Bright Future ... ดูอนาคตกับคนของเรา (2003)



Bright Future

ยูจิ นิมุระ ( Jo Odagiri ) ทำงานเป็นพนักงานที่โรงงานทำถุงมือแห่งหนึ่ง บุคลิคของเขาดูจะมีปัญหาอยู่เล็กน้อยเกี่ยวกับการตัดสินใจ ทำอะไรก็ลังเลอยู่บ่อยครั้ง ส่วนเวลาหลับ เขามักจะฝันถึงตัวเองในอนาคตอยู่เสมอ เวลาไม่ฝันก็จะเล่นเกม ไม่ก็อ่านการ์ตูน

มาโมรุ อะริตะ ( Tadanobu Asano ) ก็ทำงานที่เดียวกันกับ ยูจิ งานอดิเรกของ มาโมรุ คือ การเลี้ยงแมงกะพรุนแดงโดยพยายามที่จะให้มันปรับตัวในน้ำจืดให้ได้ หลายครั้งที่ ยูจิ ชอบเอามือจุ่มลงในน้ำล้อเล่นกับแมงกะพรุนอยู่บ่อยๆ จนเขาต้องดุอยู่หลายครั้งว่ามันอันตราย

ทั้งสองสนิทสนมกัน และเป็น มาโมรุ ที่ได้คิดสัญลักษณ์มือขึ้นมาไว้ใช้สำหรับสื่อสารและถือเป็นการช่วย ยูจิ ตัดสินใจได้อีกทาง หากมือเขาชี้เข้าหาตัวเอง หมายถึง " ให้รอก่อน " และถ้าชี้นิ้วไปข้างหน้า หมายถึง " ให้ไปได้เลย "

ถึงแม้ทั้งสองพึ่งมาทำงานได้ไม่นาน แต่ คุณ ฟูจิวาระ ( Takashi Sasano ) ผู้เป็นนาย ก็ดูจะพอใจในผลการทำงาน จึงตั้งใจจะให้เงินโบนัสและบรรจุทั้งสองเป็นพนักงานประจำ

วันหนึ่ง ฟูจิวาระ ได้ขอแรงให้ทั้งสองช่วยยกโต๊ะคอมพิวเตอร์ใหม่ของลูกสาว จากที่ทำงานไปไว้ที่บ้าน และก็ได้เลี้ยงอาหารเย็นเป็นการตอบแทน

หลังออกจากบ้าน ฟูจิวาระ ไปได้ไม่ไกลนัก มาโมรุ รู้สึกสังหรณ์ใจในอะไรบางอย่าง เลยหันกลับไปมองที่ตัวบ้าน แล้วพึมพำกับตัวเอง " ดูท่าพายุกำลังโหมกระหน่ำนะ "

ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ มาโมรุ พูดออกไปนั้นมันหมายความว่ายังไง แต่ที่เห็นได้ชัดถึงความเปลี่ยนแปลงคือ หลังจากวันนั้นแล้ว ฟูจิวาระ เริ่มทำตัวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทั้งสอง เช่น จู่ๆก็ขอยืมแผ่นเพลงซีดีแผ่นที่ ยูจิ ชอบฟังแต่เมื่อได้แผ่นไปก็ไม่เห็นจะเอาไปฟัง ทั้งเรื่องที่จู่ๆก็บุกไปที่บ้านของ มาโมรุ โดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า และยังทำตัวเป็นเหมือนเป็นเจ้าของบ้านซะเอง ยึดครองรีโมทคอนโทรล นั่งดูทีวีทั้งวัน ยังความตะลึงพรึงเพริดให้กับสองหนุ่ม และเมื่อ ฟูจิวาระ เหลือบไปเห็นแมงกะพรุนลอยอ้อยอิ่งอยู่ในตู้ เลยเอามือจุ่มล้อเล่นกับมัน ยูจิ จะห้ามแต่ มาโมรุ ยั้งไว้




เช้าวันถัดมา ฟูจิวาระ เรียกตัว มาโมรุ เข้าไปพบเรื่องที่จงใจปล่อยให้เขาเล่นกับแมงกะพรุนทั้งที่อาจถึงตายได้ถ้าโดนต่อย แต่ มาโมรุ ชิงลาออกก่อน ตอนเดินออกมา มาโมรุ เอามือชี้เข้าตัวเองเพื่อส่งสารบางอย่างกับ ยูจิ

ค่ำนั้น ยูจิ นึกออกว่าซีดีเพลงแผ่นที่เขาอยากฟังนั้น อยู่ที่บ้านฟูจิวาระ เขาจึงไปทวงถามคืน ระหว่างทางก็ได้คว้าเอาท่อนเหล็กติดมือไปด้วย แต่เมื่อไปถึง สิ่งที่เขาพบคือ สภาพของ ทั้งฟูจิวาระ และภรรยา นอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่บนพื้น

แล้ว มาโมรุ ก็โอนถ่ายการเลี้ยงดูแมงกะพรุนแดงให้กับ ยูจิ ส่วนตัวเขานั้นต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาฆาตกรรม

ชินอิจิโร (Tatsuya Fuji ) พ่อของ มาโมรุ แวะไปเยี่ยมลูกชายในคุก หลังจากไม่ได้เจอกันมา 5 ปี และยังแวะไปหาลูกชายอีกคนที่อาศัยอยู่กับภรรยา แต่เยื่อใยความผูกพันของพ่อลูกครอบครัวนี้ มันช่างบางเสียจนแทบมองไม่เห็น

ยูจิ มาอาศัยอยู่กับพ่อของ มาโมรุ เขาเฝ้าฟูมฟักดูแลเปลี่ยนน้ำเกลือ เติมน้ำจืด ควบคุมอุณหภูมิน้ำให้กับเจ้าแมงกะพรุนตามขั้นตอนที่ มาโมรุ สั่งไว้ จนวันหนึ่งจู่ๆความตั้งใจอันนั้นกลับหล่นหาย เขาขว้างปาสิ่งของใกล้ตัว ตู้แมงกะพรุนล้มกระแทกพื้นแตกละเอียดและตัวมันเองก็ไหลแทรกตัวลงร่องพื้นหายวับไป หลายวันผ่าน ยูจิรื้อพื้นไม้ในห้องออกดูปรากฏว่าข้างล่างเป็นคูคลองและมองเห็นเจ้าแมงกะพรุนแดงลอยอ้อยอิ่งตามประสา เหมือนตอนอยู่ในตู้

หรือว่ามันปรับตัวเข้ากับน้ำจืดได้แล้ว...




ยูจิ รู้สึกได้ว่าตัวเองมีอะไรต้องทำเพื่อเจ้าแมงกะพรุนตัวนี้ ( และเพื่อฝันของ มาโมรุ ด้วย ) ก็เลยเอาลูกกุ้งน้ำเค็มที่เลี้ยงไว้ทั้งหมดไปเทลงแหล่งน้ำ หวังให้เป็นอาหารเจ้าแมงกะพรุน หลายเดือนผ่าน พ่อมาโมรุและยูจิก็ได้เห็น ฝูง แมงกะพรุนแดงลอยในแม่น้ำ และกำลังมุ่งหน้าออกสู่ทะเล

Bright Future เป็นผลงานการเขียนบทและกำกับของ Akarui Mirai มีผลงานอันเป็นที่รู้จักกันดีอย่าง Seance (2000) , Kairo (2001) , Doppelganger (2003) หนังได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Golden Palm ของ Cannes Film Festival ในปี 2003 ส่วนในประเทศบ้านเกิด หนังได้รับรางวัล Best Film , Best Actor (Jo Odagiri ) จากเวที Japanese Professional Movie Awards 2004 และ Bright Future เคยถูกนำมาฉายในเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2005 ในกรุงเทพฯ ( วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน ถึง วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2548 )



แล้วอะไรคือ Bright Future ? ... มาหาคำตอบกัน ...


" อนาคตที่สดใส " เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ใครๆต่างก็ถวิลหากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะคนทำงาน คนไม่ได้ทำงาน หรือกระทั่งนักเรียนนักศึกษา ขยันหมั่นเรียนก็เพื่อจบมาแล้วจะได้มีงานมีการทำงานอย่างที่ร่ำเรียนมา คนที่มีหน้าที่การงาน ก็ตั้งใจ เอาใจใส่ รับผิดชอบในหน้าที่ของตน เพื่อเงินเดือนและเผื่อได้รับพิจารณาเลื่อนขั้น ซึ่งก็หมายรวมไปถึงเมื่อมีเงินเยอะก็ (คง) สามารถที่จะสรรหาสิ่งดีดีมีคุณภาพให้แก่คู่ชีวิตหรือบุตร-ธิดาได้ และอย่าว่าแต่คนเลย แมงกะพรุนที่เป็นสัตว์เองแท้ๆ ก็ยังต้องดิ้นรนหาหนทางไปสู่ฝั่งฝันของตัวเองเหมือนกัน การเดินทางของชีวิต จากตู้ปลา ไปสู่ลำคลอง สู่แม่น้ำ และก็ได้กลับสู่ทะเลบ้านเกิดในที่สุด

แต่หนทางในการไปสู่จุดหมาย ก็ไม่ได้ง่ายดายหรือราบรื่นไปซะทั้งหมด แมงกะพรุนที่มาจากทะเลกว้างใหญ่ ถูกจับมากักขังในตู้เล็กๆ แถมยังโดนบังคับให้พยายามอยู่ในที่ที่ตัวไม่คุ้น (หรืออาจจะอยู่ไม่ได้เลย) คือน้ำจืดอีก มันจึงต้องอาศัยการปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด ซึ่งเป็นขบวนการที่ก็ใช่จะเกิดได้ในเวลาอันสั้น

เหมือนกับ ยูจิ
ที่ทำงานในโรงงานทำถุงมือยางนั้น วันๆก็คัดแยกสินค้าและยกของ เป็นงานที่ทำแบบจำเจ ซ้ำซากและไม่ต้องอาศัยทักษะความรู้ใดๆเป็นพิเศษ ซึ่งออกจะดูประชดประชันเสียเหลือเกิน เมื่อนำไปเทียบกับชื่อของหนัง หลังจากเขาขาดหลักพึ่งพิงอย่าง มาโมรุ ไป ชีวิตของเขาก็เริ่มปัดเป๋ ทำอะไรไม่ถูก ( ต้องปรับตัว ) พ่อของมาโมรุชวนให้ไปช่วยทำงานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ระหว่างนั้นก็จะได้เลี้ยงลูกกุ้งอาหารแมงกะพรุนไปด้วย แต่เมื่อวันหนึ่งเครื่องกรองน้ำเสีย กุ้งตายหมด ยูจิ ก็สติแตกกลับไปหมกตัวอยู่ในห้องตัวเอง เอาแต่นอน ปล่อยสภาพห้องรกรุงรังเต็มไปด้วยขยะ จนน้องสาวต้องมาลากให้ลุกไปเริ่มชิวิตใหม่ ให้ไปเป็นผู้ช่วยทั่วไป ถ่ายเอกสารและทำความสะอาดที่สำนักงานที่เธอทำอยู่ เธอคงอยากให้วันข้างหน้าของพี่ชายได้ดิบได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้กระมัง




สิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่ง ที่หนังตั้งใจเล่า เพื่อชี้ประเด็นหลักให้แจ่มชัดขึ้นคือ กลุ่มนักเรียนชายขาโจ๋ 7 คน ( ใส่ชุดนักเรียน ) ได้มาเจอ ยูจิ ในสภาพแบตหมด ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง คุยกันไปคุยกันมาทั้งเรื่องเพลงเรื่องเกมแล้วก็รู้ได้เลยว่าเป็นพวกบ้าเหมือนกันเป็นพวกเดียวกัน วันหนึ่งหลังเลิกงาน ยูจิ ก็เกิดคึกคะนอง ขโมยกุญแจสำนักงานและชวนกลุ่มก๊วนนักเรียนทั้ง 7 เข้าไปขโมยเงิน รื้อค้นของ แล้วเด็กทั้งหมดก็โดนตำรวจจับ

ยูจิ หนีรอดไปได้ และกลับไปอยู่กับ พ่อของมาโมรุ ตามเดิม ขยันขันแข็ง และ เริ่มพบการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย เพราะการเอาใจใส่ดูแลสั่งสอนของพ่อของมาโมรุ

หลายวันผ่าน เด็กนักเรียนทั้ง 7 ในชุดนักเรียนกลุ่มเดิม นั่งคุยถึงคืนวันนั้น และบ่นคิดถึง ยูจิ มีบางคนยอมรับในตัว ยูจิ ว่าเจ๋ง ว่าเป็นฮีโร่ของพวกเขา แล้วทั้งหมดก็ออกมาเดินคุยกันบนถนนเล็กๆเส้นหนึ่งที่ทอดขนานกับถนนใหญ่ เดินไปเตะก็กล่องกระดาษส่งรับกันไปมา หัวเราะเริงร่าอย่างมีความสุข ในชอตที่เดินอยู่นี้มีความยาวร่วม 4 นาที โดยไม่มีตัดต่อ ทั้งหมดเดินกันไปเรื่อยๆ จนมาเลี้ยวเอาที่ทางแยกเล็กๆ แล้วเดินลงสู่ถนนใหญ่

ซึ่งเป็นภาพเดียวกัน พ้องกัน กับคราวที่ฝูงแมงกะพรุน กำลังลอยละล่อง เคลื่อนตัวไปตามกระแสน้ำ ในแม่น้ำสายเล็กๆ โดยปลายทางข้างหน้านั้นคือทะเลอันกว้างใหญ่

แมงกะพรุน มีท้องทะเลเป็นทุ่งแห่งความหวัง

ยูจิ เองก็ต้องผ่านการต่อสู้ทั้งกับตัวเองและคนรอบข้างมากมาย กว่าจะเผชิญหน้ากับโลกจริงได้

แต่ เด็กนักเรียน ที่พึ่งจะโดนจับและถูกปล่อยตัวออกมา กำลังชื่นชมกับการกระทำแย่ๆของผู้ใหญ่ ( ยูจิ ) และของตัวเอง ............ อนาคตของชาติ

แล้ว ลูกสาว ของคุณ ฟูจิวาระ ที่ถูกไว้ชีวิตให้รอดพ้นจากการฆาตกรรมในครั้งนั้น จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร............ นี่ก็ อนาคตของชาติ เหมือนกัน


ดูท่าจะไม่ง่ายนัก
ในการที่จะทำอะไรอะไรให้ดูสว่างใส ราบรื่น ภายใต้พื้นฐานของความคิดอย่างเด็กนักเรียน และ กับสภาวะจิตของเด็กสาวในเรื่องนี้เป็นอยู่




 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2549
20 comments
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2549 19:07:48 น.
Counter : 1309 Pageviews.

 

ฮ่าๆ มาเจิมๆ

โอไม่รู้จักเรื่องนี้เลยแหะ เรนตั้นขยันหาหนังดีๆมาให้เราอ่านจริงๆเลยนะ

รีบเขียนให้จบนา

 

โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 17 พฤศจิกายน 2549 7:44:52 น.  

 

เราคิดว่าเจ้าแมงกระพรุนแดง คือความหมายของ bright future นะ แต่เดี๋ยวมาอีกทีใช่มั๊ย
โอเค งั้นเดี๋วเรามาใหม่นะ

 

โดย: goldfish memory 17 พฤศจิกายน 2549 10:55:50 น.  

 

กรี๊ด หนุ่ม เอ้ย หนังญี่ปุ่น

น่าดูจังเลย แมงกะพรุนแดงสู้ชีวิต

อยากได้ของฝากหรือเปล่าเรนโกะจัง ขอยืมดูเรื่องนี้หน่อยดิ (แลกกัน)

 

โดย: unwell 17 พฤศจิกายน 2549 17:57:41 น.  

 

น่าสนใจเลยนะค่ะเรื่องนี้ ... พล็อตเรื่องเข้าท่ามาก simple but nice อ่ะค่ะ

 

โดย: JewNid 17 พฤศจิกายน 2549 18:27:25 น.  

 

รู้จักเรื่องนี้ เพราะ ชอบโอดางิริ โจ พระเอกไรเดอร์คูกะ
น่าจะเป็นพระเอกหนังเด็กที่มาไกลสุด และมีฝีมือสุดแล้วละมั้ง
ว่าแล้วก็ร่วมกันลุ้นหงส์ถล่มโบโร่นอกบ้านให้ได้

 

โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY 18 พฤศจิกายน 2549 12:15:24 น.  

 

เป็นหนังที่มีเนื้อเรื่องดีมากๆเลยค่ะ

 

โดย: tonyham (tonyham ) 18 พฤศจิกายน 2549 20:12:40 น.  

 

หนังเนื้อหาน่าสนใจเลยทีเดียวครับ ไปซึทาย่าพรุ่งนี้ไปเล็งดีกว่า






ปล. ไม่ได้มาเยี่ยมนานต้องขอโทษด้วยนะครับผม และถ้าอยากโยกน้อยๆ พองาม ไปที่บล็อกผมได้เสมอนะครับ

 

โดย: เข็มขัดสั้น 19 พฤศจิกายน 2549 0:06:36 น.  

 



BloodyMonday คุณ goldfish memory
เราเขียนเสร็จเลี้ยวน๊า...อย่าลืมแวะมาอ่านต่อให้จบนะเจ้าคะ

สาวญี่ปุ่น
ของฝากเหรอคะ อุ๊ย ไม่เป็นไรค่ะเกรงใจ๊เกรงใจ ฮิฮิฮิ ( ทำตัวเป็นคนไม่เห็นแก่ได้สุดฤทธิ์ แต่... ) ส่งมาไวไวนะเจ้าคะ
ส่วนแผ่นนี้ เด๋วส่งให้พรุ่งนี้จ้า..

คุณ Jewnid
เห็นด้วยค่ะ ว่ามันดูเรียบง่าย แต่มีอะไรให้คิดเยอะ

คุณ sTRAWBERRY sOMEDAY
เราว่าหน้าตาแกคุ้นๆนะ เห็นว่าแสดงใน azumi ด้วย ..เราจำไม่ได้เลยอ่ะ จำได้แต่นางเอก 5 5 5+............ผลออกมาเสมอ..เฮ้อ..ได้ 1 แต้มก็ยังดีเนอะ

คุณ tonyham
ขอบคุณนะค๊าที่แวะมา ^_^ ยังอิจฉาอยู่เลยอ่ะ ได้ใกล้ชิดเฮียเหลียงอ่ะ............

คุณ เข็มขัดสั้น*คาดไม่ถึง
หามิได้เจ้าค่ะ ว่างๆก็แวะมาได้ซำเหมอ...เราแวะไปโยกมาแว้วววจ้า...โยกกันเพลินไปเรยยยย





ไปดู คาสิโน รอแยล มา...........ขอบอกว่า เป็นบอนด์ตอนแรกเลยที่เรากระเหี้ยนกระหือรืออยากจะดู อยากจะดู ปกติแล้วไม่ใช่แฟนประจำแฟนพันแท้ของแกเท่าไร แต่ก็ดูมาตลอดอ่ะนะ(รุ่นหลังๆ) และตอนนี้ กำลังกระหน่ำฉายที่สตาร์มูฟวี่ เปิดไปทีไรก็เจอ ไม่ตอนใดก็ตอนนึง...บ้าไปเลยดีกว่า หุ หุ เอ้า..ว่ากันถึงพี่เครกต่อดีก่า......คาสิโน รอแยล เป็นตอนที่มีบอนด์ได้เท่ห์ ได้เถื่อน ได้ดิบ มากๆ ไม่เจ้าสำอางค์ ไม่หล่อ แต่เห็นแล้วเร้าจาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า จะว่าไป ตอนที่แกใส่สูทหรูที่นางเอกจัดหาให้อ่ะ..อ๊ะโห คนทั้งโรงพร้อมใจกันทำเสียงเบาว่า " อู้หู " ( แทนความหมายว่าเท่โคตร ค่ะ อิอิ ) รวมทั้งอาวุธยุทธโธปกรก็ไม่วุ่นวายฮายเทคดี แค่ปืนเก็บเสียง ยิงปุ๊กๆยังกะสไนเปอร์ก็เหลือแหล่แล้ว กะจีพีเอสอีกก็โอเค

เป็นบอนด์ที่มีความเป็นมนุษย์ปุถุชนทั่วไปมั่กๆ เล่นโป๊กเกอร์ก็มีแพ้มีชนะ มีผิดพลาด มีสำเร็จ แถมกับมีอารมณ์ขันติดอยู่ด้วย..น่ารักจิงๆ ใครที่ได้ดูแล้วก้อคงอดฮาไม่ได้ตอนแกถูกจับมัดเก้าอี้...5 5 5+

เคยดูพี่เครกใน ซิลเวีย ตอนนั้นก็ดูเท่นะ เท่แบบนักเขียนตกอับอ่ะ สำหรับเรา รังสี ความเท่ของแก มันออกมาตั้งแต่ตอนนั้นแหละ ไหนจะใน เลเยอณ์เค๊ก อีก และล่าสุดใน มิวนิค โอ้ โอ้ โอ้.........

สรุปว่า คาสิโน รอแยล สนุกและมันส์สุดๆเจ้าค่ะ
(นี่พูดถึงแต่พระเอกล้วนๆเลยนะเนี่ย..)

 

โดย: renton_renton 19 พฤศจิกายน 2549 8:25:21 น.  

 

( ต่อ )

หลังดูจบออกมาบ่าย 3 กว่า กะว่าจะไปดู imprint ของลุงมิอิเกะที่ เฮ้าส์ ปรากฏว่า หน้าสยามรถติดมากมาก มากยิ่งกว่ามาก แถมมันไม่ขยับไปไหนเลย 10 นาทีเคลื่อนที่ได้ 3 เมตร โอพระเจ้า..........รอ ปอออ(ไม่)พอ 23 ไม่มาเลยยยยยยยยยยยยยยยย นานโคตร รอร่วม 40 นาที ไม่ไหวฟ่ะ.........เบื่อแล้ว...เลยตัดสินใจข้ามถนนกลับมาฝั่งลิโด้เหมือนเดิม...ชีวิตนี้ทำอะไรไม่เป็นนอกจากเดินไปซื้อตั๋ว คาสิโนรอยัล รอบ 4 โมงเย็น จบ 6.45 เลยตีตั๋ว step up ต่อเลยยย สะใจ (เรื่องนี้ก็ดูรอบที่สอง..แบบว่าชอบมั่กๆอ่ะ)

จบทั้งสองเรื่องออกมาเกือบสามทุ่ม..สะใจ ถนนโล่ง มีฝนด้วยแฮะ ตกตอนไหน ไม่รู้เรื่องเลย

หนังลุงมิอิเกะ เลยยังไม่ได้ดู เด๋วต้องหาช่องแวะไปดูให้ได้ ในเวปของ เฮ้าส์ บอกไว้ว่า หนังในโครงการนี้ เฉพาะเรื่อง imprint เท่านั้น ที่งดขายตั๋วให้กับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ขวบค่า.. ว๊า เกือบ ไม่ได้ดูนะเนี่ย 5 5 5+

 

โดย: renton_renton 19 พฤศจิกายน 2549 8:36:10 น.  

 

อ๊ากกกอยากดูเจมสะบอน

สงสัยต้องรอแผ่นอีกแล้ว โอ้ยเซ็งๆๆๆๆๆ

ปล.จะหาว่าเชยก็ได้ แต่เพิ่งดู My Sassy Girl ไปเมื่อคืน
โอ้เราไม่แยแสมันมาตั้ง......หลายปีไปได้อย่างไรเนี่ย

 

โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 19 พฤศจิกายน 2549 17:58:41 น.  

 

คุณเขียนรีวิวหนังได้น่าสนใจดีครับ ไม่ทราบว่าอยู่อังกฤษหรือใช่ไหม มีหนังเอเชียให้ดูมากไหมครับ ?

 

โดย: Johann sebastian Bach 19 พฤศจิกายน 2549 19:04:34 น.  

 

มาแล้วจ้า หายศีรษะไปเพราะเน็ตมันอืดเป็นเต่า เมื่อวานทุยก็เดี้ยง เศร้าจริง
หนังน่าดูอีกแล้วค่ะคุณ renton ขา ไม่รู้ไปหามาจากไหนนั่น
ชอบๆที่คุณรีวิวจัง มันเชิญชวนให้อยากดูไปทุกเรื่อง ได้ hard candy มาดูล่ะ แต่ม่ะมีsub ต้องอาศัย skill eng น่าดู อ่อนด๋อยภาษาเป็นอย่างยิ่งน่อ ได้ดู closer กับ infernal affairs 1 และ 2 ไป (อือกว่าจะได้ดู เชยอีกแล้วเรา)

น่าเกาะคุณ renton ไปดูหนังด้วยจัง

 

โดย: i_am_redangel 19 พฤศจิกายน 2549 22:12:46 น.  

 

อ่อ...ลืมไปกับ James Bond : Casino Royale
เท่าที่ได้อ่านจากคุณ renton ทำให้น่าดูขึ้นเยอะ เราไปติดภาพบอนด์จาก ตอนเก่าๆมากไปมั้ง ทำให้เราคิดว่าบอนด์ภาคนี้ดูลุคแล้วไม่ใช่บอนด์ ติดภาพ Pierce Brosnan มากเกิน

อ่อ...เมื่อคืนผีแดงเกือบม่ะรอดแน่ะท่าน

 

โดย: i_am_redangel 19 พฤศจิกายน 2549 22:21:59 น.  

 

แมงกะพรุนเจ๋งอ่ะ

รูปที่ 3 ใช่ 'พ่อ' ใน village album รึเปล่า

 

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ 20 พฤศจิกายน 2549 1:32:24 น.  

 

เหมือนคุณ renton_renton

ไม่เคยคิดอยากดูบอนด์เลย ยกเว้นภาคนี้
อาจเพราะแดเนี่ยลเค้าไม่เพอร์เฟ็คมั้ง

 

โดย: Thebrightestsunisthepurestgun 20 พฤศจิกายน 2549 13:10:54 น.  

 

มาตอบกรณีราโชมอนในบล็อกผมครับ

ผมเดาเอานะครับที่อาจารย์ปิดเสียง น่าจะมีได้กรณีเดียวคือต้องการบอกว่า หนังนั้นเป็นการเล่าเรื่องด้วยภาพ เราไม่จำเป็นต้องฟังรู้เรื่องเราก็ดูได้รู้เรื่องครับ

ตอนผมเรียนกับ อ.แดง กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิณ เจอบ่อยเลย

 

โดย: I will see U in the next life. 20 พฤศจิกายน 2549 18:44:58 น.  

 

เฮลโหลลล thanks หลาย ๆ ที่ส่งแผ่นมาให้นะจ๊ะ ได้รับแล้วจะมาบอกจ้า

ไปดูพี่เจมส์มาแล้วเหมือนกัน ชอบมากกกก เซอร์สุด ๆ ตอนแรกคนที่ไปดูด้วยขัดขืนเล็กน้อย เพราะไม่ชอบหน้าตาพี่เค้ก แต่ดูเสร็จเขาก็อึ้ง ๆ ไป (หึ ๆ สนุกล่ะซี้ แต่ไม่กล้าบอก กลัวเสียฟอร์ม )

up เรื่องญี่ปุ่นแล้วน้า ว่าง ๆ แวะไปด้วยเน้อ

 

โดย: unwell 21 พฤศจิกายน 2549 10:14:17 น.  

 

มีเพื่อนเคยแนะนำ...แต่ยังไม่มีโอกาสได้ดู..
เพราะคงต้องมีสมาธิในการดูหน่อย...
(ขอบคุณนะครับที่แวะเข้าไปทักทาย ในบล็อก มีอะไรก็ช่วยแนะนำได้นะครับ)

 

โดย: pnottimez 21 พฤศจิกายน 2549 10:34:00 น.  

 

เรื่องนี้ได้ดูเป็นดีวีดีตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น

เข้าใจยากตามสไตล์ผู้กำกับ
แต่ก็ยังเข้าใจง่ายกว่าเรื่องอื่นๆ

 

โดย: Oakyman 21 พฤศจิกายน 2549 14:19:40 น.  

 



thank you all for coming ka

 

โดย: renton_renton 21 พฤศจิกายน 2549 20:28:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


renton-renton
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket.Just wait until night then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ “เด็ก” ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
17 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add renton-renton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.