bloggang.com mainmenu search









* น้ำผึ้ง *




ข้อมูลในบล็อกวันนี้บางส่วนนำมาจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดชุมพร (ผึ้ง) ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้




น้ำผึ้ง ประกอบด้วยน้ำตาลชนิดต่างๆ เช่น ฟรักโทส, กลูโคส, และเลวูโรส รวมกันประมาณ 79 เปอร์เซ็นต์ โดยมีปริมาณน้ำตาลฟรักโทส มากกว่า น้ำตาลกลูโคสเล็กน้อย ทำให้น้ำผึ้งมักไม่ตกผลึก และมีรสหวานกว่าน้ำตาลชนิดอื่นๆ และประกอบด้วยน้ำประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ กรดชนิดต่างๆประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้น้ำผึ้งมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย โดยกรดที่พบมาก คือ กรดกลูโคนิก นอกจากนั้นยังประกอบด้วย วิตามิน (ไรโบเฟลวิน, ไนอะซิน), เอนไซม์, และแร่ธาตุ (แคลเซียม, แมกนีเซียม, โปตัสเซียม, ฟอสฟอรัส) อีกประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ำผึ้งที่มีสีเข้มจะมีปริมาณแร่ธาตุสูงกว่าน้ำผึ้งที่มีสีอ่อน

















จะเห็นได้ว่าองค์ประกอบหลักของน้ำผึ้งคือน้ำตาลและเป็นน้ำตาลชนิดโมเลกุลเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและร่างกายใช้ประโยชน์ได้ง่ายทันที โดยน้ำผึ้ง 100 กรัม จะให้พลังงานสูงถึง 303 แคลอรี่




คุณสมบัติทางยา น้ำผึ้งสามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ได้ เพราะน้ำผึ้งมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูง ซึ่งความเข้มข้นนี้จะช่วยกำจัดปริมาณน้ำที่แบคทีเรียต้องการใช้ในการเจริญเติบโต รวมถึงน้ำผึ้งมีความเป็นกรดและมีปริมาณโปรตีนต่ำ ทำให้แบคทีเรียไม่ได้รับไนโตรเจนที่จำเป็น นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และสารแอนตี้ออกซิแดนด์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอีกด้วย ดังนั้นเมื่อเราใช้น้ำผึ้งทาบาดแผล จึงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้และทำให้แผลไม่เกิดอาการอักเสบ และอีกอย่างหนึ่ง เอนไซม์ในน้ำผึ้ง มีหน้าที่ช่วยย่อยคาร์โบโฮเดรตได้ น้ำผึ้งจึงมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และแก้อาการท้องผูกในเด็กและคนชราได้เป็นอย่างดี





ขอเชิญชม การ์ตูนผึ้งดูดน้ำหวานดอกไม้ ความยาว 1.31 นาที

































































การเก็บรักษาน้ำผึ้ง




น้ำผึ้งที่มีความชื้นสูงเกิน 19% จะเก็บไว้ได้ไม่นาน ยิ่งน้ำผึ้งที่มียีสต์ปะปนอยู่มากจะยิ่งเกิดการหมักได้เร็วขึ้น น้ำผึ้งที่เกิดการหมักเมื่อดมดู จะได้กลิ่นของแอลกอฮอล์ผสมกับกลิ่นของน้ำผึ้ง ฉะนั้นเพื่อป้องกันการหมักจึงควรเก็บน้ำผึ้งไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทและมีลักษณะเป็นขวดคอแคบ เพื่อให้มีพื้นที่สัมผัสอากาศน้อยที่สุด เพราะเชื้อยีสต์และความชื้นจะมาจากอากาศ




หากรับประทานน้ำผึ้งเป็นประจำทุกวัน ควรเปิดรับประทานจากขวดเล็กจะดีกว่า เมื่อหมดแล้วจึงค่อยเติมขวดเล็กจากขวดใหญ่ หากน้ำผึ้งมีความชื้นสูงกว่า 21% ควรบริโภคให้หมดภายใน 1- 2 เดือน มิฉะนั้นจะเกิดการหมัก อย่างไรก็ตามน้ำผึ้งที่หมักไม่มาก บางคนจะชอบรับประทาน เพราะรสชาติแปลก




น้ำผึ้งที่เก็บไว้นานจะมีสีเข้มจนออกเป็นสีดำ ยิ่งเก็บไว้ในที่ที่มีอากาศร้อนด้วยแล้ว จะยิ่งมีสีดำเร็ว เพราะมีสารเอชเอ็มเอฟ (HMF) สูง สารเอชเอ็มเอฟเป็นชื่อย่อของสารเคมี (hydroxy methylfur furaldehyde) ซึ่งเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา จนเกิดปฏิกิริยาเคมีของการย่อยสลาย น้ำตาลฟรักโทส ในน้ำผึ้ง ความร้อนและแสงแดดจะเป็นตัวเร่งให้ปฏิกิริยานี้ ให้เกิดเร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรเก็บน้ำผึ้งไว้ในที่มืดและเย็น แต่ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็น อย่างไรก็ตาม สารเอชเอ็มเอฟในน้ำผึ้งนี้จะมีปริมาณน้อยมาก ไม่ค่อยมีอันตรายต่อผู้บริโภคหากจะบริโภคน้ำผึ้งสีเข้มจนเกือบดำ




แต่นั่นแหละของสดใหม่ จะดีกว่าของเก่าเก็บ น้ำผึ้งใหม่จะมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าน้ำผึ้งเก่าเก็บ เมื่อยังไม่รับประทานน้ำผึ้งก็พึงอย่าเพิ่งซื้อมาเก็บทิ้งไว้เฉยๆที่บ้าน เพราะเป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น เงินใช้สอยจะจมอยู่นิ่งๆ และสิ้นเปลืองสถานที่จัดเก็บ ยิ่งกว่านั้นน้ำผึ้งเก่าเก็บยังมีคุณสมบัติสู้น้ำผึ้งที่เพิ่งผลิตใหม่ออกมาขายไม่ได้ เมื่อต้องการจะรับประทานน้ำผึ้ง จึงควรซื้อแบบสดใหม่จะดีกว่า แม้ราคาจะแพงกว่าสัก 10-20 บาท แต่ก็นับว่าคุ้มค่ากว่าการซื้อน้ำผึ้งมาเก็บไว้เฉยๆแม้ราคาจะถูกกว่า 10-20 บาท แต่เก็บที่บ้านเฉยๆนับ 2 - 5 ปี ปกติไม่ควรจะเก็บน้ำผึ้งที่บ้านนานเกิน 2 ปี เพราะน้ำผึ้งที่เก็บไว้นานคุณค่าทางอาหารจะลดลงเรื่อย ๆ



















ขอเชิญชม อุตสาหกรรมน้ำผึ้งในต่างประเทศ ความยาว 4.44 นาที









มีคนจำนวนไม่น้อย เข้าใจว่าน้ำผึ้งป่ามีประโยชน์มากกว่าน้ำผึ้งเลี้ยง โดยยังคงผูกติดอยู่กับคำว่า “น้ำผึ้งป่ามีเกสรร้อยแปด” จึงน่าจะมีคุณสมบัติดีกว่าน้ำผึ้งเลี้ยงที่ได้มาจากดอกไม้ชนิดเดียวกันหรือเพียงสองสามชนิด




จากผลการตรวจสอบทางวิชาการพบว่า ละอองเกสรที่มีในน้ำผึ้งป่าก็ไม่ได้มีร้อยแปดพันเก้าอย่างที่เข้าใจ มีอย่างมากเพียง 6 - 7 ชนิดเท่านั้น เช่นเดียวกับที่ตรวจพบในน้ำผึ้งจากรังผึ้งพันธุ์ ...และเมื่อนำรังผึ้งพันธุ์เข้าไปตั้งเลี้ยงบริเวณเดียวกับผึ้งหลวงทำรังอยู่ พบว่าน้ำผึ้งที่ได้จากผึ้งทั้งสามชนิด คือ ผึ้งป่า ผึ้งพันธุ์ และผึ้งหลวง เมื่อวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีกันแล้ว ก็ไม่มีความแตกต่างกัน




การแบ่งเกรดของน้ำผึ้ง จึงไม่ได้อยู่ที่เป็นน้ำผึ้งป่าหรือน้ำผึ้งเลี้ยง แต่อยู่ที่กลิ่น รส ความชื้น สี สิ่งเจือปน(ความสะอาด)ในน้ำผึ้ง น้ำย่อยหรือเอนไซม์ที่มีในน้ำผึ้ง ละอองเกสรในน้ำผึ้ง สัดส่วนของน้ำตาลฟรักโทสกับน้ำตาลกลูโคส .. โดยน้ำผึ้งที่มีน้ำตาลกลูโคสมากกว่าฟรักโทสจะตกผลึกง่าย ในกรณีที่พบเห็นน้ำผึ้งตกผลึก นั่นไม่ได้หมายความว่าเป็นน้ำผึ้งปลอมปนน้ำตาลทรายเสมอไป





อีกอย่างหนึ่งคือน้ำผึ้งยางพารา (น้ำผึ้งที่ผึ้งดูดน้ำหวานจากตุ่มใบยางพาราหรือจากซอกใบอ่อนยางพารา) เมื่อเราเก็บไว้นานๆหรือเก็บไว้ในที่อุณหภูมิต่ำ จะเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นน้ำผึ้งตกผลึกได้ ซึ่งถือเป็นคุณลักษณะเฉพาะของน้ำผึ้งยางพารา เพราะมีน้ำตาลกลูโคสจะมากกว่าน้ำตาลฟรักโทสนั่นเอง แต่ผลึกของน้ำตาลกลูโคสจะเป็นตะกอนที่ละเอียดมาก เป็นตะกอนนุ่มๆ โดยปกติน้ำผึ้งทั่วไปจะไม่ค่อยตกผลึก เพราะมีน้ำตาลฟรักโทสมากกว่าน้ำตาลกลูโคส หากมีน้ำตาลฟรักโทสมากกว่าน้ำตาลกลูโคสถึงเท่าครึ่งแล้ว น้ำผึ้งจะไม่มีวันตกผลึก




การตกผลึกของน้ำผึ้ง อาจจะตกผลึกเป็นบางส่วน เช่น หนึ่งในสี่, หรือสองในสาม, หรือตกทั้งขวดก็ได้ อันนี้แล้วแต่สัดส่วนระหว่างน้ำตาลกลูโคสกับน้ำตาลฟรักโทส น้ำผึ้งที่ตกผลึกไม่ใช่น้ำผึ้งเสียเสมอไป เป็นเพียงการเปลี่ยนสถานะเท่านั้น น้ำผึ้งที่ตกผลึกง่ายมักจะขึ้นอยู่กับชนิดของพืช ที่ผึ้งไปหาน้ำหวาน เช่น น้ำผึ้งจากตุ่มใบยางพาราหรือจากซอกใบอ่อนยางพารา, จากดอกทานตะวัน, จากดอกสาปเสือ, จากดอกลิ้นจี่ เป็นต้น พวกนี้จะตกผลึกง่าย .. ส่วนน้ำผึ้งที่ได้จาก ดอกลำไย, ดอกเงาะ, ดอกไม้ป่า (ประดู่, แดง, ปรู, นุ่น) มักจะไม่ค่อยตกผลึก ทั้งนี้คุณค่าด้านโภชนาการหรือด้านสารอาหารในน้ำผึ้งทั้งแบบตกผลึกกับแบบไม่ตกผลึก จะไม่แตกต่างกันมากนัก




อย่างไรก็ตาม หากจะแก้ไขปัญหาการตกผลึกของน้ำผึ้ง สามารถกระทำได้โดยนำขวดน้ำผึ้งนั้นไปแช่ในน้ำร้อนอุณหภูมิไม่เกิน 65 องศาเซลเซียส หรือตากแดดสักระยะหนึ่ง น้ำผึ้งก็จะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นน้ำผึ้งใสได้ โดยคุณค่าของสารอาหารที่อยู่ในน้ำผึ้งที่ตกผลึกไม่ได้สูญเสียไป (ต้องเป็นน้ำผึ้งแท้เท่านั้น)




ขอเสริมข้อมูลเรื่องน้ำผึ้งยางพาราอีกนิดหนึ่ง น้ำผึ้งยางพารา จะมีรสไม่หวานจัด และมีรสเปรี้ยวแฝง ซึ่งมาจากกรดที่เป็นส่วนประกอบนั่นเอง และจะไม่มีกลิ่นหอมของดอกไม้เหมือนน้ำผึ้งชนิดอื่น เช่น น้ำผึ้งลำไย น้ำผึ้งลิ้นจี่ แต่น้ำผึ้งยางพาราจะเหมาะกับการนำมาทำเครื่องดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว เพราะจะให้รสชาติดีกว่า สำหรับคุณค่าทางอาหารก็ถือว่ามีคุณสมบัติไม่แตกต่างจากน้ำผึ้งทั่วไป



































มีกระทู้สอบถามเรื่อง ‘วิธีดูน้ำผึ้งแท้’ แล้วมีกูรูด้านน้ำผึ้ง คือคุณ s.suk เข้ามาช่วยตอบกระทู้นี้


หากเพื่อนๆอยากจะอ่าน วิธีดูน้ำผึ้งแท้ ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่






น้ำผึ้งหลายยี่ห้อ วางขายในต่างประเทศ









ของแถม .. เมื่อวันก่อน จขบ.ได้ชมรายการตีสิบ ออกอากาศเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2554 คุณวิทวัส สุนทรวิเนตร์


เชิญผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดชุมพร(ผึ้ง) มาออกรายการ ท่านผู้อำนวยการฯกล่าวถึง


การนำเหล็กไนผึ้งมาต่อยคนเพื่อบำบัดโรค ซึ่งเป็นการรักษาแนวแพทย์แผนทางเลือกที่อยู่ในช่วงกำลังทำวิจัย .. โปรดใช้วิจารณญาณในการชม





ขอเชิญชม เหล็กไนผึ้งต่อยคนเพื่อบำบัดโรค ความยาว 2.43 นาที













ขอขอบคุณที่ติดตาม


ขอขอบคุณมากๆ นะครับ ที่มีผู้กรุณาโหวตให้ ในสาขา Topical Blog



จาก สิน yyswim


Create Date :11 พฤษภาคม 2554 Last Update :12 พฤษภาคม 2554 21:21:53 น. Counter : Pageviews. Comments :9