เดินในสวน





ผมเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตในเมืองนั้นคงเหน็ดหน่ายและเหนื่อยหนักจากการงาน ชีวิตหลายชีวิตอาจถูกทับถมด้วยภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง ยังไม่นับนานาปัญหาที่เข้ารุมสุมแน่นหนาอีกหลายชั้น จนดูเหมือนว่าชั่วชีวิตนี้คงยากจะสลัดให้หลุดพ้นไปได้ ที่ผมพูดเช่นนี้เพราะครั้งหนึ่งตัวผมเองเคยเอาชีวิตไปวางไว้อยู่ในเมืองนานหลายปี

แน่นอน ใครหลายคนในสังคมเมืองจึงชอบเอา ‘การเดินทาง' เป็นหนทางเดียวที่จะหลุดพ้นออกจากกงล้อแห่งการงานนั้นได้ และมักเอาช่วงสิ้นปีหรือวันปีใหม่ เป็นวันแห่งการปลดปล่อย ในขณะที่ตัวผมนั้น กลับไม่ได้เดินทางไปไหนเลย ยังมีชีวิตแบบวันต่อวัน อยู่กับปัจจุบันขณะ ในหุบเขาผาแดงแห่งนี้

ผมมีโอกาสต้อนรับครอบครัวหนึ่งมาพักผ่อนในสวนของผม พวกเขาเอารถเก๋งมาจอดในหมู่บ้าน ก่อนผมจะบอกทุกคนขนย้ายสัมภาระใส่รถกระบะคันเก่า ขับขึ้นไปบนเนินเขาขรุขระด้วยร่องรอยของร่องน้ำป่าในหน้าฝนกัดเซาะจนเป็นหลุมลึก แต่ยังสามารถขับผ่านขึ้นไปได้

พอถึงบ้านปีกไม้หลังเล็กๆ กลางสวน ทุกคนเริ่มตื่นตาตื่นใจกับภาพเบื้องหน้า ผมชักชวนพวกเขาขึ้นไปนั่งพักผ่อนบนระเบียงไม้ไผ่ที่เพิ่งทำเสร็จหมาดๆ หลายคนจ้องมองไปยังท้องทุ่งกำลังสีเขียวสด ดอยผาแดงตั้งตระหง่านอยู่เด่นสูง ท้องฟ้าสีฟ้า ผมมองเห็นสีหน้าดวงตาของทุกคนนั้นมีความสุขกันถ้วนหน้า ทุกคนกะเล็งหาพื้นที่ของตัวเอง หลายคนหอบเอาฟางข้าวใต้ต้นสักมาปูพื้นให้นุ่ม ก่อนจะช่วยกันกางเต็นท์อยู่ระหว่างต้นชมพู่กับมะไฟ กลุ่มผู้หญิงช่วยกันหั่นผัก ทำกับข้าวหลังบ้าน ชายหนุ่มคนนั้นเสาะหา กิ่งไม้แห้งในสวนมาทำฟืน พอพลบค่ำ กองไฟบนลานดินจึงลุกโชน

ผมแอบจ้องมองชายตาพิการคนนั้น เขามาพร้อมหญิงสาวคู่ชีวิตชาวปวาเก่อญอ นั่งนิ่งอยู่ในความเงียบ

"มีความสุขจริงๆ..." เขาพูดออกมาดังๆ ก่อนยิ้มกว้าง เงี่ยหูฟังเสียงธรรมชาติที่ล้อมรอบกาย

เที่ยงคืน ดาวเกลื่อนฟ้า ลมหนาวเย็นเยือก ทุกคนลงไปผิงไฟข้างกองไฟให้หายหนาว คนข้างล่างในหมู่บ้านจุดพลุขึ้นฟ้าดังปัง...ก่อนแสงกระจายตัวเป็นดอกดวงหลากสี บ้างปล่อยโคมลอยตามกันเป็นเส้นสาย ลอยตามลม สูงขึ้นไปในเวิ้งฟ้า หลังจากนั้น ทุกคนแยกย้ายกันไปหลับนอน เพียงไม่นาน ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสงัด

อีกเช้า, ผมเฝ้ามองพวกเขายังรื่นรมย์ในชีวิต พากันเดินเล่นรอบๆ สวน ก่อนขึ้นเนินลิ่วลงไปตามท้องถนนภายในหมู่บ้าน กลับมาอีกครั้งก็ตกบ่าย พวกผู้หญิงเดินไปบิดลูกมะละกอดิบจากสวนข้างบ้านมาปอก ทำส้มตำกินกันง่ายๆ หน้าระเบียง ครั้นพอใกล้ค่ำ ผมพาพวกเขาลัดเลาะป่า ลงไปยังฝายน้ำล้นเหนือหมู่บ้าน เด็กๆ พากันเล่นน้ำในลำเหมืองที่ไหลผ่านหมู่บ้านอย่างสนุกสนาน ผมปลีกตัวเดินไปตามริมลำน้ำ สะพายย่าม ถือเสียมเล็กๆ ไปขุดหาเหง้าผักกูดที่ขึ้นเต็มตามลำน้ำ ตั้งใจไว้ว่าจะเอามาปลูกไว้ริมหน้าต่างห้องครัวของบ้านปีกไม้

ผู้คนหลายกลุ่มเข้ามาแล้วก็จากไป ซึ่งผมเข้าใจว่าผู้คนที่แวะเวียนขึ้นมาเยือนหุบเขาผาแดง น่าจะได้พลังชีวิตกลับไปบ้าง ไม่มากก็น้อย










ครั้นเมื่อชีวิตกลับมาอยู่ลำพังอีกครั้ง...
ผมก็เริ่มสนทนากับตัวเอง
สนทนากับธรรมชาติสรรพสิ่งที่อยู่รายรอบ

เช้าๆ ผมตื่นมารีบโปรยข้าวให้ไก่ที่วิ่งมาออกันเต็มลานบ้าน ก่อนจะเดินไปหยิบไข่ไก่ในเล้ามาสามใบ อาหารเช้ายังคงเรียบง่าย น้ำพริก ผักนึ่ง กับไข่ต้มจากรังหมาดๆ พอตกสายเปิดหน้าต่างห้องเขียนหนังสือ ลงมือทำงาน สักพักนกปิ๊ดจะลิวบินมาเกาะกิ่งไม้ริมรั้ว ส่งเสียงร้องทักทาย สยายปีก อาบแดดอุ่น สักครู่หนึ่งบินจากไป

พอสายตาเมื่อยล้า หลังจากจ้องมองจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ผมหยุดพัก ออกไปเดินเล่นในสวน ซึ่งเป็นกิจวัตรหนึ่งที่ผมชอบมากๆ เป็นการผ่อนคลายที่ดีที่สุด เดินช้าๆ แวะจับพลิกใบไม้ที่ผลิใหม่ให้เห็นอยู่ในแต่ละวัน แหละนั่นตรงข้างกอกล้วย ผมมองเห็นขี้กระต่ายป่า เม็ดกลมเล็กๆ สีน้ำตาลแห้ง กระจัดกระจายอยู่ตรงนั้น มันอาจมุดรั้วมาจากสวนข้างบ้านที่รกเรื้อจนกลายเป็นดงป่า

ทำให้นึกไปถึงวันก่อน ตอนผมไม่อยู่บ้าน ไปทำธุระในเมือง หลานชายโทรศัพท์บอกว่า เจ้าสีทอง แมวที่ผมเลี้ยงไว้จับกระต่ายป่าตัวเขื่องได้ตัวหนึ่ง คาบเอามาอวด ก่อนแทะกินจนอิ่ม ซึ่งผมถือว่านี่เป็นกฎธรรมดาของธรรมชาติ

และนั่นต้นกาแฟอายุยังไม่ถึงขวบปีคงนึกน้อยใจ ที่เจ้าของทิ้งมันให้อดน้ำมาหลายวัน ผมกลับมา จึงรู้ว่าหลายร้อยชีวิตพากันทิ้งใบร่วงเกือบหมด บางต้นแห้งเฉาตาย แต่เป็นที่รู้กันว่า ต้นกาแฟถ้าลงดินรากหยั่งลึกลงไปแล้ว ยากนักที่มันจะตายไปง่ายๆ ครั้นผมรีบรดน้ำรอบๆ โคนต้น เพียงชั่วสัปดาห์ เจ้าต้นกาแฟก็พากันผลิใบน้อยๆ ออกมาให้เห็นอีกครั้ง

ทุกครั้งที่ผมเดินเล่นในสวน ผมมักตื่นตาตื่นใจที่ได้สัมผัสและมองเห็นอะไรอีกมากมายหลายๆ อย่าง

เหมือนกับว่าตัวเองกำลังท่องโลก...
โลกของธรรมชาติ
โลกที่เรียบง่ายและเป็นจริง.



.............................................................................


หมายเหตุ : งานชิ้นนี้ตีพิมพ์ครั้งแรก คอลัมน์ ‘คนคือการเดินทาง' เสาร์สวัสดี กรุงเทพธุรกิจ 31 มกราคม 2552





Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2552 2:16:12 น.
Counter : 1356 Pageviews.

27 comments
  
อรุณสวัสดีค่ะคุณภูฯ
------------------------------------------------------------------
เดินเล่นเลาะริมรั้วในสวนชีวิต
หัวใจชวนอารมณ์ฮัมเพลงไร้เสียงดนตรี
คนเราเมื่อเข้าใจธรรมชาติได้อย่างถ่องแท้ เท่ากับเราเข้าใจชีวิต
-------------------------------------------------------------------------------------

เขียนแบบนี้เป็น "แคนโต้" ได้ไหมคะ
โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:01:09 น.
  
หลังจากเครียดๆ กลับจากที่ทำงานกลับถึงบ้าน ก็ใช้วิธีเดินท่องโลก ท่องธรรมชาติเพื่อเป็นการผ่อนคลายและที่สำคัญได้ผลดีนัก...
และทุกครั้งที่สัมผัสมักตื่นตาตื่นใจกับพัฒนาการของธรรมชาติไปซะทุกครั้งเช่นกัน
มีอะไรมากมายหล่นรายริมทางเดินไม่ว่าจะเดินไปทางไหน....ถ้าเพียงเรามองด้วยใจ..จริงมั้ยคะคุณภู
นึกถึงต้นไม้ที่บ้าน ไม่ได้ตัดพ้อเพราะรดน้ำชุ่มฉ่ำทุกวันผลิดอกแตกหน่อ เขียวชอุ่มชื่นใจค่ะ
ขอให้คุณภูมีความสุขกับทุกกิจกรรม
โดย: โมกสีเงิน วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:32:41 น.
  
เล่ามาให้เราอิจฉานะ
หลายถ้อยคำของภูทำให้เราสะท้อนสะทกใจนะ
เราก็เป็นคนเมืองที่อยากเดินทางอยู่
มันเหมือนเป็นการรอคอยอะไรบางอย่าง
รู้ว่าปรารถนา ต้องการ ไขว่คว้า
แต่นั่นแหละ มันทำให้ปัจจุบันขณะไม่เป็นสุขเลย
เราก็ต้องนิ่งมองใจตนเองให้ดีๆ
อยู่กับภาวะ อยู่กับโลกและชีวิตที่เราเป็น
อะนะ ทุกแห่งที่เราอยู่คือสวนแห่งชีวิต ของคนที่มีหัวใจสงบแล้ว
เราเชื่อ และต้องเชื่ออย่างนั้นจ้ะ
โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน IP: 124.121.50.73 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:44:44 น.
  
ผาแดงในแสงตะวัน
สวนฝันที่จริงในใจ
ปัจจุบันขณะหนึ่งซึ่งยิ่งใหญ่
สวนใครสวนมันหมั่นดูแล
โดย: มาชา IP: 118.172.128.33 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:33:09 น.
  
..."ขอเดินสวนทาง.....กับคนเขียน.".....
....อาจเป็นการเกิดคนละที่...
...คนละยุค....ลูกจะบ่นว่าแม่มาทำไม่ก็ไม่รู้..
..."ป่า...เขา...ไม่เห็นชอบเลย."...
....เข้าห้างจะผ่านที่ตรงที่เขาขายต้นไม้...ดอกไม้..
..พอกับหนุ่มชาวม้ง..ที่เลือกทำงานที่แผนก..ดูแลรดน้ำต้นไม้..
....ของห้างวอลมาร์ท....พี่แกคงคิดถึงบ้านที่จากมา..
...อยู่ที่นี้อยากเห็นไก่..ต้องขับรถไปทางที่ย่าน..
..คนเม็กชิกันอยุ่...เขาเลี้ยงแบบปร่อยให้หากินเอง..
....พี่ไปแล้วละ..เห็น.Links.มีครบทุกประเภทให้คลิกเข้าไปอ่าน...
.....อายตัวเอง...เพราะไม่เคยอ่านเลย......
โดย: คนสวย IP: 97.102.33.213 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:4:07:50 น.
  
แวะเข้ามาอ่านครับ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ชีวิตคนเราเดินกันต่อไป
โดย: อ้วนforest IP: 124.120.80.244 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:40:55 น.
  
แวะมาเยี่ยมอ้ายภู เจ้า..
สบายดีก่อ..
อ่านเรื่องเดินในสวนวันนี้แล้ว..
กึดภาพโตย..เพลินไปเลยเจ้า..
..
ฮักษาสุขภาพเน้อ..
โดย: Prettymaew วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:10:47 น.
  
บ่อได้พ้อหน้าพ่อตากันโดนเติบน้อ
หัวหน้าภู คิดฮอดอยู่เด้อ แต่ภารกิจประชาชนนี่มัดตัวหลาย
ไว้เจอกันใหม่อีกครั้ง เป็นกำลังใจเสมอน้อ
โดย: ฝ้ายคำ IP: 125.26.103.109 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:56:37 น.
  
หนึ่งอาทิตย์กับการอยู่บ้าน..พี่ก็ออกไปดูแลลูกๆ
ไม่ว่าจะเป็น พริก ต้นมะกูดที่เพาะไว้ และลูกที่รอดชีวิต
จากอากาศหนาว เดือนมีนาต้นไม้จะงาม ไปเก็บส้มบ้านพี่จุ๋ม
ทุกอาทิตย์ ปีนี้ลำใยบ้านพี่ตุ้ยติตดอก คงไปขนลำใยกลับบ้าน
บ้านคุณยายมัฑณา เห็นลิ้นจี่ก็มีลูก ส่วนไม้ประดับ เริ่มจะเอาตระไคร้
ปลูกประดับ เพราะใบเขียวตลอดทั้งปี ไม่เหนื่อยกับการใส่ปุ๋ย
แล้วพบกันใหม่นะ
โดย: คนสวย IP: 97.102.33.213 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:39:08 น.
  
lสวัสดีค่ะ มาหย่อนความคิดถึง
ปล. นิทานเล่มที่2 ใกล้เสร็จแล้ว ถ้ายังไงจะส่งไปให้(เด็กๆ )อ่านนะคะ
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:11:58:29 น.
  
เจ้าชบา เธอยังอยู่ดีมั๊ย ดูแลเธอดีๆนะ???

ส่วนดอกป๊อปปี้ที่ไม่รดน้ำ ก็ไม่มีวันเหี่ยว
แต่หากไม่ดูแล ถนอมหัวใจเธอดีๆ ก็ถึงตายเลยนะเออ

................................................................

(หมายถึงหยุดเดินน่ะฮับ)
โดย: ช่อชบา (HHG ) วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:19:14:16 น.
  


สวัสดีค่ะ คุณภู

อยากเดินในสวนนะคะ
แต่ สัปดาห์หนึ่ง จะได้เข้าไปเดินวันอาทิตย์วันเดียว
นกไม่ได้มาเสียนาน คุณภูสบายดีนะคะ


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:21:31:13 น.
  
ผมอยากจะให้เอาผู้มีความรู้ผู้ที่ผ่านการอบรมผู้รู้หนังสือมาเป็นนำแต่ละระดับ
ผมเคยพบมาแล้วผู้นำระดับเช่นหัวหน้าหมู่คอบคุมสมาชิกเป็นร้อยๆคน
ไม่รู้หนังสือทำงานไม่ได้ประโยชน์ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ที่อำเภอแม่สายนี้เอง
โดย: ลุงเดือน IP: 115.67.230.197 วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:22:20:16 น.
  
นี่บ่าวภูหายไปไหนนะ .ช่วยเก็บใบกาแฟ แห้งๆขึ้นมาเขียนให้อ่านหน่อยชิ (ถ้าไม่มีอะไรเขียน) ..เช็งภาพแมวที่ไต่รั้วอยู่นะ...พี่ กลัวแมวมันง่วงหล่นลงมา..ประเดี๋ยวจะเจอข้อหาฆ่าสัตว์ ..แนะนำเจ้าของบล็อก ..กรุณาลงจากดอย "บ้านปีกไม้ใสหุบผาแดง"
กรุณา อุเบกขา มาอัพบล็อกด้วย สาวๆเขารออยู่จ๊ะ...อย่าให้รอเก้อละ...
(สาวที่ว่านะ ตีนกามาเหยียบหน้าแล้ว ฝรั่งดันไปเปรียบว่าตีนเป็ด)
โดย: คนสวย (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:9:52:17 น.
  
อิจฉาชีวิตคุณภูเนาะ..
จะมีโอกาสได้ไปเยี่ยมบ้านสวน ที่หุบเขาผาแดงของคุณภูหรึป่าวน่า
โดย: ก้อนหินริมทาง วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:11:29:30 น.
  
รู้สึกจะมาอยู่คนเดียว มาตามไปอ่าน บล็อกพี่นะ หมู่บ้าน Northwood Partk บรรยากาศก็ไม่แพ้ "บ้านปีกไม้ ในหุบผาแดงนะ" ไปดูดอกทองกราว ที่ฟอริด้า ชิมันจะเหมือนดอกทองกราวที่เมืองไทยไหม? ไปแล้วก็อย่าลืม comment ด้วยนะจ๊ะ ถามอีกที เดินทางถึงไหนแล้ว? ถึงดอยที่เท่าไหร่ ?หวังว่าคงได้เจอภาพใหม่ที่บล็อกของบ่าวภูนะ พูดความต่างบ้านพี่กับบ้านปีกไม้ ตรงที่ไม้ที่ใช้ปูพื้น พอน้ำหกใส่ถ้าไม่รีบเช็ดออก ไม้มันจะบวมเลย ต้องโดนตาสตีฟฆ่าแน่ๆ โชคดีที่ตาสตีฟตาไม่ค่อยดี รอดตัวไป ผ่านไปสามเดือนไม้มันยุบลงเอง มิน่าพี่เห็นช่างมันทิ้งไม้ที่ปูไว้ให้เราช่อมนี้เอง เข็ดแล้ว ปูพื้น กระเบื้องดีกว่ามันทนดี ที่บอกให้เขียนใบกาแฟนะ
มันต้องใช้นักเขียนมืออาชืพนะ อ่านแล้วมันได้บรรยากาศดี..อากาศจะเป็นเกร็ดน้ำ
แข็งอีกรอบ พี่เลยห่มผ้าพวกผักที่รอดตาย ห่มทุกวัน เพราะคิดถึงผัก..
ไปแล้วนะ..พบกันใหม่จ๊ะ
โดย: คนสวย IP: 97.102.33.213 วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:8:02:42 น.
  
เหมียวตายแล้วล่ะ
เมื่อเช้า เอามันใส่ย่าม เดินไปคลินิกแถวนี้ เค้าเปิดค่ำๆ เลยกลับมาก่อน
เหมียวนอนหายใจอย่างเดียว กิ่งก็หลับ
ตื่นมาบ่ายสอง ไปดูมัน พอลูปหัว มันก็แหง็กๆๆ ต่อหน้าเรา
หยุดหายใจ จากไปอย่างไม่ค่อยสงบ น่าสงสารจัง
เสียใจ ที่ไม่พามันไปหาหมอในวันแรกๆที่มันป่วย
ส่งมันกลับบ้านไปแล้ว เจ้ของที่แท้จริงก็เศร้าเหมือนกัน

กิ่งร้องไห้ ให้กับสัตว์เลี้ยงเป็นครั้งแรก
เหมียวมาใสตอนที่เราเหงา เราอยู่คนเดียว
มันเลยมีค่ามากๆ
โดย: กิ่ง IP: 118.172.24.219 วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:16:44:28 น.
  
ตั้งแต่อ่านเรื่องเกี่ยวกับตูบน้อยกลางดอยผาแดงมาหลายต่อหลายตอน
ชอบตอนนี้มากที่สุด..............
เพราะอ่านแล้วไม่เกิดความรู้สึกหมั่นไส้ใด ๆ เลย
แปลกมาก!!!!!


โดย: คนขี้ขอย (กากีซ่าส์ ) วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:17:02:01 น.
  
วันนี้ที่นี่ฝนแรกฤดู ลงเม็ดหนักหนา ชุ่มฉ่ำดีเหลือเกิน ต้นไม้ใบหญ้าเริงร่าเต้นระบำ
ต้นไม้ในสวนคุณภูล่ะ ได้เริงร่าเต้นระบำบ้างหรือยังหนอ
กาแฟทุกต้นคงยิ้มแฉ่งตะวันรุ่งอรุนถ้าได้ฝนเม็ดโตเหมือนบ้านเราเนอะคุณภู
ด้วยมิตรภาพค่ะ
โดย: โมกสีเงิน วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:15:41:13 น.
  
สายัณห์สวัสดีค่ะคุณภูฯ
-------------------------------------------------
รับกาแฟ & ชาไทยคลาสสิกไหมคะ



อากาศอบอุ่น (รุนแรง) แบบนี้เหมือนอยู่ในทะเล....แบบว่าทะเลทราย
ดวงตะวันฉายแสงแรงกล้า เหลือกินเหลือใช้เลยค่ะ
ดีว่าช่วงนี้อยู่ใกล้ธารน้ำแข็ง (กระติกน้ำเย็น ๆ) รู้สึกสบายเล็กน้อยถึงปานกลางค่ะ อะคึ่ ๆ
โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:16:35:33 น.
  
สวัสดีทุกๆ คนขอรับ...หายไปนานเลย
ช่วงนี้อยู่กับงานสวนจนลืมบล็อคของตัวเองเลยครับ
เนตก็อืดมากๆ เลยไม่ได้ไปเยี่ยมหากันเลยนิ
อยากจะบอกว่า อากาศเชียงดาวแย่มากๆ เลย หมอกควันรุนแรงจนมองเห็นไม่เห็นดอยผาแดงข้างหน้า ถึงขั้นต้องใช้ผ้าปิดจมูกทั้งวันเลยครับ
หนำซ้ำแมวมาป่วยพร้อมๆ กันเลย
หวังว่าทุกคนสบายดีกันนะครับ
โดย: pu IP: 118.175.184.138 วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:22:02:12 น.
  
แวะมาแอ่วบ้านสวนของอ้ายภูเจ้า..
..
พิษหมอกควัน แถบภาคเหนือเฮา มันรุนแรงแต้ๆ
ได้ยินเปื้อนบล็อค หลาย ๆ ท่าน บ่น ๆ อยู่เหมือนกั๋นเจ้า..
อากาศเปลี่ยน อ้ายภูฮักษาสุขภาพเน้อเจ้า..
โดย: Prettymaew วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:3:42:35 น.
  
ไม่น่าเชื่อ กลางธรรมชาติอย่างนั้น เจอมลพิษจนได้ เฮ้อ
โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:19:37:27 น.
  
น้อยใจเจ้าของบล็อกนิดหน่อย พี่คนสวยเลยเป็นบ้า ตอนนี้ฝนยังไม่มา ไฟป่าเริ่มลุกไหม้เป็นช่วงๆบนถนนทางด่วน อยู่ฟอริด้ามาแปดปี พึ่งเจอไฟไหม้ป่า เจอส่วนมากเขาดับทัน วันนี้ เจอรถดับเพลิงต้องบล็อกทางบ้านที่คนอาศัยอยู่ก่อน
ทุกอย่างเกิดขึ้นได้บนโลกนี้ ไอ้ที่บ้านะ วันอังคาร ความที่เป็นคนเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ เจอพี่จันทร์ดี ขานั้นก็ตายแล้วฟื้นเหมือนพี่ แกว่าพี่ตั้งศาลพระภูมิไม่ถูกที่นะ
พี่แกก็จัดการเอาเป็นวันอังคาร น้องริน พี่จันทร์ พวกนั้นเขาศัทธา ในศาสนาแรงกล้ามาก สร้างวัดมาก็มากสำหรับพี่จันทร์ น้องรินเขาธรรมกาย แต่เขาก็จิตใจดีมาก ตั้งศาลแล้ว เขาสองคนแวะไปชื้อผักบ้านป้าที่ปลูกขาย รินดันลืมพี่จันทร์ไว้ โดยที่ขับรถไปคิดว่าพี่จันทร์นอนอยู่หลังรถ ใกล้ถึงบ้านพี่จันทร์ถึงได้รู้ และรับโทรศัพท์จากพี่จันทร์
รินโทรบอกเรื่องที่เกิด "พี่ปวดหัวกินยา ขอนอนนะไม่พูดกับริน ไม่งั้นไมเกรนจะมา ทุกคนที่ฟังพากันหัวเราะ พี่ก็ไม่ขำละงานนี้ ไม่รู้อะไรเกิดขึ้น ตอนเช้า
ตาสตีฟว่ายูไม่ต้องไปส่งแพททริกกับโฟมนะ ขอให้นอนต่อสองชม.
เกิดอะไรขึ้น ฉันก็ไม่เห็นเป็นอะไร ยาแก้ปวด ยานนอนหลับ ก็รู้ว่ากินรวมกันไม่ได้
มันจะตีกัน ทำให้พูดไม่รู้เรื่อง
ตาสตีฟว่าฟังนะ "หกทุ่มคืนวันอังคาร ยูบอกว่าปวดหัว ให้ฉันพาไปหาหมอกุ้งที่บ้าน
ตาสตีฟว่า ยูขอร้องไอไม่หยุดเลย แล้วยูก็บอกทางไปบ้านหมอได้ถูก ตาสตีฟจะจำทางไม่ได้ มิสเตอร์พีช แฟนหมอเป็นคนอุ้มยูขึ้นรถหลังฉีดยา ไอไปปลุกเค้กกับแคร์ มาอุ้มยูลงจากรถ หลังจากฉีดยาให้ยูสามเข็ม ห้ามไปเรียน อยู่บ้าน เอ้าลองเชื่อตาสตีฟสักครั้งชิอยู่บ้าน เลยโทรบอกพี่จุ๋มว่า ขอไปเก็บส้มที่บ้านแก มาแจกเพื่อนบ้าน ส้มบ้านพี่จุ๋ม รสชาติเหมือนเมืองไทย
ห้าโมงของวันพุธ คุณหมอพี่สาวไอ้หนุ่มฮาร์วาร์ด พี่โทรไปบอกว่า "ว่างจากคนไข้โทรกลับด้วยช่วยเล่าเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ต๋อยพูดอะไรกับคุณหมอบ้างคะ "ต้อย(คุณหมอจะออกเสียงต๋อยไม่ได้)บอกว่า ปวดหัวมาสามวัน กินยาแก้ปวดมาสามวันแล้ว "คุณหมอคะต๋อยนี้นะกินยามาสามวัน เค้กแคร์จะรู้หมดว่าแม่ใช้ยาอะไรเพราะสั่งลูกไว้ทุกครั้ง เจ้ามดลูกหมอยังบอกว่า น้าเป็นอะไรคะแม่ สามวันที่แล้วไม่ปวดหัว ยังไปช่าล์ ที่วัดไทย แถมสวดมนต์ นั่งสมาธิได้กับเขาเป็นครั้งแรกของชีวิต
เป็นปกติถ้าคุณหมอฉีดยาแก้ไมเกรนให้ จะหมดแรงไปหนึ่งวันเต็มๆ นี้พอตื่นมา
ไม่เหนื่อย ก็ปกติดี รอยเข็มฉีดยาบนแขนเป็นพยานให้ พี่จันทร์ แกบอกว่า แกตายเจ็ดวันแกก็ตื่นขึ้นมาเป็นข่าวดังที่จ.อุดร พี่พึ่งผ่าสมองมาสามปี เรื่องเป็นบ้านะปกติอยู่แล้ว
ความเหลือเชื่อ(ส่วนตัว) ตาสตีฟก็หายป่วยหลังจากเปลี่ยนศาลพระภูมิใหม่ คอมพ์แกก็ลุกช่อมความเร็วของเน็ต ดูอีเมล์ให้พี่ ไปทำงานได้ ตามปกติ กิ๊กฉันหายหมด เพราะแกป่วยนะตาสตีฟ
ตอนนี้อีเมล์ทุกอย่างปกติ ตาสตีฟถามว่า เพื่อนและกิ๊กตอบเมล์มาหรือยัง
ตอบมาครบแล้ว เหลือก็คงแต่ไอ้หนุ่ม บ้านปีกไม้ในหุบผาแดงเท่านั้น อย่าเชื่อที่พิมพ์เพราะจะเป็นบ้าตามคนเขียน พี่จันทร์ แกว่าจะมีร่างมาอยู่ที่แก พี่จันทร์เวลาพูด จะได้ทุกวิชา ปรัชญา จิตวิทยา ภาษาอังกฤษชั้นสูง พอแกพูดอะไรมา คนอิสานอย่างพี่ ภาษาอิสานที่แกใช้ พวกเราลืมหมดแล้ว หัวเราะกันตลอด
แถมพี่เพื่อนใหม่ ชื่อว่า ดาวมาจากอำเภอแม่ริม ได้วีช่าท่องเที่ยว บอกว่าอยาได้สามีฝรั่ง เพราะจะได้อยู่ได้อย่างถาวร
พี่ๆเพื่อนๆและน้องสาวช่วยกันเต็มที่ หาชุดให้ดาว บอกว่า ใครที่มาอยุ่อเมริกาใหม่ๆ ก็เหมือนกัน เป็นโรคคิดถึงบ้าน ดาวโชคดีที่เขาให้วีชาเข้าประเทศ พวกเราจะเป็นกำลังใจให้ เศรษฐกิจไม่ดี แต่ร้านอาหารไทยก็ยังขายได้อยู่ นะ
บ้าพอแล้ว ขอให้ลมพัดหมอกควัน ออกจากประเทศไทยเร็วๆนะบ่าวภู
แล้วพบกันใหม่กับเรื่องใหม่ๆอัพเดรทกันทุกวัน ขอให้แมวหายป่วยเร็วๆด้วยนะจ๊ะ
โดย: คนสวย IP: 97.102.33.213 วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:10:36:00 น.
  
เข้ามาที่เว๊บของคุณภูโดยบังเอิญ แต่อ่านเรื่องราวที่เล่าสู่กันฟังแล้ว รู้สึกอิจฉาจัง ฝันและตั้งใจที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ คงมีสักวัน

โดย: ปุณย์ IP: 124.122.22.197 วันที่: 9 มิถุนายน 2552 เวลา:0:16:40 น.
  
ทำให้เราคิดถึงบ้านจังเลย เดี๋วยรอใกล้จบเราจะพาเพื่อนในรุ่น52ไปเยี่ยมบ้านหุบเขาผาแดงคิดแม่จัง
โดย: ครุศาสตร์ 52 IP: 203.144.180.65 วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:22:49:31 น.
  

เราเคยวาดฝันสักวันหนึ่งจะเรียนให้จบไปเป็นครูอาสาวันนี้เรามีโอกาสได้เรียนแต่ความฝันของเราเป็นแค่ฝันเราไม่อาจเป็นอย่างฝันแต่อยากน้อยเราก็ได้เป็นครูถึงแม้ไม่ใช่ในชนบทแต่เราก็ภูมิใจที่ได้อบรมดูแลเด็กตัวน้อย เราจำได้เสมอเคยมีพี่ชายคนหนึ่งเคยเราชีวิตของครูดอยให้เราฟังตื่นเช้าขึ้นมาก่อก้อนหินสามเศร้านั้งจิบน้ำชาและต่อสู้ท่ามกลางอุปสรรคนานา ตอนนั้นทำให้ใจเราอืดสู้อยากฝันเป็นครูอาสาคำพูดนั้นยังติดหูเราตลอดมาถึงแม้เวลาจะผ่านไปเนินหลายสิบการเป็นครูเหนื่อยจังแต่ก็มีความสุขใจเอ้ออดเอาอีกเพียง5ปี เพื่อนคือกำลังใจและพี่ชายที่แสนดีก่อนเป็นกำลังใจน้องสาวคนนี้จสู้ต่อไปถึงแม้จะไปไม่ถึงฝัน
กฐ52 ค502 ราชภัฎ
โดย: ครุศาสตร์ 52 IP: 203.144.180.65 วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:23:03:56 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pu_chiangdao
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



ภาพและงานเขียนทุกชิ้นที่ปรากฏในเวบไซต์นี้
เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบทประพันธ์นั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว
ห้ามกระทำการดัดแปลง แก้ไข
หรือแอบอ้างไปเป็นผลงานของตน
โดยไม่มีการอ้างถึงเจ้าของลิขสิทธิ์
หากผู้ใดมีความประสงค์
จะนำข้อมูลดังกล่าวออกเผยแพร่ ตีพิมพ์
หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด
โปรดติดต่อเจ้าของบทประพันธ์โดยตรง


***************************

งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ที่มา : เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา









กุมภาพันธ์ 2552

1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
26
27
28
 
25 กุมภาพันธ์ 2552
All Blog
Friends Blog
[Add pu_chiangdao's blog to your weblog]