Group Blog
 
All blogs
 
อาหารมื้อละ 21 ล้านบาท



(ภาพโดยฝีมือ และความใจดีของคุณแป๋ว SevenDaffodils)



(เพลงชื่อ If เพลงเก่าของ Bread แต่เป็น cover version ร้องใหม่)

ช่วงนี้ผมได้รับเชิญจากคุณภาสกร ประมูลวงศ์ ให้ไปช่วยจัดรายการที่คลื่น 106 ตอนสี่ทุ่มวันอาทิตย์ แทนคุณนันทขว้าง สิรสุนทร

ขออภัยที่ไม่ได้บอกก่อนหน้านี้ เพราะเห็นว่าเป็นแค่มวยแทน
แต่ยังอุตส่าห์มีผู้ฟังรายการบางท่านหูไว ได้ยินแล้วเมล์มาถามว่าใช่ผมหรือเปล่า
เลยถือโอกาสแจ้งให้ทราบว่า ผมเองแหละครับ

ถามว่าถ้าเป็นมวยแทน แล้วจะจัดอีกนานไหม
ตอบว่าถ้าทาง 106 เขาจ้างต่อ ก็จัดไปเรื่อยๆครับ เพราะทางทีม The Radio ก็ยังไม่ได้คลื่นใหม่

ถามต่อว่า จัดรายการแบบเดิมหรือเปล่า เปล่าครับ เพราะโจทย์เป็น Talk มากกว่าเพลง
แต่ถามคนจัด ผมว่าสนุกดีเหมือนกัน เพราะอยากจัดรายการสนทนามานานแล้ว

อีกอย่าง คุณภาสกรเป็นคนคุยสนุกมาก เล่าเรื่องก็สนุก กวน ขำ และหัวไว
พอชวนผมไปจัดผมเลยตอบรับโดยไม่ลังเล

อาทิตย์ก่อนโน้น ผมเล่าเรื่องอาหารมื้อที่แพงมากที่สุดมื้อหนึ่งในโลก
คือ เมื่อสองสามเดือนก่อน มีผู้บริหารการเงินคนหนึ่งชื่อคุณ กาย สไปเออร์
ลงขันกับเพื่อนชาวอินเดียเป็นเงิน 21 ล้านบาท เพื่อจะได้ไปทานข้าวหนึ่งมื้อกับคนๆหนึ่ง

คนที่ว่า ไม่ใช่ดารา นางงาม นักร้องที่ไหน ยิ่งไม่ใช่นักล่าฝัน AF
ที่สำคัญไม่ใช่ผู้หญิงแต่เป็นผู้ชายแก่ๆวัยเจ็ดสิบหกปี

อาจจะฟังดูเหลือเชื่อ แต่หลายท่านคงหายสงสัย ถ้าบอกคุณว่า
ผู้เฒ่าค่าตัวแพงคนนี้ ชื่อ วอร์เรน บัฟเฟต์





ผมเคยเขียนถึงวอร์เรน บัฟเฟต์ มาแล้วครั้งหนึ่ง ว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่ทั้งเก่ง ใจบุญ และสมถะแบบเหลือเชื่อ
ผมไม่ได้ชอบคุณปู่วอร์เรน เพราะแกรวย แต่ผมชอบเพราะแกรวยอย่างมีคุณธรรม และใช้ชีวิตพอเพียง

หลังอาหารราคา 650,100 เหรียญสหรัฐกับวอร์เรน บัฟเฟต์ ผ่านไป
คุณกาย สไปเออร์ มาเขียนบทความลงนิตยสาร Time Magazine ยืนยันว่าอาหารมื้อนั้น "คุ้มค่ากับทุกสลึงที่จ่าย"
เพราะเขาได้ฟังแนวคิดดีๆ มากมายหลายเรื่อง จากผู้ชายที่เป็นตำนานซึ่งยังมีลมหายใจของ พ.ศ.นี้

เรื่องหนึ่งที่ผมชอบคือเรื่องที่วอร์เรนบอกว่า เขาเชื่อในการทำธุรกิจแบบสง่างาม มีคุณธรรม
และจะทำงานกับเฉพาะคนที่เห็นคุณค่าในตัวเขาเท่านั้น

วอร์เรนให้เครดิตคุณพ่อของเขา ที่เป็นคนสอนเขาตั้งแต่สมัยยังเด็ก
ให้เชื่อในสามัญสำนึกตัวเอง ว่าอะไรผิดถูก มากกว่าจะต้องมองหาคำยืนยันจากคนอื่น

เขาบอกว่า "It's very important to live your life by an internal yardstick
มันสำคัญมากนะ ที่จะมีชีวิตโดยอาศัยไม้บรรทัดในใจคุณเอง"

วอร์เรนบอกว่า ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า ให้ตอบคำถามนี้ว่า

Would you rather be considered the best lover in the world and know privately that you're the worst, or would you prefer to know privately that you're the best lover in the world, but be considered the worst?"

คุณจะเลือกอันไหน ระหว่างการถูกมองว่าเป็นคนรักที่ดีที่สุดในโลก แต่รู้แก่ใจว่าคุณห่วยที่สุด
กับการรู้อยู่เต็มอกว่าคุณคือคนรักที่ดีที่สุดในโลก แต่ถูกมองว่าแย่ที่สุด?

ตัวอย่างที่พิสูจน์สิ่งที่วอร์เรนพูดได้ดี คือในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990
เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์มาก ที่ปฏิเสธการโดดเข้าลงทุนในหุ้นของธุรกิจดอทคอมทั้งหลาย
ก่อนที่เสียงเหล่านั้น จะเงียบหายไปสมัยฟองสบู่ของหุ้นธุรกิจอินเตอร์เนทแตกโพละ

เคล็ดลับของเขา คือการศึกษาข้อมูลให้มากโดยเฉพาะงบการเงิน ฟังคำแนะนำของคนเชียร์ให้น้อย
ลงทุนตามมูลค่าและศักยภาพของธุรกิจ ไม่ใช่เพราะเป็นหุ้นปั่น

แต่เขาไม่ใช่คนที่ปิดหูปิดตาตัวเอง กาย สไปเออร์เล่าว่า ช่วงท้ายของอาหารเที่ยงมื้อนั้น
ทุกคนสั่งของหวานของตัวเองขณะที่วอร์เรน ยังขอช้อนเล็กๆหลายๆอันจากบริกร บอกว่า
"ผมจะได้ชิมไอ้โน่นนิด ไอ้นี่หน่อยจากของแต่ละคน"

อันนี้เป็นนิสัยส่วนตัว เพราะธุรกิจทุกอันที่เขาจะลงทุน เขาจะต้องเข้าไปเจอผู้บริหารทีมงาน
เข้าไปตรวจดูความเป็นไปในทุกส่วนของบริษัท ไม่ใช่อ่านจากรายงานอย่างเดียว

ส่วนหนึ่งที่วอร์เรน มีค่าตัวแพง เพราะเขาเป็นคนที่เข้าถึงตัวยาก แม้แต่กับลูกน้อง
อย่างผู้บริหารในบริษัทต่างๆ ปกติจะได้คุยกับเขาอย่างเป็นทางการแค่ปีละครั้ง

คุณอาจจะสงสัยว่า ถ้าเขารวยนัก แล้วเขาจะเอาเงิน 21 ล้านบาทนี้ ไปทำอะไร
กิจกรรมการทานข้าวกับวอร์เรน บัฟเฟต์ แท้จริงคือการกุศลเพื่อหาเงินให้มูลนิธิชื่อ Glide
ที่ทำงานช่วยเหลือคนจนในกลุ่มคนเร่ร่อน ไร้ที่พักอาศัย

แล้วถ้าสมมติคุณรวยมากพอที่จะไปนัดทานข้าวกับเขาได้ ผมมีข่าวร้ายสองเรื่อง

เรื่องแรกคิวของปี 2008 เขาปิดประมูลไปแล้วทาง eBay ผู้ชนะเป็นเศรษฐีชาวจีน ที่สร้างธุรกิจจากศูนย์
ข่าวร้ายเรื่องที่สองคือ ราคาที่เขาประมูล มันไม่ใช่ หกแสนห้าหมื่นเหรียญแล้วนะครับ

มันกลายเป็น 2.1 ล้านเหรียญ ประมาณ 77 ล้านบาทแล้ว

คุณกาย สไปเออร์ ถึงกับยิ้มตอนได้ข่าวนี้ แล้วปิดท้ายบทความของเขาว่า
"เห็นไหม ผมบอกแล้ว ผมประมูลได้ในราคาแสนถูกจริงๆ"

อืม... ไม้บรรทัดเราคงไม่เท่าของเขาจริงๆน่ะครับ

สุขสันต์วันที่เรายังมีเงินซื้ออาหารทานได้สามมื้อนะครับ


Create Date : 29 กรกฎาคม 2551
Last Update : 31 กรกฎาคม 2551 15:55:49 น. 22 comments
Counter : 1525 Pageviews.

 
ไม้บรรทัดเท่ากัน แต่ความในใจต่างกัน

เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:08:02 น.  

 
เคยได้ยินคำเปรียบเทียบที่ว่า
เศรษฐีกับมหาเศรษฐีต่างกันตรงที่
เศรษฐี คือ คนรวย แต่ไม่รู้จักแบ่งปัน
มหาเศรษฐี คือ คนรวย ที่พร้อมเสมอที่จะแบ่งปัน
วอร์เรน คือ มหาเศรษฐี ตัวจริง ชัดเจน
ไม่เอาเปรียบ ไม่ทำธุรกิจโดยการคดในข้องอในกระดูก และไม่เห็นแก่พวกพ้อง
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับชีวิตของมหาเศรษฐีผู้นี้


โดย: thitikarn IP: 58.8.179.85 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:19:27 น.  

 
ชอบคำถามนี้ค่ะ
"Would you rather be considered the best lover in the world and know privately that you're the worst, or would you prefer to know privately that you're the best lover in the world, but be considered the worst?"


โดย: ayopolie วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:31:39 น.  

 
ทานเสร็จแล้วไม่อยากถ่ายเลยอ่ะ เสียดายเงิน


โดย: Sweet Forever วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:08:45 น.  

 
ตกลงเค้าบอกด้วยหรือเปล่าคะ ว่าเค้าเอาเงินประมูลทานข้าวด้วยกันไปทำอะไร คงไม่ใช่แค่ค่าอาหารอย่างเดียวใช่ป่ะคะ (แพงจัง)


"..คุณจะเลือกอันไหน ระหว่างการถูกมองว่าเป็นคนรักที่ดีที่สุดในโลก แต่รู้แก่ใจว่าคุณห่วยที่สุด
กับการรู้อยู่เต็มอกว่าคุณคือคนรักที่ดีที่สุดในโลก แต่ถูกมองว่าแย่ที่สุด? "

ตอบตรงๆ ในกรณีนี้แบบไม่ขี้โกงใจตัวเอง ว่าเลือกอันแรกอ่ะ..

แสดงว่าเราเป็นคนแบบวอเรนไม่ได้.. T^T


โดย: honeytin IP: 219.87.64.222 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:23:52 น.  

 
ตอบไม่ได้เลือกไม่ถูกเพราะหูอื้อตาลายไปแล้วกับราคาอาหารมื้อนี้ แหะแหะ


โดย: ณ มน IP: 58.8.95.106 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:22:25 น.  

 
แบบนี้ใครได้บุญคะพี่
คนที่ยอมจ่ายเพราะอยากเจอวอร์เรน
หรือวอร์เรนที่ทำให้คนยอมจ่าย
^^


โดย: am^^ IP: 58.8.128.19 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:22:54 น.  

 
ชอบเพลงวันนี้จังค่ะพี่เอ็ด ^-^
ตอบแบบตรงๆ คงเลือกแบบที่สองอ่ะค่ะ
แต่อยู่ไปอยู่มาคงทนไม่ค่อยได้ (ก็อยากให้เค้ามองว่าเราดีบ้างอ่ะเนอะ)

สรุป....อยู่คนเดียวดีที่สุด ฮ่าๆ


โดย: a r i t s u m e m o o n IP: 124.120.209.204 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:24:41 น.  

 
มาแซวน้า ไม้หลาอะน้า

1 yard = 91.44 centimeters = 3 feet อะครับ

ไม่เคยอ่านบทความที่น้าเล่าเลยนะครับ

อีกคนที่น่าสนใจน่าจะเป็นประธาน Shevron

ที่มีหนังสือแปลไทยแล้วชื่อว่า "รวยได้โดยไม่ต้องโกง" อะครับ

ผมก็ซื้อมาอ่านนะ แต่ไม่รู้หายไปไหนแล้ว

จริงๆ ปู่วอร์เรนเป็นเจ้าของวลีคลาสสิคอีกอันนึงอะครับ

"คนที่เจ๋งที่สุด ไม่ใช่คนที่หาเงินได้มากที่สุด แต่เป็นคนที่อยู่ในงานของเขาได้นานที่สุดต่างหาก"

เพราะนักลงทุนรุ่นเดียวกันแบบปู่ ส่วนใหญ่เลิกลงทุนไปหมดแล้ว เหลือปู่อยู่คนเดียวเนี่ยหละ เหอ เหอ เหอ


โดย: เอกเอง IP: 58.8.187.64 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:04:14 น.  

 
ทำตัวรวย จะไม่รวย

ทำตัวจน จะไม่จน...




อาทิตย์นี้ก้อจัดารยการน๊ะค๊ะ พี่จะคอยฟังค่ะ


โดย: พี่แหม๋ว (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:18:33 น.  

 
ปู่แกเจ๋งจังค่ะ^^
อาหารมื้อนั้นของคุณกายและเพื่อนคงไม่เสียหลาย

และคงเป็นมื้อที่แพง และยาวนานที่สุดแน่นอน
(เพื่อให้คุ้มเงินน่ะนะ)

ถ้าเราเป็นรวยคงจะประมูลปู่วอร์เรนเหมือนกัน
แลกกับการได้คำสอน และแนวคิดดีๆของปู่แก
เพราะเราเชื่อว่า
ถ้าอยากได้แนวทางชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ก็จงถามกับคนที่ประสบความสำเร็จ^^


โดย: SEsai* IP: 125.26.203.121 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:39:30 น.  

 
แพงเกิ๊นนนน O_o"

ชอบบทความที่พี่เขียนอีกแล้ว

แล้ววว

พี่เอ๊ด สบายดีป่ะคะ

???


โดย: LOLLIPOP IP: 202.44.135.243 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:49:12 น.  

 
ไม่เคยรู้จักคุณปู่ มหารวยคนนี้
แต่รู้สึกดีนะ ที่ความคิดของเค้า
ไหลเข้าปัญญหาทึบๆ
ผ่านบทความคม ชัด ลึก
พี่เอ๊ด (อีกแล้ว)

รออ่าน นานเลยนะพี่
แต่คุ้มค่าจริงจริงเลย


โดย: B-ing IP: 58.9.238.182 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:15:48 น.  

 
ถ้าหากว่าให้ใครๆมาคอยเป็นไม้บรรทัดวัดถูกผิดชีวิตคงอึดอัดสับสนบิดบังซ่อนเร้น.....อ๊ากทนม่ายด๊าย...ขอวัดด้วยใจของตัวเองดีก่าเนอะเคยประเมิณการกระทำของตัวเองออกมาเป็นเกรดถ้าเกรด3ขึ้นไปก้อตัดสินใจได้เลยถ้ายัง2/1 ต้องถามคุณแม่ถู้กที..แต่ถ้ามั่นใจในการกระทำก้ อไม่เคยสนใจอะไรเชื่อเถอะว่าถ้าทำในสิ่งที่ดีและถูกต้องมันจะมีความสูขลึกลึ้ก..ในใจไม่ต้องมีใครมาชมเราก้อจะสุขจริงๆทำดูเดะ..จบก่อนนะ..อ้อ..เข้ามาอ่านบ่อยขอบคุณลุงที่สุดเลยครับ


โดย: เด็กม2นครปฐม IP: 125.27.218.89 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:19:24 น.  

 
"It's very important to live your life by an internal yardstick"

ชอบและเห็นด้วยค่ะ แต่ internal yardstick ก็น่าจะต้องตรงด้วยอ่ะนะคะ ถ้าไม้มันเบี้ยว ขีดไปก็คงได้แต่เส้นเบี้ยวๆ นอกซะจากว่าพอเห็นว่ามันเบี้ยวแล้วค่อยๆเหลาให้มันตรง


"คุณจะเลือกอันไหน ระหว่างการถูกมองว่าเป็นคนรักที่ดีที่สุดในโลก แต่รู้แก่ใจว่าคุณห่วยที่สุด
กับการรู้อยู่เต็มอกว่าคุณคือคนรักที่ดีที่สุดในโลก แต่ถูกมองว่าแย่ที่สุด?"

คุณปู่เค้าไม่มีช้อยส์ที่ 3 เหรอคะ ไม่อยากเลือกทั้ง 2 อ่ะ
อันแรกก็คงทุกข์กับเงาของเปลือกแห่งการสร้างภาพน่าดู ความทุกข์บังเกิดกับคนข้างๆด้วย
อันที่สองก็ อาจคิดเข้าข้างตัวเองก็ได้ จริงๆแล้วทำให้คนข้างๆทุกข์อยู่
ช้อยส์ที่สาม ตัวคนเดียว สบายใจกว่า 55555


เรื่องราวของคุณปู่น่าสนใจนะคะ ทั้งวิธีคิด และวิถีการใช้ชีวิต ตอนนี้ถึงจะแก่แล้ว วัยนี้คนอื่นเค้าอาจจะหยุดลงทุนแล้ว แต่คุณปู่ยังมีไฟลงทุนเพื่อมวลชนอยู่ น่าทึ่งจริงๆ (*o*)



โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.37.73 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:34:56 น.  

 
ง่า ไม่ได้ฟังครับ คุณคูนจะได้อัดเก็บไว้มั้ยเนี่ย


โดย: getterTu วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:55:00 น.  

 
นับถือเลยค่ะสำหรับคนที่มีแล้วมองเห็นว่าเค้าเองควรจะ
มีส่วนในการช่วยเหลือสังคมได้บ้าง ไม่เหมือนกับบางคน
รวยซ้ำ รวยซ้อนแต่ก็ยังอยากได้ อยากมีเรื่อยไป ..

อันนี้รวยแต่เงิน ไม่รวยน้ำใจ ฟังแล้วคุ้นๆ เหมือนกันนะคะ


โดย: JewNid วันที่: 30 กรกฎาคม 2551 เวลา:0:07:37 น.  

 

น่ารักตรงชิมโน่นนิดนี่หน่อย และยังมีหัวใจของความอยากรู้ อยากลอง

ในชีวิต เจอผู้ใหญ่ที่มีหัวใจแบบนี้หลายท่านค่ะ
เป็นประสบการณ์ที่ดีเวลาฟังท่านเหล่านั้นคุย เล่าเรื่องราวต่างๆ

แต่ยังไม่เคยเจอแบบมื้อละ 77 ล้านค่ะ
เคยแต่ทานฟรี


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 30 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:33:36 น.  

 
ไม่ยักกะมีคนถามว่า..

"แล้วทานข้าวพร้อมสนทนาธรรมกับคุณaston27ล่ะ ...ต้องจ่ายเท่าไหร่?"


โดย: Q.NUH วันที่: 30 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:36:36 น.  

 
Q.NUH เลยต้องมาตอบเป็นคนแรกเลย แม่คนนี้

ไม่มีใครถาม เพราะเค้ารู้กันว่าไม่เสียตังค์ไง

honeytin อิอิ จับได้เลยว่าอ่านข้ามๆ เพราะผมมีเฉลยไว้แล้วว่าเขาเอาเงินไปให้มูลนิธิ Glide Foundation ครับ

บ้าได้ถ้วย ใครว่าไงก็ว่าไปตามไม้บรรทัดของตัวเองแหละครับ

thitikarn ขอบคุณลุงวอร์เรนดีกว่าครับ

เพราะไบเบิลยังบอกเลยว่า seek and you shall find, knock and I will open
จงหาแล้วจักพบ จงเคาะแล้วเราจักเปิด

แปลว่าถ้าไม่ทำอะไร พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้หรอกครับ

ayopolie ผมก็ชอบครับ

Sweet Forever อยากถ่ายหรือไม่อยาก มันก็ต้องถ่ายนะครับ

ณ มน ตาลาย รู้ว่าตาลายนะครับ

am^^ ได้บุญกันคนละส่วนไงแอม

a r i t s u m e m o o n อยู่แบบไหนก็ยากแบบนั้นแหละนา

เอกเอง ไม้หลา ก็ไม้หลาจ้า ไม้อะไรก็ได้ ที่เอาไว้ใช้ "วัด" ได้น่ะ

พี่แหม๋ว ตกลงได้ฟังไหมครับ

SEsai* เห็นด้วยครับ

LOLLIPOP ดีใจที่ชอบนะครับ

B-ing ขออภัยที่ให้รอนานไปหน่อยครับ

เด็กม2นครปฐม ขอบคุณที่แวะมาอ่านครับ

ต้นอ้อ -^_^- ถามถึงข้อสามนี่ ออกแนวฟุ้งซ่านละ

getterTu เดาว่าคูณอาจจะยังไม่รู้ข่าวครับ

JewNid

HoneyLemonSoda ผมก็ชอบฟังคนสูงอายุคุยครับ


โดย: aston27 วันที่: 31 กรกฎาคม 2551 เวลา:0:00:03 น.  

 
Warren Buffet เป็นมหาเศรษฐีจริงๆนะคะ
ไม่ได้รวยอย่างเดียว มีข้อคิดดีๆ หนังสือน่าอ่านอีกหลายเล่ม เห็นด้วยกับพี่อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
มีข้อเสริมเล็กน้อยว่า ของเราก็มีนะคะ เป็นยิ่งกว่ามหาเศรษฐีด้วยซ้ำ แถมยังเสด็จไปโดยไม่ต้องมีการประมูลอีกด้วย (หรือมีแล้วเราไม่รู้ก็ไม่แน่ใจนะคะ พอดียังศึกษาประวัติพระพุทธเจ้าไม่ละเอียดพอ ถ้าใครทราบช่วยชี้แนะด้วยค่ะ) ตั้งแต่เมื่อ 2500 กว่าปีก่อน ที่ยังไม่มีเครื่องบินและร้านอาหารราคาแพง ^0^
แถมผู้ฟังบางท่าน กลายเป็นอรหันต์ได้ในพริบตา ฝรั่งมาได้ยิน ก็คงอัศจรรย์ใจเหมือนกัน ^_^


โดย: My Life as a Doc IP: 202.91.18.192 วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:1:33:45 น.  

 
My Life as a Doc

อ่า.. จริงด้วยนะครับ

แหม .. ฉลาดแบบนี้นี่เอง ถึงได้เป็นหมอ


โดย: aston27 วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:11:23:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.