bloggang.com mainmenu search






รสทิพย์ ซีฟู๊ดส์




บล็อกวันนี้เป็นความคิดเห็น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน




ร้าน ‘รสทิพย์ ซีฟู๊ดส์’ เป็นร้านอาหารทะเล อยู่ปากซอยบางขุนนนท์

ถนนบรมราชชนนี (พุทธมณฑล-ปิ่นเกล้า) หากมาจากแถวปิ่นเกล้า พอข้ามสะพานบริเวณสายใต้

ให้ขับรถลงพื้นดิน ซอยแรกซ้ายมือคือซอยบางขุนนนท์ ร้าน ‘รสทิพย์ ซีฟู๊ดส์’ อยู่ตรงปากซอย



ร้านนี้เป็นอาคารชั้นเดียว รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สีครีม มีป้ายร้านตัวอักษรสีแดงขาว

ด้านหน้าร้านติดกับถนนซอย ประตูร้านอยู่ไม่ไกลจากถนนบรมราชชนนี จึงสามารถ

เดินทางไปกลับร้านนี้โดยรถประจำทางได้ ด้านหลังร้านมีที่จอดรถพอประมาณ

สามารถเดินเข้าร้านทางด้านหลังได้





















เปิดให้บริการเป็นสองช่วงเวลาของทุกวัน.... เวลา 10.00 – 15.30 น. เปิดห้องโซน B

และเวลา 16.00 – 23.00 น. เปิดห้องโซน A ทั้งสองโซนเป็นห้องแอร์

แต่หากจะนั่งรับประทานข้างนอกเพื่อดูปลาในตู้กระจกไปด้วย

ก็มีแบบ โอเพ่นแอร์ ให้เลือกตามความพึงพอใจ









เป็นร้านอาหารที่ไม่ตกแต่งอะไรมาก คนเสิร์ฟก็ไม่มีทั้งฟอร์มและยูนิฟอร์ม

สไตล์ร้านเป็นแบบเป็นกันเอง จะลุก เดิน ยืน นั่ง ทำได้แบบอิสระเสรี

ร้านนี้คงจะเน้นด้านรับประทานเพื่อเอาอร่อย ไม่ได้เอาบรรยากาศ





















ผมไปทานที่นี่เป็นครั้งแรก ไปเพราะน้องสาวบอก “อยากเลี้ยงข้าวพี่ชาย”

ผม ก็ “เอ้อ ไม่ต้องก็ได้มั๊ง?”

น้องสาวบอกว่า “เออ น่า นานๆที”

ผมก็เลยโทร.ไปชวนคุณแม่ และเจ๊ ..พี่สาวของผมเอง

เพราะไปไหนๆ ผมจะไม่พลาดชวนคุณแม่ และเจ๊ ไปด้วย



เจ๊ บอกว่า “จริงเหรอ? แต่ทานที่บ้าน ไม่ดีกว่าเหรอ?”

ผมก็บอกว่า “จริง.. อ้อ เราทานที่ร้านอาหารแถวๆบ้านก็ได้ ไม่ต้องไปไหนไกลๆ”

ตอนนั้นโดยความสัตย์จริง ผมนึกถึงแต่ร้าน ‘ญีญวน’ ร้านอาหารเวียดนาม

เพราะอาหารมีผักเยอะ และรสชาติเข้มได้ที่




เจ๊ ก็บอกว่า “ลองถามน้องดูสิว่า ทานอาหารทะเลกันเอามั๊ย?

ร้านของคุณหมู ไง”




คุณหมู เป็นหุ้นส่วนของร้าน ‘รสทิพย์ ซีฟู๊ดส์’ เป็นผู้ชายที่เฮฮา น่าคบ สุภาพ และเป็นมิตร

คุณหมู เขียนบล็อกในชื่อล็อกอินว่า ‘วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส’













คุณหมูเข้าไปเยี่ยมบล็อก ‘ร่มไม้เย็น’ เจ๊ ของผมอยู่บ่อยๆ

เพราะแซวกันไปแซวกันมา ในที่สุดก็สนิทกัน แถมพลอยรู้จักมาถึงตัวผมด้วย

แต่เราทั้งสอง คือเจ๊และผม ยังไม่เคยไปรู้จักร้านของคุณหมูสักที

เลยคิดอยากจะไปอุดหนุนเพื่อนบล็อกสักครั้ง




น้องสาวตอบกลับมาแบบไม่ลังเล ว่า ‘ตกลง’

พอประมาณบ่ายโมง ของวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม ครอบครัวของพวกเรา

ก็ไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน ‘รสทิพย์ ซีฟู๊ดส์’ รวม 9 คน




คุณหมู ยืนยิ้มรอต้อนรับพวกเราอยู่แล้ว อาหารบนโต๊ะ ผมไม่ได้เป็นคนสั่ง

เดาว่าคุณหมูจะเป็นผู้เลือกรายการอาหารบางอย่างให้

ทั้งหมดมีจำนวน 7 อย่าง ได้แก่ 'ทอดมันกุ้ง' 'ออส่วน' 'กุ้งรสทิพย์'




จากในรูป 'ทอดมันกุ้ง' เหลือแต่จานเปล่า เพราะเหาะไปอยู่ในจานของแต่ละคนหมดแล้ว

'ออส่วน' ก็หายลงไปในท้องหมดแล้วเช่นเดียวกัน

จะเห็นมีก็แต่ ‘กุ้งรสทิพย์’ เป็นอาหารประเภทยำ








'กุ้งเผา' มีอยู่ 7 ตัว ตอนนั้นญาติอีก 2 คน ยังไม่เข้ามาในร้าน

ทางร้านเลยเผามาให้เพียงแค่ 7 ตัว








และทันทีที่วาง ตัวกุ้ง ก็หายวับไปทันที 2 ตัว อุ อุ







‘น้ำจิ้มทะเล’ ผมถามน้องสาวของผมแบบไม่แน่ใจว่า “ใช่แน่เหรอ?”

เพราะสี ดูคล้ายๆกับ ‘น้ำปลาพริก’







กุ้ง 7 ตัว คนละตัว พอดี … กุ้งแม่น้ำ เนื้อจะไม่มาก จะหนักไปทางหัว

กุ้งทั้งตัว จึงมีเนื้ออยู่แค่นี้








'ปลานกแก้วนึ่งซีอิ๊ว' ..โอ้ ปลาตัวใหญ่มาก

ผมถามเด็กเสิร์ฟ เด็กเสิร์ฟบอกว่า “หนัก โลเก้า”








'ข้าวผัดปู' ตอนยกจานออกมาจากในครัว

อ้าว เนื้อปูหาย มีแต่ข้าวผัด








'หม้อไฟทะเล' ...หม้อใหญ่มาก ขอบอก







ก้ามกรามของกุ้ง ทางร้านนำไปช่วยทุบ ให้ทานได้สะดวก

























ทานอิ่มแล้วก็นั่งคุยกัน ไม่ได้รีบร้อนไปไหน ตอนนั้นเวลาราวบ่ายสองโมง



















เด็กเสิร์ฟ ช่วยให้บริการอย่างดีทั้ง 2 คน











อาหารมื้อนั้น ทานกัน 9 คน ทุกคนอิ่มมาก ปลานกแก้วทานไม่หมด

ทางร้านจึงช่วยแพ็คใส่กล่อง ให้นำไปทานต่อที่บ้าน

คุณหมูใจดี ช่วยลดราคาให้ 10% แต่ขอเป็นเงินสด ..ราคารวมทั้งสิ้น 2,250 บาท











คุณหมู ให้บริการดีเยี่ยม ยิ้มแย้มให้ความเป็นกันเองกับทุกโต๊ะของลูกค้า

รวมทั้งโต๊ะของพวกเรา ซึ่งคุณหมูกรุณาหมั่นมาถามมาคุยด้วยเป็นระยะๆ

และยังตามมาส่งถึงที่รถอีกด้วย












หวังว่าคุณหมูคงจะเข้ามาอ่านบล็อกในวันนี้ ผมขอขอบคุณมากๆนะครับ

ขอขอบคุณแทนพวกเราทั้งครอบครัว ทุกคนบอกว่ารู้สึกประทับใจในตัวคุณหมูมาก

ประทับใจมากกว่าอาหารจานไหนๆ



และหากชาวบล็อกจะจัดสังสรรค์กันที่ร้านคุณหมูอีก ผมก็พร้อมจะไป

ไปเพราะอยากจะพบคุณหมู

นับเป็น 'เฟิร์สไพร-ออริตี้' ของการไปรับประทานอาหารทีเดียว










ข้อเสนอแนะแก่ทางร้าน ‘รสทิพย์ ซีฟู๊ดส์’




1. ผมชอบรับประทานอาหารรสจัด แบบมีเผ็ด เค็ม หวาน เปรี้ยวครบถ้วนและแบบเต็มที่ ผมคิดว่าอาหารของทางร้านจะมีรสชาติปานกลางแบบอาหารจีนเกินไป ...หมายเหตุ : เจ๊ ช่วยแก้ต่างแทนคุณหมูแล้ว เจ๊บอกว่า “เขาต้องทำให้คนส่วนมากทาน ก็ต้องรสกลางๆแบบนี้ละ”


อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าน่าจะมีเมนูอาหารสำหรับลูกค้าที่ชอบรสจัดไว้บ้าง เขียนไปในเมนูเลยว่า ‘จานนี้รสแซ่บ’



2. ผู้เสิร์ฟอาหาร ช่วยเก็บทรงผมให้เรียบร้อยหน่อยก็น่าจะดี เพราะลูกค้าจะได้ไม่ต้องกังวลว่า ‘เส้นผมไม่ตกลงไปในอาหารที่นำมาเสิร์ฟแน่นอน’



3. สบู่ล้างมือ กับ ผ้าเช็ดมือ จะเข้ากันได้ดีกับการรับประทานอาหารทะเล เพราะมือลูกค้ามักจะเปื้อนอาหาร สังเกตจากหลายร้านมักแจกผ้าร้อนให้ลูกค้าตั้งแต่ลูกค้าเริ่มต้นสั่งอาหารด้วยซ้ำ เพราะจะได้เช็ดมือก่อนรับประทานอาหาร


อาหารทะเล หากทานด้วยช้อนส้อม มักจะไม่อร่อยเท่าทานด้วยมือ



4. ข้าวผัดปู ที่ผมนึกถึง เป็นข้าวผัดปูที่ร้านๆหนึ่งบนเกาะยอ จ.สงขลา เหตุที่นึกถึงเพราะข้าวผัดปูร้านนั้นมีเนื้อปูเป็นก้อนๆราว 10 ก้อน ตักตรงไหนก็เจอเนื้อปู


ร้าน ‘รสทิพย์ ซีฟู๊ดส์’ หากจะเอาดีทางด้านข้าวผัดปู ก็ต้องลงทุนใส่เนื้อปูเป็นก้อนๆลงไป แล้วเรียกเมนูนี้ว่า ‘ข้าวผัดปูฮ่องเต้’ ไปเลย ลูกค้าทุกโต๊ะจะได้ร้องกรี๊ด เมื่อเห็นข้าวผัดปูแบบเซอร์ไพรส์



5. ของหวานที่ทางร้านขายอยู่ เช่น บัวลอยน้ำขิง ไอศกรีมวอลล์ คิดว่าเป็นของพื้นๆเกินไป ไม่โดดเด่นเมื่อนำมาเสนอขายประจำร้าน อาจจะจัดหาของหวานชนิดอื่นที่โดดเด่นกว่า และหลากหลายจำนวนมากกว่านี้



6. หากพอมีเนื้อที่ อาจจะจัดมุมสบายๆของเด็กๆหลังรับประทานข้าว ระหว่างเด็กๆรอคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังรับประทานอาหารอยู่








ส่งข่าวถึงคุณหมู.. ผมขอสั่งอาหารไว้ก่อนได้ไหม?

ในนัดสังสรรค์ชาวบล็อกแก๊งค์ครั้งหน้า ผมขอสั่ง ‘ปลากะพงทอดน้ำปลา’



อุ อุ ก็อยากจะรู้ว่า จะเปลี่ยนใจผมได้ไหมว่า ‘ปลากะพงทอดน้ำปลา’

หนึ่งเดียวในโลก อยู่ที่ร้าน ‘แหลมเจริญ’







yyswim


yyswim@hotmail.com


Create Date :04 ตุลาคม 2552 Last Update :5 ตุลาคม 2552 10:55:48 น. Counter : Pageviews. Comments :24