แอ่วเหนือรับลมหนาว
อยู่เมืองร้อน อยากได้รับไอหนาว ตา ยายขับรถตระเวณ มีnavigatorติดรถเป็นไกด์ พร้อมแผนที่เล่มใหญ่ เล่มน้อย และสมุดบันทึก ที่รีวิวสถานที่ ที่อยากไป
ในจังหวัดเชียงราย
สถานที่แห่งแรกคือ วัดพระแก้ว อยู่ในตัวเมืองเชียงราย ออกจากโรงแรมแต่เช้า แวะเข้ากราบพระแก้วในโบสถ์ ยังไม่มีใครมาวัดกัน มีแต่แม่ชี เก็บกวาดลานวัดอยู่ เงียบสงบร่มรื่นเป็นที่สุด ได้มีเวลานั่งภาวนาอยู่ได้นาน ไม่มีทัวร์จีนรบกวน
เดินชมรอบๆ บริเวณวัด ที่สะอาดร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาชนิด หอพระ ราวบันไดปูนปั้นงดงาม
อากาศชื้นและเย็น จนช้างแกะสลักเขียวไปด้วยตะไคร่และมอส
ที่หน้าโบสถ์ มีท่อนไม้ยมหิน ที่มีคนเอามาถวายวัดตั้งอยู่ ใหญ่จริงๆ
จิกแคระออกดอกแล้ว ต้นแคระน่ารัก
ส้านขาวก็กำลังออกดอกเต็มต้น อยู่รอบๆบริเวณวัด
วัดต่อไปคือ วัดพระสิงห์ อยู่ตรงข้ามสำนักงาน ททท. ภาคเหนือ กำลังมีงานบุญเพื่อยกเสาเอก สร้างอาคารใหม่ใกล้ๆพระอุโบสถ คนมาทำบุญกันตั้งแต่เช้ามืด
บานประตูไม้สักแกะสลัก ออกแบบโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี เป็นปริศนาธรรม แสดงถึงธาตุทั้งสี่ของมนุษย์ คือดิน น้ำ ลม ไฟ ช้าง เป็นสัญลักษณ์ของ ดิน นาค เป็นสัญลักษณ์ของ น้ำ ครุฑ เป็นสัญลักษณ์ของ ลม สิงห์โต เป็นสัญลักษณ์ของ ไฟ
ด้านข้างของพระอุโบสถ์ มีประตูเล็กๆ ถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นนกยูงรำแพน อยู่เหนือบานประตู
หอพระใกล้ๆกันกับพระอุโบสถ
เครื่องประดับตามหน้าต่างพระอุโบสถ์ เป็นลายไก่ ลายช้าง และเทวดา งดงาม
วัดต่อไปคือวัดมิ่งเมือง วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมา 800ปี มีอายุยาวนานเท่ากับการสร้างเมืองเชียงราย แต่เดิมเป็นวัดของชาวไทยใหญ่ นิยมเรียกว่า วัดเงี๊ยว ส่วนชาวเชียงรายเรียกว่า วัดจ๊างมูบ แปลว่าวัดช้างหมอบนั่นเอง บ้างก็เรียกว่า วัดตะละแม่ศรี ตามชื่อของผู้ที่เชื่อว่าเป็นผู้สร้างวัดนี้ คือเจ้านางตะละแม่ศรี ธิดาของกษัตร์พม่าเมืองหงสาวดี พระมเหสีของพ่อขุนเม็งรายมหาราช (ข้อมูลหลายอย่างมาก จนไม่รู้จะเชื่อใคร)
องค์พระประธาน คือหลวงพ่อ พระศรีมิ่งเมือง พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทองทั้งองค์ ขนาดหน้าตักกว้าง 80 นิ้ว ที่มีพุทธลักษณะที่งดงามตามพุทธศิลป์แบบเชียงแสนสิงห์ ๑ ยุคต้นโดยเฉพาะที่ยอดพระเกตุโมฬี เป็นรูปดอกบัวตูมแกะสลักจากหินแก้วจุยเจีย หรือแก้วโป่งข่าม ซึ่งเป็นหินที่เกิดขึ้นในดินแดนล้านนาเท่านั้น (กล้องมือถือไม่สามารถเก็บลายละเอียดได้ชัดเจน) วิหาร เป็นวิหารไทใหญ่ประยุกต์ผสมผสานกับรูปแบบของวิหารล้านนา ภายในตกแต่งด้วยลวดลายแกะสลักลงรักปิดทอง ประกอบกับการกรุฝ้าเพดานแบบไตรภูมิและบราลีเป็นรูปหงส์จำนวน ๓๔ ตัว
แวะสักการะพ่อขุนเม็งรายมหาราช จัดตกแต่งสวนไว้สวยงาม มีไม้ดัดเป็นรูปช้างน่ารักที่สุด
วัดที่สี่ คือ วัดร่องเสือเต้น เป็นวัดทันสมัย ใช้สีโทนน้ำเงินฟ้าแจ่มใสมากๆ ลวดลายบริเวณรอบวิหารเป็นศิลปะปูนปั้น แบบเดียวกับวัดร่องขุ่น เเพราะเป็นฝีมือของ นายพุทธา กาบแก้ว หรือสล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
เดินชมและพยายามหลีกหนีนักท่องเที่ยวจีนให้มากที่สุด แต่หนีไม่ค่อยพ้น เป็นวัดแห่งการมาเยี่ยมชม ไม่เหมาะกับการปลีกวิเวก และภาวนา เพราะทัวร์มาลงแยะมาก
ชอบสีฟ้าและน้ำเงินเฉดนี้มาก สวยแปลกตาดี
ในวัดมีต้นไม้น้อยมาก สะดุดตาที่ปาล์มไม่รู้จักชื่อต้นนี้ ทรงสวยดี
เที่ยวครบสี่วัด ต้องเอารถเข้าศูนย์ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และดูแอร์ ที่เป่าลมร้อนออกมาให้แทนลมเย็น แต่ศูนย์โตโยต้าเชียงราย เป็นศูนย์ที่ใหญ่มาก บริการอาหาร ขนมเครื่องดื่มตั้งแต่เช้า มีห้องดูหนังฟังเพลง ห้องพักผ่อนที่สะดวกสบายพร้อมwifi เลยทำให้การคอยไม่น่าเบื่อ
ออกจากศูนย์ ตายายก็ไปเที่ยวต่อได้เมื่อยามเย็น
สวัสดี
Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2561 |
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2561 18:20:28 น. |
|
39 comments
|
Counter : 1371 Pageviews. |
|
|
|
สถาปัตยกรรรมทางเหนือสวยงามนะคะ