ไก่กับไข่ และคำถามอจินไตย
(ภาพประกอบจากคุณ SevenDaffodils เจ้าเก่าครับ) คุณเคยสงสัยและนั่งถกกับเพื่อนในปัญหา "เรื่องไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน" ไหมครับ ทีแรกผมก็นึกว่าไอ้สำนวนนี้ มันฮิตกันในเฉพาะหมู่คนไทย แต่เอาเข้าจริงๆ ฝรั่งเขาก็เรียกปัญหาที่มันจับต้นชนปลายไม่ได้ว่า Chicken and Egg ด้วยเหมือนกัน แปลว่า มนุษย์เรามักมีข้อสงสัยในเรื่องหลายๆเรื่องคล้ายๆกัน เช่น สงสัยว่าต้นกำเนิดมนุษย์เกิดมาจากไหน โลกเกิดมาอย่างไร จักรวาลเกิดมาอย่างไร ไปจนถึงคำถามว่า ถ้าเราเวียนว่ายตายเกิดจริงๆ อย่างที่พระท่านว่า แล้วไอ้ "ตัวเรา" ตัวแรกเนี่ยมันโผล่มาจากไหน ในทางพุทธ เรามีศัพท์เรียกคำถาม ข้อสงสัยจำพวกนี้ว่า "อจินไตย" คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงแนะว่า ไม่ควรเปลืองพลังงานไปคิด ผู้ที่คิดจะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากโดยเปล่าประโยชน์ ถ้าว่ากันตามเนื้อความในตำรา สิ่งที่เป็นอจินไตยมี ๔ เรื่อง คือ ๑. พุทธวิสัย วิสัยของพระพุทธเจ้า ไม่พึงเสียเวลาไปนึกคิดว่าจิตท่านเป็นอย่างไร ท่านคิดอย่างไร ฯลฯ ๒. ฌานวิสัย วิสัยของผู้ได้ฌาน ไม่พึงเสียเวลาไปจินตนาการว่าผู้ได้ฌานอภิญญามีฤทธิ์ต่างๆได้อย่างไร ๓. กัมมวิบาก ผลจากกรรม ไม่พึงเสียเวลาไปหาคำตอบว่า วิบากที่เรารับ เราเจออยู่ตอนนี้ เป็นผลมาจากกรรมไหน ณ ปางใด ขนาดพระพุทธเจ้าที่ทรงมีบุพเพนิวาสานุสสติญาณ ที่ระลึกชาติย้อนหลังได้ไม่จำกัด ตอนท่านตรัสรู้ ท่านเคยเล็งญานสาวไปหาต้นทางของการเกิด แต่ยิ่งไล่ไปเท่าไหร่ก็ไม่เจอต้นทาง ท่านถึงเคยบอกว่า สังสารวัฏของสัตว์โลกนี้ "จับต้นไม่ได้ หาปลายไม่เจอ" ขนาดท่านยังสาวไปไม่ถึง แล้วเราจะไปคิดถึงทำแป๊ะอะไร ๔. โลกจินดา ความคิดเรื่องกำเนิดโลก กำเนิดจักรวาล กำเนิดท้องฟ้าอากาศต้นไม้ อันนี้คิดไปดีที่สุดก็ได้แค่ทฤษฎี ที่หาข้อสรุปแน่นอนไม่ได้ เล่าเรื่องอจินไตยมาเสียยาวยืด เพราะผมนั่งมองปัญหาการเมืองมานานสองนาน เวลาได้ฟังต่างฝ่ายนั่งโทษกันว่า ต้นเหตุของปัญหามาจากไข่ เอ๊ย.. มาจากใคร ผมก็จะนึกถึงเวลาคนเถียงกันเรื่องไก่กับไข่นี่แหละ ส่วนตัวแล้วผมไม่เห็นประโยชน์จะนั่งโยนบาปไปมา ว่าต้นตอของปัญหาเกิดมาจากใคร น่าจะใจเย็นๆ ค่อยๆนั่งคุยกัน ว่าในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้ว จะช่วยกันยังไง ไก่จะเกิดก่อนไข่ หรือไข่จะเกิดก่อนไก่ ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า เราจะดูแลไก่ที่เกิดมายังไง และจะฟูมฟักไข่ที่ออกมายังไง ให้มันเกิดประสิทธิผล ถ้าจะมองว่าฝ่ายหนึ่งตัดสินใจผิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็ให้ศาลดำเนินการไป แทนที่จะปลุกปั่นผู้คนตกอยู่ในอำนาจของโทสะ ความเกลียดชัง ซึ่งน่าจะเป็นผลเสียหายกับส่วนรวมไม่แพ้กัน เจตนาดีของคนเรานี่ ถ้าทำโดยขาดสติ มันก็กลายเป็นผลเสียได้แบบมหัศจรรย์เลยนะ เพิ่งมี DVD หนังเรื่องหนึ่งออกขาย ชื่อเรื่อง Death Sentence นำแสดงโดย เควิน เบคอน พระเอกจากหนังสมัยผมวัยรุ่นเรื่อง Foot loose เขาเล่นเป็นพ่อ ที่ลูกชายโดนแกงค์อันธพาลข้างถนนฆ่าตาย แต่ผู้ร้ายหลุดคดี เควิน เลยตั้งตนเป็นศาลเตี้ย ออกตามล่าพวกชาวแกงค์เอง ตอนท้ายเรื่อง ไล่ฆ่ากันไปมา จนหัวหน้าแกงค์มาเผชิญหน้ากับเควิน แล้วบอกว่า "ดูแกสิ ตอนนี้ แกก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเราหรอก" ทุกคนแพ้หมด ไอ้ที่ชนะ ก็มีแต่กิเลสและโทสะ จริงๆปัญหานี้แก้ง่ายมาก ง่ายจริงๆ แต่เป็นไปได้ยาก ที่ว่าง่ายคือ ไม่ต้องทำอะไรเลยครับ ขอให้ทุกคนเลิกสนใจเรื่องนี้ กลับบ้านให้หมด ไปสงบสติอารมณ์ที่บ้าน เลิกด่ากัน เลิกโทษกัน สื่อมวลชนก็เลิกสนใจม็อบ ปัญหาจะจบได้ภายในวันเดียวเท่านั้นแหละครับ ไม่ต้องลำบากตำรวจ ไม่ต้องพึ่งใครที่ไหน หลายคนรวมถึงผมด้วย สงสารตำรวจครับ โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง แต่เป็นไปได้ยาก เพราะต่างคนต่างถือว่าตัวเองไม่ผิด แล้วก็ชี้ว่าอีกฝ่ายนั่นแหละผิด ฝ่ายที่ควรจะเป็นกลาง ก็ไม่กลาง ไปให้ท้ายฝ่ายหนึ่งกับเขาไปด้วย ประเด็นตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องทำเพื่อบ้านเมืองหรอกครับ มันเป็นเรื่องสนองอัตตาตัวเอง จะยึด จะปิด จะอะไรก็ได้ ขอให้ชนะ ชาติบ้านเมืองเป็นไงเป็นเรื่องรอง ถ้าคนไทยที่เป็นชาวพุทธแท้ๆ รู้จักหลักวิปัสสนา จะเข้าใจสิ่งที่ผมพูด เพราะพระพุทธเจ้าสอนให้เรามองตัวเอง ให้เห็นจุดอ่อน เห็นข้อเสีย เห็นกิเลสของตัวเองก่อนเพ่งโทษคนอื่น ก่อนจะบอก จะคาดหวังว่าใครต้องทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้แล้วประเทศนี้จะดีขึ้น ให้ย้อนมาตั้งคำถาม ถามตัวเองว่า แล้วเราล่ะ จะทำอะไรให้ประเทศนี้ดีขึ้นได้บ้าง ผมตั้งคำถามนี้ให้ตัวเองแล้ว ได้คำตอบว่า ผมควรจะเลิกสนใจปัญหานี้ด้วยเหมือนกัน แล้วควรจะไปสวดมนต์ เข้านอน เพราะมันดึกแล้ว อย่าลืมว่า คนอื่นนำปัญหามาให้เราได้ แต่เราไม่จำเป็นต้องทุกข์มากมาย ถ้าเราไม่ยกทุกข์นั้นขึ้นมาแบกไว้ ด้วยการมีสติ รู้กายใจตัวเองอย่างเป็นปัจจุบัน ตามความเป็นจริง หิวก็กิน อิ่มก็พอ เหนื่อยก็พัก ง่วงนักก็ไปนอน รัฐบาล พันธมิตร นปก. คมช. สส. สว. ก็ล้วนแต่ของชั่วคราวนะครับ ปล. งานเปิดตัวหนังสือพรุ่งนี้ (3 ก.ย.) บ่ายสองโมงครึ่ง ที่ห้องสมุดมารวย สาขาเอสพลานาด ยังมีเหมือนเดิมนะครับ ถึงผมจะจบธรรมศาสตร์ ถึงหนังสือผมจะสีเหลือง แต่กรุณางดเสื้อเหลืองกับแดงนะครับ ปล. 2 คนใกล้ตัวผมเตือนไว้เมื่อคืนว่า อย่าไปพูดเรื่องการเมือง ดีที่สุดก็จะเจอคนที่ "ไม่เห็นด้วยกับเรา แต่เกรงใจเรา" อย่างความเห็นที่ 7 รองลงมา ก็จะเจอความเห็นแนวประชดประชัน รับประทานกันแบบความเห็นที่ 8 ไม่รู้ว่า คคห. 8 จะกล้บมาอ่านอีกไหม แต่เอาเป็นว่า ผมมาเขียนให้ท่านทราบว่า ผมอ่านแล้วนะ ถึงแม้จะถือว่าอันนี้ เป็นบล็อกส่วนตัว แต่ผมก็ไม่เคยเรียกร้องว่าทุกคนต้องเห็นชอบกับสิ่งที่ผมคิดทุกตัวอักษร ผมไม่ตอบโต้ คุณ คคห. 8 หรอกนะครับ เพราะผมเข้าใจได้ในวิธีคิดของคุณ ว่าผมพูดอะไร คุณก็คงไม่เข้าใจ ไม่เห็นด้วยอยู่ดี ส่วนน้อง คคห. ที่ 7 ต้องขอบคุณที่พยายามเขียนแย้งอย่างสุภาพ ที่จริงผมเป็นคนที่มีแนวทางการเมืองแบบ moderate ครับ ผมไม่ได้ยึดติดกับฝ่ายไหน ไม่ได้เชื่อว่าระบอบอะไรดีที่สุด เพราะผมชอบ ผมสนใจเรื่องการบ้านการเมืองมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ในบล็อกนึง ถ้าใครจำได้ ผมยังเคยเล่าว่า ความฝันสมัยผมเป็นเด็กคือ โตขึ้นผมอยากเป็น นายกฯ สมัยเรียน ผมเป็นเลขาธิการชุมนุมสังคม สมัยสอบเอนทรานซ์ ผมเลือกคณะอยู่แค่สองสาขาวิชา คือสายนิเทศ และอีกอันคือ รัฐศาสตร์ครับ เรื่องความสนใจ ความเข้าใจการบ้านการเมือง ผมพอมีครับ อันนี้รับรองให้สบายใจได้ว่า ผมไม่ได้เดาสุ่มเวลาแสดงความเห็นเรื่องการเมือง นักการเมืองทั้งภาคสภา ภาคประชาชน ผมเห็น ผมติดตาม ผมศึกษามาพอควร ฉะนั้น ถ้าผมจะทักๆ เตือนๆใคร ก็เพราะผมไม่อยากให้ใครเป็นเหยื่อ จุดมุ่งหมายทางการเมืองของใคร แต่ถ้ามันทำให้น้อง หรือท่านใดไม่สบายใจ ผมก็ต้องกราบขออภัยนะครับ น้องจะทำในสิ่งที่น้องเชื่อต่อไปก็ได้ครับ แล้ววันนึง น้องจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพยายามบอกเอง แต่แก้ความเข้าใจผิดให้นิดนึง ที่ผมบอกว่า.. ให้ทุกคนกลับบ้านนอน ไม่ใช่อะไรหรอก ผมเห็นว่า ตอนนี้สถานการณ์มันตึงเครียดเกินไป เหมือนผัวเมียทะเลาะกัน จะเอาเป็นเอาตายให้แตกหักไปทำไม ถ้าเจตนาดีต่อชาติบ้านเมือง ในหลวง และประชาชนจริงๆอ่ะนะ จะดีกว่าไหม ถ้าพักเหนื่อยแยกไปสงบสติอารมณ์กันสักสามวัน แล้วค่อยหาทางคุยกันใหม่ ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็บอกแล้วว่า ทางแก้มันง่าย แต่เป็นไปได้ยาก เพราะปกติคนที่โดนโทสะ มานะอัตตาครอบงำ มักจะอยากเอาชนะ มากกว่าอยากแก้ปัญหา เรื่องหน้าหมองๆ อันนี้พูดเป็นแค่นัยๆครับ แต่ถ้าไปให้คนที่มีจิตไวๆ เขาดู เขาจะเห็นอย่างนั้นจริงๆ
Create Date : 02 กันยายน 2551
Last Update : 4 กันยายน 2551 18:14:02 น.
35 comments
Counter : 1871 Pageviews.
โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:7:52:53 น.
โดย: Arin IP: 124.120.197.170 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:8:07:49 น.
โดย: หน่อยอิง วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:8:36:57 น.
โดย: a r i t s u m e m o o n IP: 203.131.208.115 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:9:00:58 น.
โดย: begin IP: 58.137.129.220 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:9:58:30 น.
โดย: aston27 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:10:12:04 น.
โดย: ก้อบอกแล้วว่าไม่อยากทะเลาะกานน IP: 203.101.156.148 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:12:44:07 น.
โดย: ไม่มีประเทศอยู่จะรู้สึก IP: 58.9.159.54 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:12:52:19 น.
โดย: intawaa IP: 202.28.78.133 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:16:00:43 น.
โดย: aston27 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:16:48:48 น.
โดย: หมีหุหุ IP: 203.209.31.172 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:16:52:40 น.
โดย: aston27 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:17:11:51 น.
โดย: myover วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:19:32:10 น.
โดย: azamiya วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:20:33:21 น.
โดย: B-ing IP: 58.9.86.65 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:20:40:10 น.
โดย: walkerahead (Walkerahead ) วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:21:17:08 น.
โดย: Q.NUH วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:21:41:36 น.
โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.222.198 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:21:52:33 น.
โดย: aston27 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:0:18:50 น.
โดย: intawaa IP: 202.28.78.133 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:8:59:08 น.
โดย: aston27 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:9:16:18 น.
โดย: so so IP: 58.9.96.254 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:12:12:57 น.
โดย: ธนาภา IP: 118.172.100.75 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:16:07:01 น.
โดย: wankawaew IP: 117.47.9.237 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:17:40:51 น.
โดย: wankawaew IP: 114.128.18.166 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:20:39:12 น.
โดย: iSIs_OsiRis วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:1:48:25 น.
โดย: คนไม่สำคัญ IP: 58.8.181.36 วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:2:51:27 น.
โดย: honeytina IP: 219.87.64.222 วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:16:31:33 น.
โดย: คืออะไร IP: 202.176.96.65 วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:17:47:45 น.
โดย: นู๋ปิ๋มมี่ วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:20:34:06 น.
โดย: แหม่มค่ะ IP: 202.228.229.88 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:8:33:41 น.
โดย: jenneva IP: 58.8.187.184 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:23:43:51 น.
โดย: กุ้ง IP: 124.120.135.81 วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:22:42:00 น.
ปัญหาที่พระพุทธเจ้าไม่ตอบเรียกว่า อัพยากฤตปัญหา 10 อย่าง คือ
1. โลกเที่ยง
2. โลกไม่เที่ยง
3. โลกมีที่สุด
4. โลกไม่มีที่สุด
5. สรีระ (ร่างกาย) และชีพ (วิญญาณ) เป็นอันเดียวกัน
6. สรีระ (ร่างกาย) และชีพ (วิญญาณ) เป็นคนละอย่างกัน
7. ตถาคตจะเกิดใหม่อีกเมื่อตายไป
8. ตถาคตจะไม่เกิดใหม่อีกเมื่อตายไป
9. ตถาคตทั้งจะเกิดใหม่และไม่เกิดอีกหลังจากตายไป
10. ตถาคตไม่ใช่ทั้งจะเกิดใหม่และไม่เกิดอีกหลังจากตายไป
ข้อสังเกต
ข้อ 1 - 4 โต้เถียงในเรื่องเกี่ยวกับโลก หรือ วัตถุ (รูปธรรม)
ข้อ 5 - 6 โต้เถียงในเรื่องสภาวะของชีวะ (วิญญาณ) ที่เรียกว่า อาตมัน (นามธรรม)
ข้อ 7 - 10 โต้เถียงในเรื่อง การเวียนว่ายตายเกิด การเกิดใหม่
เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ