Bright Future ... ดูอนาคตกับคนของเรา (2003)
Bright Future
ยูจิ นิมุระ ( Jo Odagiri ) ทำงานเป็นพนักงานที่โรงงานทำถุงมือแห่งหนึ่ง บุคลิคของเขาดูจะมีปัญหาอยู่เล็กน้อยเกี่ยวกับการตัดสินใจ ทำอะไรก็ลังเลอยู่บ่อยครั้ง ส่วนเวลาหลับ เขามักจะฝันถึงตัวเองในอนาคตอยู่เสมอ เวลาไม่ฝันก็จะเล่นเกม ไม่ก็อ่านการ์ตูน
มาโมรุ อะริตะ ( Tadanobu Asano ) ก็ทำงานที่เดียวกันกับ ยูจิ งานอดิเรกของ มาโมรุ คือ การเลี้ยงแมงกะพรุนแดงโดยพยายามที่จะให้มันปรับตัวในน้ำจืดให้ได้ หลายครั้งที่ ยูจิ ชอบเอามือจุ่มลงในน้ำล้อเล่นกับแมงกะพรุนอยู่บ่อยๆ จนเขาต้องดุอยู่หลายครั้งว่ามันอันตราย
ทั้งสองสนิทสนมกัน และเป็น มาโมรุ ที่ได้คิดสัญลักษณ์มือขึ้นมาไว้ใช้สำหรับสื่อสารและถือเป็นการช่วย ยูจิ ตัดสินใจได้อีกทาง หากมือเขาชี้เข้าหาตัวเอง หมายถึง " ให้รอก่อน " และถ้าชี้นิ้วไปข้างหน้า หมายถึง " ให้ไปได้เลย "
ถึงแม้ทั้งสองพึ่งมาทำงานได้ไม่นาน แต่ คุณ ฟูจิวาระ ( Takashi Sasano ) ผู้เป็นนาย ก็ดูจะพอใจในผลการทำงาน จึงตั้งใจจะให้เงินโบนัสและบรรจุทั้งสองเป็นพนักงานประจำ
วันหนึ่ง ฟูจิวาระ ได้ขอแรงให้ทั้งสองช่วยยกโต๊ะคอมพิวเตอร์ใหม่ของลูกสาว จากที่ทำงานไปไว้ที่บ้าน และก็ได้เลี้ยงอาหารเย็นเป็นการตอบแทน
หลังออกจากบ้าน ฟูจิวาระ ไปได้ไม่ไกลนัก มาโมรุ รู้สึกสังหรณ์ใจในอะไรบางอย่าง เลยหันกลับไปมองที่ตัวบ้าน แล้วพึมพำกับตัวเอง " ดูท่าพายุกำลังโหมกระหน่ำนะ "
ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ มาโมรุ พูดออกไปนั้นมันหมายความว่ายังไง แต่ที่เห็นได้ชัดถึงความเปลี่ยนแปลงคือ หลังจากวันนั้นแล้ว ฟูจิวาระ เริ่มทำตัวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทั้งสอง เช่น จู่ๆก็ขอยืมแผ่นเพลงซีดีแผ่นที่ ยูจิ ชอบฟังแต่เมื่อได้แผ่นไปก็ไม่เห็นจะเอาไปฟัง ทั้งเรื่องที่จู่ๆก็บุกไปที่บ้านของ มาโมรุ โดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า และยังทำตัวเป็นเหมือนเป็นเจ้าของบ้านซะเอง ยึดครองรีโมทคอนโทรล นั่งดูทีวีทั้งวัน ยังความตะลึงพรึงเพริดให้กับสองหนุ่ม และเมื่อ ฟูจิวาระ เหลือบไปเห็นแมงกะพรุนลอยอ้อยอิ่งอยู่ในตู้ เลยเอามือจุ่มล้อเล่นกับมัน ยูจิ จะห้ามแต่ มาโมรุ ยั้งไว้
เช้าวันถัดมา ฟูจิวาระ เรียกตัว มาโมรุ เข้าไปพบเรื่องที่จงใจปล่อยให้เขาเล่นกับแมงกะพรุนทั้งที่อาจถึงตายได้ถ้าโดนต่อย แต่ มาโมรุ ชิงลาออกก่อน ตอนเดินออกมา มาโมรุ เอามือชี้เข้าตัวเองเพื่อส่งสารบางอย่างกับ ยูจิ
ค่ำนั้น ยูจิ นึกออกว่าซีดีเพลงแผ่นที่เขาอยากฟังนั้น อยู่ที่บ้านฟูจิวาระ เขาจึงไปทวงถามคืน ระหว่างทางก็ได้คว้าเอาท่อนเหล็กติดมือไปด้วย แต่เมื่อไปถึง สิ่งที่เขาพบคือ สภาพของ ทั้งฟูจิวาระ และภรรยา นอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่บนพื้น
แล้ว มาโมรุ ก็โอนถ่ายการเลี้ยงดูแมงกะพรุนแดงให้กับ ยูจิ ส่วนตัวเขานั้นต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาฆาตกรรม
ชินอิจิโร (Tatsuya Fuji ) พ่อของ มาโมรุ แวะไปเยี่ยมลูกชายในคุก หลังจากไม่ได้เจอกันมา 5 ปี และยังแวะไปหาลูกชายอีกคนที่อาศัยอยู่กับภรรยา แต่เยื่อใยความผูกพันของพ่อลูกครอบครัวนี้ มันช่างบางเสียจนแทบมองไม่เห็น
ยูจิ มาอาศัยอยู่กับพ่อของ มาโมรุ เขาเฝ้าฟูมฟักดูแลเปลี่ยนน้ำเกลือ เติมน้ำจืด ควบคุมอุณหภูมิน้ำให้กับเจ้าแมงกะพรุนตามขั้นตอนที่ มาโมรุ สั่งไว้ จนวันหนึ่งจู่ๆความตั้งใจอันนั้นกลับหล่นหาย เขาขว้างปาสิ่งของใกล้ตัว ตู้แมงกะพรุนล้มกระแทกพื้นแตกละเอียดและตัวมันเองก็ไหลแทรกตัวลงร่องพื้นหายวับไป หลายวันผ่าน ยูจิรื้อพื้นไม้ในห้องออกดูปรากฏว่าข้างล่างเป็นคูคลองและมองเห็นเจ้าแมงกะพรุนแดงลอยอ้อยอิ่งตามประสา เหมือนตอนอยู่ในตู้
หรือว่ามันปรับตัวเข้ากับน้ำจืดได้แล้ว...
ยูจิ รู้สึกได้ว่าตัวเองมีอะไรต้องทำเพื่อเจ้าแมงกะพรุนตัวนี้ ( และเพื่อฝันของ มาโมรุ ด้วย ) ก็เลยเอาลูกกุ้งน้ำเค็มที่เลี้ยงไว้ทั้งหมดไปเทลงแหล่งน้ำ หวังให้เป็นอาหารเจ้าแมงกะพรุน หลายเดือนผ่าน พ่อมาโมรุและยูจิก็ได้เห็น ฝูง แมงกะพรุนแดงลอยในแม่น้ำ และกำลังมุ่งหน้าออกสู่ทะเล
Bright Future เป็นผลงานการเขียนบทและกำกับของ Akarui Mirai มีผลงานอันเป็นที่รู้จักกันดีอย่าง Seance (2000) , Kairo (2001) , Doppelganger (2003) หนังได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Golden Palm ของ Cannes Film Festival ในปี 2003 ส่วนในประเทศบ้านเกิด หนังได้รับรางวัล Best Film , Best Actor (Jo Odagiri ) จากเวที Japanese Professional Movie Awards 2004 และ Bright Future เคยถูกนำมาฉายในเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2005 ในกรุงเทพฯ ( วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน ถึง วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2548 )
แล้วอะไรคือ Bright Future ? ... มาหาคำตอบกัน ...
" อนาคตที่สดใส " เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ใครๆต่างก็ถวิลหากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะคนทำงาน คนไม่ได้ทำงาน หรือกระทั่งนักเรียนนักศึกษา ขยันหมั่นเรียนก็เพื่อจบมาแล้วจะได้มีงานมีการทำงานอย่างที่ร่ำเรียนมา คนที่มีหน้าที่การงาน ก็ตั้งใจ เอาใจใส่ รับผิดชอบในหน้าที่ของตน เพื่อเงินเดือนและเผื่อได้รับพิจารณาเลื่อนขั้น ซึ่งก็หมายรวมไปถึงเมื่อมีเงินเยอะก็ (คง) สามารถที่จะสรรหาสิ่งดีดีมีคุณภาพให้แก่คู่ชีวิตหรือบุตร-ธิดาได้ และอย่าว่าแต่คนเลย แมงกะพรุนที่เป็นสัตว์เองแท้ๆ ก็ยังต้องดิ้นรนหาหนทางไปสู่ฝั่งฝันของตัวเองเหมือนกัน การเดินทางของชีวิต จากตู้ปลา ไปสู่ลำคลอง สู่แม่น้ำ และก็ได้กลับสู่ทะเลบ้านเกิดในที่สุด
แต่หนทางในการไปสู่จุดหมาย ก็ไม่ได้ง่ายดายหรือราบรื่นไปซะทั้งหมด แมงกะพรุนที่มาจากทะเลกว้างใหญ่ ถูกจับมากักขังในตู้เล็กๆ แถมยังโดนบังคับให้พยายามอยู่ในที่ที่ตัวไม่คุ้น (หรืออาจจะอยู่ไม่ได้เลย) คือน้ำจืดอีก มันจึงต้องอาศัยการปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด ซึ่งเป็นขบวนการที่ก็ใช่จะเกิดได้ในเวลาอันสั้น
เหมือนกับ ยูจิ ที่ทำงานในโรงงานทำถุงมือยางนั้น วันๆก็คัดแยกสินค้าและยกของ เป็นงานที่ทำแบบจำเจ ซ้ำซากและไม่ต้องอาศัยทักษะความรู้ใดๆเป็นพิเศษ ซึ่งออกจะดูประชดประชันเสียเหลือเกิน เมื่อนำไปเทียบกับชื่อของหนัง หลังจากเขาขาดหลักพึ่งพิงอย่าง มาโมรุ ไป ชีวิตของเขาก็เริ่มปัดเป๋ ทำอะไรไม่ถูก ( ต้องปรับตัว ) พ่อของมาโมรุชวนให้ไปช่วยทำงานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ระหว่างนั้นก็จะได้เลี้ยงลูกกุ้งอาหารแมงกะพรุนไปด้วย แต่เมื่อวันหนึ่งเครื่องกรองน้ำเสีย กุ้งตายหมด ยูจิ ก็สติแตกกลับไปหมกตัวอยู่ในห้องตัวเอง เอาแต่นอน ปล่อยสภาพห้องรกรุงรังเต็มไปด้วยขยะ จนน้องสาวต้องมาลากให้ลุกไปเริ่มชิวิตใหม่ ให้ไปเป็นผู้ช่วยทั่วไป ถ่ายเอกสารและทำความสะอาดที่สำนักงานที่เธอทำอยู่ เธอคงอยากให้วันข้างหน้าของพี่ชายได้ดิบได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้กระมัง
สิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่ง ที่หนังตั้งใจเล่า เพื่อชี้ประเด็นหลักให้แจ่มชัดขึ้นคือ กลุ่มนักเรียนชายขาโจ๋ 7 คน ( ใส่ชุดนักเรียน ) ได้มาเจอ ยูจิ ในสภาพแบตหมด ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง คุยกันไปคุยกันมาทั้งเรื่องเพลงเรื่องเกมแล้วก็รู้ได้เลยว่าเป็นพวกบ้าเหมือนกันเป็นพวกเดียวกัน วันหนึ่งหลังเลิกงาน ยูจิ ก็เกิดคึกคะนอง ขโมยกุญแจสำนักงานและชวนกลุ่มก๊วนนักเรียนทั้ง 7 เข้าไปขโมยเงิน รื้อค้นของ แล้วเด็กทั้งหมดก็โดนตำรวจจับ
ยูจิ หนีรอดไปได้ และกลับไปอยู่กับ พ่อของมาโมรุ ตามเดิม ขยันขันแข็ง และ เริ่มพบการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย เพราะการเอาใจใส่ดูแลสั่งสอนของพ่อของมาโมรุ
หลายวันผ่าน เด็กนักเรียนทั้ง 7 ในชุดนักเรียนกลุ่มเดิม นั่งคุยถึงคืนวันนั้น และบ่นคิดถึง ยูจิ มีบางคนยอมรับในตัว ยูจิ ว่าเจ๋ง ว่าเป็นฮีโร่ของพวกเขา แล้วทั้งหมดก็ออกมาเดินคุยกันบนถนนเล็กๆเส้นหนึ่งที่ทอดขนานกับถนนใหญ่ เดินไปเตะก็กล่องกระดาษส่งรับกันไปมา หัวเราะเริงร่าอย่างมีความสุข ในชอตที่เดินอยู่นี้มีความยาวร่วม 4 นาที โดยไม่มีตัดต่อ ทั้งหมดเดินกันไปเรื่อยๆ จนมาเลี้ยวเอาที่ทางแยกเล็กๆ แล้วเดินลงสู่ถนนใหญ่
ซึ่งเป็นภาพเดียวกัน พ้องกัน กับคราวที่ฝูงแมงกะพรุน กำลังลอยละล่อง เคลื่อนตัวไปตามกระแสน้ำ ในแม่น้ำสายเล็กๆ โดยปลายทางข้างหน้านั้นคือทะเลอันกว้างใหญ่
แมงกะพรุน มีท้องทะเลเป็นทุ่งแห่งความหวัง
ยูจิ เองก็ต้องผ่านการต่อสู้ทั้งกับตัวเองและคนรอบข้างมากมาย กว่าจะเผชิญหน้ากับโลกจริงได้
แต่ เด็กนักเรียน ที่พึ่งจะโดนจับและถูกปล่อยตัวออกมา กำลังชื่นชมกับการกระทำแย่ๆของผู้ใหญ่ ( ยูจิ ) และของตัวเอง ............ อนาคตของชาติ
แล้ว ลูกสาว ของคุณ ฟูจิวาระ ที่ถูกไว้ชีวิตให้รอดพ้นจากการฆาตกรรมในครั้งนั้น จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร............ นี่ก็ อนาคตของชาติ เหมือนกัน
ดูท่าจะไม่ง่ายนัก ในการที่จะทำอะไรอะไรให้ดูสว่างใส ราบรื่น ภายใต้พื้นฐานของความคิดอย่างเด็กนักเรียน และ กับสภาวะจิตของเด็กสาวในเรื่องนี้เป็นอยู่
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2549 |
|
20 comments |
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2549 19:07:48 น. |
Counter : 1309 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 17 พฤศจิกายน 2549 7:44:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: unwell 17 พฤศจิกายน 2549 17:57:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 17 พฤศจิกายน 2549 18:27:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: tonyham (tonyham ) 18 พฤศจิกายน 2549 20:12:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 19 พฤศจิกายน 2549 17:58:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: unwell 21 พฤศจิกายน 2549 10:14:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: Oakyman 21 พฤศจิกายน 2549 14:19:40 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
โอไม่รู้จักเรื่องนี้เลยแหะ เรนตั้นขยันหาหนังดีๆมาให้เราอ่านจริงๆเลยนะ
รีบเขียนให้จบนา