อ่านแล้วนึกถึงว่าถ้าตัวเองจะต้องเป็นแก้วน้ำที่ไม่ต้องคอยเติมน้ำแต่มีน้ำอยู่เต็มแก้วตลอดเวลาเปรียบเป็นความสุขที่ไม่ต้องแต่งเติมแต่มีความสุขที่เยมล้นตลอดเวลาดีจริงๆขอบคุณสำหรับบทความนี้ค่ะ


โดย: mam IP: 124.121.127.110 วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:22:41:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.