bloggang.com mainmenu search

เริ่มต้นเรื่องเหตุการณ์

ขอเล่าเหตุการณ์ ย่อๆดังนี้นะครับ (และขอยืนยันด้วยศักดิ์ศรีลูกผู้ชายว่านี้คือเรื่องจริง)

วันนี้อาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558 ผมพาภรรยาและลูกๆ 2 คน รวมผมเป็น 4 คน ไปเดินห้างฯ ย่านพระราม2 บังเอิญว่าผมไปกันเร็วเลยได้จอดรถอยู่ในช่องปกติ ขากลับออกจากห้างฯ มีรถจอดขวาง 1 คัน ผมและภรรยาช่วยกันผลักรถที่บังทางออกไปทางด้านขวาของรถผม ขณะทีเตรียมเด็กๆขึ้นรถและจะขับรถออกจากช่องจอด อยู่ๆ ก็มีคนผลักจากทางด้านซ้ายมาขวางด้านหน้ารถผม ภรรยาและผมจึงเดินไปดูว่ารถไหลมาได้ยังไง และก็เห็นมีลุงและคู่กรณีกำลังผลักรถมาทางด้านผม ทางผมก็เลยพูดไปว่ากำลังจะออกทำไมผลักรถมาแบบนี้ แต่ทางลุง (บิดาคู่กรณี มาบอกผมและภรรยาว่ามองไม่เห็น) และคู่กรณี (ลูก) ก็เดินไปขึ้นรถเบนซ์ ป้ายแดงและขับออกจากช่องซึ่งอยู่เยื้องๆ ฝั่งตรงกันข้ามไป 2-3 คันรถได้ พร้อมกับจอดกั้นด้านหน้ารถผม พร้อมกับลดกระจกลงครึ่งระดับและพูดว่ามีปัญหาเหรอ ซึ่งขณะนั้นผมกำลังผลักรถคันที่คู่กรณีผลักมาบังทางออกกลับที่เดิมไปทางซ้าย ผมก็ได้หันไปมองและพูดกลับไปว่า เอาเถอะคุณก็ไปของคุณล่ะกันแค่นี้ยังไม่มีน้ำใจมาช่วยดันรถกลับ (ผมยืนยันว่าพูดแค่นี้จริง) แต่เห็นคู่กรณีโกรธมากและพยายามจะเปิดประตูรถลงมาหา แต่มีคนด้านใน (น่าจะเป็นพ่อแม่ของคู่กรณีผมดึงไว้เต็มกำลัง แต่ผมไม่ได้สนใจ และผลักรถต่อไป จู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงจากภรรยาซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตะโกนเสียงดังว่า “ อย่าทำร้ายเขาๆๆๆ (ซึ่งเป็นการบอกคู่กรณี อย่าทำร้ายสามี) “ ขณะนั้นผมก็หยุดผลักและหันไปเห็นเขาโถมเข้าหาทั้งตัวพร้อมรัวหมัดไปนับใส่หน้าและตัว ผมได้แต่หลบซ้าย-ขวาพร้อมถอยหลังจนล้ม เฉียดแว่นหล่นพื้น แว่นเสียหายกระจกหลุดไปข้าง

ขณะนั้น รปภ. ห้างดังฯ ได้ยินเสียงตะโกนของภรรยาผม


รปภ. ก็มาถึงที่เกิดเหตุ และกันคู่กรณีออกห่าง แต่ก็มีการโต้เถียงกันด้วยวาจา ทางผมและภรรยาก็จะบอก รปภ. ว่าจะแจ้งความและขอให้เรียกตำรวจ แต่คู่กรณีทั้งพ่อและแม่ก็ลงจากรถมา ผู้เป็นแม่มายืนข้างผม ส่วนพ่อไปยืนข้างภรรยาของผม และผมมารู้จากภรรยาของผมว่า พ่อคู่กรณีรู้สึกผิด และบอกว่า รู้นิสัยลูกว่าเป็นคนใจร้อนวู้วาม

ส่วนทางด้านผู้เป็นแม่คู่กรณี ก็พูดเปรยๆ กับผมว่าลูกตนเองก็นิสัยแบบนี้ แต่คุณก็น่าจะยอมๆ เขาหน่อย อย่าไปว่าอะไรเราแค่นี้ก็จบ (ผมเข้าใจนะครับ พ่อแม่ยอมอยู่ข้างลูกตนเอง)

แต่ผมขอถามหน่อยครับว่าครอบครัวคุณทำผิด เอาเปรียบคนอื่น และวิ่งไล่ชกต่อยชาวบ้าน แถมห้ามคนอื่นตำหนิ (แต่ให้คนอื่นยอมๆ ครอบครัวคุณก็ไม่เกิดเรื่อง มันไม่ดูแปลกๆไปหน่อยครับ) หรือว่าครอบครัวคุณขับรถเบนซ์ป้ายแดง จะมีสิทธิ์เหนือคนอื่นเหรอครับ เอารัดเอาเปรียบคนอื่น และคนอื่นต้องยอมก้มหัวให้พวกคุณเหรอครับ ถ้าแบบนั้นบ้านเมืองจะอยู่กันยังไง คนไม่เคารพกฏระเบียบกัน

ภรรยาผมโดนคู่กรณีกระโดนชกหน้า ขณะเล่าเรื่องให้ หน.และรปภ ห้างฯฟัง


ขณะที่ รปภ. ห้างฯ มาระงับเหตุการณ์ ประมาณ 10 กว่าคนได้ และบอกว่าให้ใจเย็นๆ กันและบอกรถคู่กรณีให้เลื่อนรถไปจอดช่องอีกฝั่งเพราะขวางทางเดินรถปกติ (ซึ่งขวางหน้ารถผมด้วย) ซึ่งขณะนั้นมีรถต่อแถวยาว

ขณะที่ภรรยาผมกำลังเล่าเหตุการณ์ให้ รปภ. ฟัง (2 คน ซึ่งสอบถามเรื่องราว) จู่ๆ คู่กรณี ก็วิ่งออกจากรถที่จอดและพุ่งตรง(เร็วมากครับ วีดีโอห้างฯก็บันทึกไว้ได้) ไปทางด้านหลังภรรยาของผมพร้อมกับปล่อยหมัดอย่างแรงเข้าที่บริเวณหน้า ริมฝีปากและแก้มของภรรยาของผมอย่างแรง (ซึ่งขณะนั้นผมเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรวมทั้ง รปภ. แต่ภรรยาไม่ได้ยินเสียงที่ผมพยายามตะโกนบอกว่าเขากำลังจะไปทำร้ายให้ระวัง) ภรรยาล้มทั้งยืน

รปภ. 4-5 คนรีบพุ่งเข้ามาล็อคตัวคู่กรณี และหนึ่งในนั้นโดนลูกหลงจากแรงเหวี่ยงที่คู่กรณีที่ยังไม่ยอมลดละ พยายามจะดิ้นให้หลุดเพื่อมาทำร้ายต่อ แต่ก็สู่แรง รปภ.ทั้งกลุ่มไม่ไหวและโดนกันตัวออกห่างจากที่เกิดเหตุ รวมผมและภรรยา

เรื่องราวหลังจากนี้ก็ไม่มีอะไร มีแต่คำพูดผู้พ่อและแม่ของคู่กรณีพยายามมาพูดให้เรื่องจบๆ เลิกแล้วต่อกันไป ขอโทษครับครอบครัวคุณกล้าพูดได้ไง ผมโดนลูกคุณไล่ต่อย ภรรยาผมโดนลูกคุณซึ่งเป็นผู้ชายตัวใหญ่กว่าเยอะ ต่อยผู้หญิงตัวเล็กที่ยืนหันหลังให้โดยไม่ทันตั้งตัว แล้วจะให้ทางผมและภรรยายอมให้จบกันไป ยอมเจ็บตัวฟรีๆ เหรอครับ

อีกหน่อยลูกชายคุณก็เที่ยวไปไล่ต่อยใครก็ได้ที่ไม่ชอบขี้หน้า แล้วกฏหมายเมืองไทยตำรวจจะมีไว้ทำไมครับ ถ้ามัวแต่ให้ท้ายลูก อบรมสอนลูกไม่เป็นแบบนี้ ก็ให้ ตำรวจ กฏหมาย จัดการอบรมแทนดีกว่ามั้ยครับ ตั้งแต่ใช้ชีวิตคู่กันมา ผมกับภรรยาก็ไม่เคยเอาเปรียบใคร (แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครจะมารังแกนะครับ) ถึงจะไม่รวย แค่พอมีพอกิน ก็ไม่ได้อยากได้เงินคุณหรอกครับ ถึงคุณจะรวยระดับเศรษฐี ร้อยล้านพันล้าน มีโรงเหล้า ก็ใช่ว่าจะมารังแกกันได้

ที่ สน. ตำรวจ ลงบันทึกประจำวัน


หลังจากตำรวจเดินทางมาถึง ก็ไม่มีอะไรมากเพราะ รปภ.ห้างฯ ระงับเหตุเรียบร้อยแล้ว ตำรวจก็สอบถามเรื่องราวคู่กรณีก่อน และก็มาสอบถามทางภรรยา ผมและ รปภ. พร้อมกับให้ทั้งสองเดินทางไปลงบันทึกฯ ที่ สน. ก่อนคู่กรณีจะไปออกจากที่เกิดเหตุ ยังมาพูดบอกผมว่า อยากหนีล่ะ ไปเจอกันที่ สน. นะ (ขอโทษนะครับ ผมไม่หนีหรอก ผมไปแน่ คุณต่างหากอย่าหนีล่ะ) ยังไม่มีความสำนึกในการกระทำอีก

ผมไม่คุ้นทางไป สน. แต่ก็เปิด GPS ไปจนถึง (ถึงหลังคู่กรณี) และเจ้าหน้าทีก็เรียกทั้งคู่ไปลงบันทึกประจำวันในห้อง เจ้าหน้าที่สอบถามเรื่องราว ผมและภรรยาก็เล่าไปแบบที่เกริ่นเรื่องข้างบน ทางพ่อคู่กรณีก็พูดแทรกว่า ผมยอมรับว่าทำผิดและเริ่มก่อน คู่กรณีพูดเสริมผมก็โดนชกเหมือนกัน เสื้อก็ขาด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมองมาทางหน้าภรรยาผม ซึ่งบวม เลือดกลบปาก ฟกช้ำ พร้อมพูดว่าแต่นี่ภรรยาเขาหนักกว่าคุณมาก

ขอถามหน่อยครับ สัญชาตญาณลูกผู้ชายเมื่อภัยมาถึงตัว ต่อให้คุณตัวใหญ่แค่ไหน ผมก็ไม่ยอมนะครับ จะชกป้องกันตัวเพื่อหยุดคุณ (ไม่งั้นคงช้ำใน กระอักเลือดกว่านี้) และแถมคุณยังไล่ชกภรรยาผม ผมแค้นคุณมากและยิ่งไม่ยอมคุณเอามากๆ ด้วย เรื่องนี้ไปเจอกันที่ศาลเลยครับ ถ้าเรื่องนี้ถึงศาลและผมแพ้ ก็จะได้รู้ว่ากฏหมายเมืองไทยทำอะไรคนรวยไม่ได้ แต่ลึกๆ ผมยังเชื่อในขบวนการยุติธรรมไทยครับ

ผู้พ่อคู่กรณี ยังกล้าพูดบอกผมให้เงินคุณ 3,000 บาท แล้วให้จบกันแค่นี้ โทษที ถึงผมจะไม่รวย แต่ก็ไม่อยากได้เงินคนอื่นหรอกครับ เงิน 3,000 บาทที่คุณเสนอให้ มันยังไม่พอค่าแว่นตาที่ลูกคุณทำมันแตกเลยครับ

หลังจากลงบันทึกที่ สน. ผมพาภรรยาและผมไปตรวจร่างกายที่ รพ. ธนบุรี ผลเอ๊กซเรย์ ภรรยาผมสันจมูกแตก แพทย์นัดพบหมอศัลยกรรมอีกที ไว้ผมจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังนะครับ ส่วนผม ก็มีแค่แว่นแตก ลอยช้ำตามหัวไหล่จากหมัดคู่กรณี. ตอนนี้ก็กำลังแผนการดำเนินชีวิตประจำวัน (ที่ต้องไปทำงาน) พร้อมทั้งสู้คดี ไปด้วยกัน ถ้าเพื่อนๆ มีคำแนะนำ บอกได้นะครับ

ปล. ลืมเล่าเรื่องหลังจากกลับจาก รพ. ผมแวะไปที่ห้างฯ เพื่อเอาหลักฐานจากห้างฯ ก็ทราบเรื่องจาก รปภ. ว่าคนนี้เคยมีเรื่องกับ รปภ. ห้างฯ นี้ ถึงขั้น รปภ. ต้องยอมลาออก เพราะไม่อยากมีเรื่องด้วย.

รูปข้างบนเป็นรูปภรรยาผม ซึ่งผมที่โดนทำร้าย และแว่นตาผม ที่โดนชกจนแตกไปข้างครับ ผมกำลังดำเนินเรื่องแจ้งความฯ ครับเพราะเมื่อวานเจ้าหน้าที่แค่ลงบันทึกประจำวัน เพื่อนๆมีคำแนะนำได้ครับ ตอนนี้ผมพยายามรวบรวมหลักฐานต่างๆ พร้อมทั้งพบแพทย์ตามนัดหมายครับ ก็คงต้องว่ากันไปตามกฏหมาย แต่สิ่งที่กังวลคงเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งอาจจะมีความล่าช้า เพราะผมรู่ว่าคู่กรณีเขาไม่ธรรมดา แต่จะสู้ต่อไปให้ถึงที่สุด แม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกไม่รู้เท่าไหร่ก็ตาม

ขอบคุณทุกกำลังใจ และคำแนะนำ ผมจะสู้ถึงศาลครับ แม้คุณจะใหญ่แค่ไหน เป็นศิษย์เสี่ย เทรดหุ้นพันล้านติดท๊อป 5 ของเมือง ผมก็ไม่กลัว คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทำร้ายผมไม่ได้ หันไปเล่นภรรยาผมทีเผลอ ตอนที่เขากำลังคุยกับ รปภ. ซึ่งทำให้ผมเจ็บมากมาย เป็นถึงนายแพทย์ จบจาก รพ. อันดับ 1 เมืองไทย แต่กลับทำร้ายผู้หญิงตัวเล็ก

ภาพภายนอกออกทีวี มันจอมปลอมชอบช่วยเหลือคนอื่น ช่วยเหลือที่ไหนครับ แค่นี้ยังคุมอารมณ์ไม่ได้ ไล่ทำร้ายคนท่ามกลางคน รปภ. เป็นสิบ

หวังว่าทางห้างฯ และ รปภ. จะให้การเป็นพยาน อย่างตรงไปตรงมานะครับ ไม่เห็นแก่น้ำเงิน แต่ลึกๆ ผมยังแอบเชื่อความมีน้ำใจและบริการในแบรนด์ห้างดังฯ แห่งนี้ครับ


Create Date :06 มกราคม 2558 Last Update :6 มกราคม 2558 23:06:29 น. Counter : 926 Pageviews. Comments :0