|
เรื่องใต้เตียง
(ขอบคุณคุณแป๋ว SevenDaffodils ที่เอื้อเฟื้อภาพประกอบครับ)
ไม่กี่วันก่อน ผมไปสั่งเตียงนอนใหม่จากร้าน Muji เพราะของเก่ามีปัญหา พอของส่งมาถึงบ้านก็ต้องรื้อเตียงเก่าออก
เตียงเก่าผมเป็นแบบปิดฐานรอบเตียงมิดชิด มองไม่เห็นใต้เตียง พอรื้อออกมาทีไร ก็จะพบฝุ่่นจับหนาเตอะอยู่ข้างใต้
จิตของคนทั่วไป ที่ไม่ได้ภาวนา ก็จะคล้ายๆกับเตียงแบบเดิมของผมนี่แหละครับ ดูจากข้างนอกยังไงก็ดูปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล ออกจะสวยดีมีราคา
ต่อเมื่อวันหนึ่งเจอปัญหาเหมือนที่เตียงผมเกิดปัญหา เช่นเจอทุกข์ใหญ่ๆ หรือมีเหตุอันเป็นโอกาสให้เปิดเตียงออกมา แล้วพบความจริงว่า ภายในจิตใจเรา มันไม่ได้สะอาดเอี่ยมเรี่ยมเร้เรไรอย่างที่ใครคิดนะ
บางคน เคยถามผมว่า พี่แอสตั้นๆ.. แล้วเราจะภาวนาไปทำไม เพราะก่อนมาภาวนาหนูจะรู้สึกเสมอว่าหนูเป็นคนดี แต่ยิ่งภาวนายิ่งรู้สึกว่า โห.. ทำไมกิเลสมันเยอะอย่างนี้หว่า
วันก่อน ตอนสนทนาอยู่กับเพื่อนคนหนึ่งเรื่องปฏิบัติธรรม จู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่า ธรรมะไม่ใช่สิ่งใหม่ ธรรมะเป็นของที่อยู่กับเราตลอดเวลา พระพุทธเจ้าถึงสอนศิษย์ให้เข้าถึงธรรม ด้วยการมีสติรู้กายรู้ใจตัวเองนี่แหละ
คนที่เรียนธรรมะจากการเจริญสติในกายก็ดี ในจิตก็ดี ก็เข้าใจได้ว่า กายก็คือสิ่งที่อยู่กับเราตลอดเวลา จิตก็เกิดดับวนเวียนอยู่กับเรามานานแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่เราไปรู้เข้า ความคิด รู้สึก สุข ทุกข์ รัก โลภ โกรธ หลง มันก็ล้วนแต่เป็นของเก่าของเดิม ที่มีมานานแล้ว เพียงแต่มันคว่ำอยู่หรือปิดไว้ เหมือนเรานอนใต้เตียง ที่มีแต่ฝุ่นละออง แต่ไม่เคยตระหนักถึง
การเจริญสติตามรู้กายใจอย่างที่มันเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง ก็ไม่ได้เป็นการสร้างสิ่งใหม่ แต่เป็นการเปิดของคว่ำให้หงาย เปิดความจริงของกายของใจ ให้จิตเห็นแจ้ง เพื่อจะได้มีปัญญา
ปัญญาแปลง่ายๆว่าความรู้ ปัญญาสูงสุดในทางพุทธหมายถึง ความรู้แจ้งในความจริง ว่าด้วย "ตัวเรา" โดยการเจริญสติ
ถามว่า.. รู้แจ้งอะไรเหรอ คุณแอสตั้น ตอบว่า รู้แจ้งว่ากายใจนี้เป็นของไม่เที่ยง ไม่คงที่นะ เพราะกายนี้ใจนี้ มันมีทุกข์มากวนเป็นระยะๆ และมันทำงาน เปลี่ยนแปลง เป็นไปได้เองตามเหตุปัจจัย ไม่ได้อยู่ในการบังคับบัญชาของเรา เพราะแท้จริงแล้ว "มันไม่ใช่ตัวเรา"
วันหนึ่งเห็นว่ามันไม่ใช่ตัวเรา ตัวเราไม่มีจริง มีก็แต่ความหลงเข้าใจผิดคิดไปเอง ก็คอยเจริญสติต่อไปอีก ก็จะเห็นความจริงอีกว่า กายนี้ใจนี้มันไม่ใช่ของดี อย่างดูกิเลสไปทุกวัน ก็เพื่อให้จิตมันลดระดับอัตตาที่เคยคิดว่า "ฉันดี" ลง จนมันเห็นในที่สุด ว่ากายนี้ใจนี้เป็นตัวทุกข์ ก็จบหลักสูตร
วิธีเรียนรู้ตัวเองนี่แหละ ที่เรียกว่า "วิปัสสนา" แล้วไม่ได้ยากนะครับ มันง่ายแค่คอยรู้สึกตัวๆๆๆๆๆ นี่แหละ รู้กายรู้ใจอย่างที่มันเป็นจริง รู้สิ่งที่เกิดขึ้นสดๆใหม่ๆ รู้ด้วยอาการยอมรับ
ผมเคยนั่งภาวนาด้วยการพลิกฝ่ามือตัวเองเล่น แล้วคอยรู้สึกตัว ตอนก้มลงไปดูฝ่ามือที่พลิกไปมา ก็นึกถึงสำนวนว่า "กลับหน้ามือเป็นหลังมือ" เพราะกะอีแค่พลิกมือแล้วรู้สึกตัว ใจมันก็พลิกจากซึมๆมัวๆ เป็นสว่างขึ้นได้นะครับ
สมัยพุทธกาล เคยมีผู้ที่ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า แล้วอุทานบ่อยๆว่า "แจ่มแจ้งนักพระเจ้าข้า เหมือนดังเปิดของคว่ำให้หงาย"
กิเลสทั้งหลายที่อยู่ใต้จิตใจ ก็เหมือนฝุ่นที่อยู่ใต้เตียง บ้างก็เชื่อ บ้างก็ไม่เชื่อว่ามี เราเลือกได้ว่า จะหมกมันไว้ต่อไป แล้วอยู่กับภาพลวงตาว่าเราดีแล้ว วิเศษแล้ว หรือจะเปิดมันออกมาดู หงายเปลือกที่ครอบกิเลสไว้ให้เห็นความจริง
พระพุทธเจ้าบอกว่า เมื่อเห็นความจริงแล้ว(จิต)จะเบื่อหน่าย เมื่อเบื่อหน่าย ก็จะคลายกำหนัด หมดความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน เมื่อหมดความยึดมั่นถือมั่น ปล่อยวางกายใจ ก็จะหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้น จึงรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว
ที่ถามผมว่า แล้วจะภาวนาไปให้ตัวเองเห็นแต่กิเลสของตัวเองทำไม ตอบว่า.. ถ้ายังพอใจจะเวียนว่ายตายเกิด มั่นใจว่าเกิดอีกกี่ทีก็จะมีแต่สุข หรืออย่างบางท่านเชื่อว่าคนเราตายแล้วสูญ ก็ไม่เป็นไร ผมไม่เดือดร้อน
แต่ถ้าเห็นการพ้นทุกข์เป็นจุดหมาย เบื่อแล้วที่จะต้องเกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด ก็เปิดใจของตัวเองออกดูไว้นะครับ เจริญสติ คอยรู้สึกตัวๆๆไว้
สุขสันต์วันที่ยังตื่นนอนได้ก็แล้วกันนะครับ
Create Date : 08 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2552 9:36:27 น. |
|
21 comments
|
Counter : 7467 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Ratchada IP: 92.11.177.227 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:30:35 น. |
|
|
|
โดย: toon-toon IP: 172.17.197.61, 61.19.199.142 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:15:26 น. |
|
|
|
โดย: นักอ่าน IP: 124.122.136.100 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:54:41 น. |
|
|
|
โดย: sek IP: 125.27.189.92 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:37:30 น. |
|
|
|
โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 61.90.23.172 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:57:47 น. |
|
|
|
โดย: preeyada (ป้าแก่เห็นธรรม ) วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:46:42 น. |
|
|
|
โดย: le doc IP: 202.139.223.18 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:02:10 น. |
|
|
|
โดย: มุทิตา IP: 58.10.192.93 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:11:06 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าใส IP: 58.10.90.240 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:46:21 น. |
|
|
|
โดย: noi IP: 10.1.20.32, 61.91.248.100 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:06:33 น. |
|
|
|
โดย: oui IP: 119.46.64.20 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:27:46 น. |
|
|
|
โดย: bow IP: 125.25.245.233 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:48:58 น. |
|
|
|
โดย: tirk IP: 58.136.114.5 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:16:37 น. |
|
|
|
โดย: Budd IP: 58.9.234.176 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:36:59 น. |
|
|
|
โดย: พี่แหม๋ว (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:38:44 น. |
|
|
|
โดย: Huanggirl IP: 58.11.58.179 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:11:07 น. |
|
|
|
โดย: น้องคนเดิม IP: 115.67.7.208 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:24:05 น. |
|
|
|
โดย: bzb IP: 124.122.250.110 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:15:35 น. |
|
|
|
| |
|
|
BTW, the topic is really outstanding!