bloggang.com mainmenu search











ดาราบู๊เอเชีย




นักสู้จากตะวันออก - ดาราบู๊เอเชีย ที่โลดแล่นอยู่ในวงการภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก

เพื่อนๆจำใครได้บ้างไหม?

























ขอเชิญชม



The Legend of Bruce Lee


ความยาว 3.30 นาที

















บรู๊ซ ลี (Bruce Lee) หรือ หลี่ เสี่ยวหลง (李小龙) (27 พฤศจิกายน ค.ศ.1940 - 20 กรกฎาคม ค.ศ.1973) เกิดที่ซานฟรานซิสโก เป็นดาราจีนที่โด่งดังในฮอลลีวู้ด ด้วยความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้ แบบจีทคุนโด้ (Jeet Kune Do : เป็นศิลปะการต่อสู้ที่เน้นการเตะต่อย มีการนำศิลปะการป้องกันตัวหลายชนิดมาผสมผสาน เช่น มวยเส้าหลิน มวยสากล เทควันโด มวยปล้ำ ยูโด ฯลฯ) เขาสามารถพูดอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และเคยเป็นแชมเปี้ยนเต้นชะชะช่า ในปี 1997 นิตยสารเอ็มไพร์ (อังกฤษ) จัดให้เขาเป็นหนึ่งใน 100 ดารานำตลอดกาล


เขาเรียนกังฟูกับอาจารย์จีนหลายคน และเรียนคาราเต้เพิ่มเติม ในสาขา Kenpo Karate จากอาจารย์ญีปุ่น ในกลางทศวรรษที่ 60 ภาพยนตร์เรื่องแรกของ บรู๊ซ ลี ที่ได้ฉายในโรงในอเมริกาคือ My Son, Ah Chung (1950) ตอนที่เขายังอายุสิบขวบ จากนั้น เขาได้แสดงภาพยนตร์มาตลอด และเข้าร่วมเป็นดารารับเชิญในทีวีมาตั้งแต่ปี 1966 รวมทั้งเรื่อง The Green Hornet หรือ เพชรฆาตหน้ากากแตน ที่เคยฉายในเมืองไทยในสมัยก่อน แต่ภาพยนตร์ที่โด่งดังมากในอเมริกาคือ Fists of Fury (หนังปี 1971 ฉายในอเมริกาปี 1972)


บรู๊ซ ลี ยังมีอาชีพเป็นครูสอนกังฟูด้วย มีค่าตัวแพงถึง 275 ดอลลาร์ ต่อชั่วโมง และเขียนหนังสือเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้จีนหลายเล่ม ในปี 1964 เขากับเพื่อน เปิดรับนักเรียนกังฟู ที่ไม่ใช่เอเชียอย่างเป็นทางการในเมืองโอ๊กแลนด์ หลังจากนั้นสองปีก่อนเขาก็เทรนคนผิวขาวคนแรกเล่นกังฟู


บรู๊ซ ลี เสียชีวิตด้วยโรคลมบ้าหมูชักกระทันหัน เนื่องจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ที่ฮ่องกงในปี 1973 ขณะที่เขามีอายุเพียง 32 ปี มีบุตรชาย 1 คน คือ แบรนดอน ลี




* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
























Jackie Chan - Drunken Master


ความยาว 8.20 นาที













เฉินหลง (成龍) หรือ แจ๊กกี้ ชาน (Jackie Chan) เป็นนักแสดงชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงทั่วโลก เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1954 (พ.ศ. 2497) ที่วิกตอเรียพีค ในฮ่องกง พ่อและแม่ เดิมอยู่ในเมืองจีน แต่หนีออกมาอยู่ฮ่องกงสมัยสงครามกลางเมือง ตอนเด็กๆ พ่อแม่ตั้งชื่อเล่นให้ว่า "เพ่าเพ่า" หรือ "ลูกระเบิด" เพราะชอบนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเบาะ เขาเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน เขาเกือบถูกพ่อแม่ขายให้กับหมออังกฤษ ในราคาแค่ 26 เหรียญ แต่แล้วพ่อแม่ของเขา ได้ล้มเลิกความคิดนั้น


พ่อของเขาทำงานเป็น "พ่อครัว" แม่ทำงานเป็น "แม่บ้าน" ให้กับเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ในฮ่องกง เฉินหลง จึงเติบโตมาในสถานทูต เมื่ออายุถึงเกณฑ์ จึงเข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนหนานหัว เมื่ออายุได้ 7 ขวบ พ่อก็ส่งเขาเข้าโรงเรียนอุปรากรจีน โดยที่พ่อกับแม่จะต้องไปทำงานเป็นพ่อครัวกับแม่บ้าน ที่สถานทูตในออสเตรเลีย และที่โรงเรียนอุปรากรจีนนั้นทำให้เฉินหลงได้เรียนรู้ชีวิตที่โดดเดี่ยว เพราะเขาต้องห่างครอบครัวเป็นเวลานาน แต่ที่นั่นเฉินหลงได้พบเพื่อนร่วมสาบาน อย่าง หงจินเป่า และ หยวนเปียว


เฉินหลงเรียนจบเมื่ออายุ 17 ปี สมัครเข้าร่วมทีมสตันท์ในวงการหนังฮ่องกง ในช่วงที่ บรู๊ซ ลี ยังมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อ บรู๊ซ ลี เสียชีวิต เฉินหลงต้องตกงาน เพราะวงการหนังกังฟูฮ่องกง กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ


อย่างไรก็ตาม ความสามารถของเฉินหลง ไปสะดุดตาผู้สร้างหนังอย่าง หลอเหว่ย ผู้กำกับหนัง Fist of Fury ของบรู๊ซ ลี โดยเขาต้องการจะปั้นดารากังฟู ขึ้นมาแทน บรู๊ซ ลี ช่วงนี้เฉินหลงได้แสดงหนังทั้งหมด 10 เรื่อง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่เรื่องเดียว


ปี 1978 เฉินหลงนำแสดงหนังให้กับ Seasonal Film เรื่อง Snake in the Eagle's Shadow ทำให้ชื่อของเขากลายเป็นดาราดังเพียงช่วงข้ามคืน เพราะสามารถทำเงินอย่างมหาศาลในฮ่องกง จากนั้นเฉินหลง ได้นำแสดงใน Drunken Master (1978) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องหลังนี้ ไม่เพียงแต่จะประสบความสำเร็จในฮ่องกงเท่านั้น แต่ยังประสบความสำเร็จทั่วทวีปเอเชียอีกด้วย นั่นคือพลุดอกแรกของเฉินหลงที่เริ่มส่องประกายสว่าง หลังจากนั้นเขาก็โด่งดังขึ้นเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน




* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
























Jet Li - Fearless Fight Scene


ความยาว 4.36 นาที













เพลงหมัดของ Jet Li


ความยาว 2.54 นาที








ข้างล่างนี้ เผื่อมีผู้สนใจจะชมคลิปของ Jet Li เพิ่มเติม




Jet Li - Champion of china 1978

//www.youtube.com/watch?v=1igTGE1_kTs


Jet Li - Kung Fu

//www.youtube.com/watch?v=d2JJG1-u3Qc&feature=related


Jet Li - The fist of legend

//www.youtube.com/watch?v=cgMwM4KSN6c&feature=related





หลี่ เหลียนเจี๋ย (李連杰) เป็นนักแสดงภาพยนตร์ชาวจีน ที่มีชื่อเสียงในฮ่องกง และต่อมามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีชื่อในภาษาอังกฤษที่คนทั่วไปรู้จัก ว่า เจ็ต ลี (Jet Li) เขาเกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2506 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นลูกคนสุดท้องในพี่น้องทั้งหมด 5 คน เนื่องจากเขากำพร้าพ่อ ตั้งแต่อายุเพียง 2 ขวบ เขาจึงถูกเลี้ยงดูโดยแม่มาตลอด



เมื่ออายุได้ 8 ขวบ เขาได้รับการฝึกวิชา วูซู ในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน หลังจากนั้นเขาก็อุทิศชีวิตตลอดทั้งชีวิตให้กับกีฬาวูซู เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น หลี่ เหลียนเจี๋ย เป็นตัวแทนนักกีฬาวูซูของประเทศจีน ไปแข่งขันต่างๆมากมาย จนได้เป็นแชมป์ถึง 5 ปีซ้อน และเขาและทีมยังเคยไปแสดงความสามารถทางวูซู ต่อหน้าประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ในปี 1974 จากนั้น เขาจึงผันตัวเองไปเป็นโค้ชทีมกีฬาวูซู แทนการเป็นนักกีฬา



ในต้นปี 2010 หลี่เปิดเผยว่า จะรับงานแสดงน้อยลง เพื่อที่จะไปทุ่มเทให้กับการทำมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ชื่อ The One Foundation หลังจากที่เจ้าตัวรอดตายมาจากเหตุการณ์สึนามิที่ประเทศไทยเมื่อปลายปี 2004 โดยบอกว่าตนพบว่าศิลปะการต่อสู้มิได้ช่วยอะไรให้รอดชีวิตได้เลยเมื่อต้องต่อสู้กับธรรมชาติ และการแสดงต่อไปนี้เป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น[1] นิตยสาร TIME จัดให้ jetli เป็น 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลก



ก้าวแรกของการเป็นนักแสดง หลังจาก หลี่ เหลียนเจี๋ย เป็นโค้ชทีมชาติ เมื่อเขาอายุได้ 20 ปี เขาก็ถูกแมวมองดึงให้มาเป็นพระเอกหนังเรื่อง Shaolin Temple (1982) โดยหนังเรื่องนี้เป็นงานแจ้งเกิดให้เขาอย่างเต็มตัว



เมื่อ หลี่ เหลียนเจี๋ย ย้ายมาอยู่ในฮ่องกง เขาก็ได้ร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดังของฮ่องกงอย่าง ฉีเคอะ โดยผลงานเรื่องแรก ที่ทั้งสองได้ร่วมงานกัน คือ Once Upon a Time in China (1991) ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งในเอเชียและต่างประเทศ ส่งผลให้ชื่อของ หลี่ เหลียนเจี๋ย เป็นที่รู้จักในวงกว้าง



หลี่ เหลียนเจี๋ย มีผลงานในฮอลลีวู้ด ครั้งแรกคือ Lethal Weapon 4 (1998) ร่วมแสดงกับ เมล กิ๊บสัน ,แดนนี่ โกลเวอร์ ,โจ เปสซี่ ,เรเน่ รุสโซ่ และ คริส ร็อก โดยตัวของเขา รับบทเป็นตัวร้าย นับว่าเป็นการพลิกบทบาทจากพระเอกมาเป็นผู้ร้าย หลังจากเรื่องนี้ออกฉาย ทำให้ชื่อของ เจ็ต ลี กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก



หลังจากนั้น ปี 2000 หลี่ เหลียนเจี๋ย รับบทนำในเรื่อง Romeo Must Die (2000) เป็นหนังภาษาอังกฤษเรื่องแรกของเขาด้วย หลังจากออกฉาย ก็สามารถทำรายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิสสหรัฐอเมริกา นานหลายสัปดาห์ติดต่อกัน



หลี่ เหลียนเจี๋ย กลับมาท็อปฟอร์มอีก ในภาพยนตร์เรื่อง Hero (2002) หนังจีนทุนสร้าง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยรัฐบาลจีน กำกับโดย จางอี้โหมว นำแสดงโดยดาราชื่อดังหลายคน อย่าง เหลียง เฉาเหว่ย, จาง ม่านอวี้, เฉิน เตาหมิง, จาง จื่ออี๋ และภาพยนตร์เรื่อง Hero ทำรายได้ทั่วโลกถึง 177.3 ล้านเหรียญสหรัฐ



จากนั้น หลี่ เหลียนเจี๋ย ก็แสดงหนังกำลังภายใน อีกเรื่อง คือ Fearless (2006) โดยเรื่องนี้ เขาเป็นทั้งนักแสดง และอำนวยการสร้าง กำกับการแสดงโดย รอนนี่ ยู (Ronny Yu) ภาพยนตร์เรื่องนี้ หลี่ เหลียนเจี๋ย ประกาศว่า เป็นภาพยนตร์กำลังภายในเรื่องสุดท้ายของเขา จากคำประกาศนี้ทำให้ผู้ชมต่างหลั่งไหลเข้าชมภาพยนตร์ จนสามารถขึ้นอันดับหนึ่งในตารางหนังทำเงินทั่วเอเชีย และสามารถทำรายได้ดีในสหรัฐอเมริกาด้วย




* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
































จา - พนม ยีรัมย์


ความยาว 4.29 นาที













จา – พนม ยีรัมย์ ชื่อดั้งเดิมตอนเด็กคือ วรวิทย์ ยีรัมย์ ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็น พนม ยีรัมย์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 (ปัจจุบัน อายุ 35 ปี) ที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เขาเป็นนักแสดงภาพยนตร์ในสังกัดค่ายสหมงคลฟิล์ม และไอยราฟิล์ม ที่ประสบความสำเร็จระดับโลก และเป็นต้นแบบคติในการแสดง คือ ไม่ใช้สตั๊นท์แมน และไม่ใช้เทคนิคพิเศษในการแสดงคิวต่อสู้ เขาใช้ชื่อในการแสดงในไทยว่า "จา พนม" และใช้ชื่อในการแสดงในระดับสากลว่า โทนี่ จา (Tony Jaa) และภายหลังสุด เขาเปลี่ยนชื่ออีก เป็น ทัชชกร ยีรัมย์ ด้วยความเชื่อพื้นบ้าน



เขาเป็นนักแสดง ที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ เช่น มวยไทย-คาดเชือก, นาฏยุทธ์, มวยคชสาร, เทควันโด, วิชาหมัดเมา (ทั้งแบบไทย, แบบจีน), กังฟู (ทั้งแบบเส้าหลิน และแบบหวิงชุน), ไอคิโด้, คาโปเอร่า, เป็นต้น และเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธหลากหลาย เช่น กระบองสามท่อน, กระบองสองท่อน, โซ่, ดาบซามูไร, ดาบไทย, เชือกลูกดอก, กระบี่จีน, กระบี่-กระบอง, พลอง, ไม้ศอก เป็นต้น



เขาเป็นนักแสดงภาพยนตร์ไทย ที่เป็นศิลปินมรดกประจำภาคอีสาน เป็นบุคคลตัวอย่างด้านศาสนา, ด้านอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมประจำชาติ, ด้านความกตัญญูและสู้ชีวิต, ด้านความกล้าหาญและความคิดสร้างสรรค์ เขาสามารถสื่อสารได้หลายภาษา เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น และภาษาฝรั่งเศส เป็นต้น









ผลงานบางส่วน ในภาพยนตร์


องค์บาก (2546)

บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม (2547)

ต้มยำกุ้ง (2548)

เสือร้องไห้ (2548)

บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2 (2550)

องค์บาก 2 (2551)

องค์บาก 3 (2553)








* พ.ศ. 2546 เว็บไซต์ //www.kungfucinema.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับภาพยนตร์แอ็กชั่นและการต่อสู้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเว็บหนึ่งของโลก ได้จัดมอบรางวัล KUNGFUCINEMA AWARD โดยองค์บากเข้าชิง 3 รางวัล ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำฝ่ายชายที่เน้นการต่อสู้ยอดเยี่ยม และรางวัลออกแบบฉากแอ็กชั่นและการต่อสู้ยอดเยี่ยม โดยมีคู่แข่ง คือ KILL BILL vol. 1, Azumi, The Last Samurai, Shanghai Knights และ องค์บาก สามารถคว้า 2 รางวัล ซึ่ง โทนี่ จา สามารถเอาชนะคู่แข่งอย่าง ทอม ครูซ, เฉินหลง, เจ็ท ลี และเคียนู รีฟส์ (The Matrix Reloaded) ในขณะที่ พันนา ฤทธิไกร และ โทนี่ จา สามารถคว้ารางวัลออกแบบฉากแอ็กชั่นและการต่อสู้ยอดเยี่ยม ชนะ หยวน หูผิง จาก Kill Bill, ดอนนี่ เยน จาก The Twins Effect, เฉินหลง จาก Shanghai Knights



* ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 200 ดาราหน้าใหม่ที่น่าจับตามองที่สุดในโลก ประจำปี 2548 โดย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ วีกลี่ (Entertainment Weekly) ซึ่งดาราเอเชียติดอันดับ 2 คน คือ Tony jaa และ จาง ซี่ยี่



* พ.ศ. 2548 เว็บไซต์ //www.positioningmag.com จัดอันดับให้ Tony jaa เป็นนักแสดงแอ๊กชั่นยอดเยี่ยมอันดับ 1 ของโลก



* พ.ศ. 2548 พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง Madame Tussauds กรุงเทพฯ ได้จัดสร้างห้องแสดงหุ่นขี้ผึ้งในแผนกศิลปะการต่อสู้ ชื่อ IN ON THE ACTION: Martial arts heroes โดยได้สร้างหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าตัวจริงของ Tony jaa และ Bruce Lee ตั้งไว้ในห้องเดียวกัน



* ถูกบันทึกลงในกินเนส บุ๊ค สาขาสอนและโชว์มวยไทยแก่ประชาชนมากที่สุดในโลก ถึง 2,000 คน ณ ลานศูนย์การค้า Discovery Park ฮ่องกง



* ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ในนักแสดงผู้มีอิทธิพลสูงสุดในเอเชีย (Asia's Most Popularity Entertainer People of The Year 2008) จากนักวิจารณ์และนักแสดงทั่วโลก ซึ่งในปี 2551 มีนักแสดงไทยที่ติดอันดับผู้มีอิทธิพลในเอเชีย 3 คน คือ Tony jaa , ทาทา ยัง และธงไชย แมคอินไตย์



* พ.ศ. 2551 Tony jaa ถ่ายแบบและถ่ายทอดประวัติชีวิต ลงในนิตยสาร GQ นิตยสารสหรัฐอเมริกา ที่ว่าด้วยเรื่องราวประวัติชีวิตของผู้ชายที่มหัศจรรย์ระดับโลก ฉบับเดือนเมษายน ค.ศ.2008



* และต่อมาในปี พ.ศ. 2552 Tony jaa ยังถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ในนักแสดงที่มีอิทธิพลในทวีปเอเชียเช่นเดิม



* พ.ศ. 2552 ทัชชกร ยีรัมย์ ได้รับการเชิดชูเกียรติให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ในทำเนียบ "คนไทยที่โลกยกย่อง" ที่สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ และคุณูปการในระดับนานาชาติ ได้รับการยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก จากเว็บไซต์ สารานุกรมทรัพยากรณ์มนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (kc.hri.tu.ac.th)



* พ.ศ. 2553 Tony jaa ได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักแสดงภาพยนตร์แอ๊กชันอันดับ 1 ระดับตำนาน จากผลการสำรวจผู้ชมภาพยนตร์แนวแอ๊กชันทั่วโลก ของเว็บไซต์ //www.deknang.com และเว็บไซต์ //wwwmm.com เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับภาพยนตร์ทุกประเภทจากทั่วโลก







ขอขอบคุณที่ติดตาม



จาก สิน yyswim : จขบ.ขออภัย ที่ไม่ค่อยจะว่างไปเยี่ยมบล็อกเพื่อนๆ

ตั้งหน้าตั้งตาค้นคว้าข้อมูลใหม่ๆ เพื่อจะนำมาเสนอในบล็อกต่อไป ๆ

ท่านใดคอมเมนต์ไว้ จขบ.ได้อ่านทุกคอมเมนต์

แต่ไม่ค่อยจะได้ตอบคอมเมนต์ และไม่ค่อยจะได้ไปเยี่ยม ต้องขออภัยด้วย

บล็อกวันนี้ อ่านเฉยๆ กรุณาไม่ต้องคอมเมนต์นะครับ

รู้สึกเกรงใจ เพราะไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมเพื่อนๆ

และขอขอบคุณมาก ที่มีผู้กรุณาโหวตให้ ในสาขา Topical Blog

ต้องการติดต่อ จขบ. เชิญทางหลังไมค์ หรือทาง yyswim@hotmail.com หรือทาง Facebook ครับ


Create Date :11 มีนาคม 2554 Last Update :12 มีนาคม 2554 1:30:59 น. Counter : Pageviews. Comments :15