เมนูแจ้งเกิด My name is Salapoo "แกงบอน หรือ หลามบอน"
จำได้ว่า ความรู้สึกอยากบันทึกอะไรก็ได้ถ้ามันพอมีประโยชน์ต่อผู้อ่านหรือผู้พบเห็น

"กับข้าวเมือง"

คือตัวเลือกอันดับหนึ่ง  อาจเป็นเพราะความชอบที่จะศึกษา  ทดลองทำ

ทั้ง ๆ ที่ตัวเอง แทบไม่มีพื้นฐานทางการทำอาหารมาก่อน   เพราะมัวใช้ความสามารถ

ของตัวเองไปทำมาหาเงิน (แต่ไม่ค่อยเก็บ)  เสียเป็นส่วนใหญ่  ช่วงก่อนนั้นการกิน

จึงได้อาศัยฝากท้องกับร้านหรือกับข้าวสำเร็จเสียเป็นส่วนใหญ่

ปี 2554  พยายามเกษียณตัวเองออกจากงานทำมาหาเงิน  มาทำงานที่ทำมาแล้วเพลิน

ตัดสินใจเลือก การทำกับข้าว  เหตุผลเพราะใจรัก  อยากทำ

เริ่มแต่นั้นมา  ก็ฝึกทำกับข้าว  มีการถ่ายภาพขั้นตอนการทำไว้บ้าง  ความอยากบันทึกไว้

ยังไม่จางหาย  เมื่อมีเวลาว่างมากขึ้น  โอกาสที่เข้าไปท่องเที่ยวในโลกออนไลน์ ก็มากตาม

ห้องก้นครัว  คือแหล่งที่เข้ามาคลุกอยู่มากที่สุด  อ่าน  ศึกษา  อยากโพสต์เหมือนคนอื่น

ความอยากพัฒนาขึ้นเรื่อย  จนถึงประมาณเดือน มีนาคม  2555 

ตัดสินใจสมัครสมาชิก  ได้สิทธิ์  ก็เริ่มเมนูแรกยังจำได้ดี คือแกงบอน

ซึ่งปัจจุบันไม่เหลือแล้ว  เป็นเพราะความไม่ประสีประสาเรื่องเว็ป

วันนี้จึงขอถือโอกาสให้แกงบอนได้กลับมาบันทึกไว้อีกครั้ง

ข้อตกลง

1. อย่ายึดเป็นสูตรหรือวิธีทำที่ตายตัว  ให้คิดว่าเป็นเพียงแนวทางหนึ่งเท่านั้น
            2. การทำกับข้าวทุกครั้ง ทำจากสถานที่จริง  อุปกรณ์จริง  วัตถุดิบจริง  สำหรับสมาชิก
               ประมาณ 8-10 คน  กินมื้อกลางวันเป็นประจำทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์  ความเรียบร้อย
               ของวัสดุ  อุปกรณ์  ย่อมไม่เหมือนกับการทำเป็นบางครั้งบางคราว ที่พอจะมีเวลามา
               ประดิษฐ์  ประดอย  จัดฉากแสงเงาของการถ่ายภาพ  ขอให้มองส่วนที่เป็นสาระเป็นหลัก

แกงบอน หรือหลามบอน

แกงบอนเป็นอาหารพื้นบ้านของทางภาคเหนือ  ซึ่งจะหากินได้ง่าย ๆ ตามวิถีชนบททั่วไป
เพราะบอนสามารถเก็บมาจากท้องร่อง ขอบบ่อ ขอบหนอง แทบไม่ต้องซื้อหา

แกงบอนมีคำเรียกเป็นที่คุ้นหูกันดีของชาวเหนือ อีกคำ คือคำว่า"หลามบอน"
ซึ่งจริง ๆ แล้ววิธีการทำหลามบอนจริง ๆ ต้องเอาบอนพร้อมเครื่องปรุงตาง ๆ ใส่รวมกันใน
กระบอกไม้ไผ่ดิบกระบอกโต  แล้วเอาไปเผาให้สุก เหมือนเผาข้าวหลาม

บางถิ่นอาจมีคำเรียกเพิ่มขึ้นมาอีกคำหนึ่ง คือ "แกงผักหวาน" สมัยเป็นเด็กถ้าเห็นยายหอบบอน
เข้าบ้าน รู้ทันทีว่าวันนี้ต้องกินแกงบอน (บ่อยเสียด้วย)  ยายมักจะบอกพวกเราว่าวันนี้แกงผักหวาน
ทั้ง ๆ ที่เห็นอยู่โทนโท่ ว่าเป็นบอน   มาทราบทีหลังจากการได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับอาหารเหนือ
ที่เรียกว่าแกงผักหวาน เป็นภูมิปัญญาโบราณ ที่ต้องการอัพเกรดบอน  ซึ่งเป็นพืชนำมาใช้ต้ม
เป็นอาหารเลี้ยงหมู  ให้ดูดีขึ้น และอีกอย่างหนึ่งเป็นกุศโลบายเพราะเกรงว่าคนจะไม่ค่อยกล้ากิน
กลัวคันปาก  เลยเปลี่ยนมาเรียกแกงผักหวานเพื่อให้ดูดีขึ้น

แกงบอนแกงนาน ๆ   ถ้าปรุงดี ๆ มีเปรี้ยวนำ  รับรองไม่คันครับ  มีแต่คำว่าอร่อยอย่างเดียว 

ถ้าเป็นวิถีชีวิตในเมืองจริง ๆ ก็อาจหาซื้อได้ จากแม่ค้ากับข้าวเมือง  ตามตลาดเช้าทั่วไป

บอนต้นอ่อน  ขายในตลาดเป็นมัด ๆ ละ 5 บาท


จัดการลอกเยื่อหุ้ม (เปลือก) ที่เป็นใยหุ้มลำต้นออก  เลือกเอาเฉพาะก้าน ใบที่อ่อน ๆ เท่านั้น
ขั้นตอนนี้ให้ใส่ถุงมือยางด้วย  เพราะยางบอนถ้าถูกผิวหนังจะคัน  ถ้าทำเสร็จให้ล้างมือ,แขน
ด้วยน้ำมะขามเปียก  ความเปรี้ยวจะป้องกันการคันได้  ถ้าไปโดนใส่ยางบอน

ล้างสะอาดใส่ลังซึ้งนึ่งให้สุก




ขาหมูส่วนคากิ  สับเป็นชิ้น ๆ ทอดในน้ำมันให้หนังกรอบเกรียม



เตรียมเครื่องปรุง ประกอบด้วย  หอมแดง  กระเทียม  พริกแห้ง  กะปิ 
ใส่เครื่องปั่น  ปั่นละเอียด



ตั้งหม้อ ใส่ตะไคร้  ข่า ลงไปต้มด้วย



เอาน้ำพริกที่ปั่นไว้ลงต้มด้วย



ขาหมูที่ทอดไว้ลงต้มด้วย



ตั้งไฟให้เดือด  จนหมูเปื่อยนิ่ม



ตักหมูออกมาปล่อยให้เย็น แล้วแคะกระดูกออกให้หมด เหลือหนังกับเนื้อใส่กลับลงไปในหม้อน้ำแกง



เอาบอนที่นึ่งไว้  มาล้างผ่านน้ำเย็นอีกครั้ง



ถ้าเอาบอนลงแกงในน้ำแกงเลย  กว่าจะเละอาจใช้เวลานาน  เลยจัดการใช้ตัวช่วย ปั่นให้เละก่อน



ระหว่างคนก็แช่มะขามเปียกให้นิ่มแล้วคั้นเอาแต่น้ำ




คนไม่สะดวก  กลัวติดก้นหม้อ  เปลี่ยนเป็นกะทะ  ใช้ตะหลิวคนด้ามยาว ๆ หน่อยนะครับ 
มันกระเด็นโดนแขนคนจนน้ำแห้งงวด  ใส่ใบมะกรูดกับข่าซอยแว่นลงไปอีก 
ปรุงรสเปรี้ยวด้วยน้ำมะขามเปียก  โดยปรุงรสให้ออกเปรี้ยวนำ  เค็มตาม



ตำกระเทียว  เจียวในน้ำมัน จนเหลือง หอม กรอบ



พริกขี้หนูแห้ง  คั่วในหม้อน้ำมันน้อย



3 ทหารเสือ  ข้าวนึ่งหมดห่อไม่รู้ตัว



เสน่ห์กับข้าวเมือง  ทีเป็นภูมิปัญญาโบราณมาเนิ่นนานแล้ว



ขอบคุณที่ติดตามมาจนจบ   สวัสดีครับ



Create Date : 18 กันยายน 2555
Last Update : 18 กันยายน 2555 9:12:15 น.
Counter : 11766 Pageviews.

9 comments
  
แกงบอนเคยกินเมื่อ40ปีที่แล้วหลังจากนั้นไม่เคยได้กินอีกเลยทำไม่ดีมันจะคันปากมากจำได้ค่ะที่บ้านแกงใส่ย่านาง
โดย: Willkommen วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:2:47:44 น.
  
ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ แกงบอน อ่านตรงหัวบล๊อค นึกว่าแกงกะทิบอน ค่ะ หุหุ
พอมาเห็นวิธี และน้ำแกงข้นๆ แล่้่วอืมมม
น่าจิ้มข้าวเหนียว หรือคลุกข้าวสวยร้อนๆจังเลยค่ะ

ว่าแต่รสชาติ จะออกเค้มเปรี้ยวๆหรือเปล่าค่ะ (เดาเอา)
โดย: แม่บ้านครอว์ฟอร์ด วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:3:22:33 น.
  
ตามมาชิมแกงเหนือครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:5:42:33 น.
  
ปู่หันเมนูนี้แล้ว กึ๊ดเติงหาแม่ขนาดเจ้า
โดย: ละครซอ วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:7:29:36 น.
  
ไปอยู่เชียงใหม่มาสามปี ไม่เคยทานแกงบอนเลย
เป็นคุณผู้ชายที่เข้าครัวเก่งมาก เพราะดูท่าทางแกงบอนมีขั้นตอนพอสมควรเหมือนกันนะคะ
แถมต้องอาศัยเวลาในการผัดและเคี่ยวจากแกงที่เป็นน้ำ จนงวดแห้งขนาดนี้ ต้องใจเย็นพอสมควรเลยละค่ะ
ที่บ้านมีอาหารที่ทำจากบอนเหมือนกัน เรียกว่าแกงส้ม หรือแกงเหลืองค่ะ
แต่เพิ่งมาเข้า้ใจที่นี่เอง ว่าทำไมบอนเมื่อเอามาทำอาหาร ต้องมีรสเปรี้ยวร่วมอยู่ด้วย
เพราะ รสเปรี้ยวช่วยทำให้เราไม่คันนั่นเอง
ขอบคุณเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ
และยินดีที่ได้รู้จักด้วยค่ะ
โดย: บรรณภรณ์ วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:10:08:18 น.
  
~ เค้าว่ากันว่าถ้าแกงไม่้เป็นกินแล้วจะคันจริงมั๊ยคะ ~
โดย: ~ sิมน้ำ_VoUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:13:46:29 น.
  
เป็นเมนูในความทรงจำ ตั้งแต่ไม่มีพ่อแล้วไม่เคยได้กินอีกเลยเมนูนี้ พ่อนู๋ท่านจะเอาไปใส่กระบอกไม้ซางแล้วเผาเอาค่ะปู่ เผาจนบอนยุบมันจะมีไม้หลามยาวๆเอาไว้ทิ่มหรือภาษาเหนือเรียก เอาไปสวกบอกหลามบอน แกว่าเวลาทำห้ามไปคุยกันใกล้ๆมันจะคันพ่อบอกต้องทำเงียบๆคนเดียว
เสร็จแล้วแม่หรือนู๋จะตำพริกแกงไปให้พ่อจะเอาใส่ที่หลังพร้อมด้วยส้มมะกรูดและลูกมะกอกป่าเติมผักชะอมและใบตำลึงพ่อบอกมันแพ้กันมันจะช่วยให้หลามบอนไม่คัน เคล็ดลับหลายอย่างเหลือเกินก่วาจะออกมาเป็นเมนูนี้ ฮือๆคิดถึงพ่อเมื่อเห็นหลามบอน
โดย: เบียร์หมัก วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:20:41:19 น.
  
ไม่เคยกินเลยค่ะ น่าลองกินดูบ้างเหมือนกันนะคะ
โดย: ALDI วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:4:13:37 น.
  
น้ำลายไหล เป๋นดีไค้อยาก แห๋มบ่ปอ ยะหื้อกึดเติงหาบ้านขะนาดเลยเจ้า ของมักแห๋มเมนูเลยเจ้า เป๋นดีไค้สั่งออนไลน์..สักกำบ๋อ
โดย: Little pearl วันที่: 28 กันยายน 2555 เวลา:20:29:27 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สล่าปู่
Location :
แม่ฮ่องสอน  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]



กันยายน 2555

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
20
21
22
23
24
26
29
 
 
All Blog
MY VIP Friend