Ae Fond Kiss ... ทุกอย่างแตกต่าง ยกเว้นหัวใจ ( 2004 )



Ae Fond Kiss เป็นผลงานภาพยนตร์อันเกิดจากสองประสานระหว่าง Ken Loach ผู้กำกับชาวอังกฤษ และ Paul Laverty คนเขียนบทคู่หูคู่บุญ ที่ได้หันมาช่วยกันเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของคู่หนุ่มสาวบ้าง หลังจากผลงานที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ล้วนแล้วแต่เน้นไปที่ความขัดแย้งเรื่องการเมือง หรือไม่ก็ปัญหาปากท้องและปัญหาสังคมเป็นประเด็นหลักเสมอ อย่างเช่น Carla's Song (1996) หรือ Sweet Sixteen (2002)

แต่ถึงงั้นก็เถอะ แม้ว่า Ae Fond Kiss จะเป็นหนังที่ตั้งใจให้น้ำหนักของการเล่าเรื่องเน้นไปทางความรักความผูกพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวก็ตาม แต่หนังยังคงมีความเป็น Ken Loach ที่ยังไงเสียก็จะต้องมีเรื่องของข้อขัดแย้งหรือความแตกต่างมาให้ผู้บริโภคหนังอย่างเราๆเอามาขบคิดกันจนได้

ที่เมืองกลาสโกว์, สก็อตแลนด์
คาซิม ( Atta Yaqub ) ชายหนุ่มที่ถือกำเนิดและเกิดที่เมืองแห่งนี้ เป็นลูกชายคนกลางของครอบครัวชาวปากีสถาน ที่อพยพมาจากอินเดียตั้งแต่สมัยที่พ่อเขายังหนุ่มแน่น คาซิม เติบโตมากับขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวอิสลามที่ครอบครัวยึดถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และเขาก็ได้ถูกกำหนดคู่หมั้นคู่หมายไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว เหมือน รักษณา ( Ghizala Avan ) พี่สาวของเขาที่กำลังจะทำพิธีหมั้นในอีกไม่กี่วันกับชายหนุ่มที่พ่อแม่เลือกไว้ให้แล้วเช่นกัน

ในทุกเช้า คาซิมจะไปช่วยพ่อเปิดร้าน กลางวันก็ออกแรงเป็นช่างก่อสร้าง สร้างบ้านที่พ่อแม่ตั้งใจจะให้เป็นเรือนหอของเขาเอง และกลางคืนทำงานเป็นดีเจเปิดแผ่นในคลับแห่งหนึ่งของเพื่อน

ชีวิตประจำวันของคาซิมก็ดำเนินไปอย่างนี้เป็นปกติ และก็คงจะราบรื่นดี .... ถ้าหาก...

ถ้าหากวันหนึ่งเขาไม่ได้บังเอิญไปเจอและตกหลุมรักครูสาวที่สอนน้องสาวของเขาเข้า

และมันก็คงจะไม่เป็นปัญหาอะไรใหญ่โต หากครูสาวคนนี้มีเชื้อชาติ หรือ ชาติพันธุ์เช่นเดียวกันกับเขา

โรซีน ( Eva Birthistle ) หญิงสาวชาวไอร์แลนด์ นับถือนิกายแคธอลิคและเป็นครูสอนวิชาดนตรีให้กับนักเรียนห้องของ ทาฮาร่า ( Shabana Akhtar Bakhsh ) น้องสาวของคาซิม

ทั้งสองบังเอิญได้เจอกัน ในวันที่ทาฮาร่าวิ่งไล่กวดเพื่อนชายที่ล้อเลียนเธอในเรื่องความเป็นคนต่าง โดยมีคาซิมวิ่งตามคอยห้ามทัพไปจนถึงห้องเรียนที่โรซีนกำลังสอนดนดรีอยู่ และหลังจากวันนั้น ทั้งสองก็ได้หาโอกาสพบกันบ่อยครั้งขึ้น แต่คาซิมก็ยังต้องคอยระแวดระวังไม่ให้ญาติทั้งหลายที่เปิดร้านค้าอยู่ทั่วเมืองได้เห็นเขาคบหาอยู่กับโรซีน

โรซีนเล่าถึงความรักในอดีตของเธอให้คาซิมฟัง ในวันที่ทั้งสองมีโอกาสหลบมาเที่ยวพักผ่อนกันที่สเปน ว่าเธอเคยผ่านชิวิตการแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนอายุ 19 ปี เธอให้เหตุผลว่าเพียงเพราะมันเป็นความคิดความฝันของผู้หญิงทุกคนที่ฝันจะมีคนรักเพื่อสร้างครอบครัวที่อบอุ่นเท่านั้น แต่สุดท้ายเมื่อมันไม่เป็นอย่างที่คิดก็จำต้องแยกทาง ทิ้งเรื่องราวไว้เป็นบาดแผลทางใจและยากที่จะเริ่มใหม่



และในคืนเดียวกันนี้เอง ทั้งสองต่างก็มอบความรักความพึงใจต่อกันด้วยบทรักอันเร่าร้อน

ในเช้าวันรุ่งขึ้น คาซิมบอกกับโรซีนว่า เขาจะต้องแต่งงานในอีก 9 สัปดาห์ข้างหน้ากับ Jasmine หญิงสาวที่พ่อแม่หมั้นหมายไว้ให้ และเขาก็เลือกที่จะทำตามสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ

แต่เมื่อโรซีนเดินออกจากชีวิตเขาไป เขาก็เริ่มไม่แน่ใจ ว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นี้ มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการจริงๆหรือเปล่า เขาจะยอมให้ชีวิตนับจากวันนี้ของเขาได้ดำเนินไปตามแบบแผนที่ครอบครัวและความเป็นชนชาติของเขาได้ขีดนำทางไว้ให้ หรือเลือกที่จะออกนอกรอยเพื่อซื่อสัตย์ต่อหัวใจและคนรักของตนเองดี

มันไม่ง่ายเลย เมื่อใครซักคนมาตกอยู่ในสภาพการณ์เช่นนี้ และต้องตัดสินใจ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง


. . .

คราวนี้ ลองมาพินิจถึงความแตกต่างและข้อตรงข้ามทั้งหลายทั้งมวลที่ลุง Ken เสกสรรไว้กันบ้าง

ว่ากันตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกกันเลย ที่
คาซิม ผิวคล้ำ ตามแบบฉบับของหนุ่มปากีสถาน :: โรซีน ผิวขาวหยวก อย่างชาวตะวันตกทั่วไป
คาซิม สูงโปร่ง :: โรซีน ไม่สูง
คาซิม ผมดำ :: โรซีน ผมบลอนด์
และด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของคาซิม หากมีโอกาสได้พูดคุยด้วยครั้งแรกใครเลยจะนึกว่าสำเนียงจะสก็อตแลนด์จ๋าได้ขนาดนั้น

หรือ

คาซิม ทำงานเป็นดีเจช่วงกลางคืน :: โรซีน เป็นครูสอนดนตรีในเวลากลางวัน
คาซิม อาศัยอยู่กับครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อมหน้าตาทั้งพ่อแม่ พี่และน้อง และเรื่องการแต่งงานพ่อแม่เป็นคนคิดแทน
ส่วนโรซีน แยกตัวออกมาจากครอบครัว ทำงานเลี้ยงตัวเอง และการแต่งงานเธอตัดสินใจด้วยตัวเอง

คาซิม ปฏิบัติตัวอยู่ในกรอบประเพณี มาตลอด และตอนนี้ มันกลับทำให้เขาอาจสูญเสียโรซีน หญิงสาวคนที่เขารักจริง
โรซีน เป็นคาธอลิค แต่ไม่ประพฤติตัวอย่างที่คาธอลิคที่ดีควรทำ ซึ่งอาจทำให้เธอสูญเสียอาชีพครูและอาจไม่ได้พบกับ คาซิม ชายคนที่เธอรักจริง

ก็ไม่ว่าจะมีอะไรมากมาย มาทำให้หนุ่มสาวคู่นี้ได้มีความแตกต่างแปลกแยกและดูท่าจะเป็นไปไม่ได้เลยในการจะอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา แต่เรื่องราวในครั้งนี้ อาจเป็นอีกครั้งหนึ่งที่มาเพื่อพร้อมจะพิสูจน์ว่า ความรัก (อาจจะ) ชนะทุกสิ่ง




Format :: @ House




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2549
23 comments
Last Update : 13 ตุลาคม 2549 23:56:52 น.
Counter : 867 Pageviews.

 

อืม น่าดูจัง

ไปสอยหนังเวิลด์ฟิล์มมากี่เรื่องแล้วล่ะ

 

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ 14 ตุลาคม 2549 1:38:47 น.  

 

แหม อ่านแล้วน่าดูจริง ๆ ครับ

ชอบอีตาเฮียเหลียงเฉาเหว่ยในกล่องคอมเมนต์จัง

 

โดย: เจ้าชายไร้เงา 14 ตุลาคม 2549 1:50:40 น.  

 

เชียร์และแบ่งปันประสบการณ์การดูหนังอีกแล้ว ขอบคุณมากครับ

 

โดย: ดำรงเฮฮา 14 ตุลาคม 2549 21:34:34 น.  

 

บางที...ความรัก...ก็แพ้...บางสิ่ง...นะ

ดูหนัง film fest ไปกี่เรื่องแล้วล่ะแม่นาง ของเราขอเริ่มอาทิตย์หน้าเลย ทิตย์นี้ไม่พร้อม

 

โดย: unwell 14 ตุลาคม 2549 22:26:55 น.  

 



น้าพล
วันนี้ไปสอยเวิล์ดฟิลืมมา 3 เรื่องค่ะ แถมหนังจิ๊ดจี๊ดอีก 1 a soap แล้วน้าได้ไปดูอ๊ะป่าวคะ

World Film เสาร์ที่ 14

กลายเป็นว่าได้ดู The Banquet ก่อนเพื่อนเลย ทั้งที่เคยพูดไว้ว่าเอาไว้ทีหลังๆ เพราะเดี๋ยวก็ฉายรอบปกติ (ต้นเดือนพฤศจิ) หนังก้อสนุกทีเดียวแหละ ไม่ต้องตีความอะไรมากเหมือน Hero, งานโปรดัคชั่นเค๊าอลังการและดูดีมากๆ ไม่ดูรกหูรกตา ดาราตะละคนก็เชื่อในฝีมือการแสดงได้เลย โดดเด้งกันถ้วนหน้า........ เรื่องนี้ที่นั่งในโรงเหลือแค่แถวหน้าแถวเดียวเท่านั้นที่ว่าง

อีกเรื่องคือ My Name is Eugenหนังจากสวิส' น่ารักๆเกี่ยวกับเด็กชาย 4 คนออกไปผจญภัยตามหาบุคคลในตำนาน ก็ดูได้สนุก เพลินๆดีและมีกราฟฟิคเก๋ๆมาช่วยดำเนินเรื่องด้วย เรื่องนี้คนดูไม่ถึงครึ่งโรงเลยอ่ะ

และJust Do It หนังจากอิตาลี เกี่ยวกับเด็กวัยรุ่น 2 คนที่ดูไม่เป็นโล้เป็นพายอะไร และโชคชะตาก็นำพาให้คนนึงได้เจอกับเด็กสาวตัวแสบแสนฉลาด และอีกคนเจอกับสาวสวยเรื่องราวดูเหมือนยุ่งแต่สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นเรื่องดีดี ...... เรื่องนี้เสียดายอยู่นิดนึงที่ ตัวละครของคุณยายในต้นเรื่องที่อุตส่าห์ปูอารมณ์กันมาก็เยอะ แต่พอค่อนเรื่องไปหน่อยคุณยายก็หายไปซะงั้น เสียดายๆ ความจริงเก็บเอาเรื่องยายมาขมวดอีกบ้าง น่าจะสมบูรณ์กว่านี้

ส่วนโปรแกรมพรุ่งนี้ :: breakfast on pluto :: Glastonbury และ Proposition คร๊าบ


คุณ เจ้าชายไร้เงา และ น้าดำฮา
มีโอกาสก็แวะไปดูนะคะ ตอนนี้ยังมีรอบฉายอยู่ค่ะ แม้ว่าหนังจะเข้าฉายตั้งกะ 28 กันยาโน่นแน่ะ

 

โดย: renton_renton 14 ตุลาคม 2549 23:01:02 น.  

 

ฮองเฮา
ที่สุดแล้ว เราก็ดู The Banquet แล้วล่ะ ดูแล้วก็คิดถึงหนังจีนยุคเก่าก่อน ที่เครื่องแต่งกายไม่เว่อร์ การต่อสู้ใช้อาวุธที่คุ้นตาและเพลงดาบก็ไม่พิศดาร เนื้อเรื่องก็สนุก ธรรมดาแต่น่าติดตาม น้องจางน่ารักและแสดงได้ดีตีบทแตกกระจุย พี่แดเนี่ยล วู ก็หล่อและเก่งอย่างเคย น้องอะไรนะอีกคน ไม่รู้จักชื่อ ที่แสดง เพอร์แฮฟ เลิฟ กะ ทาเคชิอ่ะ นั่นน่ะ น้องเค๊าก็ตีบทกระจายเหมือนกัน.....สรุปว่า สนุกและดี สมคำร่ำลือค่ะ

 

โดย: renton_renton 14 ตุลาคม 2549 23:11:56 น.  

 

เมื่อคืนดู 12 แล้ว เจ๋งง่า ชอบน้องอเล็กซ์ เห็นน้องทำหน้าเครียดแล้วอยากเข้าไปโอ๋แนบอก


ส่งรายงานแล้วจะไปดู 13 หวังว่าคงไม่ออกโรงซะก่อน อิอิ

 

โดย: The brightest sun is the purest gun IP: 125.25.128.4 15 ตุลาคม 2549 11:58:41 น.  

 

งานนี้อยากดู Breakfast on Pluto ที่สุดค่ะ แค่เห็นหน้าน้อง cillian ก็ กรี๊ด.............

funny game เป็นหนังที่เราชอบมากๆค่ะ เห็นว่าจะเอามาทำใหม่ แต่ ผู้กำกับยังเป็น ฮาเนเก้ และหนึ่งในหนุ่มโรคจิตที่ชอบไปป่วนครอบครัวคนอื่นก็คือ ไมเคิล พิทท์ กรี๊ด.....

 

โดย: goldfish memory (goldfish memory ) 15 ตุลาคม 2549 12:31:51 น.  

 

แวะมาแป๊ะครับ

ตอนนี้กำลังหลงอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง เดี๋ยวออกมาแล้วจะกลับมาอ่านเต็มๆนะงับ

 

โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 15 ตุลาคม 2549 22:59:56 น.  

 



The brightest sun is the purest gun
มะ มะ 12หนุกเนอะๆ จะเอาใจช่วยว่าหลังส่งรายงานเสร็จแล้ว 13ยังรออยู่นะ ( วันนี้แว่บไปดูแผ่นนิกกี้ ไวร์ ที่ซีดีแวเฮ้าส์มา เผื่อจะมีแผ่นนำเข้า แต่ก็ต้องอกหักไปตามระเบียบจ่ะ )

คุณ goldfish memory
เจ๊ cillian เธอแก่นเซี้ยวมั่กเลยค่ะเรื่องนี้... ส่วน funny game เอามาทำใหม่นั้น ก้อต้องรอดูอ่ะเนอะว่าน้องพิตต์จะจิตเหมือนไอ้เจ้าสองตัวกางเกงขาสั้นมันทำไว้หรือเปล่า ก้อน่าจะโอเคอ่ะนะ เพราะอย่างบทธรรมดาๆใน The Village น้องพิทท์ยังดูเหมือนพวกเด็กเก็บกด+พารานอย ได้เลยและถ้าเป็นลุงฮาเนเก้ได้กำกับจิง ก็โล่งอกไป อารมณ์เฮี้ยนคงไม่จางไปไหน

BloodyMonday
ได้เลยได้เลย ไม่ว่ากันอยู่แว้ววววว


World Film อาทิตย์ที่ 15 ตุลา

วันนี้ดูหนังที่เค๊าใช้แผ่น ดีวีดีมาฉายทั้ง3 เรื่องรวดเลย ดวงจิงจิง

breakfast on pluto สนุกดีและชอบ ชอบบท ตรงความเป็นคิทเท่นที่ผ่านมรสุมต่างๆนาๆมาได้โดยการไม่ยอมให้ตัวเองได้โศกได้นาน และการที่หนังออกแนวเสียดสีสังคมด้วยนั้น พอถึงบทจะต้องฮาก็เลยฮาแบบแค่นๆไปด้วย.... หนุกคับหนุก ยิ่งพี่ๆชาวต่างชาติเวลาแกขำนะ ลั่นบ้านกันเลย ครื้นเครงมากๆ

Glastonbury ดูจบแล้วแล้วมันให้ความรู้สึกว่าเราได้เห็นแทบจะทุกส่วนของการเป็นเทศกาลดนตรีกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ หนังเล่าตั้งแต่ความเป็นมา / บรรยากาศงานในปีแรกๆจนถึงปี 05 / ดูการมาถึงของผู้คน สีสันอื่นๆนอกเหนือจากดนตรีบนเวที / ห้องน้ำห้องท่า / การหลับนอน / ระบบความปลอดภัย / พวกแอบปีนเข้ามา / ท่านพี่ รปภ........และอีกสารพัดปัญหาที่มีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ หนังดูสนุกด้วยฟุตเตจเก่าเก็บนำมาตัดต่อสลับกับวงที่เล่นบนเวที......... ที่แค่ได้ยินเพลงขึ้นมา ก็อดไม่ได้ที่จะขยับเท้าผงกหัวตามเสียงเพลง .....น่าไปจิงๆให้ตายเหอะ

Proposition หนังดราม่านิ่งๆ แต่ยิงกันตูมเมื่อไรก็ทำเอาหลบเลือดกระเซ็นแทบไม่ทัน หนังเครียดใช้ได้เลย.....

แต่อยากจะขอโวยหน่อย ไอ้การเอาแผ่นดีวีดีมาเปิดน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่การที่ไม่ปรับแต่งให้เสียงให้ภาพมันเข้าโหมดปกติแบบที่คนปกติเค๊าดูกันน่ะ มันซังกะบ๊วยมากมาก โดยเฉพาะเรื่อง Proposition ที่ภาพมันเต็มไปด้วยแสงสีขาวแบบโอเวอร์ไปหลายเลย .......เรื่องแค่นี้มันไม่น่าจะต้องมาเสียอารมณ์กันเนอะ งานแบบนี้นะ ทำได้ดีก็เสมอตัว แต่พลาดหน่อยเดียว มันกลับทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นรูโหว่ที่ใหญ่มากเลย

บ่นยังไง ก้อยังอุดหนุนค้ำจุนกันต่อไปแหละว้า ก้อเรามันประเภทน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่ากันนินา

 

โดย: renton_renton 16 ตุลาคม 2549 0:08:14 น.  

 

อิอิ ไปดู Glastonbury มาเหมือนกัน (ดูวันเสาร์) ฮาดี ชอบฉากที่มือกีต้าร์วง The Bravery ที่ยืนแก้ผ้าเล่นแต่มีกีต้าร์บัง แต่พอจบเพลงพี่แกเล่นโดดใส่กลองจนพัง ส่วนท่าแกนี่ไม่มีไรเหลือเลย กลับมาตาจะเป็นกุ้งยิง ก็ทั้งนักดนตรีทั้งคนดู มันเล่นแก้ผ้ากันเป็นว่าเล่น

 

โดย: Together In 80s Dream 16 ตุลาคม 2549 13:20:11 น.  

 

แก้(ข้อมูล) หน่อย มือเบสนะ มะใช่มือกีต้าร์ ห่ามได้ใจจริงๆ

 

โดย: Together In 80s Dream 16 ตุลาคม 2549 13:25:40 น.  

 

คิดถึง

รอก่อนเหอะ ไม่รอดแน่ กำลังเล็งว่าจะเริ่มด้วยเรื่องไรดี

 

โดย: unwell 16 ตุลาคม 2549 14:09:10 น.  

 

17/10
Pluto ตามล่านักฆ่า แอนดรอยด์ เล่ม 2

 

โดย: Thebrightestsunisthepurestgun 16 ตุลาคม 2549 17:45:27 น.  

 

ชื่อเรื่องอ่านว่าอะไรครับ อ่านไม่ออก 555+

 

โดย: Moonlight Mile 16 ตุลาคม 2549 19:17:47 น.  

 

world film พักไว้แป๊บ

อยากถามคุณ renton_rentonว่าเคยดูหนังเรื่อง Saving Face หรือป่าววว
ถ้ายัง อยากแนะนำให้ดู ก็ไม่มีอะไรหรอก แต่เพียง wabisabiเพิ่งมีโอกาสได้ดูแล้วชอบบบบมั่กมั่ก
อยากรู้ความเห็นของ renton_renton ว่าจะรู้สึกอย่างไรอะ

//www.imdb.com/title/tt0384504/

แล้วจะรออ่านความคิดเห็นนะกั๊บ

ปล อยากให้ทุกๆๆได้ดูกันน่า

 

โดย: wabisabi IP: 203.188.58.253 16 ตุลาคม 2549 21:21:20 น.  

 

Ken Loach ทำหนังน่าดูอีกแล้ว
ผมมัวแต่เที่ยวเพลินลืมไปเลยว่ามี World Film

 

โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY 16 ตุลาคม 2549 21:40:18 น.  

 



คุณ Together In 80s Dream
หุ หุ เราเองก้อต้องรีบหยอดยาหยอดตาเลยล่ะ ก่อนที่กุ้งจะยิงเอา 5 5 5 ส่วนพี่มือเบสนั้น......แกคงร้อนน่ะ ฮ่า ฮ่า แต่พี่ตากล้องก้อเหลือเกิน แค่แพนภาพให้เห็นแว๊บๆคงไม่หนำใจ มีซูมอินให้เห็นกันจะจะด้วย .....

คุณ unwell
เทศกาลหนังยังรออีกหลายวันจ่ะ แต่รีบๆหน่อยก้อดีนะ ช้าช้าอาจไม่ได้พร้าเล่มงามก้อได้เน้อ....หุ หุ ..อย่าเชื่อเพราะเขาเป็นครูสอนสุภาษิตจ้า

คุณ TheBrightestsunisthepurestgun
ขอบคุณค่า ที่ช่วยบอกข่าวคราวเจ้าพุงโต

คุณ Moonlight Mile
น่านอ่ะจิ......แต่เราก้ออ่านแบบมั่วๆว่า เอ ฟอง คิส อ่ะนะ ว่าจะโทรไปถามเพื่อนที่มันเคยเรียนภาษาฝรั่งเศส (เดาอีกแหละว่าเป็นฝรั่งเศส) แต่ตอนนี้เค๊าคงหลับไปแล้ว.....เอาเป็นว่าเดี๋ยวเอาคำตอบแบบถูกต้องตามประเพณีมาให้นะคะ รอแป๊บ ^_^

คุณ wabisabi
ชื่อหนังไม่คุ้นเลย และพอจิ้มไปดูตามที่อยู่ที่ให้มา ก้อ ยังไม่คุ้นอยู่ดีอ่ะค่ะ ......จึ๋ย....เป็นเลสเบี้ยนด้วนนะนั่น อืม......ประการแรก ไม่โปรดเลยหนัง ญ+ญ ประการที่สองถ้าเป็นหนังเอเซียจะเลือกดูหนังญี่ปุ่นก่อนอ่ะค่ะ เลยอาจเคยมองข้ามหนังเรื่องนี้ไป แต่ถ้ามาแนะนำและรอฟังความเห็นกันขนาดนี้แล้วล่ะก็ คงต้องไปหามาดูบ้างแล้วล่ะ

ขอเวลาแป๊บนึงนะคะ ในการไปหามาดู ดูแล้วเด๋วมาคุยกันนะ ^_^

คุณ sTRAWBERRY sOMEDAY
เที่ยวท้าเลเพลินล่ะจิ....อิจฉาจิงๆได้ไปเที่ยว ตจว.อ่ะ T_T"

 

โดย: renton_renton 17 ตุลาคม 2549 0:08:20 น.  

 

เฮ้ๆSaving Faceสนุกนะจ๊ะ มาคอนเฟริม

หนังของ Joan Chenที่เราว่าค่อนข้างไปละม้ายคล้ายคลึงกะ
Wedding Banquet ของอัง ลี (ต่างก็ตรงจากชายกะชาย
เป็นหญิงกะหญิง) ตอนแรกก็กะจะเอามาดองไว้ แต่พอหยิบ
มาดูก็ต้องชื่นชมว่าใช้ได้จริงๆเลย

ไปล่ะ...

 

โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 17 ตุลาคม 2549 20:01:43 น.  

 

แย่แล้ว สตีวี่จี เจ็บหัวเข่า อดลุยบอร์กโดซ์
หวังว่าคงจะหายทันวันแดงเดือดนะ เจ้าหัวขิง

 

โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY 17 ตุลาคม 2549 20:36:00 น.  

 



เอ๋า มีผู้มาคอนเฟิร์มว่า Saving Face สนุก สงสัยต้องรีบไปหามาดูละ แต๊งกิ้ว BloodyMonday

โหย...........ได้ไงอ่ะ พี่ตีวี่จีเจ็บอ่ะ แล้วทีนี้ก้อต้องสวดมนต์เป่าแผลให้หายไวๆทันแดงเดือดอย่างที่บอกล่ะเนอะ คุณ sTRAWBERRY sOMEDAY

 

โดย: renton_renton 18 ตุลาคม 2549 1:28:26 น.  

 

ตามมาอ่านรีวิวหนังเรื่องนี้ครับ

 

โดย: สะเทื้อน 12 พฤศจิกายน 2549 7:02:26 น.  

 

^
^
^
ขอบคุณค่า

 

โดย: renton_renton 12 พฤศจิกายน 2549 7:54:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


renton-renton
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket.Just wait until night then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ “เด็ก” ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add renton-renton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.