ฤดูกาลหากินผลไม้โปรด
ฤดูกาลนี้ ไม่มีผลไม้อะไรจะมากเท่าทุเรียนไปได้ ออกล่าหากินกันค่ะ มีสวนที่เป็นสวนประจำอยู่แล้ว โทรถามก่อนล่วงหน้า สั่งไว้เลยว่า เก็บลูกเพิ่งหล่นใหม่ๆไว้ให้ด้วย
ไม่ผิดค่ะ ทุเรียนที่แม่ตะลีกิน คือทุเรียนที่ต้องสุกหล่นจากต้น มันเป็นทุเรียนพื้นบ้าน เป็นทุเรียนป่า คนใต้โบราณ ปู่ย่าตายาย ฝังเมล็ดพันธุ์ไว้ในสวน บนเขา 10ปี 20 ปี ได้กินลูก แต่ต้นมันสูงมากๆ 20-50เมตรก็มี มาถึงรุ่นนี้ คืออายุ เกือบ 100ปี บางต้นเกิน ลูกหลานที่ได้มรดกเป็นที่บนเขา ก็มักจะได้สวนทุเรียนพื้นบ้านนี้ติดที่มา บางคนไม่ขายต่อก็โชคดีไป
เพราะเวลานี้ ผู้คนขวนขวายหาทุเรียนพื้นบ้านดั้งเดิมกิน จากที่เคยซื้อขายกัน กองละ 10-20บาท ราคาก็เขยิบมาถึง กก.ละ 60-70บาทเมื่อต้นฤดูกาล และลดลงมาเป็นกก.ละ50 บาท เมื่อใกล้วาย
สวนที่เป็นเจ้าประจำอยู่ทางเข้าน้ำตก ไม่ห่างจากบ้านแม่ตะลีนัก โทรสั่งไว้ เขาก็เก็บต้นที่หล่นใหม่ และเนื้ออร่อยไว้ให้
ลูกอร่อยคือ เนื้อละเอียด ไม่มีเส้นใย หวานมัน นุ่มลิ้น เป็นครีมสุดๆ พันธุ์ที่ชอบ เป็นชื่อเรียกของสวนเอง คือพันธุ์ไอ้ไผ่ ชื่อแล้วแต่เจ้าของจะตั้งเอง ไม่เหมือนกัน สวนใครสวนมัน
ทุเรียนบ้านจะปลูกด้วยเมล็ด ยังไงก็ไม่เหมือนเดิม เพราะแมลงผสมเกสรให้ ต้นโน้น ผสมต้นนี้ ได้พันธุ์ใหม่ๆ เปลือกเขียวสดบ้าง สีทองบ้าง เขียวอ่อนบ้าง น้ำตาลอ่อนบ้าง ลูกยาวก้นเป็นจงอย ลูกป้อมกลม ลูกเล็กนิดเดียว
บางต้นจะมีไส้เป็นสีสนิมปูดๆ ซึ่งเป็นแม่พันธุ์เอาไปผสมกับทุเรียนพันธุ์เช่นหมอนทอง ก้านยาว ก็จะได้พันธุ์ใหม่ขึ้นมา อาจเป็นพันธุ์สาริกา ที่กำลังมีชื่อและแพงมาก กก.ละถึง250-280บาท
บางต้นไส้เหนียวมาก ผ่าไม่ค่อยออก เช่นลูกนี้ เมื่อวานปล้ำผ่าจนเอ็นไหล่เคล็ด
สีของเนื้อก็จะต่างกันไป บางลูกเนื้อสีขาวจั๊วะ แต่รสชาติอร่อยมากๆ บางต้นสีเหลือง สวย บ้างก็เหลืองนวล เนื้อหนาบ้าง บางบ้าง ขนาดเม็ดล่อก็มี
แต่จะไม่ค่อยได้เห็นเมล็ดลีบค่ะ เพราะต้นที่ขึ้นได้งอกงามใหญ่โตมักเกิดจากเมล็ดที่ใหญ่โตสมบูรณ์ ลูกที่ได้ก็เมล็ดใหญ่ตามพันธุ์พ่อแม่
กินไม่หมดก็เก็บใส่ช่องแข็งทั้งเมล็ด เอามากินเป็นไอศครีมทุเรียนแท้ๆ สุดยอดความอร่อยค่ะ
บางทีก็เก็บแต่เนื้อไว้ กวน หรือเอามาใช้ผสมทำขนมได้หลายอย่าง หอมกลิ่นธรรมชาติ ฟุ้งรัญจวนใจไปสามอำเภอแน่นอนค่ะ
ใครที่ชอบทุเรียนห่าม จะไม่สามารถกินทุเรียนบ้านแบบนี้ได้เลย เพราะเขาจะเรียกเป็นปลาร้า กลิ่นแรงพาลจะเป็นลม แต่คนที่ชอบกินทุเรียนบ้าน จะรักเลย ยิ่งออกขมด้วยแล้ว เราเรียกขุงหร็อย นั่นสุดยอดความอร่อยค่ะ
กินแล้วต้องกินน้ำเยอะๆ หรือดับร้อนด้วยมังคุดค่ะ อย่าไปเอ่ย(เรอ)ใส่ใครนะคะ เพราะคนที่ไม่ชอบอาจฟาดด้วยเปลือกทุเรียนเป็นแน่แท้
เปลือกทุเรียนก็สับๆแล้วนำไปหมักทำปุ๋ยค่ะ เปลือกทุเรียนย่อยง่ายมาก
เมล็ดก็ตั้งทิ้งๆไว้แป๊บเดียวงอกตรึม ถ้ามีสวนสัก10ไร่คงได้ปลูกกันสนุกแน่ๆค่ะ
ต้องอย่าลืมว่า กินพอประมาณให้รับรู้ถึงความอร่อยพอ อย่าเกินไป เพราะไขมันและน้ำตาลวฃสูงค่ะ อันนี้เตือนตัวเองด้วยค่ะ ปีละครั้ง แต่ครั้งละหลายๆหน
สวัสดี
Create Date : 16 กรกฎาคม 2564 |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2564 13:09:06 น. |
|
12 comments
|
Counter : 1171 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณtoor36, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณtuk-tuk@korat, คุณทนายอ้วน, คุณกะว่าก๋า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณThe Kop Civil, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณหอมกร, คุณ**mp5**, คุณเริงฤดีนะ |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2564 เวลา:15:54:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กรกฎาคม 2564 เวลา:19:03:39 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 16 กรกฎาคม 2564 เวลา:22:56:59 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กรกฎาคม 2564 เวลา:6:41:55 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 17 กรกฎาคม 2564 เวลา:8:34:55 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 17 กรกฎาคม 2564 เวลา:15:03:48 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 19 กรกฎาคม 2564 เวลา:9:50:09 น. |
|
|
|
| |
แต่ชอบแบบห่ามหน่อย กรอบนอกนุ่มใน
พูดแล้วก็อยากกินขึ้นมาทันที 555