|
หอยทาก กับหมูกระดาษ
(ขอบคุณภาพประกอบสวยๆจากคุณ SevenDaffodils ครับ)
ผมถือว่าตัวเองโชคดีและมีบุญนักหนา ที่มีโอกาสพบครูบาอาจารย์อย่างพระอาจารย์ปราโมทย์
ผมรู้จักท่านตั้งแต่สมัยท่านยังไม่บวช แต่เป็นการรู้จักผ่านตัวหนังสือที่ท่านเขียนในเว็บบอร์ด จนวันที่ท่านบวช ผมก็มีโอกาสตามเพื่อนๆไปกราบท่าน สมัยนั้นเรียกท่านว่า "หลวงอา" จนภายหลังคนส่วนใหญ่เรียกหลวงพ่อ ผมก็เรียกหลวงพ่อตาม เพื่อไม่ให้คนรอบข้างรู้สึกสงสัยว่าเพราะอะไร
อันที่จริง ในใจผมรู้สึกว่าท่านเป็นพ่อผมจริงๆ คือเป็นพ่อที่ให้กำเนิดชีวิตใหม่ในทางธรรม
เวลานึกย้อนไปถึงตัวเอง ตอนที่ยังมะงุมมะงาหรา เริ่มหัดวิปัสสนาแบบลุ่มๆดอนๆ ทำแบบผิดหลักผิดทาง ยิ่งทำก็ยิ่งหลงเพ่งเอาเพ่งเอา เพราะอยากได้อยากดีอยากมีอยากเป็น
แล้วย้อนมาดูตัวเองในปัจจุบัน ผมจะสำนึกในพระคุณของท่าน แบบบรรยายไม่ถูก เพราะท่านนี่แหละขุดผมขึ้นมาจากใต้คอนกรีตที่ทับอยู่ในก้นบึง
นอกจากนั้น วิธีที่ท่านสอนธรรมะ ยังเป็นต้นแบบที่ดีของการสอนที่เห็นภาพชัดเจน เข้าใจง่าย หลายๆเรื่อง หลายๆตัวอย่าง ก็เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ให้ผมได้นำมาบอกเล่าต่อในบล็อกแห่งนี้
ครั้งหนึ่งท่านจะเตือนไม่ให้พวกลูกศิษย์ประมาท อย่าขี้เกียจ และอย่าดูแคลนกิเลส
ท่านใช้วิธีเปรียบว่า พวกเราเหมือนหอยทากตาบอด คลานดุ๊บดิ๊บๆอยู่ก้นเหว พยายามจะหาทางไต่ขึ้นให้พ้นปากเหว โดยไม่รู้ว่าจะลื่นหล่นลงไปในเหวอีกเมื่อไหร่
ผมฟังแล้วสันหลังเย็นวาบ ขนลุกขึ้นมาทันใด เพราะเห็นจริงอย่างนั้น
อีกเรื่องที่ท่านใช้สอนลูกศิษย์ลูกหาบ่อยๆในช่วงปีที่ผ่านมา คือเรื่องหมูกระดาษครับ
เคยเห็นหมูกระดาษไหมครับ ไอ้หมูออมสินตัวแดงๆ ที่ทำจากเศษกระดาษมาแปะๆๆลงบนโครง ให้มันเกิดรูปร่างขึ้นมา แล้วก็ทาสี วาดหน้าตา ให้มันยิ้มๆ เป็นงานฝีมือจำพวกที่ ภาษาปะกิตเขาเรียก เปเปอร์มาเช่
ถามว่ามันคือหมูจริงๆไหม ไม่ใช่ครับ แต่ถ้ามันมีจิตใจเหมือนเรา ไปถามมันว่า "แกเป็นตัวอะไร" ยังไงมันก็ต้องตอบว่า "ฉันเป็นหมูไง"
อย่างที่เคยเล่าถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า สิ่งที่เป็นตัวเรานั้นแท้จริงไม่มี มีแต่ความสำคัญผิด มีแต่ตัวตนปลอมๆ ที่ถูกสร้างขึ้นจากความเข้าใจผิด แล้วยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวเรา
มันคือผลจากการที่จิตสร้างเปลือกขึ้นทีละชั้นๆ จนเป็นรูปร่าง ตัวตนขึ้นมาเหมือนหมูกระดาษ ว่าเราเป็นคนแบบไหน ต้องพูดแบบนั้น แต่งตัวแบบนี้ เดินแบบโน้น ถึงจะใช่เราที่สุดแล้ว
สมัยหนึ่ง เวลานักร้องจะออกอัลบั้ม มักจะมีคำพูดติดปากว่า "ชุดนี้เป็นตัวของตัวเอง" แต่พอออกชุดใหม่ ดนตรีเปลี่ยนไป เนื้อหาเปลี่ยนไป ก็บอกว่า "เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น"
ฟังดูขำๆหน่อย แต่เขาไม่ได้ผิดนะครับ เพราะเวลาเปลี่ยน อะไรๆก็เปลี่ยน หมูกระดาษของเขา ก็อาจจะเปลี่ยนสี แปรสภาพได้
เพราะถ้าเราไม่เคยรู้ทัน จิตมันก็จะสร้างตัวตนขึ้นมาเพิ่มเรื่อยๆ แล้วก็ยึดมั่นถือมั่นมากขึ้นเรื่อยๆ ถามว่าใครที่เป็นผู้สร้างหมูกระดาษของตัวเองขึ้นมา ก็จิตเราเองนี่แหละ
พอพูดเรื่องว่า ตัวเราไม่มี มักจะมีคนสงสัยว่า ถ้าตัวเราไม่มี แล้วใครเป็นคนไปเกิดใหม่ ใครเป็นคนรับผลบุญ ผลกรรม ก็ตอบว่าจิตนี่แหละ
แต่จิตนี่ไม่ใช่ "ตัวเรา" นะครับ เพราะจิตเป็นสิ่งที่มีลักษณะอย่างหนึ่งคือเป็น "อนัตตา" แปลว่า ไม่ได้อยู่ในอำนาจการควบคุมบังคับของเราได้จริงๆ
พูดง่ายๆ เกิดมาทีนึง จิตมันสร้างหมูกระดาษขึ้นมาครอบตัวเองไว้ แล้วก็ยึดมั่นถือมั่น หลงรักหวงแหน ไอ้หมูเปลือกๆนี่เป็นนักหนา
การพยายามเข้าใจ "หมูกระดาษ" ด้วยการคิดเอา อาจจะงงหน่อยนะครับ แต่หลวงพ่อท่านสอนว่า ถ้าคอยมีสติ รู้ทันการปรุงแต่ง ความรู้สึก การคิด นึก ของจิตตัวเองไปเรื่อยๆ
ก็จะเหมือนการได้ลอกเปลือกของหมูกระดาษออกทีละชั้นๆ เปลือกของหมูก็จะบางลงๆ ลอกไปลอกมาระยะหนึ่ง จะเห็นแจ้งได้ว่า ความจริง "หมูกระดาษ" ไม่ใช่หมูหรอก
ลอกต่อไปอีกเรื่อยๆ จนถึงที่สุด ชิ้นสุดท้าย จะค้นพบว่า ข้างในมันก็เป็นแค่โครงเปล่าๆ ไม่มีอะไรที่เรียกได้ว่าเป็น "หมู"
เหมือนที่บอกว่า สิ่งที่เรียกว่า "ตัวเรา" ไม่มี มีแต่ กายที่เกิดจากธาตุ 4 มารวมกัน มีจิตใจ ที่เกิดจาก ความคิด นึก ปรุงแต่ง ความรู้สึก และตัวที่รับรู้สิ่งทั้งหลาย
ถ้าเห็นได้อย่างนั้นเมื่อไหร่ จิตถึงจะเป็นอิสระ เพราะไม่มีอะไรควรค่าให้ยึดมั่นถือมั่น ไม่ยึดมั่นในตัวตน ก็จะไม่แบก ไม่แบก ก็ไม่หนัก ไม่หนัก ก็ไม่ทุกข์
เรียนวิปัสสนา เรียนรู้ "ตัวเอง" ด้วยเพียงการ "รู้สึกตัว" จึงพาคนพ้นทุกข์ได้ในที่สุด ด้วยเหตุนี้เองครับ
ง่ายจริงๆนะ ผมไม่ได้โฆษณาชวนเชื่อ
เพียงแต่กว่ามันจะคลำทางเจอ ว่าจะเริ่มลอกเปลือกไอ้หมูกระดาษของเรา ตรงไหน อันนี้อาจจะยากสักหน่อย แต่รับรองได้ว่าไม่เกินความพยายาม
ถ้าไม่คิดมาก ถ้าไม่พยายามทำอะไรสักอย่าง ด้วยการ "พยายามคิด" แต่รู้ทันว่าจิตมันกำลัง "คิด" มันหลงไปคิดมันก็ทำของมันเอง เราไม่ได้สั่ง
แค่นั้น ครูบาอาจารย์ท่านว่า คุณได้ต้นทางของการปฏิบัติแล้วครับ
ไม่ต้องรอให้ลางาน โดดงานไปวัด ไม่ต้องรอให้ถึงวันพระ วันโกน วันตรุษ ไม่ต้องรอจนได้ไปนั่งหน้าหิ้งพระห้องพระที่ไหน
แค่เริ่มภาวนา รู้ลงใน กายเรา ใจเราเอง ไอ้ก้อนที่กว้างคืบยาววาหนาศอกนี่ ก็จะเป็นเขตศักดิ์สิทธิไม่ต่างจากวัดเลย
สุขสันต์วันงานยุ่งครับ เพราะแปลว่าเรายังมีงานทำอยู่
ปล. อยากเรียนเรื่องการลอกหมูกระดาษ เชิญได้//www.wimutti.net/pramote/
ปล. 2 ขอบคุณทุกท่านที่ไปงานวันเปิดตัวที่ Esplanade และวันนั่งคุย ที่ร้าน after you นะครับ ขอบคุณห้องสมุดมารวยฯ ขอบคุณร้าน After you เจ อเวนิว ทองหล่อ สำหรับสถานที่ครับ
Create Date : 16 กันยายน 2551 |
Last Update : 20 กันยายน 2551 18:36:36 น. |
|
44 comments
|
Counter : 3266 Pageviews. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:8:22:03 น. |
|
|
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:8:44:35 น. |
|
|
|
โดย: jah IP: 203.146.104.31 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:8:47:35 น. |
|
|
|
โดย: nanida วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:9:03:06 น. |
|
|
|
โดย: โจ้ IP: 58.137.81.212 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:10:25:05 น. |
|
|
|
โดย: Tony Koon (tk_station ) วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:11:04:54 น. |
|
|
|
โดย: myover วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:11:19:21 น. |
|
|
|
โดย: ณ มน วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:11:21:55 น. |
|
|
|
โดย: daisyntulip IP: 75.43.214.230 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:12:01:21 น. |
|
|
|
โดย: พี่แหม๋ว (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:14:29:27 น. |
|
|
|
โดย: zmen วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:14:52:14 น. |
|
|
|
โดย: ดอกปีบ IP: 125.27.204.219 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:16:45:54 น. |
|
|
|
โดย: wankawaew IP: 117.47.132.187 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:18:39:04 น. |
|
|
|
โดย: จิ๊บ IP: 124.157.243.7 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:19:39:19 น. |
|
|
|
โดย: โสดในซอย วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:20:06:50 น. |
|
|
|
โดย: walkerahead (Walkerahead ) วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:20:35:58 น. |
|
|
|
โดย: azamiya วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:21:09:24 น. |
|
|
|
โดย: DA IP: 202.91.19.192 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:21:40:07 น. |
|
|
|
โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.37.164 วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:1:35:38 น. |
|
|
|
โดย: Ja~ IP: 118.173.240.157 วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:1:36:19 น. |
|
|
|
โดย: wankawaew IP: 117.47.132.208 วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:6:54:02 น. |
|
|
|
โดย: a r i t s u m e m o o n IP: 203.131.208.115 วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:9:27:48 น. |
|
|
|
โดย: Hobbit วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:16:09:44 น. |
|
|
|
โดย: LOLLIPOP IP: 202.44.135.243 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:21:17:37 น. |
|
|
|
โดย: myover วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:11:15:07 น. |
|
|
|
โดย: หมีน้อย T.U. IP: 202.44.7.66 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:13:23:59 น. |
|
|
|
โดย: หมีน้อย T.U. IP: 202.44.7.66 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:13:25:50 น. |
|
|
|
โดย: sunny IP: 58.8.36.98 วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:1:05:56 น. |
|
|
|
โดย: Tony Koon (tk_station ) วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:10:19:17 น. |
|
|
|
โดย: ตา (taheart ) วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:21:46:42 น. |
|
|
|
โดย: azamiya วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:22:17:16 น. |
|
|
|
โดย: แก๊งป้าลักษ์ IP: 58.9.42.184 วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:0:16:14 น. |
|
|
|
โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.36.44 วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:13:36:22 น. |
|
|
|
โดย: My Life as a Doc IP: 202.28.52.254 วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:16:14:34 น. |
|
|
|
โดย: kittykitten วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:20:28:05 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:23:50:18 น. |
|
|
|
โดย: myover วันที่: 23 กันยายน 2551 เวลา:10:10:18 น. |
|
|
|
โดย: สุดลึก วันที่: 23 กันยายน 2551 เวลา:17:55:13 น. |
|
|
|
โดย: Plankton IP: 203.146.145.186 วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:22:41:02 น. |
|
|
|
โดย: no_one_no_me IP: 58.8.19.177 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:08:04 น. |
|
|
|
| |
|
|
ผมไม่มีเพลง Paper Mache Pig มีแต่เพลง It's Only a paper moon ของลุงเจมส์ เทย์เลอร์