bloggang.com mainmenu search










ไอศกรีม




เมษาหน้าร้อน จขบ.ไม่ค่อยจะได้ไปไหน สระว่ายน้ำที่ไปประจำ เขาก็ปิด เพราะสาเหตุด้านความปลอดภัยในช่วงความขัดแย้งเรื่องสี



แต่มีอยู่ที่หนึ่งที่ได้ไป ไปห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ในเทศกาลไอศกรีม (Ice Cream Festival 2010)



รายการ 'ผู้หญิง ถึง ผู้หญิง' ทางช่อง 3 เมื่อวันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2553 คุณเธอนำเอาไอศกรีมหลากหลายชนิด ทั้งไอศกรีมมะม่วงรูปไข่ ไอศกรีมดอกไม้ ไอศกรีมมะยมราดผงบ๊วย ไอศกรีมฝรั่งราดผงบ๊วย และไอศกรีมตุรกี เป็นต้น มาโชว์ในรายการ คุณเธอนำมาจากห้างนั้นแหละ พร้อมกับบอกว่า ขอเชิญผู้ชมไปร่วมทานไอศกรีมหน้าร้อน ในเทศกาลไอศกรีมที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ จัดระหว่างวันที่ 20 – 25 เมษายน 2553 โดยงานนี้จะมีบุฟเฟ่ต์ไอศกรีมให้ทานด้วย ในราคาที่ถูกมาก เพียงราคาคนละ 99 บาท กินภายในเวลาที่ระบุ แต่ อุ อุ จขบ. จำเวลาไม่ได้ ...เดาว่าประมาณ 1 ชั่วโมง



งาน Ice Cream Festival 2010 นี้ เป็นการรวบรวมร้านไอศกรีมที่มีไอศกรีม หาทานยาก ประมาณ 40 ร้าน มารวมตัวกัน จำหน่ายในที่เดียวกัน ที่ชั้น 1 เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ



อุ อุ จขบ.ได้ยินแล้วก็หูตั้ง ...ม่าย ช่าย ก็แค่หูผึ่ง โห ราคาถูกมากเลย นิ ไอศกรีมก็มีตั้งหลายแบบ ขายแค่ 99 บาท เอ๊ง..








วันพุธที่ 21 เมษายน 2553 เวลาประมาณ 11.30 น. จขบ.ก็ไปถึงทางเข้าที่จอดรถของห้าง วันนั้นรถยนตร์จำนวนเยอะทีเดียว โชคดีที่หาที่จอดได้ไม่ยาก จากที่จอดรถ จขบ.ก็รีบตรงไปล้างมือเตรียมพร้อมเพื่อการกิน อ๊ะ ห้องน้ำหรูด้วย พอเสร็จกิจก็ลงมาที่ชั้น 1 ...อุ๊บ คนเยอะ



วัยรุ่นน่ะ เยอะที่สุด แต่ก็มีวัยหลักสี่ หลักห้า หลักหก หลักเจ็ด เห็นเดินไปมากับลูกหลาน ร่วมเดินกิน ร่วมนั่งกินด้วยกัน ดูเป็นวันพักผ่อนของครอบครัวที่ช่างน่ารัก เด็กทารกที่ถูกเข็นมากับคุณพ่อคุณแม่ก็มี เด็กเล็กเด็กใหญ่มีหมด เป็นคู่ๆก็มี เสียงดังลั่นดูน่าสนุกสนาน



จขบ.รีบเดินดุ่มชะโงกดูไอศกรีมแต่ละบูธ แต่ละบูธ เป็นเรื่องแรกก่อนอื่น พ่อค้าแม่ค้าหน้าตายิ้มแย้มต้อนรับ ตักไอศกรีมยื่นให้จขบ.ชิมด้วยช้อนพลาสติกขนาดช้อนกาแฟ แทบทุกบูธ



‘ขอบคุณนะครับ ขอบคุณนะครับ’ จขบ.บอกออกไป ยังไม่กล้าลองชิมเลยสักบูธ ขอเดินสังเกตการณ์ให้รอบๆเสียก่อน








จากนั้น จขบ.ก็เดินไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน เพื่อจะซื้อคูปองไอศกรีมบุฟเฟ่ต์... อ้าว ผิดคาด ราคาถูกอัพขึ้นแล้วเป็น 146 บาท และให้ทานเฉพาะในตู้แช่ไอศกรีม 3 ตู้ ภายในคอกที่ถูกกำหนดเท่านั้น อุ อุ กะจะกักขังกันเลย



คนที่ยืนข้างหน้าจขบ.บ่นกันใหญ่ บางคนโกรธ กลับบ้านเลย บอกว่าเซ็นทรัลหลอกลวง จขบ.ไม่ได้กลับ แต่เปลี่ยนใจไปซื้อคูปองที่เคาน์เตอร์อีกเคาน์เตอร์หนึ่ง กะจะซื้อไอศกรีมแต่ละบูธๆ...ก็มาถึงที่แล้วนี่ จะต้องรีบกลับไปใย อ้อ แต่บางบูธเขาขายเป็นเงินสดนะครับ



ถ้วยแรกที่ จขบ.เลือกซื้อกิน คือไอศกรีมยี่ห้อ ‘อืมม มิ้ลค์’ เลือกเป็นรสคุ๊กกี้&ครีม เป็นไอศกรีมของโชคชัยฟาร์ม เพราะติดใจรสชาติความสดของนม และความแข็งเย็นของไอศกรีม ราคาถ้วยละ 43 บาท ราคาเท่ากับที่โชคชัยฟาร์ม








ถ้วยที่สองที่เลือกซื้อ เป็นไอศกรีมมะยมราดผงบ๊วย รสปะแหล่มๆแบบเปรี้ยวๆเค็มๆ ก็อร่อยดี ถ้วยละ 35 บาท เห็นบางคนซื้อไอศกรีมฝรั่งโรยพริกเกลือ แปลกมั๊ย? เรื่องโรยหน้านี่ เขาให้เลือกโรยได้หลายอย่างตามใจชอบ ได้ยินมาว่า มีโรยหน้าด้วยน้ำปลาหวานด้วย ...โอ๊ย จะ บร้า



ถ้วยที่สาม เป็นไอศกรีมจากตุรกี คนตุรกีมาตักขายเอง เป็นไอศกรีมแบบโคน จขบ.เลือกไอศกรีมรวมสามรส สามสี มีวานิลา ชอคโคแลต และสตรอเบอรี








ตอนคนตุรกีผู้ขายยื่นไอศกรีมให้ หนอย มีลูกเล่น จขบ.ล่ะ ขำตัวเอง ตอนรับไอศกรีมจากผู้ขาย รับไม่เคยได้สักที 5 5 5 5 คือเขาจะพลิกมือหลบ จขบ.ก็หยิบใหม่ เขาก็พลิกมือหลบอีก หยิบจับไอศกรีมไล่ตามมือเขา แต่ก็ไม่เคยหยิบได้ สุดท้ายก็เกือบจะหยิบได้แล้ว อ้าว หล่น 5 5 5 5



โชคดี ที่หล่นลงในถังไอศกรีมอีกถัง เป็นถั่วบด ถั่วอะไรก็ไม่รู้ เป็นตัวโปะหน้าไอศกรีม ราคาขายโคนละ 40 บาท



กินอิ่มมาก ทั้งหมดราคารวม 118 บาท แต่ยังไม่อยากกลับ เพราะที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะให้จอดรถฟรี และบรรยากาศกำลังสนุก อากาศก็ไม่ร้อน ที่จริงก็อยากจะกินต่อ แต่ไม่มีท้องสำรองแล้ว กลัวจะทะลักออกมาทางข้างบน








ระหว่างที่นั่งเก้าอี้กินไอศกรีมโคนของตุรกี ก็นั่งคุยกะผู้หญิงวัยเดียวกัน ไม่รู้จักกันหรอก เธอก็นั่งตักไอศกรีมจากถ้วยอยู่ ไอศกรีมแบบโคนของตุรกีเธอกินไปก่อนหน้าแล้ว



จขบ.กับผู้หญิงคนนั้น เราทั้งสองสรุปตรงกันว่า ไอศกรีมตุรกี ไม่อร่อย ไม่ถึงนม ไม่ค่อยสด ดีที่เหนียวหนึบ ไม่ใช่แข็งและเย็นอย่าง ‘อืมม มิ้ลค์’ แต่เหนียวหนืด กินแล้วจะยืดๆแบบกินพิซซ่า



ผู้หญิงบอกให้ จขบ.ไปลองซื้อทางโน้น ชี้นิ้วบอกด้วย บอกว่าตรงตู้ที่ให้ชิมทุกรสชาติทางโน้น ‘อร่อยทุกรสเลยค่ะ’



จขบ.เห็นแล้วละ เพราะเดินสำรวจก่อนจะลุย แต่เพราะเล็งไอศกรีม ‘อืม มิ้ลค์’ เพราะรสสดและอร่อย เล็งไอศกรีมมะยม เพราะยังไม่เคยกิน ไอศกรีมตุรกี ก็เล็งไว้ เพราะยังไม่เคยกินเหมือนกัน ทีนี้พอกินครบสามขนาน ก็อิ่มเต็มที่พอดี เลยบอกผู้หญิงท่านนั้นว่า ‘อิ่มตื้อเลยครับ ไม่ไหวแล้ว แต่ถ้าพอไหวอีกหน่อยจะไปคว้าไอศกรีม Dark Chocolate ครับ’








งานนี้ มีไอศกรีมจากนิวซีแลนด์มาเปิดบูธด้วย เป็นไอศกรีมรสแปลกๆตามชนิดผลไม้ของนิวซีแลนด์ จากญี่ปุ่นก็มาเปิดบูธ มีรสชาเขียว รสวาซาบิ รสดังโงะ และรสน้ำเต้าหู้ จากไทยแลนด์ก็มี ไอศกรีมจากดอกไม้ ไอศกรีมจากกุ้ง ไอศกรีมทุเรียน ไอศกรีมมะม่วงที่ผลิตเป็นลูกๆแบบไข่ พวกไอศกรีมแท่ง ประเภทผสมถั่ว ผสมเผือก ผสมกาแฟ ก็มี ขายราคาแท่งละ 12 บาท




ไอศกรีมรสชาเขียวของบูธไอศกรีมญี่ปุ่น ผลิตบนถาดแบนที่มีความเย็นจัด






เท่าที่สังเกต เห็นขายดีแทบทุกบูธ บูธไอศกรีมญี่ปุ่น บูธไอศกรีมเกล็ดหิมะ อาจจะต้องรอคิวหน่อย เพราะจะผลิตขายทีละถ้วย คนก็เลยต้องรอคิว บูธไอศกรีมตุรกี บางช่วงก็ต้องรอคิวเหมือนกัน เพราะคนขายชอบเล่นกับผู้ซื้อ แทบทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือหนุ่มสาวจะถูกยั่วให้หัวเราะหมดเลย จขบ. ชอบดูครับ ดูแล้วขำ




#1 ขอเชิญชม เทคนิคการขายไอศกรีมตุรกี ความยาว 1.01 นาที









เสียดายวันนั้น จขบ.ไม่ได้นำกล้องไป เพราะเคยรู้ว่าในห้าง เขาห้ามถ่ายรูป พอไปถึง โห รู้สึกเสียดาย เพราะเห็นมีแต่คนเขาถ่ายรูปกัน



ข่าวล่า จขบ.เพิ่งจะทราบว่า งานเทศกาลไอศกรีมที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ จะขยายวันเป็น มีต่อไปจนถึงวันที่ 27 เมษายน 2553 และงานเช่นเดียวกันนี้ จะจัดขึ้นที่ห้างเซ็นทรัลรามอินทรา ระหว่างวันที่ 26 เมษายน - 2 พฤษภาคม 2553 ที่ลานโปรโมชั่น










ไอศกรีมในเมืองไทย



เครดิตจาก น.ส.พ.คม ชัด ลึก คอลัมน์ ‘รู้ไว้ใช่เลย’ วันที่ 1 สิงหาคม 2545


อ้างอิงจาก เว็บ icecreamfanclub.com





ในเมืองไทย ไอศกรีมเข้ามาช่วงไหนไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่คาดว่าคงจะมาหลังสมัย รัชกาลที่ 5 ซึ่งมีการผลิตนํ้าแข็งกินเอง ไอศกรีมตอนนั้น ทำจากนํ้าหวานหรือนํ้าผลไม้ นำไปปั่นเย็นจนแข็ง ไม่มีนมหรือครีมผสมด้วย เรียกว่า "ไอติม" ใช้แรงคนในการปั่น โดยมีหม้อทองเหลือง เส้นผ่าศูนย์กลาง 50 - 60 ซม. สูง 30 ซม.ภายในมีรูคล้ายลังถึง สำหรับเสียบกระบอกโลหะทรงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 ซม. ภายในบรรจุนํ้าผลไม้หรือนํ้าหวาน กระบอกนี้คือ แม่พิมพ์ที่ทำให้ไอศกรีมเป็นแท่ง



การปั่น ต้องใช้มือจับหูหม้อทองเหลืองทั้ง 2 ข้างและหมุนไปมา ในถังไม้ที่ใส่นํ้าแข็งผสมเกลือ หลังจากปั่นได้ 1/2 - 1 ชม.ไอของความเย็นจะเริ่มเกาะรอบนอกของกระบอก นํ้าหวานข้างในจะเริ่มแข็งตัว ช่วงนี้เองที่ต้องเสียบไม้เข้าไปตรงกลาง เพื่อเอาไว้จับกิน



หมุนต่อไปอีก จนไอศกรีมแข็งตัว จึงเอากระบอกโลหะไปจุ่มในนํ้าอุ่น เพื่อให้ดึงไอศกรีมออกจากกระบอกง่ายขึ้น นำไปใส่กระติกเร่ขาย



ต่อมาบริษัทป๊อบ ผู้ผลิตไอศกรีมตราเป็ด ซึ่งเป็นผู้ผลิตไอศกรีมรายแรกของเมืองไทย ได้สั่งซื้อเครื่องทำไอศกรีมจากต่างประเทศ มาผลิตไอศกรีมได้ครั้งละมากๆ เน้นความสะอาดและคุณภาพ ทำให้ไอศกรีมเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว



ไอศกรีมตราเป็ดในยุคแรกๆ ยังเป็นไอศกรีมหวานเย็น ต่อมาจึงดัดแปลงรสชาติใหม่ๆ เป็นรสระกำ เฉาก๊วย ลอดช่อง โอเลี้ยง ข้าวเหนียวแดง ถั่วดำ ฯลฯ



พร้อมกับนำสูตรใส่นมจากต่างประเทศใส่ถ้วย ทำให้เนื้อไอศกรีมละเอียดและเนียน คนจึงนิยมกินไอศกรีมใส่นมหรือครีมกันมาก ส่วนไอศกรีมที่เป็นผลงานโลโก้ของไทยคือ ไอศกรีมกะทิ



โดยใช้กะทิสด ผสมนํ้าตาล ใส่แทนนมและครีม ที่อาจจะเป็นไปได้มากว่าไอศกรีมกะทิ มีต้นกำเนิดจากเมืองไทยเป็นแห่งแรก และไม่ต้องใช้กระบอกทำเป็นแท่ง แต่ใช้ตักใส่ถ้วยเป็นลูกๆ ซึ่งมีคำเรียกขานใหม่ว่า "ไอติมตัก"



ต่อมา จึงมีการตักใส่ถ้วยกรอบ และขนมปังผ่ากลาง จุดเด่นของไอศกรีมกะทิคือ ดัดแปลงให้มีรสชาติต่างๆ ได้ง่าย เช่น เติมลอดช่อง เม็ดแมงลัก ข้าวโพด ขนุน ทุเรียน และเผือก เป็นต้น



บริษัทป๊อป ลงทุนทำรถเพิ่มขึ้นมา จึงได้รับความนิยมเพราะคนขายไม่ต้องซื้อรถเอง โดยไอศกรีมตราเป็ดในยุคแรกๆ ใช้รถสามล้อถีบ คนขายถือ Duck Call เสียงดังคล้ายเป็ด เพื่อเรียกลูกค้า นับตั้งแต่นั้นมา สามล้อถีบก็กลายเป็นทั้งสัญลักษณ์ และกลยุทธ์ในการขายไอศกรีม หลายยี่ห้อ เช่น โฟร์โมสต์ ครีโม วอลล์ ฯลฯ








ไอศกรีมเหล่านี้ มีลูกเล่นกับลูกค้าหลายรูปแบบ บางคนอาจจะเคยกินไอศกรีมที่ปลายไม้ป้ายสีแดง แล้วนำไปแลกได้ฟรีอีก 1 แท่ง ขณะที่ไอศกรีมป๊อป ใช้วิธีสลักคำว่า ‘ฟรี’ บนไม้ ใครพบคำนี้ นำมาแลกฟรี 1 แท่ง บางยี่ห้อใช้วิธีทายไม้สั้นไม้ยาว กำถั่ว โยนหัวโยนก้อย เหล่านี้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้ผลดีมาก



ซาเล้งขายไอศกรีมซึ่งมีทั้งแบบแท่งและถ้วย ครองตลาดอยู่นาน ขณะที่ร้านขายไอศกรีมยังไม่มีใครทำ จนกระทั่งปีพ.ศ. 2520 (เมื่อ 33 ปีที่แล้ว) ‘ศาลาโฟร์โมสต์ง จึงเกิดขึ้น และเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นมาก



เด็กมัธยมในสมัยโน้นเลิกเรียนหรือดูหนังเสร็จ ต้องนัดกันไปที่ ‘ศาลาโฟร์โมสต์’ แต่ไม่กี่ปีหลังจากนั้น การแข่งขันก็เริ่มรุนแรงขึ้น ไอศกรีมลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ เข้ามาสู่เมืองไทยอย่างมากมาย เช่น สเวนเซ่นส์, บาสกิ้น - รอบบิ้น และ แดรี่ควีน เป็นต้น








ในทางการค้าปัจจุบัน มีการจัดกลุ่มไอศกรีมไว้หลายประเภท เช่น



Plain Ice Cream ไอศกรีมที่ประกอบด้วยสารให้สีและกลิ่นในปริมาณน้อยกว่า 5% ของส่วนผสมทั้งหมด



Chocolate มีส่วนผสมของโกโก้หรือชอกโกแลต



Fruit ไอศกรีมประกอบด้วยผลไม้หรือกลิ่นผลไม้



Nut ไอศกรีมที่ผสมผลไม้เนื้อแข็ง เช่นอัลมอนด์ วอลนัท ถั่วลิสง ฯลฯ



Frozen Custard, French Ice Cream และ French Custard Ice Cream ไอศกรีมที่มีส่วนผสมของไข่แดง ไม่น้อยกว่า 1.4 % ของนํ้าหนักผลิตภัณฑ์



Fruit Sherbet ไอศกรีมทำจากนํ้าผลไม้ นํ้าตาล และนม



Confection ไอศกรีมที่มีลูกกวาดผสม เช่น Chocolate Chip



Neapolitan ไอศกรีม 2 รสในถ้วยเดียวกัน



Soft Serve Ice Cream หรือ Ice Milk ไอศกรีมที่ไข จากเครื่องปั่นไอศกรีมโดยตรง ไม่ใช้การตัก



Rainbow Ice Cream ไอศกรีมที่ไขจากเครื่องปั่นเช่นเดียวกัน แต่มีสีต่าง ๆ 6 สีขึ้นไป









ไอศกรีม เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ทำ ที่สำคัญเหมาะกับเด็กที่กำลังเจริญเติบโตหรือคนที่ต้องการเพิ่มน้ำหนัก



ปัจจุบัน มีการผลิตไอศกรีมภูมิปัญญาไทย จากผลไม้ และสมุนไพรของไทย เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก บางอย่างไม่นึกว่าจะทำได้ เช่น กล้วยเล็บมือนาง น้อยหน่า มะขาม เสาวรส หรือไอศกรีมดอกไม้ เช่น ดอกกุหลาย ดอกเก๊กฮวย และดอกกระเจี๊ยบแดง เป็นต้น










สูตรไอศกรีมทำกินเอง




ส่วนผสม


1. ชามโตๆ และที่ตีไข่


2. น้ำอุ่น ¼ ถ้วย


3. วุ้น 1 ช้อนชา


4. นม 2 ถ้วย


5. น้ำผึ้ง ½ ถ้วย


6. นมข้นไม่หวาน 2 ถ้วย


7. วานิลา 1 ช้อนชา


8. ถั่ว ½ ถ้วย




วิธีทำ


1. เอาน้ำใส่ชาม เติมวุ้น คนให้เข้ากัน


2. เติมนมหนึ่งถ้วย รวมทั้งน้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน


3. เติมนมที่เหลือ นมข้นไม่หวาน และวานิลาที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน


4. เอาส่วนผสมเข้าแช่ในช่องฟรีซ สัก 2 ชั่วโมง


5. เอาออกมา และตีส่วนผสมให้นุ่มและฟูด้วยที่ตีไข่


6. เอาถั่ว หรืออาจจะเลือกคุกกี้บด ผลวอลนัท ฯลฯ ผสมลงไป ค่อยๆ คน


7. เอากลับไปแช่ช่องแข็ง ทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ ก็จะได้ไอศกรีม









#2 ขอเชิญชม เทคนิคการขายไอศกรีมตุรกี ความยาว 1.04 นาที












ขอขอบคุณที่ติดตาม



yyswim


yyswim@hotmail.com


Create Date :27 เมษายน 2553 Last Update :27 เมษายน 2553 1:42:07 น. Counter : Pageviews. Comments :21