bloggang.com mainmenu search








* ว่ายท่าฟรีสไตล์ *




จขบ.ไม่เคยเรียนหลักสูตรกีฬา ไม่ได้เป็นนักกีฬา ไม่ใช่ครูสอน และไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับคอมเมนเตเตอร์



บล็อกเกี่ยวกับกีฬา ที่นี่ จึงเป็นเพียงเรื่องเกี่ยวกับ ‘ข่าวสารกีฬา’ เท่านั้น บล็อกวันนี้ ก็ นับ ว่า ใช่ อีกบล็อกหนึ่ง






2





3






การเรียนว่ายน้ำ ครูสอนว่ายน้ำเขาจะสอนให้ผู้เรียน ลอยตัวเป็น เท้าตีโฟมเป็น หายใจเข้าออกขณะอยู่ในน้ำเป็น และเรียนว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ก่อนเรียนว่ายท่าอื่นๆ เพราะเป็นท่าที่ไม่ยากซับซ้อน และไม่ต้องออกแรงมาก




การจะเรียนว่ายน้ำให้เป็น จะเรียนด้วยทฤษฎีอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องฝึกฝนหรือปฏิบัติจริงบ่อยๆ จึงจะว่ายน้ำเป็น




ก็เช่นเดียวกันกับกีฬาชนิดอื่นๆ เช่น กอล์ฟ ฟุตบอล บาสเกตบอล เทนนิส ยิงธนู ยิงเป้าบิน สเก็ตน้ำแข็ง วินเซิร์ฟ ปีนหน้าผา ดำน้ำสคูบา ฯลฯ เหล่านี้จะเรียนในห้องเรียนอย่างเดียวไม่ได้




จขบ.ทราบว่า การฝึกฝนเรียนว่ายน้ำในสระสำหรับกลุ่มเด็กเล็ก จะเรียนกันเทอมละประมาณ 3 เดือน (ปีหนึ่งๆจะมี 4 เทอม) ใน 3 เดือนนั้นจำนวนชั่วโมงเรียนทั้งหมดประมาณ 24 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นเรียนสัปดาห์ละ 2 วัน วันละประมาณ 1 ชั่วโมง ลงทะเบียนเลือกว่าต้องการจะเรียนในวันอังคารกับวันพฤหัส หรือในวันพุธกับวันศุกร์ หรือในวันเสาร์กับวันอาทิตย์ (วันจันทร์หยุดสอน 1 วัน อันนี้เป็นของสระว่ายน้ำกรุงเทพมหานครนะครับ ไม่ใช่สระว่ายน้ำเอกชน) จะเลือกเรียนช่วงสองวันใด ก็จะต้องมาเรียนในช่วงสองวันนั้น เดือนหนึ่งมีประมาณ 4 สัปดาห์ ฉะนั้นเดือนหนึ่งจะมีชั่วโมงเรียน 2 x 4 = 8 ชั่วโมง จำนวน 3 เดือนจึงเท่ากับว่ากลุ่มเด็กเล็กจะมีชั่วโมงเรียนว่ายน้ำ เทอมละ 24 ชั่วโมง




จขบ.เคยถามครูผู้สอนว่า “ในหนึ่งเทอม มีเด็กเล็กสอบผ่านบ้างไหม?” ครูบอกว่า “มี .. สามารถลอยตัวในน้ำได้ เท้าตีโฟมได้ ว่ายน้ำได้ไกลประมาณความยาวสระทางขวาง” .. จขบ.ถามว่า “มีว่ายได้ไกลระดับสระทางยาว 50 เมตรบ้างไหม?” .. “ก็มีนะ” ครูผู้สอนตอบ “แต่มักจะเป็นเด็กที่อายุประมาณ 9 ปีขึ้นไป หากเป็นเด็กเล็ก จะไม่ค่อยแข็งแรงพอ”




ครูสอนว่ายน้ำ บอกต่อว่า “เด็กเล็กบางคนที่สอบผ่านในเทอมแรก ผมก็อยากจะแนะนำให้มาเรียนต่อในเทอมที่สองอีก เพราะจะได้ว่ายแข็งขึ้น ท่าทางการว่ายจะได้ถูกต้อง จำได้แม่น ยิ่งหากได้เรียนมากๆเทอม ก็จะมีโอกาสได้เรียนว่ายในท่าอื่นๆด้วย แต่หากเด็กไม่ชอบเรียน อยากจะไปเล่นกีฬาชนิดอื่น หรือผู้ปกครองไม่ว่างมาส่ง อันนี้ทางสระก็ไม่ได้ว่าอะไร เป็นอิสระเสรีของผู้เรียนตัดสินใจเอาเอง”




จขบ.ทราบว่า วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่ต้องการจะเรียนว่ายน้ำ จะสามารถไปเรียนได้สัปดาห์ละ หรือเดือนละ มากกว่านี้ ไม่ใช่ไปเรียนสัปดาห์ละ 2 วัน หรือเดือนละ 8 วันอย่างกลุ่มเด็กเล็ก หากเป็นผู้หญิงไปเรียน ก็มีครูผู้หญิงสอน หากเป็นผู้ชายไปเรียน ก็มีครูผู้ชายสอน และมักจะแยกเรียนกันคนละมุมสระ วันไหนไม่สะดวกไปเรียน ก็ไม่ต้องไป ไม่ถูกปรับแต่อย่างใด การเรียนก็เรียนฟรี ไม่ต้องจ่ายเงินให้ครู เพราะครูเป็นลูกจ้างได้รับเงินเดือนจากทางกรุงเทพมหานครแล้ว




ที่เอ่ยไว้ตอนต้นว่า “เรียน 24 ชั่วโมง เด็กเล็กหลายคน ลอยตัวได้ เท้าตีโฟมได้ ว่ายน้ำทางขวางของสระได้” (ประมาณ 22 เมตร) ก็เพื่อเป็นการกระตุ้นให้กำลังใจผู้ใหญ่ที่อยากจะเรียนว่ายน้ำ .. เห็นมั๊ย? เรียน แค่ วันเดียว ก็ว่ายน้ำเป็น” “อย่ารีบท้อนะครับ เรียนแป๊บแป๊บ 3 ชั่วโมง เอ้ย ว่าย ยาก คงไม่มีทางว่ายเป็นแน่ๆ ไม่ ว่ง ไม่ ว่าย มันแล้ว อุ อุ ก็ เพิ่งเรียนว่าย แค่สาม ชั่วโมง เอ๊งงง”





ขอเชิญชม สาธิตการว่ายท่าฟรีสไตล์ โดยครูสอนชาวญี่ปุ่น ความยาว 1.19 นาที










ขอเชิญชม สาธิตการว่ายท่าฟรีสไตล์ โดยครูสอนชาวญี่ปุ่น2 ความยาว 1.13 นาที










เว็บ eduzones.com คุณ tanoy เขียนบล็อกเรื่อง ‘ท่าว่ายน้ำ’ เอาไว้



จขบ.ขอนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์กว้างขวางมากยิ่งขึ้น





คำว่า "ฟรีสไตล์" เป็นคำที่เรียกกันติดปาก เพราะถ้าจะเรียกให้ถูกต้อง ท่าว่ายน้ำท่านี้มีชื่อเรียกว่า ‘crawl stroke’ (อ่านว่า ครอล สโตรค) ที่เรียกกันว่า ฟรีสไตล์ ก็เพราะคุณสามารถว่ายท่าอะไรก็ได้ที่คิดว่าเร็วที่สุด เพื่อให้ถึงขอบสระก่อนคนอื่น โดยท่าที่นิยมใช้ คือ ‘crawl stroke’




ทำไมท่านี้จึงมีความเร็วสูงที่สุดน่ะหรือ? เป็นเพราะท่านี้เป็นท่าที่ร่างกายมีความเพรียวลู่น้ำมากกว่าท่าอื่น ๆ รวมทั้งการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคุณสามารถจะว่ายได้อย่างง่ายดาย และในกระบวนการสอนว่ายน้ำก็จะสอนท่านี้เป็นท่าแรก




การใช้แขนท่าฟรีสไตล์ (Freestyle Arm Action)



1. การว่ายน้ำทุกท่ายกเว้นท่ากบ จะต้องใช้แขนและมือเป็นตัวขับเคลื่อนถึง 70 % หรือมากกว่า ดังนั้นแขนจึงเปรียบเสมือนไม้พาย ที่จะช่วยให้ร่างกายไปข้างหน้าได้ และในท่าฟรีสไตล์นั้น มีลักษณะการใช้แขนที่มีความต่อเนื่องกันมากที่สุด โดยการว่ายให้มีความเร็วและถูกต้องนั้น ทำได้ดังนี้



1.1 เมื่อคุณยืดแขนไปด้านหน้าจนสุดแล้ว แขนของคุณต้องชิดกับหู



1.2 ต่อจากนั้นให้คุณกดมือลง พร้อมกับโก่งแขนโดยการยกข้อศอก โดยแรงที่จะส่งตัวคุณนั้นจะออกมาจากไหล่



1.3 ดันแขนท่อนล่างให้ผ่านไปใต้ลำตัว นิ้วทุกนิ้วเรียงชิดติดกัน



1.4 ดันน้ำจนกระทั่งแขนของคุณตึงพอดี สามารถตรวจสอบได้ โดยมือของคุณจะผ่านไปถึงต้นขา



1.5 ยกแขนขึ้น โดยงอข้อศอก แล้ววาดแขนมาด้านหน้า วางมือลงน้ำ กดศอกแล้วยืดแขนออกไป





ข้อควรจำ



1. คุณต้องดันน้ำไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว



2. เมื่อคุณจะวางแขนลงน้ำเพื่อว่ายต่อไป พยายามอย่าให้แขนฟาดน้ำ ให้ลากศอกและมือแทงลงน้ำไปด้านหน้าอย่างนิ่มนวล



3. เมื่อมือคุณลงน้ำแล้ว อย่าให้มือชี้ลงไปที่พื้นสระ จงบังคับมือและแขนให้ชี้ไปยังเป้าหมาย คือ ด้านหน้าของคุณ โดยการยืดแขนออกไปขณะที่มือลงน้ำ ไม่ใช่จิ้มมือลงไปในน้ำ





การใช้ขาท่าฟรีสไตล์ (Freestyle Leg Action)




ในการใช้ขาของท่าฟรีสไตล์ จะเตะขาในลักษณะเตะสลับขึ้นลง ซ้ายขวา โดยที่จะต้องส่งแรงเตะมาจากสะโพก ไม่ใช่เตะจากหัวเข่า โดยในการเตะขานั้น ข้อเท้าและหัวเข่าต้องมีความพลิ้วไม่เกร็งเป็นอันขาด




เวลาคุณเตะขาท่าฟรีสไตล์นั้น คุณต้องขยับทั้งขา ยกตัวอย่าง ให้สะโพกของคุณเป็นมือ และขาของคุณเป็นเชือก ถ้าคุณสะบัดมือ เชือกทั้งเส้นก็จะวิ่งตามกันไปทั้งหมด แต่แรงจริงๆ ที่จะส่งให้เชือกเกิดการสะบัด ก็คือมือของคุณ ดังนั้นแรงจริงๆ ที่จะใช้ในการเตะขาจะส่งมาจากสะโพก นั่นเอง ในการเตะขาของคุณนั้น คุณต้องเตะอย่างต่อเนื่อง ถ้าว่ายระยะสั้น คุณต้องเตะอย่างแรงและเร็ว ไม่ยกเท้าขึ้นสูงพ้นน้ำจนกระทั่งเห็นน่อง ให้บริเวณข้อเท้าของคุณพ้นน้ำเท่านั้นก็พอแล้ว และเมื่อคุณสะบัดขาลงน้ำ คุณต้องเตะให้เต็มจังหวะ อย่ายึกยัก หรือเกร็งใดๆทั้งสิ้น คิดถึงภาพปลาว่ายน้ำเอาไว้ หางปลาที่ส่ายๆ น่ะ อย่างนั้นแหละ





ความสัมพันธ์ของร่างกายในท่าฟรีสไตล์ (Freestyle Relative Action) ท่านี้เป็นท่าที่มีความต่อเนื่องในการทำงานของร่างกายเป็นอย่างดี คุณต้องพยายามรักษาความนิ่มนวลและความพลิ้วไหวในการว่ายไปตลอดทางด้วย





Tip of Freestyle




1. คุณต้องไม่เกร็งลำตัวให้แบนราบอยู่กับน้ำตลอด คุณควรปล่อยไหล่และร่างกายให้เป็นธรรมชาติ การกลิ้งลำตัวตามธรรมชาตินั้นจะทำให้ว่ายได้เร็วยิ่งขึ้น



2. การเอียงหน้าหายใจ ควรทำเมื่อคุณรู้สึกเริ่มที่จะต้องหายใจออกแล้ว ไม่ใช่กลั้นจนกระทั่งไม่ไหวแล้วจึงเอียงหน้าหายใจ การกระทำเช่นนี้จะทำให้คุณเสียจังหวะได้



3. ถ้าคุณไม่เอียงหน้าหายใจ ก็จงรักษาศีรษะให้นิ่งเอาไว้ อย่าส่ายหัว เพราะจะทำให้ว่ายช้าลง





4
Speedo Endurance Plus Jammer







5
Speedo Classic Aquashort







6
Speedo Endurance Plus Sportsbrief 8CM







7
Speedo Ladies LZR Aqua Comet Placement Pullback








8
Speedo Ladies Sleek Splice Racerback







9
Speedo Ladies Lane Blaze Splice Hydrasuit







10
Adidas Infinitex Essentials Boxer







11
Adidas Infinitex 3 Stripe Authentic Trunk







12
Adidas Ladies INF 3SA Young Bikini SS08







13
Aqua Sphere Ladies Atlantis Swimsuit







14
Aqua Sphere Bangor Shorts







15
Aqua Sphere Hermes Brief Shorts







16
Aqua Sphere Apollo Swim Brief









ขอเชิญชม สาธิตการว่ายท่าฟรีสไตล์ โดย Jimmy DShea นาวิกโยธินสหรัฐ ความยาว 5.50 นาที










‘หายใจท่าฟรีสไตล์’ โดย รัฐพงศ์ ศิริสานนท์



คอลัมน์ ฉลามณุกฟรีสไตล์ น.ส.พ.มติชน วันพฤหัสบดี 24 มกราคม พ.ศ. 2551






สัปดาห์นี้ขอตอบคำถาม เชิญติดตามเลยครับ



คุณนวพงษ์ ถามว่า .. “สวัสดีครับ พี่รัฐพงศ์ ผมอยากถามว่า จังหวะหายใจของท่าว่ายฟรีสไตล์เป็นอย่างไรครับ ผมทำไม่ได้สักที ผมว่ายได้แต่หายใจไม่ถูก ได้แต่กลั้นหายใจแล้วค่อยว่ายน้ำต่อไป ยังไงก็ฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยนะครับ”




ตอบ .. การขึ้นหายใจในจังหวะที่ถูกต้องเกิดขึ้นขณะลงแขนซ้าย (ขวา) ไปข้างหน้า ลำตัวหมุนไปฝั่งตรงข้ามกับที่แขนลงผ่านจุดจับน้ำของแขนขวา (ซ้าย) ศีรษะเอียงขึ้นหายใจฝั่งเดียวกับที่หมุนลำตัวไป แล้วหมุนศีรษะกลับทันทีไม่ปล่อยค้างไว้




จากคำถามถือว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ว่ายที่ไม่เคยเอียงหน้าขึ้นหายใจ จึงหาจังหวะขึ้นไม่ได้ แนะนำให้ไปดูคนอื่นว่ายน้ำ สังเกตการขึ้นหายใจของแต่ละบุคคล จะเห็นการขึ้นหายใจหลายแบบหลายสไตล์ บางคนว่ายน้ำได้ต่อเนื่องแต่จะหยุดการเคลื่อนไหวเพื่อขึ้นหายใจ เป็นลักษณะการว่ายแบบหยุดหายใจสลับกันไป




ท่าว่ายแบบหยุดหายใจจะพบกับผู้ว่ายที่ยังไม่มีความเคยชินกับการหมุนลำตัวขณะว่าย บางคนเอียงหน้าขึ้นสูงเพื่อหายใจเหมือนกับแหงนหน้าดูดาว ท่าเอียงหน้าขึ้นสูงได้จากผู้ฝึกสอนจับศีรษะของผู้ว่ายให้เอียงขณะฝึกหายใจ นักกีฬาเริ่มหัดใหม่ ขึ้นหายใจไม่ถูก จะได้รับการจับให้หมุนหน้าขึ้นไปสุดเพื่อหายใจ เป็นการสอนที่ผิดตั้งแต่แรก และไม่ได้ปรับการเอียงหน้าหายใจให้ถูกต้องเมื่อมีความชำนาญกับท่าว่าย




การหายใจที่ถูกต้องของท่าฟรีสไตล์เอียงศีรษะขึ้นเหนือน้ำนิดหน่อย ปากพ้นน้ำก็เพียงพอที่จะรับออกซิเจนเข้าไปในร่างกาย ผู้ว่ายใหม่อาจทดลองหายใจข้างเดียว เช่น ทุก 2 แขน และ 4 แขน เป็นต้น เมื่อมีความเคยชินกับการทรงตัวในน้ำอาจทดลองการหายใจทุก 3 แขน




การหายใจทุก 3 แขน ช่วยให้ผู้ว่ายหมุนลำตัวไปทั้ง 2 ข้างเท่าๆ กัน ต่างจากการหายใจข้างเดียว เพราะผู้ว่ายอาจหมุนลำตัวไปข้างที่หายใจมากกว่าอีกด้าน ซึ่งจะเกิดปัญหากับการทิ้งน้ำหนักลงที่หัวไหล่ข้างเดียวโดยไม่ได้ตั้งใจ ผลก็คือ อาการบาดเจ็บที่หัวไหล่อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่มีการปรับปรุงการหายใจและการหมุนลำตัวให้ถูกต้อง อาการบาดเจ็บครั้งคราวจะเปลี่ยนเป็นอาการบาดเจ็บเรื้อรัง ซึ่งต้องใช้การรักษาที่ไม่อาจทราบได้ว่าจะกลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิมหรือไม่




ก่อนจะเกิดอาการบาดเจ็บต่างๆ มีวิธีป้องกันโดยการว่ายหมุนลำตัว 2 ข้างให้เท่ากัน ฝึกหายใจทุก 3 แขน อาจเพิ่มเป็นทุก 5 หรือ 7 แขน ขึ้นอยู่กับคอร์ดที่โค้ชกำหนด ผู้ว่ายใหม่อาจไม่พบกับปัญหาที่หัวไหล่บาดเจ็บจากการหายใจข้างเดียว เพราะการว่ายไม่มีความเร็วและไม่ใช้ระยะเวลานานเท่ากับนักกีฬา ขอฝากถึงผู้ว่ายใหม่ ให้ฝึกหายใจข้างเดียวจนเคยชินก่อน หลังจากนั้นทดลองหายใจทั้ง 2 ข้าง การหมุนลำตัวไปกลับ ช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่หัวไหล่และยังช่วยให้ว่ายน้ำได้เร็วขึ้นด้วย




นักกีฬาบางคนว่ายฟรีสไตล์หายใจ 2 -3 ครั้งติดกัน เพราะต้องการออกซิเจนเร็วขึ้น การหายใจหลายครั้งติดกันเป็นสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ เพราะทำให้ร่างกายหยุดเคลื่อนที่ นักกีฬาควรมีความอดทนและหายใจให้ถูกจังหวะ อย่างน้อยที่สุดคือ 2 แขนต่อหายใจ 1 ครั้ง จะให้ดีที่สุดคือหายใจทุก 3 แขน




โดย รัฐพงศ์ ศิริสานนท์


คลีนิคว่ายน้ำ 08-9459-9339 rata_siri@yahoo.com 85/194 ซอยฉิมพลี 28ถนนฉิมพลี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170







17
Maru Rapid Pacer Legged Swimsuit







18
Maru Zorb Pacer Jammer







19
Maru Linea Pacer Clip Back SS10







20
Maru MX1 Jammer







21
TYR Sunset Beach Maxback Swimsuit







22
TYR Titan Splice Jammer







23
Zoggs Ladies Lynton Legsuit







24
Zoggs Mens Koolan Jammer







25
Zoggs Ladies Wyomi V Neck X-Back Swimsuit







26
Zoggs Mens Koolan Hip Racer







27
Zoggs Ladies Altona Tankini







28
Zoggs Cottesloe Hip Racer









ขอเชิญชม ว่ายท่าฟรีสไตล์ใต้น้ำ 25 เมตร เหมาะกับผู้ที่ฝึกฝนมานาน ความยาว 1.57 นาที










ใครรู้จักนักว่ายน้ำ ดังๆ บ้าง หากบอกว่ารู้จัก .. จขบ.เชื่อว่า นอกจาก ฉลามณุก – รัฐพงศ์ ศิริสานนท์ แล้ว



ไมเคิล เฟ็ลปส์ นักว่ายน้ำสหรัฐ ก็น่าจะเป็นอีกผู้หนึ่งที่เพื่อนๆรู้จัก




Michael Phelps







ไมเคิล เฟ็ลปส์ (Michael Fred Phelps) เป็นนักกีฬาว่ายน้ำชาวอเมริกัน ปัจจุบันอายุ 26 ปี คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกมาแล้ว 16 เหรียญ เป็น14 เหรียญทอง และ 2 เหรียญทองแดง โดยได้รับครั้งแรกจาก โอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่ประเทศกรีก 6 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดง และได้รับครั้งที่สองจาก โอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่ประเทศจีน 8 เหรียญทอง แถมทำลายสถิติโลกทั้ง 8 ประเภท ซึ่งปัจจุบันเขาเป็นนักกีฬาที่ได้รับเหรียญทองโอลิมปิกมากที่สุดในโลก และได้รับเลือกเป็นนักว่ายน้ำโลก ประจำปี 2546, 2547, 2549, 2550 และนักว่ายน้ำอเมริกัน ประจำปี 2544, 2545, 2546, 2547, 2549, 2550




ในวัยเด็ก ไมเคิล เฟลป์ส เป็นโรคสมาธิสั้น เขาเริ่มว่ายน้ำเมื่ออายุ 7 ขวบ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากพี่สาวทั้ง 2 คน และเมื่ออายุ 10 ขวบ เขาก็สามารถทำลายสถิติระดับประเทศเมื่อเทียบกับเด็กอายุรุ่นเดียวกัน และในปี ค.ศ. 2000 เขาได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนสหรัฐ เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ด้วยอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น




ปัจจุบัน เขามีรายได้โดยประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีจากการโฆษณา บวกกับอีก 1 ล้านเหรียญจากบริษัทชุดว่ายน้ำสปีโด





ขอเชิญชม ท่าว่ายฟรีสไตล์ของนักว่ายน้ำแชมป์โอลิมปิกและแชมป์โลก ความยาว 1.44 นาที










30
Speedo Superiority Aquashort







31
Speedo Frame Splice Jammer







32
Maru MX2 Xtra Legged Swimsuit







33
Maru Ladies MX1 Suit







34
Zoggs Cottesloe Racer







35
Zoggs Ladies Kilda Flyback Swimsuit







36
Speedo LZR Aqua Comet Placement Jammer







37
Aqua Sphere Rome Skin Swimsuit







38
Speedo LZR Aqua Bullet Bonded Splice Aquashort






รูปภาพชุดว่ายน้ำนำมาจาก เว็บ wiggle.co.uk




……………………………………………………….






จขบ.เข้ามาตอบคอมเมนต์ที่ 7



พี่สินขรา ..พี่สินอัพบล็อกแบบนี้ให้อีกสัก 2-3 ท่าได้ไหมคะพี่ เผื่อพิงกี้จะได้ลองเอาไปทำเองได้ ไม่อยากไปเรียน อาย .. แก่และยังว่ายน้ำไม่เปง ..ท่าต่อไปขอกรรเชียง นะคะ เอาแบบธรรมดานะคะ ไม่เอาแบบผัดผงกระหรี่


โดย: pinkypunch 26 พฤษภาคม 2554




ถึง น้องพิงกี้....


พี่สินว่ายน้ำไม่เก่งหรอก เพียงแต่ชอบไปที่สระ ครูสอนว่ายน้ำที่สระน่ะ เขาจะสอนถูกวิธี .. ข้างล่าง น้องพิงกี้อ่านพอเป็นไอเดียนะครับ จะต้องไปฝึกว่ายและถามผู้รู้ที่สระอีกที อ่านแค่เท่านี้คงจะไม่พอ .. อ้อ ท่าว่ายอื่นๆ ก็เสิร์ชอ่านเพิ่มเติมได้เลย พี่สินก็เสิร์ชมาเสนอเหมือนกัน





ท่ากรรเชียง





หากคุณว่ายท่าฟรีสไตล์ได้ การว่ายท่ากรรเชียงก็ไม่ยาก เพราะท่ากรรเชียงก็เหมือนกับท่าว่ายฟรีสไตล์กลับด้านกันนั่นเอง



การว่ายท่ากรรเชียง คุณต้องนอนหงายแล้วว่ายในลักษณะเคลื่อนที่ไปด้านหลัง แต่การทำงานของแขนและมือจะคล้ายกับท่าฟรีสไตล์



1. เมื่อคุณยืดแขนออกไปแล้ว แขนคุณต้องชิดหู ไม่ใช่เอาหูไปชิดแขน



2. ให้คุณกดแขนลงไปในน้ำ ที่สำคัญปล่อยไหล่ตามสบาย ถ้าคุณเกร็งไหล่ให้อยู่กับที่เอาไว้ คุณจะกดแขนลงน้ำไม่ได้



3. งอข้อศอกและตั้งมือ พร้อมทั้งดันน้ำผ่านไปทางต้นขาของคุณอย่างรวดเร็ว



4. จังหวะสุดท้ายของการดันน้ำ ให้คุณกดมือลงอย่างแรง จนแขนของคุณตึง



5. เมื่อคุณยกแขนขึ้นมาจากน้ำ คุณต้องไม่งอข้อศอก และวางแขนไปด้านหลังโดยไม่ฟาดน้ำ โดยการวางแขนนั้นให้คุณหันฝ่ามือเอานิ้วก้อยลงก่อน



6. เริ่มทำข้อ 1. กับแขนอีกข้าง




ข้อควรจำ



1. ในการวางแขนลงน้ำเพื่อจะดึงน้ำ คุณต้องให้นิ้วก้อยลงน้ำก่อนเสมอ



2. คุณไม่ต้องกังวลเรื่องที่น้ำจะเข้าหน้าคุณ เพราะว่าถ้าคุณว่ายถูกต้อง น้ำก็เข้าหน้าคุณอยู่แล้ว ให้คุณแก้ไขโดย กำหนดจังหวะหายใจ เช่น ยกแขนขวาขึ้นหายใจเข้า ยกแขนซ้ายหายใจออก เป็นต้น



3. ให้คุณเก็บคางเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ก้มจนหูพ้นน้ำ และไม่เงยจนกระทั่งหน้าจมลงในน้ำ



4. ยืดตัวเอาไว้ อย่า งอตัวเป็นกุ้งเด็ดขาด





การใช้ขาท่ากรรเชียง (Backstroke Leg Action)




การเตะขาที่ถูกวิธี จะช่วยทำให้คุณว่ายน้ำได้เร็วและดีขึ้น เพราะมันจะช่วยให้การทรงตัวของร่างกายคุณสมบูรณ์แบบ ในการเตะขาท่ากรรเชียงนั้น จะมีน้ำหนักในการเตะขามากกว่าท่าฟรีสไตล์ โดยเป็นการเตะในลักษณะสะบัดน้ำขึ้นไปทำให้ขาต้องทำงานหนักกว่าปกติ แต่การเตะที่ถูกต้องก็จะช่วยเสริมให้การว่ายดีขึ้น และอย่างที่บอกคือจะทำให้การทรงตัวของร่างกายสมบูรณ์แบบ




ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เท้าต้องไม่โผล่พ้นน้ำจนเห็นหน้าแข้ง และเท้าต้องไม่มีการตั้งขึ้นมา คือไม่จิ้มและไม่เกร็งข้อเท้า มิฉะนั้นเท้าของคุณจะไม่มีหน้าสัมผัสที่จะเตะน้ำ หัวเข่าก็เช่นกัน ไม่งอค้างเอาไว้เหนือน้ำ โดยการเคลื่อนที่ของขาจะต้องไปด้วยกันตั้งแต่สะโพกถึงปลายเท้า ไม่ใช่งอขาเอาไว้แล้วเตะออกจากเข่าอย่างเดียว คุณจะรู้สึกได้ว่าหลักการของการเตะขาท่ากรรเชียงเหมือนกับการเตะขาท่าฟรีสไตล์เลย แต่เปลี่ยนจากนอนคว่ำเป็นนอนคว่ำเท่านั้นเอง





Tip of Backstroke




1. มีอยู่ 3 อย่างที่คุณต้องบังคับให้อยู่บนผิวน้ำ แต่ต้องไม่เกร็งนะครับ คือ ใบหน้า หน้าอก และท้อง



2. ลำตัวช่วงล่างตั้งแต่เอวลงไป พยายามอย่าให้ยกขึ้นมาเกินผิวน้ำ



3. ที่บอกว่าใบหน้าลอยน้ำ ก็ต้องเป็นใบหน้านะครับ ไม่ใช่ศีรษะลอยขึ้นมาเหนือน้ำ สังเกตง่าย ๆว่า เวลาคุณว่าย หูของคุณพ้นน้ำขึ้นมาทั้งหูหรือไม่ ถ้าใช่ก็แสดงว่า คุณยกศีรษะขึ้นมาเหนือน้ำแล้ว



4. เวลาว่ายให้เก็บคางเล็กน้อย ไม่ใช่ก้มมองเท้า และไม่เงยจนหน้าจมน้ำ



5. แขนห้ามงอเด็ดขาด เมื่อยกขึ้นมาพ้นน้ำ





ขอเชิญชมท่าว่ายกรรเชียง ความยาว 1.47 นาที









ขอเชิญชม Underwater Dolphin ความยาว 2.00 นาที









................................................................



ขอขอบคุณที่ติดตาม


ขอขอบคุณมากๆ นะครับ ที่มีผู้กรุณาโหวตให้ ในสาขา Topical Blog



จาก สิน yyswim


Create Date :25 พฤษภาคม 2554 Last Update :26 พฤษภาคม 2554 13:36:02 น. Counter : Pageviews. Comments :73