หุ่นตำรวจจราจร







เพื่อนๆเคยเห็นใช่ไหม? หุ่นตำรวจจราจร ยืนเด่นอยู่แถวสี่แยกไฟแดงเพื่อปรามนักขับรถซิ่งที่ชอบฝ่าไฟแดง หรือยืนตามริมถนน แถวๆที่นักขับรถซิ่งชอบขับรถเร็วเกินพิกัด จนอาจเกิดอันตรายต่อตนเองและต่อผู้เดินเท้า



ผมเองก็เคยเห็นแต่ไกล... เห็นแล้วก็สะดุ้ง เอ เราขับรถผิดเลนอะไรรึเปล่า? เข็มขัดก็คาดแล้ว โทร.ก็ไม่ได้โทร.ในรถ ไม่มีอะไรผิดนี่นา .. อ้าว นั่นหุ่นนี่หว่า มันไม่ใช่คน แต่สิ่งที่ผมมักจะทำต่อไป คือขับรถแบบใจเย็นลงและถูกกฎจราจร



ดีครับ ช่วยกันปรามผู้ขับรถให้ขับรถแบบใจเย็นๆ ขับรถถูกกฎระเบียบ แถมเป็นตำรวจที่ยืนทน ยืนนิ่ง ไม่มีบ่น ไม่มีเหนื่อย ยืนกลางแดด กลางฝน ไม่กลัวฝุ่น ไม่กลัวฟ้าผ่า ตลอดทั้งกลางวัน กลางคืน 24 ช.ม.ไปเลย ไม่มีหยุดพักทานข้าว ไม่ต้องแวะไปห้องน้ำ ไม่ต้องจ่ายค่าโอที และที่สำคัญ ซื่อสัตย์ไว้วางใจได้ ไม่มีการขอเงินใต้ใบขับขี่จากคนที่ถูกโบกเรียกให้หยุด









หุ่นจราจรตัวนี้ สูง 180 ซ.ม. หนัก 30 กิโลกรัม แต่จะยืนได้จะต้องตั้งบนฐานให้ยืน รวมแล้วหุ่นตัวนี้ จะสูง 180 ซ.ม.กว่าๆ ...โอ เป็นมาตรฐานความสูงของไซส์ตำรวจ ที่ตำรวจไทยคาดหวังอยากจะได้มานานแล้ว และที่สุดก็เพิ่งจะหาได้ ..แถมจะหากี่ตัวก็ได้ อุ อุ



ราคาหุ่นตัวละ 28,000 บาท หุ่นจราจรเหล่านี้ ไม่มีชื่อ ไม่มียศ เป็นหุ่นจราจรที่ปั้นเหมือนกันทุกตัว มี 2 แบบ คือแบบยืนตรง กับแบบตะเบ๊ะทำความเคารพ อย่างไรก็ตาม ก็มีที่แตกต่างกันบ้าง คือที่หมวกกันน็อก ถ้าเป็นหุ่นตำรวจจราจรของ บก.จร. หมวกจะเป็นสีขาว - ส้ม และหุ่นตำรวจจราจรของโรงพักท้องที่ หมวกจะเป็นสีดำ - ขาว









อ้อ ยังมีหุ่นอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นแบบครึ่งตัว วางประจำอยู่ในป้อมจุดตรวจ นั่งเป็นเพื่อนกับตำรวจตัวเป็นๆ หรือในยามที่ตำรวจตัวเป็นๆต้องไปทำธุระส่วนตัว หุ่นนั่งตัวนี้ก็จะยังคงนั่งให้ความอบอุ่นใจแก่ผู้ขับขี่ไปมาว่า ‘ยังรักและยังเป็นห่วงผู้ขับขี่อยู่นะ ต๊ะเอง’



อนึ่ง พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น. ผู้รับผิดชอบงานจราจร ได้แนะนำไปทางผู้ผลิต ขอให้พิจารณาใส่รหัสเรียกขานด้านข้างหมวกกันน็อกของตำรวจหุ่นเอาไว้ด้วย จะได้เหมือนจริงมากขึ้น เพราะตำรวจจราจรจริงๆ จะมีรหัสทุกนาย




คุณอนุชิต วาณิชย์เสริมกุล






ผู้ให้กำเนิดทำคลอดหุ่นจราจรนับพันตัว คือผู้ชายนักธุรกิจผู้นี้ คุณอนุชิต วาณิชย์เสริมกุล เจ้าของบริษัทเมเจอร์ เน็ทเวิร์ค จำกัด เขาได้พูดคุยกับตำรวจจราจรบ่อยครั้ง เพราะเมื่อ 10 ปีก่อน เขาเป็นผู้ออกแบบและผลิตป้อมตำรวจที่มีหลังคาเป็นหมวกตำรวจใบใหญ่ ตั้งอยู่ตามแยกต่างๆ หลายคนคงจะเคยเห็นหรือคุ้นตา



ตลอดระยะเวลาการส่งมอบป้อมตำรวจจราจรหลายร้อยหลัง เขาได้พูดคุยกับตำรวจจราจรบ่อยๆว่า จะทำอย่างไรให้ประชาชนระมัดระวังมากขึ้นในการขับรถ ไม่ขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร รวมทั้งความรู้สึกเป็นห่วงตำรวจจราจรที่ต้องยืนประจำอยู่กลางแดดกลางฝนกลางฝุ่นตามจุดต่างๆเป็นเวลานานๆ และข้อสำคัญมักจะต้องยืน ณ บริเวณจุดล่อแหลมเสี่ยงอันตรายต่ออุบัติเหตุด้วย



และอีกอย่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจแม้จะแข็งแรงสักเพียงใด แต่จะต้องมีวันเหนื่อย มีวันง่วงบ้าง จะต้องทำธุรกิจส่วนตัว หรือจะต้องเจ็บป่วยบ้าง คงไม่มีใครสามารถยืนอยู่ได้ตลอด 24 ชม. เขาจึงมีไอเดียอยากจะสร้างพลตำรวจจราจรสำรองขึ้น ชนิดที่เป็นคนเหล็ก ไม่เหนื่อย ไม่บ่น ไม่ง่วง ไม่กลัวแดด ไม่กลัวฝน เข้ามาช่วยงานจราจรของตำรวจจราจรอย่างผู้หวังดี









สุดท้ายคุณอนุชิต ก็คิดไอเดียเก๋ อยากจะทำหุ่นเท่าตำรวจจราจรตัวจริง ไปตั้งไว้ตามแยกต่างๆโดยไม่หวังโฆษณาอะไร เพื่อจะให้ตำรวจจริงมีโอกาสได้ผลัดเปลี่ยนเวร มีโอกาสพักผ่อน พักเหนื่อย แต่ผู้ขับขี่ก็ยังคงเห็นตำรวจจราจรประจำการอยู่ ไม่กล้าขับรถฝ่าฝืนกฎ ซึ่งเป็นนิสัยทั่วไปของคนไทยหากเห็นตำรวจ จะไม่กล้าฝ่าฝืนกฎจราจร



เมื่อได้ความคิดแล้ว คุณอนุชิต ก็ขอร้องให้อาจารย์ท่านหนึ่งที่โคราช ซึ่งเป็นศิษย์เก่าเพาะช่าง ให้ช่วยปั้นหุ่นตำรวจจราจรขึ้นมา โดยบอกสเปคไปว่า ขอให้เป็นหุ่นผู้ชายไทย แข็งแรง สง่า ใจดี ยิ้มแย้ม สวมยูนิฟอร์มตำรวจจราจร ให้เหมือนกับจ่าจราจรใจดีคนหนึ่ง









ผลของการปั้นออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ แล้วการผลิตหุ่นจราจรตัวแรกก็ได้กำเนิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน ปี 2551 จากนั้นก็ถูกนำไปจัดวางที่แรก ที่แยกพหลโยธินตัดกับวิภาวดี หุ่นตำรวจจราจรตัวแรกนี้เป็นที่ฮือฮามาก เพราะผู้ขับขี่พอเห็นหุ่นซึ่งนึกว่าเป็นตำรวจแต่ไกล ก็ขับรถกันอย่างเรียบร้อยตลอดทั้งวัน แต่เมื่อมองเห็นใกล้ๆว่าที่แท้แล้ว ภาพตำรวจจราจรที่ตนเห็น ไม่ใช่ตำรวจจริง หากแต่เป็นเพียงหุ่น ผู้ขับขี่ทุกคนก็ถึงกับอมยิ้มและพยักหน้าพอใจ บางคนถึงกับเหลียวหลังไปดูอีกรอบ



จากผลตอบรับที่ดี ทั้งต่อผู้ขับขี่ ต่อกรมตำรวจ ต่อโรงพยาบาล และต่อสังคมเช่นนี้ คุณอนุชิตและทางตำรวจ จึงคิดหาผู้ร่วมอุดมการณ์ในการสนับสนุนงบประมาณ ผลิตหุ่นจราจรมากตัวเพิ่มขึ้น เพื่อนำไปจัดวางตามแยกต่างๆและตามริมถนนที่ผู้ขับขี่ชอบขับรถเร็ว









และแล้วโรงพยาบาลวิภาวดี ก็เป็นพระเอกขี่ม้าขาวตัวแรก มาช่วยสนับสนุนด้านงบประมาณในการผลิตและนำไปจัดวาง ณ สถานที่ต่างๆ แล้วก็ติดตามมาด้วยภาคเอกชนรายอื่นๆอีกหลายราย ที่มองเห็นคุณประโยชน์ที่ดีของหุ่นจราจรตัวนี้ต่อสังคมไทย โดยไม่หวังจะเปิดเผยชื่อของหน่วยงานตน (แต่ในระยะหลังเริ่มจะมีชื่อของหน่วยงานติดเป็นป้ายไว้ใกล้หุ่นแล้ว)



ตอนนี้ สน.ท้องที่ต่างๆ ได้นำหุ่นไปจัดวางตามแยก หรือจุดที่ต้องการปรามผู้ขับขี่ไม่ให้ฝ่าฝืนกฎจราจร เช่น สน.บางเขน สน.ประชาชื่น สน.พหลโยธิน สน.วังทองหลาง สน.ลาดพร้าว สน.ดินแดง สน.พญาไท เป็นต้น พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานจราจร พูดถึงประโยชน์ของหุ่นตำรวจจราจร ว่า



“หลังจากนำหุ่นจราจรไปจัดวางตามจุดต่างๆ ก็ได้ผลดีพอสมควร จากการพูดคุยกับผู้ขับขี่ยานยนต์บอกว่าเหมือนกับเห็นตำรวจแล้วไม่อยากกระทำผิด แม้จะเป็นตำรวจหุ่นก็ตาม เพราะไม่รู้ว่าจะมีตำรวจจริงยืนเฝ้าดูอยู่ที่อื่นอีกหรือเปล่า หุ่นจราจรตัวนี้มีคนชื่นชอบมากกว่าติ ที่ติก็มีเพียงแค่บอกว่า หุ่นตัวนี้ตั้งชิดขอบทางเกินไป กลัวรถจะเฉี่ยวชนเอา และตอนนี้เราก็ให้ขยับตัวหุ่นเข้ามาแล้ว”




ขโมยหุ่นจราจร



เจ้าของอู่รถทัวร์แห่งหนึ่ง ย่านลาดปลาเค้า (ขอสงวนนามและชื่ออู่) ได้นำตัวนายทวีวุฒิ หรือบอย ต้นคำ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 ม.27 ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ในอู่รถทัวร์ของตน เข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พร้อมกับหุ่นตำรวจจราจร เพื่อทำการสอบสวน



นายทวีวุฒ หรือ บอย สารภาพว่า ตนเองเป็นคนขโมยหุ่นตำรวจไปเอง ตนทำงานเป็นลูกจ้างในอู่รถทัวร์ ย่านลาดปลาเค้า ที่วิ่งระหว่างกรุงเทพ - อุบลฯ ก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนจำนวน 4 - 5 คนในอู่จนถึงเที่ยงคืน แล้วเถ้าแก่ได้โทรมาบอกให้นำอะไหล่รถไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต เพราะรถทัวร์มีปัญหาต้องการอะไหล่ไปเปลี่ยน ตนจึงรีบนำอะไหล่ขึ้นรถกระบะไปส่งที่หมอชิตทันที โดยมีเพื่อนอีกคนเป็นคนขับ หลังจากเสร็จธุระจึงขับรถกลับ ซึ่งตนนั่งอยู่กระบะหลังเพียงคนเดียว



แต่พอถึงบริเวณบนสะพานข้ามแยกรัชวิภาขาออกมุ่งหน้าถนนวงศ์สว่าง ตนสังเกตเห็นหุ่นตำรวจขนาดเท่าตัวจริง ตั้งอยู่บนมุมสะพาน จึงเกิดอาการอยากได้ เพราะเคยท้ากับเพื่อนในวงเหล้าว่า ถ้าแน่จริงให้ขโมยหุ่นตำรวจที่วางไว้ตามแยกต่างๆในกรุงเทพมาให้ได้ ตนจึงเคาะกระจกหลังให้เพื่อนหยุดรถ และตนลงไปอุ้มหุ่นตำรวจขึ้นมาไว้บนรถ จากนั้นเมื่อกลับมาถึงอู่ ก็ได้นำมาวางโชว์ไว้หน้าอู่ ซึ่งเพื่อนๆต่างหัวเราะชอบใจ บอกว่าตนแน่มาก แล้วก็นั่งดื่มเหล้ากันต่อจนถึงตี 5 และก็แยกย้ายกันไปนอน จนมาตอน 10 โมงเช้า ลูกชายของเถ้าแก่ได้มาปลุกให้เอาไปคืนตำรวจ









ระหว่างที่ทำการสอบสวนผู้ต้องหาอยู่นั้น นายทวีวุฒได้สำนึกผิดและพร้อมกับยกมือทำความเคารพตำรวจหุ่น เพื่อเป็นการขอขมาก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวไปดำเนินคดีข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน มีโทษจำคุก 1 - 5 ปี ปรับเงินตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท และอาจจะแจ้งข้อหาเพิ่มคือ ทำให้เสียทรัพย์ ถ้าตรวจสอบพบว่าหุ่นตำรวจนั้นได้รับความเสียหายจากฝีมือของผู้ต้องหา




หมายเหตุ 1 : มีกระทู้พันทิป ในห้องหว้ากอ พูดถึงหุ่นตำรวจจราจรอยู่นิดหน่อย ถ้าต้องการอ่าน เชิญเปิดอ่านที่นี่


หมายเหตุ 2 : เว็บของตำรวจจราจร หากใครต้องการจะเข้าไปอ่านกฎจราจร / สถิติต่างๆในงานจราจร / เส้นทางลัดในกรุงเทพ หรือหากอยากจะถาม-ตอบทุกปัญหาจราจร เชิญเข้าไปท่องเว็บที่นี่



yyswim

yyswim@hotmail.com